TB:บทที่ 132 การแข่งมวยใต้ดิน (4)
หลังจากที่มีความคิดนี้แวบเข้ามาในสมอง ใบหน้าของอเล็กเซย์ก็ถูกกระแทกเข้าอย่างจัง อเล็กเซย์ถึงกับหงายหลังล้มลงไปดังตึง! จากนั้นเลือดก็ไหลทะลักออกมา…
ประสงค์ได้เอาชนะเขาด้วยการตีเข่าเพียงครั้งเดียว เหมือนจะตกตะลึงไปเล็กน้อยในตอนที่อีกฝ่ายล้มลงไปที่พื้น ในตอนที่เขากำลังกระโดดกลางอากาศ จู่ๆพลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พลังที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันนี้แข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาได้พยายามสุดกำลังซะอีก ผลคืออเล็กเซย์น็อคเอาท์ไปโดยปริยาย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะรู้สึกตื่นเต้นมากหลังจากที่คู่ต่อสู้น็อคเอาท์ไป แต่ในครั้งนี้ เขากลับไม่ได้รู้สึกถึงความตื่นเต้นเลยสักนิด เพราะตามแผนที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้คือเขาจะต้องเป็นฝ่ายถูกฆ่า และคู่ต่อสู้เป็นฝ่ายชนะต่างหาก แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น?
“เกิดอะไรขึ้นกัน?”
ในตอนที่กรรมการประกาศว่าประสงค์เป็นฝ่ายชนะ ในความคิดของเขามีแต่คำว่า ทำไม?
แต่ความล้มเหลวของอเล็กเซย์ได้ทำให้ใครบางคนโกรธขึ้น มันไม่สำคัญว่าอเล็กเซย์จะแพ้หรือตาย ยังไงก็ตาม มันทำให้พวกเขาสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก และเรื่องนี้จะยกโทษให้เขาไม่ได้เด็ดขาด
ในทำนองเดียวกัน อวี้จิน(อวี่จินหรู)เองก็โมโหเขาเช่นกัน เขาไม่ได้บอกว่าอเล็กเซย์เป็นฝ่ายชนะเหรอ? แล้วประสงค์ชนะได้ยังไง? อย่าบอกนะว่าเขาเล่นฉันแล้ว?
ในตอนนี้ อวี้จินได้หันไปมองเฉินหลง และเขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองเขาอยู่เช่นกัน อีกฝ่ายกลับส่งรอยยิ้มแสนเศร้ามาให้เขา เดี๋ยวนะ… ไอ้นี่มันกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่ใช่ไหม?
‘บัดซบ! ฝากไว้ก่อนเถอะ!’ อวี้จินทำอะไรไม่ได้นอกจากก่นด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ
เมื่อถึงเวลา ประสงค์ก็กลับไปยังห้องพักของตัวเอง ในห้องมีใครสักคนกำลังนั่งรอเขาอยู่ แต่คนที่กำลังนั่งบนเก้าอี้กลับนั่งหันหลังให้เขา
เมื่อเห็นว่ามีชายคนหนึ่งกำลังรอเขาอยู่ ประสงค์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “หวง คุณหวงครับ!”
นักมวยที่เป็นนักมวยตัวดำที่ไม่ได้จริงจังกับชีวิตของตัวเอง แต่น้ำเสียงของ ประสงค์กลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“ทำไม?” ในตอนนี้ หวงได้หันกลับมามองทางประสงค์
คุณหวงเป็นผู้ชายที่อายุประมาณสามสิบปี เขาดูดีมาก แต่เขามีแรงผลักดันที่เหมือนกับคมมีด
ประสงค์รีบอธิบายอีกฝ่าย “คุณหวงครับ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรก ผลกำลังให้โอกาสอเล็กเซย์แล้ว แต่ตอนที่ผมอยู่กลางอากาศ จู่ๆพลังในร่างกายของผมก็ได้เพิ่มขึ้น โดยที่ผมควบคุมมันไม่ได้… “
คุณหวงคนนี้น่ากลัวมาก ประสงค์รู้ความสามารถของเขาในฐานะนักสู้ เพราะครั้งหนึ่งเขาเคยพูดคุยกับอีกฝ่าย เขาบอกว่าเขาเคยทุบหัวคู่ต่อสู้เหมือนกับว่ามันเป็นลูกแตงโม ในตอนที่น้ำสีแดงกับสีขาวไหลออกมาจากหน้าของอีกฝ่าย ท่าทางของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เขาแค่ยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาตามใบหน้าของตัวเองเท่านั้น
เห็นท่าทางของประสงค์แล้ว หวงก็ได้เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่เหมือนคนที่กำลังพูดโกหกเลยสักนิด และเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจทำให้เรื่องมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาจึงตอบว่า “คราวนี้ฉันจะเชื่อนาย แต่ว่านายจะไม่ได้โบนัส”
พูดจบ คุณหวงก็เดินออกจากห้องไป
ถ้าประสงค์ไม่ได้พูดเรื่องโกหก แสดงว่าต้องมีปรมจารย์สักคนทำอะไรบางอย่างกับการแข่งครั้งนี้ โดยที่อีกฝ่ายไม่ปล่อยให้ใครรู้ว่าเขาคือใคร แสดงว่าความสามารถของคนๆนี้จะต้องมีพวกกำลังภายใน และในที่นี้ เขารู้แค่ความสามารถของโจวเต๋าฟาน เป็นคนเดียวที่มีกำลังภายในเท่านั้น
‘หรือว่าจะเป็นเขา?’ ทันใดนั้น ความคิดนี้ก็ได้ผุดขึ้นมาในหัวของหวงในทันที
แต่ไม่นาน เขาก็คิดว่ามันไม่น่าจะใช่ เพราะคนอย่างโจวเต๋าฟานเป็นคนที่ชัดเจนว่าตัวเองคือใคร โจวเต๋าฟานมาเพื่อแข่งมวยหลายครั้งแล้ว และเขารู้กฎระเบียบที่มีอยู่ทุกข้อ และเขาก็ไม่เคยแหกกฎเลยสักครั้ง ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นฝีมือของเขาแน่นอน
หลังจากคิดได้เช่นนั้น เขาก็เดินไปหาหวังหู
เงินที่สูญหายไปจากประสงค์ หวังหูจะเป็นคนที่ได้มันกลับคืนไป หวังหูเป็นคนที่เชี่ยวชาญและช่ำชองมาก ที่เขาพนันไว้กับเจียงตงเฉิงคือสี่ต่อหนึ่ง ถ้าหวังหูเป็นฝ่ายแพ้ในเกมนี้ เงินที่หายไปก่อนหน้านี้ เขาก็จะสามารถนำมันกลับคืนมาได้
หวังหูเป็นคนที่มีศักยภาพมาก หวงมักจะต้องการเก็บเขาเอาไว้ข้างหลัง แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแผนใหม่ซะได้
ร่างกายของหวังหูไม่เหมือนกับพวกนักมวยที่มีกล้ามมีเนื้อแน่นๆ เขาเป็นคนผอม แต่ว่ากล้ามเนื้อแต่ละมัดกลับมีพละกำลังเหมือนกับระเบิด ที่กำลังรอให้เจ้าของระเบิดพวกมันออกมายังไงอย่างนั้น
เมื่อเห็นว่าคุณหวงกำลังเดินตรงเข้ามาหาเขาแล้ว หวังหูขมวดคิ้วเล็กน้อยและเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างสุภาพ “คุณหวงครับ”
ในตอนที่เขาขึ้นเวที คุณหวงไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เขากลับมาที่นี่ในวันนี้ เรื่องนี้ทำให้หวังหูรู้สึกไม่ค่อยดีนัก
“หวังหู วันนี้ฉันต้องการให้นายเป็นฝ่ายแพ้ โอ๊ะ แล้วก็ไม่ต้องกังวลไปนะ เพราะคู่ต่อสู้จะไม่จัดการนายถึงตาย แล้วนายก็จะได้รับโบนัสสิบเท่าอีกหนึ่งล้านหยวนด้วย” เพราะอีกไม่นาน หวังหูที่อยู่ตรงหน้าเขาก็จะถึงเวลาที่จะต้องไปแล้ว ดังนั้นหวงจึงพูดเข้าประเด็นในทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณหวง ใบหน้าของหวังหูก็ขึ้นสีด้วยความโกรธ “คุณหวง นี่ คุณกำลังขอให้ผมแกล้งแพ้เหรอครับ?”
ดูเหมือนว่าหวงจะไม่เห็นหวังหูที่กำลังมีน้ำโห เขาจึงพยักหน้าตอบอีกฝ่ายอย่างใจเย็น “ถูกต้อง จริงๆแล้ว นายไม่จำเป็นต้องแกล้งสู้ในศึกนี้หรอกนะ แต่ทำเหมือนว่ามีอุบัติเหตุเล็กๆเกิดขึ้นบนเวทีก็ได้ นายจะได้เป็นฝ่ายแพ้ไง”
หวังหูพยายามระงับความโกรธของตัวเอง เขาสบตาคุณหวงพร้อมกับตอบว่า “คุณหวง ถ้าคุณอยากให้ผมแกล้งชกมวยแบบนั้น สู้ให้ผมไม่สู้เลยจะดีกว่า!”
ถึงหวังหูจะมาแข่งมวยเพื่อเงิน แต่เขายังหนุ่มแถมยังความสามารถของการเป็นนักสู้ เขาสามารถฆ่าคู่ต่อสู้ของตัวเองบนสังเวียนเพื่อเงินได้ แต่เขาไม่มีทางแกล้งชกมวยปลอมๆเพื่อเงินเด็ดขาด
“อย่าทำให้ฉันหมดหวังเร็วนักสิ นายมาต่อสู้เพื่ออาการป่วยของน้องสาวของตัวเองนะ ถ้านายหาเงินไปรักษาเธอไม่ได้แบบนี้ มันน่าเสียดายออก” นายหวงตอบเสียงเบา
“คุณหมายความว่ายังไงครับ?” หวังหูรู้ความหมายของของคุณหวง
“ไม่ได้หมายความว่าอะไรทั้งนั้น มันก็แค่คำแนะนำของฉันเฉยๆ ลองเก็บมันไปคิดดูก่อนสิ”
จากนั้นคุณหวงก็เดินออกไปจากห้องของหวังหู
คงต้องบอกว่า เขาควรรู้ว่าตัวเองควรจะเลือกอะไร เขาต้องไปหาเจียงตงเฉิงอีกคน เขาหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่พวกสมองตายนะ
“แปลก ทำไมอเล็กเซย์ถึงเป็นฝ่ายแพ้ได้นะ” โจวเต๋าฟายมองเฉินหลงด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าปากจะบอกว่าแปลก แต่เขากลับไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมาให้ใครได้เห็น
เมื่อนี้ เฉินหลงเป็นอีกหนึ่งคนที่เห็นอุบายของประสงค์ แต่ที่ไม่เข้าใจคือ จู่ๆอเล็กเซย์ก็ทำพลาด และความแข็งแกร่งของประสงค์ก็เพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน และสิ่งเดียวที่เป็นไปได้คือ มีใครบางคนเริ่มโจมตีก่อน
และคนที่อยู่ตรงนี้ก็คือเฉินหลง และเฉินหลงก็เป็นคนเดียวที่มีความสามารถในการทำอะไรแบบนี้ ถึงเขาจะไม่เห็นว่าเฉินหลงขยับมือหรือเท้าของตัวเอง แต่เฉินหลงก็พนันกับเขาไว้ แต่ว่ามันก็ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะดีกว่านี้อีกแล้ว
เฉินหลงพยักหน้าพร้อมกับเล่นคำ “เยส! เป็นศึกที่เยี่ยมมาก ถ้าไม่มีใครควบคุมมันได้ มันก็เยี่ยมแบบนี้แหละ!”
ไม่มีใครได้ต่อสู้ในการแข่งมวย เฉินหลงไม่สนใจว่าใครจะแพ้หรือชนะ แต่ถ้ามีคนโกงขึ้นมา เฉินหลงก็จะไม่ยอมเป็นไอ้หน้าโง่หรอก คิดจะมาโกงคนอย่างเขาน่ะ มันยังเร็วไปอีกร้อยปีเฟ้ย
หลังจากนั้นไม่นาน หวังหูและเจียงตงเฉิงก็ได้ปรากฏตัวขึ้น แต่ใบหน้าของหวังหูนั้นหมองหม่นและน่าเกรงขาม ส่วนใบหน้าของเจียงตงเฉียงนั้น…ดูไม่ได้เลยสักนิด!
หวังหูได้รับการเรียกว่าเป็นเครื่องมือและถูกคุกคาม ใบหน้าของเขาจึงดูไม่ดีเป็นธรรมดา และในตอนนี้ โทสะของเขาเป็นเหมือนภูเขาไฟที่พร้อมจะระเบิดตลอดเวลา และเขาเองก็กำลังรอให้มันระเบิดออกมาเช่นกัน!