“พี่หยุน..พี่ออกมาแล้วเหรอ”
เมื่อเห็นหลิงหยุนเดินออกมาจากค่ายกลลวงตาไป๋เซียนเอ๋อก็รีบกระโจนเข้าไปหาทันที..
“เซียนเอ๋อ..หลายวันมานี้เจ้าคงจะเหนื่อยมากสินะ ต้องคอยคุ้มครองข้าทั้งวันทั้งคืนแบบนี้!”
หลิงหยุนเอ่ยออกมาในขณะที่ยกมือขึ้นลูบไล้ผมยาวสลวยของไป๋เซียนเอ๋อไปด้วย..
“พี่หลิงหยุน..เซียนเอ๋อไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อย และยิ่งได้เห็นท่านฟื้นคืนความแข็งแกร่งได้เช่นนี้ เซียนเอ๋อก็ยิ่งมีความสุข!”
เวลานี้ไป๋เซียนเอ๋อได้เห็นหลิงหยุนสามารถฟื้นคืนความแข็งแกร่งกลับมาได้เช่นนี้นางดีอกดีใจเสียยิ่งกว่าตนเองสามารถขึ้นสู่ขั้นต่อไปได้เสียอีก..
“แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยข้าฟื้นตัวไปเพียงแค่แปดสิบส่วนเท่านั้น ยังขาดอีกยี่สิบส่วนจึงจะเข้าสู่จุดสมบูรณ์สูงสุด..” หลิงหยุนบอกไป๋เซียนเอ๋อไปตามตรงโดยไม่คิดที่จะปิดบัง
“เซียนเอ๋อ..เจ้าจัดการถอนค่ายกลลวงตาได้แล้ว คาดว่าอีกไม่นานพวกมันก็น่าจะโตเต็มวัยแล้ว..”
หลิงหยุนสั่งไป๋เซียนเอ๋อพร้อมกับหันไปมองสมุนไพรทั้งสามต้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม..
“เจ้านาย..”
“หลิงหยุน!”
“คุณชายหลิง!”
ทันทีที่ออกจากค่ายกลลวงตา..หลิงหยุนก็เห็นพอลกับเจสเตอร์ เกาเฉินเฉิน แล้วก็หวังเฟยฮู๋มายืนรอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
“เข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่า..”
……
ในเช้าของวันที่แปด..ทั้งฉินตงเฉี่วย หนิงหลิงยู่ ถังเมิ่ง ตี้เสี่ยวอู๋ และคนอื่นๆ ต่างก็พากันมารอหลิงหยุนอยู่ที่บ้านเลขที่-1 แล้ว และเมื่อทุกคนได้ยินว่าหลิงหยุนสามารถฟื้นฟูพละกำลังกลับมาได้ถึงแปดสิบส่วนแล้ว ทุกคนต่างก็พากันดีอกดีใจอย่างมาก..
“เอาล่ะถังเมิ่ง..เรื่องธุรกิจของนายจัดการไปถึงใหนแล้ว”
“พี่หยุน..เรื่องที่ดินหนึ่งพันห้าร้อยไร่ ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วนะ!”
“ส่วนเรื่องเงินค่าที่ดินจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยล้าน..ฉันก็จัดการโอนไปเรียบร้อยแล้ว!”
เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชนของหลิงหยุนหรือบัตรธนาคารต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่อยู่กับถังเมิ่งทั้งสิ้น และเขาได้มอบอำนาจให้ถังเมิ่งเป็นผู้ทำธุรกรรมทั้งหมดแทนเขา..
ถึงแม้ว่าจะนึกดีใจที่ในวันข้างหน้าเขาจะได้ผลกำไรกลับคืนมาถึงสิบเท่าแต่การต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งพันแปดร้อยล้านออกไปในคราวเดียวเช่นนี้ ก็ทำให้หลิงหยุนรู้สึกปวดใจไม่น้อยเช่นกัน..
ยิ่งไปกว่านั้น..ที่ดินมากมายขนาดนี้ หากจะพัฒนาทั้งหมดในคราวเดียวก็คงต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาล
ถังเมิ่งไม่ปล่อยให้หลิงหยุนต้องครุ่นคิดนานเขารีบเล่าต่อทันที “พี่หยุน.. ส่วนเรื่องบริษัทในเครือทั้งสี่สิบสองบริษัท ฉันจัดการต่อรองสำเร็จ และเซ็นต์สัญญาไปแล้วสามสิบห้าบริษัท..”
ถังเมิ่งหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขและเล่าต่อว่า “พี่หยุน.. พี่รู้มั๊ยว่าสองวันมานี้ฉันชอบทำอะไรมากที่สุด”
“สองวันมานี้ฉันเอาแต่ขับรถตระเวนไปรอบๆจิงฉูและพบว่าบนถนนเกือบทุกเส้นมีบริษัทในเครือของเราอยู่เต็มไปหมด.. มันเป็นความรู้สึกที่ดีอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ!”
แต่เมื่อได้ยินถังเมิ่งรายงานว่าเขาได้ใช้เงินไปทั้งหมดกว่าสามพันล้านในการกว้านซื้อธุรกิจเหล่านั้น หลิงหยุนก็รู้สึกปวดใจยิ่งกว่าเดิม
ในขณะที่สาวงามทั้งหมดต่างก็พากันกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจที่นับจากนี้ไปพวกเธอจะสามารถไปช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องเสียเงินอีกแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะกล้าพูดประโยคนี้ออกมา..
“อะแฮ่ม..นี่สาวๆ ต่อให้ไปช้อปปิ้งก็ต้องเสียเงิน แต่ผมจะมีส่วนลดให้..”
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบกับสายตาพิฆาตที่คมกริบยิ่งกว่ากระบี่เหล่านั้นหลิงหยุนก็รีบแก้ตัวทันที
“ได้..ได้.. ฟรีก็ฟรี! ฟรีทุกอย่างเลย..”
ถังเมิ่งเกาศรีษะและเล่าต่อว่า“ส่วนอีกเจ็ดบริษัทที่ยังเจรจาไม่สำเร็จนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในจิงฉู และหากจะซื้อไว้ทั้งหมด ก็คงต้องใช้เงินอีกราวหนึ่งพันห้าร้อยล้าน..”
และจำนวนเงินทั้งหมดที่ใช้ไปกับการกว้านซื้อบริษัทต่างๆก็จะเพิ่มเป็นสี่พันห้าร้อยล้านทันที!
แต่หลิงหยุนตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ“ซื้อทั้งหมด..”
จากนั้นถังเมิ่งก็เอ่ยชมเฉินเจี้ยนเตากับเฉียนหยูไห่ซึ่งเป็นผู้ช่วยคนใหม่ให้กับหลิงหยุนฟังหลิงหยุนจึงสั่งถังเมิ่งว่าเมื่อเสร็จงานครั้งนี้ ต้องให้รางวัลทั้งสองคนด้วย และสั่งถังเมิ่งให้เร่งเจรจากับอีกเจ็ดบริษัทให้เสร็จภายในสองวัน เพราะเขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว
จากนั้นหลิงหยุนก็หันไปทางตี้เสี่ยวอู๋พร้อมกับถามขึ้นว่า“หลังจากปรับรูปแบบแล้ว ภายในแก๊งมังกรเขียวเป็นยังไงบ้าง”
ตี้เสี่ยวอู๋ตอบกลับทันที“พี่หยุน.. ทุกอย่างราบรื่น”
“ทันทีที่กลับไปอาปิงก็เรียกประชุมสมาชิกอาวุโสทันทีและเหล่าอาวุโสต่างก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนสามารถยอมรับได้โดยดี..”
“แต่ก็มีอยู่หนึ่งหรือสองคนที่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับแต่อาปิงก็ได้บอกกับพวกเขาว่า หากไม่พอใจก็สามารถออกไปยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้..”
หลิงหยุนหลี่ยี่เฟิง และถังเทียนห่าวมีอำนาจอิทธิพลมากเพียงใด และแก๊งมังกรเขียวนั้นแข็งแกร่งเพียงใด? ใครบ้างที่จะกล้าออกไปยืนด้วยลำแข้งของตนเอง มีหวังคงได้ถูกทำลายภายในเวลาเพียงแค่หนึ่งนาที!
หลิงหยุนพึมพำออกมาเบาๆ“การเปลี่ยนรูปแบบแก๊งมังกรเขียวนับว่าสำเร็จลุล่วงแล้วสินะ!”
หลิงหยุนรู้ดีว่าจุดประสงค์ของการปรับรูปแบบของแก๊งมังกรเขียวในครั้งนี้ก็คือการปรับปรุงโถงมังกรให้อยู่ในเงื้อมือของกฏหมายต่างหาก และทั้งตี้เสี่ยวอู๋กับอาปิงก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลยแม้แต่น้อย.. ไอลีนโนเวล
“แล้วเด็กหนุ่มเจ็ดสิบสองคนนั่นนายเริ่มฝึกฝนให้กับพวกเขาแล้วหรือยัง”
ตี้เสี่ยวอู๋ถึงกับหัวเราะเสียงดัง“พี่หยุน.. จะช้าได้ยังไงกัน ฉันเริ่มฝึกพวกเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ฉันพาทุกคนไปวิ่งรอบเขื่อน..”
หลิงหยุนถามยิ้มๆ“พวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง มีใครบ่นอยากจะถอนตัวบ้างมั๊ย?”
และคำตอบของตี้เสี่ยวอู๋ก็ทำให้หลิงหยุนพอใจอย่างมาก..
“ท่านหวัง..แล้วท่านล่ะ หลายวันมานี้ร่างกายมีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่?”
“คุณชายหลิง..ผ่านไปเจ็ดวันตอนนี้ร่างกายของข้าฟื้นคืนอยู่ในสภาพสมบูรณ์แล้ว..”
“ถ้าเช่นนั้นคืนนี้ข้าจะช่วยให้ท่านได้พัฒนาขั้น..”
จากนั้นหลิงหยุนจึงหันไปถามเหมี่ยวเสี่ยวเหมาถึงเรื่องสมุนไพรในสวนเพราะแม้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์กับเขานัก แต่สมุนไพรของท่านหมอเสี่ยวนั้นจะมีประโยชน์ในการใช้ล้างไขกระดูกให้กับเด็กหนุ่มทั้งเจ็ดสิบสองคน..
จากนั้นหลิงหยุนก็เอื้อมมือไปสะกิดหนิงหลิงยู่พร้อมกับพูดขึ้นว่า“หลิงยู่.. ออกไปคุยกับพี่ข้างนอก!”
หลิงหยุนพาหนิงหลิงยู่เดินมาที่สวนสมุนไพรพร้อมกับกระซิบถามว่า“หลิงยู่.. การฝึกล่าสุดเป็นยังไงบ้าง”
เพียงแค่ถามเรื่องการฝึกฝนเหตุใดจึงต้องหลบออกมาคุยเป็นการส่วนตัวเช่นนี้น่ะหรือ นั่นเพราะหนิงหลิงยู่สามารถใช้พลังจิตของตนเองควบคุมน้ำให้เปลี่ยนรูปเป็นกระบี่ที่แหลมคมได้ หากให้ผู้อื่นได้ยินอาจจะตกใจอย่างมาก..
หนิงหลิงยู่ตอบกลับไปว่า“พี่ใหญ่คะ.. น้าหญิงเพิ่งจะสอนวิธีพูดผ่านกระแสจิตให้กับฉัน ความจริงไม่ต้องออกมาคุยที่นี่ก็ได้”
“นั่นสิ..พี่ลืมน้าหญิงไปได้ยังไงกัน” หลิงหยุนพูดแก้เก้อ..
หนิงหลิงยู่มองหน้าหลิงหยุนพร้อมกับยิ้มกว้าง“พี่ใหญ่.. ฉันสามารถควบคุมกระบี่คงคาได้พร้อมกันถึงสิบสองเล่มแล้ว..”
“แล้วความรวดเร็วและความรุนแรงของกระบี่คงคาล่ะ”
หลิงหยุนให้ความสำคัญกับความเร็วและความรุนแรงของกระบี่คงคามากกว่าจำนวนกระบี่ที่สามารถควบคุมได้ เพราะหากสามารถควบคุมได้เพียงแค่หนึ่งเล่ม แต่มีอานุภาพในการสังหารสูง สามารถสังหารคู่ต่อสู้ได้ในดาบเดียว นั่นก็นับว่าเพียงพอแล้ว..
“เอ่อ..ฉันรู้สึกว่าถ้าบังคับกระบี่คงคาแค่หกเล่ม ก็จะมีอานุภาพในการจู่โจมที่รุนแรงกว่า..”
หลิงหยุนพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้น.. เธอก็ฝึกควบคุมแค่หกเล่มไปก่อน แล้วค่อยๆพัฒนาความเร็ว และพลังในการจู่โจมของกระบี่คงคาไปเรื่อยๆ อีกอย่างเธอต้องฝึกเปลี่ยนรูปแบบของน้ำไปด้วย ยิ่งสามารจู่โจมได้หลายรูปแบบ ศัตรูก็จะต้านทานและรับมือได้ยากขึ้น..”
หลิงหยุนไปปักกิ่งครั้งนี้คนที่เขาเป็นห่วงที่สุดก็คือหนิงหลิงยู่ และการไปปักกิ่งคราวนี้ก็คงหนีไม่พ้นการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรงอย่างแน่นอน เมื่อเวลานั้นมาถึงเขาเองก็ไม่มีเวลาที่จะไปปกป้องคุ้มครองหนิงหลิงยู่ได้ ดังนั้นยิ่งหนิงหลิงยู่แข็งแกร่งมากเท่าใด ก็จะสามารถปกป้องตนเองได้มากเท่านั้น และหลิงหยุนก็จะวางใจได้มากขึ้นด้วย..
จากนั้นหลิงหยุนก็เดินกลับเข้าไปในห้องรับแขกและสั่งการกับทุกคน..
“ถังเมิ่ง..นายรับผิดชอบเรื่องเจ็ดบริษัทที่เหลือให้เสร็จสิ้นภายในสองวันนี้..”
“เสี่ยวอู๋..นายช่วยฉันสอนวรุยทธให้กับเด็กหนุ่มทั้งเจ็ดสิบสองคน นายฝึกให้พวกเขาก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองให้ได้มากขึ้นในทุกๆวัน!”
“พอล..เจสเตอร์.. ทั้งห้าคนในห้องเก็บของ เป็นหน้าที่ของพวกเจ้า จะต้องไม่ให้มีใครตาย และไม่มีใครหนีไปได้..”
หลังจากสั่งการทุกคนไปหมดแล้วหลิงหยุนก็ถามถึงโม่วู๋เตา ถังเมิ่งยิ้มออกมาและตอบไปว่า
“พี่หยุน..หมอนั่นกินนอนอยู่ในอาคารหลิงหยุน พี่สั่งให้เขาจัดฮวงจุ้ยในตึกให้ใหม่ เขาก็สั่งให้ซื้อโน่นซื้อนี่ จนเมื่อวานเพิ่งจะเสร็จเรียบร้อย..”
“งั้นเหรอแล้วฮวงจุ้ยใหม่เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“ผลลัพธ์ยังไม่เห็นกับตาชัดเจน..แต่หลังจากที่หมอนั่นปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ย ดูเหมือนพนักงานในอาคารหลิงหยุนจะขยันขันแข็งมากขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้น ดูๆ แล้วก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง!”
“เอาล่ะ..ในเมื่อทุกเรื่องรียบร้อยดีแล้ว ฉันจะออกไปขับรถเล่นตามลำพัง”
จากนั้นหลิงหยุนก็ขับรถออกจากบ้านตรงไปที่อาคารหลิงหยุนและทันทีที่เปิดประตูลงจากรถ หลิงหยุนก็ถึงกับต้องร้องอุทานออกมา
“ถังเมิ่ง..เจ้าเด็กนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
หลิงหยุนเห็นชื่ออาคารเปลี่ยนเป็นอาคารหลิงหยุนและมีป้ายบริษัทเทียนตี้คอร์ปอรเรชั่นติดอยู่ เพียงในเวลาไม่กี่วัน.. ก็ไม่หลงเหลือร่องรอยของบริษัทเหลียนเฉิงเรียลเอสเตทอีกเลย..
เวลานี้มีเพียงบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นและอาคารหลิงหยุนเท่านั้น!
หลิงหยุนเปิดจิตหยั่งรู้ออกสำรวจดูก็พบว่าบรรยากาศในการทำงานนั้น ทุกคนดูขยันขันแข็ง มีพลัง และสงบเยือกเย็น
และเมื่อใช้จิตหยั่งรู้สำรวจดูไปถึงห้องประธานเขาก็พบโม่วู๋เตากำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน และภายในห้องก็มีดอกไม้ หิน แล้วก็น้ำตกจำลองเพิ่มเข้ามา..
หลิงหยุนสำรวจดูอย่างละเอียดและมองไม่เห็นข้อติเลยแม้แต่น้อย..
“เจ้านักพรตน้อยนี่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว!”
จากนั้นหลิงหยุนก็ตรงไปยังจุดหมายที่สอง..