เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าหลิวอี้และหวางฮุ่ยเป็นอย่างไร และเธอก็ไม่อยากรู้ด้วย เดิมทีก็เป็นคนแปลกหน้า ถ้าวันนี้ไม่บังเอิญเจอ เธออยากจะลืมคนชื่อหลิวอี้คนนี้ไปเลย 

 

 

ตอนนี้เฉินเยี่ยนขี่มาถึงถนนใหญ่แล้ว เธอใช้มือหนึ่งจับที่บังคับจักรยาน อีกมือหนึ่งประคองจักรยานอีกคัน เธอขี่หนึ่งคัน จูงอีกหนึ่งคัน แบบนี้เธอสามารถเอาจักรยานสองคันกลับไปได้ 

 

 

เฉินเยี่ยนหยุดแวะหลายครั้ง เธอไม่อยาก แต่เธอทำอะไรไม่ได้ แบบนี้เหนื่อยมาก เธอขี่ไปสักพักแล้วหยุดพัก แต่ก็สามารถขี่รถกลับไปอย่างปลอดภัย ส่วนถนนไม่ดีจนเกือบจะล้มหลายครั้ง เรื่องนี้เธอไม่บอกคนอื่น 

 

 

หวางนิวเห็นเฉินเยี่ยนซื้อจักรยานกลับมาสองคันก็ตกใจ เธอคิดว่าเฉินเยี่ยนซื้อให้เฉินเวยหนึ่งคัน ปรากฏได้ยินเฉินเยี่ยนบอกว่าจะให้หวางจวนเป็นของขวัญแต่งงาน หวางนิวอ้าปากพูดอะไรไม่ออก 

 

 

เธอพูดได้หรือ? 

 

 

เห็นได้ชัดว่าลูกสาวคนโตและลูกสาวคนเล็กไม่ลงรอยกัน หวางจวนกับลูกสาวคนโตค่อยดีกันหน่อย อีกอย่างหวางจวนเริ่มช่วยบ้านเฉินทำกับข้าว ห่อบุหรี่ ไม่เคยได้เงินมาก่อน ตอนนี้เธอจะแต่งงานแล้ว เฉินเยี่ยนให้จักรยานเธอก็ถือว่าเหมาะสม 

 

 

เห็นเฉินเยี่ยนซื้อเสื้อผ้ามา หวางนิวไม่ได้ว่าอะไร แต่เฉินเยี่ยนคิดถึงทุกคน ยกเว้นเฉินเวย 

 

 

หวางนิวเสียใจมาก เธอคิดมาตลอดว่าลูกสาวคนโตและลูกสาวคนเล็กจะดีกัน แต่ลูกสาวทั้งสองคนกลับยิ่งแตกแยก เธอไม่โทษลูกสาวคนโต ลูกสาวคนโตไม่ได้ไม่มีน้ำใจ เธอดีกับครอบครัวมาก ยังคิดถึงสะใภ้คนใหม่ด้วย ทำไมถึงไม่ให้เฉินเวย? เป็นเพราะว่าเฉินเวยทำไม่ดีกับเธอก่อน 

 

 

ที่เฉินเยี่ยนปฏิบัติต่อเธอ ต่อเฉินจง ต่อเฉินหู่นั้นไม่มีอะไรต้องพูด ทั้งหมู่บ้านเธอก็หาคนที่ดีอย่างนี้ไม่ได้แล้ว เธอมีความสุข ได้กินของดี เฉินเยี่ยนทำเสื้อผ้าใหม่ให้เธอตลอด พูดออกไปใครไม่อิจฉาเธอบ้าง แต่ว่าเฉินเยี่ยนและเฉินเวยสองคนนี้กลับเป็นปมในใจเธอ 

 

 

“เยี่ยนจื่อ แม่อยากจะหาคู่ในเสี่ยวเวย รอเธอออกเรือนแล้ว ลูกก็ซื้อจักรยานให้เธอคันหนึ่งดีไหม?” 

 

 

หวางนิวปรึกษากับลูกสาวเสียงเบา สายตาวิงวอน 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่พูดอะไร เธอเข้าใจความหมายหวางนิว 

 

 

“เยี่ยนจื่อ แม่รู้ว่าเสี่ยวเวยทำไม่ถูก เสี่ยวเวยก็ไม่ได้เชื่อฟังเหมือนตอนเด็กแล้ว แต่แม่คลอดลูกสองคนออกมา แม่คิด ถึงเสี่ยวเวยจะไม่ดียังไง เธอก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น พวกลูกเป็นพี่น้องกัน เป็นลูกที่คลอดออกมาจากท้อง ลูกทำดีกับเธอ เธอก็จะค่อยๆ ทำตัวดีขึ้น ลูกเป็นพี่สาว เห็นแก่หน้าแม่หน่อย ดูและเสี่ยวเวยบ้างได้ไหม?” 

 

 

หวางนิวหวังเช่นนี้จริงๆ หวังจะให้ลูกสาวทั้งสองคนดีกัน 

 

 

น่าสงสารจิตใจพ่อแม่ เฉินเวยเป็นลูกสาวของหวางนิวจริงๆ เธอไม่สามารถคิดแทนเฉินเวยได้ 

 

 

“รอถึงตอนนั้นค่อยว่ากันเถอะค่ะ และก็ไม่รู้ว่าเธอจะอยากได้หรือเปล่านะ” 

 

 

เฉินเยี่ยนทนทำร้ายจิตใจหวางนิวไม่ได้ เธอต้องแต่งออกก่อนเฉินเวยแน่นอน เธอแต่งงานกับซินห้าว ถ้าเฉินเวยยอมแต่งงานดีๆ เธอก็จะให้จักรยานคันหนึ่งกับเฉินเวยไม่ใช่ปัญหาอะไร เฉินเวยออกจากบ้านเฉินไป ให้เธอไปเป็นสะใภ้บ้านอื่น ทางที่ดีแต่งกับอวี๋เหวยหมินไปทะเลาะกันให้หนำใจเลย บ้านเฉินจะได้เบาลงได้บ้าง  

 

 

“ของมีค่า ของมีค่า เธอจะต้องเห็นค่าแน่นอน เยี่ยนจื่อแม่ดีที่สุดเลย เยี่ยนจื่อรู้เรื่อง” 

 

 

หวางนิวยิ้มกว้าง 

 

 

เฉินเยี่ยนแอบส่ายหน้ากับตัวเอง อีกหน่อยถ้าเธอมีลูกจะต้องสั่งสอนให้ดี ไม่อย่างนั้นลูกนิสัยไม่ดี เธอจะต้องเสียใจมากแน่  

 

 

ตอนเย็นหวางจวนกลับมาเห็นจักรยานก็ปลื้มมาก เธอคิดว่าตอนนี้เธอมีความสุขเหลือเกิน ชีวิตแบบนี้ เป็นชีวิตที่สมัยก่อนเธอยังไม่กล้าคิดเลย 

 

 

เฉินหู่เห็นจักรยานของเฉินเยี่ยนก็ชอบมาก เพราะจักรยานผู้หญิงไม่ใหญ่มาก เป็นเฟรมเอียง เขาขี่ไม่เหนื่อยมาก เฉินเยี่ยนตอบตกลงเขา ทุกวันหลังเลิกเรียนให้เขาขี่ออกไปเที่ยวเล่นได้ เขาดีใจมาก สวมเสื้อผ้าใหม่ที่เฉินเยี่ยนซื้อ จูงจักรยานเฉินเยี่ยนออกไปอวด 

 

 

หลัวเหมยก็ได้เสื้อผ้าและรองเท้าใหม่ที่เฉินเยี่ยนซื้อให้ นัยน์ตาเธอแดง ไม่ใช่เพราะของ แต่เพราะหมายความว่าเฉินเยี่ยนยอมรับเธอแล้ว 

 

 

เธอไม่ร้องขออะไรมากมาย เธอต้องการแค่ในครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุข ชีวิตตอนนี้คือชีวิตในฝันเธอ 

 

 

เฉินเวยมองแต่ละคนที่ได้เสื้อผ้าใหม่ เธอยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว เล็บจิกเข้าไปในเนื้อแล้ว เฉินเยี่ยนกำลังเหยียดหยามเธอ เฉินเยี่ยนจงใจกันเธอออกไปข้างนอก ให้คนบ้านเฉินทำกับเธอ เป็นแบบนี้ต่อไป เธอจะยังมีที่ยืนอยู่ในบ้านเฉินไหม! 

 

 

“เสี่ยวเวย พี่สาวลูกบอกแล้ว รอลูกแต่งงานจะซื้อจักรยานให้ลูกคันหนึ่ง ในใจพี่สาวยังคิดถึงลูกอยู่นะ วันนี้ที่พี่ไม่ได้ซื้อของให้ลูก เพราะเงินเธอเอาไปไม่พอ ลูกอย่าคิดมาก” 

 

 

หวางนิวเห็นลูกสาวเสียใจ เลยรีบพูดปลอบ 

 

 

“หนูรู้ค่ะ หนูรู้ว่าในใจพี่ยังคิดถึงหนูอยู่ ไม่ได้จงใจไม่ซื้อให้หนู แม่ หนูไม่ได้คิดมากค่ะ” 

 

 

เฉินเวยกัดฟันกลืนคำพูดลงท้อง ฝืนฉีกยิ้ม เธอโวยวายไม่ได้ แบบนั้นเธอจะดูไม่มีเหตุผล เธอต้องแกล้งทำน่าสงสาร แกล้งทำเป็นเข้าใจ 

 

 

เฉินเยี่ยนทำเป็นไม่เห็น และไม่ได้พูดอะไร 

 

 

“พวกลูกสองพี่น้องค่อยเป็นค่อยไป มีที่ไหน แค้นกันชั่วข้ามคืน แม่คลอดพวกลูกมา อีกหน่อยก็หวังพึ่งพวกลูกนี่ล่ะ” 

 

 

หวางนิวเห็นลูกสาวเข้าใจก็ชื่นใจ 

 

 

เฉินกุ้ยพยักหน้า เฉินหู่ไม่ได้พูดอะไร เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไร ความหวังของพ่อแม่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีวันเป็นจริงแล้ว 

 

 

เวลาผ่านไป เฉินเยี่ยนนอกจากจะยุ่งเรื่องโรงงานม้วนบุหรี่ทุกวันแล้ว ยังช่วยหวางนิวทำผ้าห่มให้หวงจวน 

 

 

หวางนิวทำดีกับหวางจวน ผ้าห่มทักจากใยฝ้ายทั้งผืน ผืนหนึ่งหนักมาก เฉินเยี่ยนเห็นก็หนักแล้ว แต่สมัยนี้ไม่มีฮีทเตอร์ ถ้าผ้าห่มไม่หนา ฤดูหนาวก็จะหนาวตาย 

 

 

ระหว่างนั้นเจ้าอ้วนไปๆ มาๆ คนทั้งหมู่บ้านต่างรู้กันหมดแล้วว่ามีคนมาสู่ขอหวางจวน อีกทั้งฝั่งบ้านเฉินก็ตกลงแล้ว กำหนดไว้วันที่สองเดือนห้า ทั้งหมู่บ้านต่างวิจารณ์เรื่องนี้กันขึ้นมา 

 

 

มีหลายคนพูดกันคิดไม่ถึงว่าหวางจวนจะยังแต่งออก และยังมีอีกหลายคนที่นินทา ยังมีคนเอาไปบอกถึงฝั่งบ้านหวาง บอกว่าลูกสาวพวกเขาทำไมถึงแต่งบ้านคนอื่น นี่เป็นเรื่องตลก 

 

 

คนบ้านหวางมาโวยวายหนัก อันที่จริงพวกเขาไม่สนใจว่าหวางจวนจะแต่งงานกับใคร พวกเขาต้องการสินสอดพวกเขาคิดจะให้หวางจวนแต่งงานที่บ้านหวาง แบบนี้เงินของขวัญแต่งงานจะได้กลับไปที่พวกเขา 

 

 

หวางจวนกลับบ้านหวางไปหนึ่งรอบ เธอเอาเงินเดือนเธอให้แม่ บอกว่าที่บ้านเคยเลี้ยงดูเธอ ตอนนี้เธอจะแต่งงานแล้ว เงินเดือนนี้ถือว่าคืนหนี้บุคุณของครอบครัวแล้ว ถือเป็นครั้งสุดท้าย อีกหน่อยเธอก็คือเจ้าสาวของเจ้าอ้วนแล้ว เธอจะอยู่กับเจ้าอ้วนอย่างสงบสุข เธอจะไม่มายุ่งกับบ้านพ่อแม่อีก ถ้าบ้านพ่อแม่มาโวยวายอีก เจ้าอ้วนจะไม่เกรงใจพวกเขาแล้ว 

 

 

เธอพูดชัดเจนมาก อีกหน่อยเธอจะถือว่าบ้านเฉินเป็นบ้านพ่อแม่ เฉินเยี่ยนและเฉินหู่เป็นพี่น้องกับเธอ เธอจะกตัญญูต่อเฉินจงและหวางนิว เธอนับถือเฉินจงและหวางนิวเป็นพ่อแม่บุญธรรม 

 

 

ถึงแม้ครอบครัวหวางจะอึดอัดเล็กน้อย แต่หวางจวนให้เงินไม่น้อย อีกทั้งพวกเขาเห็นท่าทียืนหยัดของหวางจวน เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจแล้ว แล้วยังมีเจ้าอ้วนนั่นอีก นั่นเป็นนักเลง ดังนั้นครอบครัวหวางเลยทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่ยอมรับ