หลิงหยุนจัดการปิดคอมพิวเตอร์และเก็บคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเข้าไปไว้ในแหวนพื้นที่ แล้วจึงรีบออกมาจากห้องใต้ดิน..
หลังจากขึ้นมาจากห้องใต้ดินแล้วหลิงหยุนก็จัดการปิดสวิชประตูห้องลับ ให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิม..
“คืนนี้นับว่าได้ข้อมูลกลับไปไม่น้อยเลย!”
ความลับของหลงคุนนั้นหลิงหยุนพอเข้าใจคร่าวๆแล้ว อีกทั้งตอนนี้เขาก็ได้รู้แล้วว่าทั้งหลงคุนและหลงหวู่ถูกคนของตระกูลหลงแห่งปักกิ่งจับตัวไป แต่เขาก็มั่นใจว่าทั้งคู่ยังคงปลอดภัยอย่างแน่นอน..
ส่วนในเรื่องความปลอดภัยของตัวเขาเองนั้น..หลิงหยุนกลับไม่มั่นใจ!
ป้ายหยกมังกรเขียว– กุญแจเปิดสุสาน!
หลิงหยุนเชื่อว่าหลงคุนนั้นคงไม่ปริปากพูดเรื่องนี้อย่างแน่นอนแต่ในวันที่หลงคุนมอบป้ายหยกนั้นให้กับเขา หลงหวู่ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย..
แต่ฟังจากคำพูดของหลงคุนที่กล้องวงจรปิดบันทึกได้นั้นตระกูลหลงไม่น่าจะกล้าทำอันตรายหลงหวู่ หรือบีบบังคับนางแน่ เพราะดูเหมือนว่ายังมีตระกูลเฟิงที่คอยปกป้องนางอยู่..
“ข้าอยากจะบ้าตายจริงๆ!หากตระกูลหลงรู้ว่าป้ายหยกมังกรเขียวอยู่ในมือข้า พวกมันคงจะรีบพายอดฝีมือบุกไปหาข้าที่บ้านอีกแน่!”
แม้ว่าป้ายหยกมังกรเขียวจะเป็นของจริงแต่ก็ไม่ต่างจากเผือกร้อนๆที่ส่งต่อให้หลิงหยุน..!
“การที่ตระกูลหลงสามารถยืนหยัดเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ในประเทศจีนมานานนับพันปีได้เช่นนี้ย่อมหมายถึงรากฐานที่หยั่งลึกจนยากที่คาดเดาได้!”
“ดูท่าข้าคงต้องรีบฟื้นฟูพลังปราณให้กลับมาแข็งแกร่งสูงสุดโดยเร็วแล้ว!”
นี่ยังไม่ทันจะได้กลับไปปักกิ่งด้วยซ้ำ..หลิงหยุนก็ต้องกลายมาเป็นศัตรูของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้ก่อนแล้ว เขาถึงกับยิ้มขมขื่นก่อนจะตรงกลับไปที่บ้านของเหยาลู่..
“เหยาลู่..ผมกลับมาแล้ว!”
เหยาลู่ร้องถามออกมาอย่างประหลาดใจ“ทำไมถึงได้กลับมาเร็วจัง แล้วคืนนี้นายจะค้างที่นี่มั๊ย?”
เหยาลู่นับเป็นหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดนักนางไม่ถามเรื่องที่หลิงหยุนไปบ้านหลงคุนมาเลยแม้แต่น้อย นางรู้ว่าเรื่องใหนควรถาม และเรื่องใหนไม่ควรถาม หากเป็นเรื่องที่สามารถเล่าได้ หลิงหยุนก็จะเป็นฝ่ายเล่าให้ฟังเอง..
“ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่า..คืนนี้จะต้องสอนสิ่งใหม่ๆให้กับคุณ ก็ต้องค้างที่นี่สิ!”
เหยาลู่เม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะพูดขึ้นว่า“งั้นก็สอนเลยสิ!”
หลิงหยุนหัวเราะและตอบกลับไปว่า“ที่นี่ไม่เหมาะ.. ต้องไปสอนบนเตียงนอน!”
ในช่วงเวลาที่หลิงหยุนพยายามฟื้นฟูความแข็งแกร่งของตนเองให้กลับคืนมาเหมือนเดิมนั้นเขาต้องกินทั้งโสมพันปี และดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปทุกวัน หยางในร่างกายจึงมีมากเกินไป และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข..
เหยาลู่นั้นเข้าคำพูดของหลิงหยุนดีเธอรีบใช้สองมือดันร่างของหลิงหยุนให้เดินเข้าในบ้านพร้อมกับกระซิบเสียงเบา
“ถ้างั้น..นายก็รีบเข้าไปอาบน้ำก่อน!”
…………..
หลังจากผ่านคืนนั้นไป..หยิน-หยางในร่างกายของหลิงหยุนก็กลับมาสมดุลมากขึ้น และเขาเองก็รู้สึกสดชื่นขึ้นอย่างมาก
ตอนเช้า..หลิงหยุนยังตื่นขึ้นมาฝึกวิชาดาราคุ้มกายแต่เช้าตรู่ และหลังจากทานอาหารเช้ากับเหยาลู่แล้ว เขาก็ขับรถกลับไปยังบ้านเลขที่-1 ทันที..
…………
novel-lucky
“ท่านหวัง..ไม่ต้องรีบร้อนนัก! อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ท่านมีหน้าที่เพียงแค่ฝึกฝนให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพสมบูรณ์สูงสุดท่านั้น!”
หลิงหยุนพูดกับหวังเฟยฮู๋พร้อมกับตัดโสมขนาดเท่าหัวมันส่งให้ และสั่งว่า “โสมพันปีชิ้นนี้ท่านต้องกินให้หมดภายในเจ็ดวัน หลังจากเจ็ดวัน.. ข้าจะใช้น้ำลายมังกร และโอสถหลงหู่ช่วยให้ท่านพัฒนาสู่ขั้นต่อไป!”
หวังเฟยฮู๋ได้แต่มองหลิงหยุนนิ่งและไม่รู้ว่าจะขอบคุณหลิงหยุนอย่างไรดี..
“อ่อ..ถ้าไม่อยากให้ใครรบกวน ก็ไปฝึกอยู่บ้านตรงข้าม แล้วนี่.. ก็คือกุญแจบ้านหลังนั้น!” หลิงหยุนยื่นกุญแจบ้านให้กับหวังเฟยฮู๋
“แต่ถ้าสามารถฝึกที่บ้านหลังนี้ได้ก็จะดีกว่าเพราะที่นี่มีค่ายกลหลุมพลัง จึงมีพลังชีวิตอยู่ค่อนข้างหนาแน่น..”
หลิงหยุนจัดแจงทุกอย่างให้หวังเฟยฮู๋อย่างดีจากนั้นหวังเฟยฮู๋จึงเอ่ยถามขึ้นว่า
“คุณชายหลิง..แล้วตัวท่านล่ะ”
“อ่อ..ข้าจะเก็บตัวสักเจ็ดวัน เพราะต้องการรักษาอาการบาดเจ็บ และฟื้นฟูพลังปราณภายในร่างกายอย่างต่อเนื่อง..”
พูดจบหลิงหยุนก็เดินตรงเข้าไปในห้องนั่งเล่นและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรบอกเรื่องนี้กับถังเมิ่ง ตี้เสี่ยวอู๋ และหนิงหลิงยู่
และทันทีที่ได้ยินว่าหลิงหยุนจะเก็บตัวติดต่อกันนานถึงเจ็ดวันทั้งถังเมิ่ง ตี้เสี่ยวอู๋ และสาวงามทั้งหมดที่อยู่บ้านเลขที่-9 ก็พากันทิ้งทุกอย่าง และรีบมาหาหลิงหยุนทันที..
“เด็กดื้อ..นี่เจ้าจะเก็บตัวตั้งเจ็ดวันจริงรึ”
“จริงน้าหญิง..ข้าสร้างค่ายกลหลุมพลังไว้แล้ว”
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปสั่งไป๋เซียนเอ๋อว่า“เซียนเอ๋อ.. ระหว่างที่ข้าเก็บตัวเจ็ดวัน ภารกิจในการดูแลคุ้มครองบ้านหลังนี้คงต้องมอบให้เจ้าดูแลแล้ว!”
และแทบไม่ต้องให้หลิงหยุนสั่งไป๋เซียนเอ๋อก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นหน้าที่ของตนเอง ในขณะเดียวกันหนิงหลิงยู่ก็ร้องถามขึ้นมา
“พี่ใหญ่..แล้วฉันล่ะ”
หลิงหยุนตอบยิ้มๆ“เธอก็กลับไปอยู่บ้านเลขที่-9 เหมือนเดิม ที่นั่นมีทะเลล้อมรอบ เหมาะกับการฝึกวิชาคลื่นคงคามากกว่า!”
เกาเฉินเฉินรีบพูดขึ้นทันทีเช่นกัน“หลิงหยุน.. ฉันจะทำหน้าที่คอยเตรียมสมุนไพรให้กับนายเอง!”
หลิงหยุนพยักหน้าเห็นด้วยทันทีเพราะต่อให้เขาเก็บตัวก็ต้องการสมุนไพรที่จำเป็น ส่วนอาหารนั้นเป็นหน้าที่ของเหมี่ยวเสี่ยวเหมากับเสี่ยวเม่ยหนิง.
หลังจากที่หลิงหยุนสั่งการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉินตงเฉี่วยกับหนิงหลิงยู่ก็กลับไปยังบ้านเลขที่-9
ไป๋เซียนเอ๋อจัดการสร้างค่ายกลลวงตาครอบสมุนไพรล้ำค่าทั้งสามต้นไว้หลังจากนั้นหลิงหยุนจึงเข้าไปนั่งขัดสมาธิอยู่ภายในค่ายกลลวงตา เขาเรียกหลิวเทวะออกมาวางไว้บนตัก และทำการเก็บตัวฝึกฝนอยู่ในค่ายกลนานถึงเจ็ดวัน..
……..
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในที่สุดก็ผ่านเข้าสู่วันที่เจ็ด..
หลังจากฝึกวิชาพลังลับหยิน-หยางติดต่อกันนานถึงหกวันเมื่อเข้าสู่วันที่เจ็ดจุดตันเถียนของหลิงหยุนก็เริ่มหมุนเร็วขึ้น และนับว่าเร็วกว่าเมื่อครั้งที่เพิ่งฟื้นตัวอย่างเทียบกันไม่ได้..
ภายในสัญลักษณ์ไท่จี๋ซึ่งมีปลาหยินและปลาหยางอยู่ด้านในนั้นดวงตาปลาหยินและปลาหยางได้ปลดปล่อยพลังหยินและหยางออกมาอย่างต่อเนื่อง จนเวลานี้หยินและหยางได้กระจายไปทั่วจุดตันเถียนของหลิงหยุนแล้ว แม้ว่าจะยังไม่เต็มเปี่ยม แต่นับว่าหนาแน่นมากแล้ว..
หลิงหยุนลองเปิดจิตหยั่งรู้ออกดูและพบว่าจิตหยั่งรู้ของตนเองนั้นได้ครอบคลุมรัศมีถึงเจ็ดร้อยเมตรแล้ว นี่ย่อมหมายความว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นได้ฟื้นกลับคืนมาถึงเจ็ดสิบส่วนจากร้อยแล้ว..
หลิงหยุนนั่งหลับตาและใช้จิตหยั่งรู้สำรวจเข้าไปภายในร่างของตนเอง..
หลิงหยุนพบว่า..เวลานี้จุดตันเถียนของตนเองได้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว ทำให้เขานึกดีใจอย่างมาก อีกทั้งเส้นลมปราณ และจุดฝังเข็มต่างๆ ก็ได้ฟื้นคืนสภาพถึงเจ็ดสิบส่วนแล้วเช่นกัน..
“นี่..กระดูกทรวงอกของข้าอีกสี่ชิ้น ได้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองจางๆ อีกแล้วงั้นรึ”
“ดูเหมือนว่าหากข้ายังดื่มน้ำลายมังกรไปเรื่อยๆกระดูกสันหลังทั้งเส้นของข้าก็คงจะต้องกลายเป็นสีทองบริสุทธิ์ในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน!”
หลิงหยุนรู้ดีว่าสิ่งทีเกิดขึ้นนั้น เป็นผลจากการดื่มน้ำลายมังกรมากจนเกินไป!
ระหว่างที่เก็บตัวฟื้นฟูพลังปราณนานเจ็ดวันติดต่อกันนั้นหลิงหยุนได้ดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปแทบทุกวัน และการที่ปราณมังกรไหลเวียนทั่วร่างติดต่อกันนานเช่นนี้ กระดูกสันหลังของเขาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลง..
“ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่าท้ายที่สุดแล้วเจ้าจะเปลี่ยนกระดูกสันหลังของข้าเป็นเช่นใดกันแน่”
หลิงหยุนไม่ได้นึกตกใจแต่กลับมีความสุขมากกว่า เพราะยิ่งร่างกายของเขาเปลี่ยนไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อตัวเขาเองมากเท่านั้น!
จากนั้นหลิงหยุนจึงได้สำรวจจุดตันเถียนของตนเองอีกครั้ง..เขาพบว่าแม้มันจะหมุนเร็วมากก็จริง แต่ด้วยจิตหยั่งรู้ของเขาเวลานี้ ก็สามารถมองเห็นการทำงานภายในจุดตันเถียนได้อย่างชัดเจน..
หลิงหยุนจำได้ว่าเมื่อครั้งที่เข้าสู่ขั้นพลังชี่นั้นจุดตันเถียนของเขาหมุนเร็วจนมองเห็นพลังหยินและหยางกลายเป็นสีเทา แต่ตอนนี้เขาสามารถเห็นเป็นสีดำและสีขาวชัดเจน นี่ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าจุดตันเถียนของเขาเวลานี้หมุนไม่เร็วเท่ากับครั้งนั้น..
แต่หลิงหยุนก็รู้ว่าเป็นเพราะครั้งนั้นเขาใช้วิชาพลังมังกรที่แข็งแกร่งกว่าเวลานี้ถึงสิบเท่า..จึงไม่สามารถนำมาเทียบกันได้
ภายในจุดตันเถียนของหลิงหยุนเวลานี้พลังหยินและหยางได้แยกออกเป็นสองฝั่งขาวดำอย่างชัดเจน และตรงกลางมีเส้นโค้งรูปมังกรทองที่ดูราวกับมีชีวิตกั้นอยู่
“ห๊ะสมุดจักรพรรดิ!”
หลิงหยุนทั้งตกใจและตื่นเต้นไปพร้อมๆกนครั้งนี้เขาสามารถมองเห็นสมุดจักรพรรดิที่อยู่ภายในจุดตันเถียนได้อย่างชัดเจน
เวลานี้สมุดจักรพรรดิมีขนาดเล็กเท่าเล็บมือของมนุษย์และกำลังลอยไปลอยมาอยู่ในจุดตันเถียนของหลิงหยุน ระหว่างที่จุดตันเถียนหมุนนั้น สมุดจักรพรรดิก็ลอยไปทางปลาหยินที แล้วก็ลอยไปทางปลาหยางที..
หลิงหยุนพยายามใช้จิตหยั่งรู้เชื่อมต่อกับสมุดจักรพรรดิแต่ดูเหมือนมันจะไม่แยแส และไม่ต้องการที่จะสื่อสารกับหลิงหยุน..
“สมุดจักรพรรดิกับพู่กันจักรพรรดิ ล้วนแล้วแต่เป็นของจริง เมื่อไหร่ข้าจะใช้ประโยชน์จากพวกมันได้นะ เฮ้อ..”
หลิงหยุนได้แต่ถอนหายใจและรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก..
หลังจากสำรวจจุดตันเถียนแล้วหลิงหยุนก็ตรวจสอบเส้นลมปราณ และจุดฝังเข็มของตนเองต่อ
เวลานี้เส้นลมปราณของเขาได้ผ่านการรักษาซ่อมแซมมาหลายวันแล้วพลังปราณจึงสามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวก และเวลานี้ภายในเส้นลมปราณของเขาก็มีทั้งพลังหยิน พลังหยาง ปราณมังกร และพลังอมตะจากหว่างคิ้ว ไหลเวียนคล้ายแม่น้ำสี่สายที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน..
จากนั้นหลิงหยุนจึงได้ตรวจสอบที่หว่างคิ้วของตนเองและพบว่าพู่กันจักรพรรดิยังคงสงบนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปใหน..
“เฮ้อ..ข้าฝึกมาตั้งเจ็ดวันติดต่อกัน แต่กลับไม่ได้เสินหยวนสักหยด..”
แม้ว่าจะเก็บตัวฝึกฝนและรักษาตัวนานติดต่อกันถึงเจ็ดวัน แต่ดูเหมือนหลิงหยุนจะไม่พอใจในผลที่ได้มากนัก..
การใช้วิชาพลังมังกรและการรับทัณฑ์สวรรค์ในครั้งนี้ นับว่าได้สร้างความเสียหายให้กับร่างกายของหลิงหยุนอย่างประเมินไม่ได้จริงๆ
หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้สำรวจเหนือศรีษะของตนเองเขาพบลำแสงประหลาดลึกลับสีเขียวเข้มปรากฏอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าแสงประหลาดนี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า..
หลิงหยุนจัดการเรียกโอสถหลงหู่ออกมาและจัดการโยนใส่ปากแล้วกลืนลงไป
“วันนี้เป็นวันเก็บตัวฝึกฝนวันสุดท้ายแล้วสินะ!”
………….
และในเช้าของวันที่แปดหลิงหยุนก็ลืมตาขึ้น ดวงตาทั้งสองข้างของเขาปรากฏสีขาว และสีดำขึ้นมาวูบหนึ่งพร้อมกัน และในที่สุดเนตรหยิน-หยางของเขาก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง..
และในวันที่3 สิงหาคม.. หลิงหยุนก็ออกจากการเก็บตัว!