TQF:บทที่ 641 ครอบครัวท่านอา (4)
“เอาล่ะ นั่งลงเถอะ” เจ้าโถงค่อยๆลืมตาขึ้น ทันใดนั้นก็มีฟูกปรากฏขึ้นที่ซ้ายขวาของเขา ซึ่งเป็นที่นั่งที่มอบให้พวกเขา 2 สามีภรรยา
พวกเขาไม่กล้าเสียมารยาท รีบกล่าวอย่างเคารพนับถือ “ขอบคุณท่านอาจารย์”
เจ้าโถงยิ้มเล็กน้อยและเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าตั้งใจฝึกฝนมาก หนังสือในห้องศิลาพวกเจ้าก็อ่านหมดแล้วใช่มั้ย โถงสาขาวิหารสวรรค์ที่พวกเจ้าอยู่ก่อนหน้านี้คงมีไม่ครบขนาดนี้ สิ่งที่รู้ก็น่าจะน้อยกว่า”
“ใช่ขอรับท่านอาจารย์ มีวิชาวิหารสวรรค์มากมายที่พวกเราก็เพิ่งเคยรู้เป็นครั้งแรกว่ามีอิทธฤทธิ์แบบนี้อยู่ด้วย ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ให้การอบรมสั่งสอน” โม่อู๋เซอมีแววตาดีใจ ขอบคุณอย่างจริงจัง
หรงจิ้งซือเอ่ยตาม “ศิษย์ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ดูแล”
“พวกเจ้าเป็นศิษย์ของข้าทั้งคู่ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ข้าควรสอนในฐานะอาจารย์ ไหนลองบอกมาซิ ว่าที่พวกเจ้ามาหาอาจารย์ในเวลานี้มีเรื่องลำบากอะไรรึเปล่า หรือเจอเรื่องที่เข้าใจได้ยาก”
“ท่านอาจารย์ ศิษย์มีเรื่องจะขอร้องจริงๆ หวังว่าท่านอาจารย์จะยอมช่วย”
พูดมาถึงตรงนี้ โม่อู๋เซอก็ยืนขึ้นอีกครั้งและเดินไปตรงหน้าเจ้าโถงพลางคุกเข่าลง หรงจิ้งซือก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน ทั้ง 2 มองอาจารย์อย่างจริงใจและขอร้อง
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจ้าโถงค่อยๆหายไป เหมือนกับเดาออกว่าลูกศิษย์ของเขาทั้ง 2 คนจะพูดอะไร สีหน้าเขาเริ่มลำบากใจ และเอ่ยเสียงเบา “พวกเจ้าลองพูดมาก่อนสิว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าอยากให้อาจารย์ช่วยพวกเจ้ายังไง”
“อาจารย์คงยังไม่รู้ว่าศิษย์ทั้ง 2 ไม่ใช่คนของผืนดินฉางไห่พวกเรามาจากผืนดินที่ค่อนข้างเล็ก วิทยายุทธสูงสุดของเราก็แค่จักรพรรดิเทพยุทธ์เท่านั้น และจักรพรรดิเทพยุทธ์ทั้งหมดก็เป็นลูกศิษย์ของพวกเราโถงวิหารสวรรค์”
โม่อู๋เซอคุกเข่าต่อหน้าอาจารย์และเล่าถึงความเป็นมาของตัวเอง “แม้ว่าวิทยายุทธของเราจะไม่สูง แต่ชีวิตของเราก็สงบดี เรา 2 สามีภรรยามีลูก 1 คนชื่อโม่ซวนซุน แต่เราถูกลิขิตให้ไม่มีลูกเป็นของตัวเอง เราทำใจไม่ได้ที่จะทิ้งเขาแล จึงเปลี่ยนแปลงตัวตนของเด็กด้วยการปรับเปลี่ยนโชคชะตาอย่างขัดลิขิตสวรรค์ของเหล่าอาจารย์อา แล้วเราค่อยรับกลับมาเป็นศิษย์ ถึงแม้ว่าลูกข้าจะไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่เขาก็เป็นเด็กใจดี โดยเฉพาะวิชาวิหารสวรรค์ที่เขามีพรสวรรค์อย่างยิ่ง อาจารย์ปู่ของเราถึงกับเอ่ยปากว่าซวนซุนเป็นศิษย์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในเวลาหลายแสนปีนี้”
ถึงตอนนี้เจ้าโถงเพิ่งเข้าใจว่าที่แท้อาจารย์อาของตัวเองเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพวกเขา และทุกคนก็ไล่ตามอาจารย์อามาถึงที่นี่ เจ้าโถงที่ดูเหมือนจะสงบก็อดพึมพำในใจไม่ได้ ลูกของเจ้าก็ต้องมีพรสวรรค์ที่ดีที่สุดอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะพรสวรรค์ไม่ธรรมดาของเขา เขาจะเข้าสู่การรับสืบสานจิตเทพของท่านบรรพบุรุษโดยไม่ตั้งใจได้อย่างไร
แน่นอนว่าโม่อู๋เซอและภรรยาไม่รู้ว่าท่านอาจารย์ของพวกเขาคิดอะไรอยู่ จึงพูดต่อไปว่า “ซุนเอ๋อเป็นคนโดดเด่น เขาได้เป็นจักรพรรดิเทพยุทธ์ในอายุเพียง 18 ปี และกลายเป็นเจ้าโถงรุ่นใหม่ ได้รับสืบทอดวิชาวิหารสวรรค์อย่างสมบูรณ์แบบ ในปีที่เขาอายุ 20 เขาได้พบคนที่เขารัก และผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนที่ดีและโดดเด่นมากเช่นกัน พวกเราทุกคนชอบมาก และวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานให้พวกเขา แต่เมื่อ 2 ปีก่อน จู่ๆก็มีหญิงสาวชุดแดงปรากฏตัวและจับซุนเอ๋อของข้าไป พวกเราพยายามทุกอย่างเพื่อมาที่ผืนดินฉางไห่และก็หวังในขณะเดียวกันก็หวังว่าจะเจอซุนเอ๋อที่นี่ พวกเราอยากจะพบเขา”
“ท่านอาจารย์ ผืนดินฉางไห่น่ะใหญ่เกินไป ด้วยพลังของพวกเรา 2 สามีภรรยาไม่สามารถหาเขาได้โดยเร็วเลย พวกเราเป็นครอบครัวกันทางสายเลือด จึงสัมผัสได้ลางๆว่าเขาอยู่ในผืนดินฉางไห่แต่เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน จึงอยากขอความช่วยเหลือจากท่านอาจารย์ช่วยหาวิธีที่จะช่วยเราตามหาซุนเอ๋อด้วย”
ทันทีที่โม่อู๋เซอพูดจบ หรงจิ้งซือก็คำนับเสียงดัง “ท่านอาจารย์ ศิษย์ขอร้องให้ท่านช่วยพวกเราด้วย พวกเราเพียงหาซุนเอ๋อให้เจอ พวกเรา 2 สามีภรรยายินดีที่จะใช้ทั้งชีวิตตอบแทนท่านอาจารย์”
“พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ”
เจ้าโถงสงบจิตใจที่สั่นคลอนไว้ และพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ “เรื่องของพวกเจ้าอาจารย์ทราบแล้ว เรื่องนี้ปล่อยให้อาจารย์จัดการเอง วิทยายุทธของพวกเจ้าตอนนี้ต่ำเกินไป ด้วยระดับบรรลุราชันย์จักพรรดิ์ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ที่จะออกไปข้างนอก เพราะฉะนั้นพวกเจ้าอยู่ฝึกฝนที่นี่ให้วิทยายุทธสูงขึ้นดีกว่า ส่วนลูกชายของพวกเจ้าต้องได้พบพวกเจ้าแน่นอน เรื่องนี้วางใจได้”
“ขอบคุณท่านอาจารย์”
“ท่านอาจารย์ ศิษย์จะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวัง เรื่องของซุนเอ๋อต้องฝากไว้กับอาจารย์ด้วย”
“เอาล่ะ พวกเจ้าไม่ต้องคุกเข่าหรอก ลุกขึ้นได้แล้ว” เจ้าโถงมองพวกเขาด้วยความเมตตา
ความสัมพันธ์ช่างยุ่งเหยิงเสียจริง ลูกชายเป็นอาจารย์อาของอาจารย์ และพ่อแม่ของอาจารย์อาเป็นศิษย์ของศิษย์หลานอีกที
“พวกเจ้ามีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการฝึกฝนและอิทธฤทธิ์วิหารสวรรค์บ้างหรือเปล่า ถ้ามีละก็พูดออกมาได้เลย เดี๋ยวอาจารย์จะชี้แนะให้”
“ขอรับท่านอาจารย์ ศิษย์มีคำถามหลายข้อในด้านการฝึกฝน ข้อแรกก็คือ….”
สามีภรรยาโม่อู๋เซอมีคำถามที่แตกต่างกันมาถามเจ้าโถง 1 ชั่วผ่านไปทั้ง 2 ถึงได้ออกจากห้องโถงไป
หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้วสายตาของเจ้าโถงตกไปอยู่ที่ด้านหลังสุดฝั่งขวา มองคนปรากฏตัวออกมาด้วยสีหน้ากลั้นยิ้ม “เป็นไงล่ะ ได้ยินแล้วล่ะสิ คนที่ศิษย์ของเจ้าไปพามายังเป็นลูกชายของศิษย์ข้าด้วย ไหนเจ้าลองพูดซิว่าจะทำอย่างไรดี”
ชายวัยกลางคนโยกตัวนิดหน่อยก็มาปรากฏตัวข้างเจ้าโถง เขาพูดเสียงเรียบว่า “จะทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว เราจะย้อนเวลากลับไปได้รึไง”
“พวกเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปและป้องกันไม่ให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้ เราทำได้แค่รับผิดชอบต่อผลที่ตามมาจากเรื่องนี้”
เจ้าโถงสีหน้าเคร่งขรึม พลางเอ่ยต่อ “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือยัยหยินเฟิ่ง ทำเกินไปจริงๆ คู่รักเขากำลังเตรียมตัวจะแต่งงานกัน แล้วนางไปลักพาตัวสามีของคนอื่นเขามา ความบาดหมางนี้ใหญ่มาก ไม่รู้ว่ามันจะเกิดปัญหาไปถึงระดับไหน”
“ศิษย์พี่ คงไม่หนักหนาขนาดนั้นล่ะมั้ง” ชายวัยกลางคนมองเขาพลางกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“ผิดแล้ว ต้องบอกว่าหนักหนามาก”
เจ้าโถงเหลือบมองศิษย์น้องของตัวเอง “เมื่อกีเจ้าก็น่าจะได้ยินชัดนะที่หวี่เจ๋อบอกว่าอาจารย์อากำลังจะแต่งงาน และอาจารย์อาก็รักคู่หมั้นของตัวเองมาก สามีภรรยาหวี่เจ๋อก็พอใจมากกับลูกสะใภ้คนนี้ ประเด็นสำคัญเขาก็บอกอยู่ว่าคู่หมั้นของอาจารย์อาก็มาที่นี่เหมือนกัน เจ้าคิดว่านางจะปล่อยให้คู่หมั้นของตัวเองหายไปแบบนี้เหรอ”
“อีกอย่าง สามีภรรยาหวี่เจ๋อสามารถปรากฏตัวที่ผืนดินฉางไห่ได้ ทำไมคู่หมั้นของอาจารย์อาจะมาไม่ได้ ในเมื่อนางมาถึงที่นี่แล้วการจะเจออาจารย์อาก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น เมื่อความทรงจำของอาจารย์อากลับมาก็ย่อมจำได้ว่าเป็นใครลักพาตัวเขามาที่นี่ เจ้าคิดว่าคู่รักคู่นี้จะยอมรามือแค่นี้เหรอ”
พูดมาถึงตรงนี้ เจ้าโถงก็มองศิษย์น้องตัวเองที่สีหน้าไม่สู้ดีอย่างขบขัน “ถ้าหากเป็นเจ้าละก็ศิษย์น้องสอง เจ้าจะเอาเรื่องกับคนที่ทำเรื่องนี้มั้ย อีกอย่าง เจ้าก็รู้นี่ว่าผู้หญิงน่ะใจแคบ ที่น่าปวดหัวที่สุดคือหยินเฟิ่งก็มีใจให้อาจารย์อา ไม่แปลกที่อาจารย์ปู่สั่งให้เราเอายาเม็ดวั่งฉิงให้หยินเฟิ่งกิน ถ้าหยินเฟิ่งลืมความสัมพันธ์ที่ยังไม่ได้เริ่มนี้ได้ อาจจะไม่เป็นเรื่องใหญ่โตที่น่าอับอายสักเท่าไหร่”
“เรื่องนั้น…”
ชายวัยกลางคนยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ในสมัยที่เขายังเป็นเด็กหนุ่ม เขาก็ผ่านเรื่องราวความรักที่หนักหนามา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำให้ผู้หญิงดีๆหลายคนต้องมาฆ่ากันเอง จนบัดนี้เขาก็ยังคงเศร้าและรู้สึกผิดอยู่ คนที่เขารักและคนที่รักเขารวมอยู่ในนั้นหมด การไม่ยอมกันทำให้เกิดโศกนาฏกรรมในที่สุด
ในเวลานี้ เขาก็เหมือนจะมองเห็นโศกนาฏกรรมกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง จึงเอ่ยอย่างทนไม่ได้ “แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะ หรือต้องให้หยินเฟิ่งกินยาเม็ดวั่งฉิงจริงๆเหรอ”
เจ้าโถงดูออกว่าเขารับไม่ได้ ที่จริงเขาก็รับไม่ได้เหมือนกันที่จะให้หญิงสาวสะสวยกินยาที่ทำให้ดูเหมือนซากศพเดินได้
“จริงสิ ช่วงนี้มีสำนักจำนวนมากส่งคนมาถามเกี่ยวกับอนาคตของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนกัน ข้าจำได้ว่าโถงวิหารสวรรค์สาขาของเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนอยู่” เจ้าโถงกล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดเพราะไม่ต้องการที่จะคุยปัญหานี้กันต่อ
ชายวัยกลางคนย่อมรู้ถึงความหมายศิษย์พี่ เขาสลัดความคิดที่วุ่นวายและพยักหน้า “ถูกต้อง กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนได้ก่อตัวขึ้นในปีนี้ด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง โดยเฉพาะพลังอันแข็งแกร่งและความโหดที่ทำให้อิทธิพลไม่น้อยกระสับกระส่ายอยู่ไม่เป็นสุขกันแล้ว”
“ข้าก็เคยลองคำนวณดวงชะตาคนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนดู แต่ทำไม่ได้ เหมือนเขาจะเกี่ยวข้องกับพวกเรา คำนวณยังไงก็คำนวณไม่ออก ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าใครกันที่เป็นผู้สร้างกลุ่มทหารรับจ้างที่ทรงพลังขนาดนี้”
เจ้าโถงพิจารณาเรื่องนี้ก่อนจะส่ายหัว “ไม่น่าจะเป็นคนที่เราคุ้นเคย ที่มาของเหล่าสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนไม่ธรรมดา ถ้าหากพวกเขาไม่ได้อยู่ระดับจักพรรดิ์อมตะกันทั้งหมดละก็ ข้าก็ชักจะสงสัยอยู่บ้างว่าเป็นคนจากที่เดียวกับหวี่เจ๋อติดตามาด้วยรึเปล่า”
“น่าจะไม่ใช่ เมื่อกี้สามีภรรยาหวี่เจ๋อได้บอกไว้ว่าผืนดินที่พวกเขาอยู่เป็นผืนดินที่ค่อนข้างเล็ก ขาดแคลนพลังวิญญาณ วิทยายุทธจึงไม่สูง เจ้าดูสิอายุเท่านี้แล้วยังเป็นเพียงบรรลุราชันย์จักพรรดิ์อยู่ก็น่าจะรู้ถึงสถานการณ์ที่นั่นได้”
“เรื่องนั้นก็ใช่ ที่มาของทรัพยากรของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนก็แปลกมากเช่นกัน ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าแหล่งที่มาของทรัพยากรพวกเขาคือที่ไหน พลังวิญญาณที่อยู่ในนั้นมีพลังวิญญาณหนาแน่นกว่าผืนดินฉางไห่ของเราซะอีก ไม่ว่าจะยาเม็ด หรือยาน้ำต่างๆ เห็นได้ว่าทรัพยากรของพวกเขาต้องมหาศาลขนาดไหนถึงรองรับเมืองต่างๆในผืนดินฉางไห่ได้”
“ใช่ กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนนี้ลึกลับและหาคำตอบยากจริงๆ แม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถหาคำตอบได้”
พูดมาถึงตรงนี้ชายวัยกลางคนจงใจเงยหน้าขึ้นเหลือบมองคนข้างๆ “เจ้าโถง เมื่อกี้ท่านเพิ่งพูดว่าผู้อาวุโสของโถงสาขาต่างๆใกล้ชิดกับกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ นี่คือข่าวที่ลูกน้องส่งกลับมา ทำไมรึ เจ้าคิดว่าพวกเขาสามารถสืบที่มาของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนได้เหรอ”
“ข้าไม่สามารถบอกได้ว่าสืบได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยจะสืบว่าหัวหน้ากลุ่มของพวกเขาเป็นใครก็คงไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่”
—————————