บัญชามังกรเดือด บทที่ 876 ความรักทางสายเลือด
ฉินฉีฝืนยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “สำหรับตัวตนของแม่ลูกแล้ว พ่อก็มีส่วนที่สงสัยอยู่เช่นกัน ——โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้รู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ‘ตัวประหลาด’อย่างลูกอยู่”
เมื่อพูดว่า “ตัวประหลาด” สายตาที่เขามองมายังฉินเทียนก็แปลกไป ดูเหมือนว่าเขายังจดจำเรื่องนี้อยู่ภายในใจมาเสมอ
ฉินเทียนถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ที่ก่อนหน้านี้คุณไม่ชอบผม นั่นเพราะรู้สึกว่า ผมทำร้ายผู้หญิงของคุณใช่ไหม?”
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของฉินฉีกระตุกเล็กน้อย และในที่สุดก็เปลี่ยนเรื่องคุย
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปสงบลง
“ครั้งแรกที่พ่อได้เห็นแม่ของลูก เป็นตอนที่กำลังทำกิจกรรมอาสาสมัครกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ลูกก็น่าจะรู้ ถึงแม้ว่าตระกูลฉินของเราจะเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ทว่า ลูกหลานทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สืบทอดสายตรง จะต้องได้รับการเรียนรู้อย่างสามัญชนตั้งแต่อายุยังน้อย และต้องทำความเข้าใจความทุกข์ทรมานของผู้คน”
ฉินเทียนพยักหน้า
ตอนที่เขาเป็นเด็กก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอะไรก็ตาม และสถานที่เช่นบ้านพักคนชรา เขาต่างก็คุ้นเคยมาหมดแล้ว
สามารถกล่าวได้ว่า นี่เป็นหนึ่งในธรรมเนียมที่ดีของตระกูลฉินเก่า แต่ทว่าก็มีข้อยกเว้นอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือฉินเปียว
เป็นผู้สืบทอดสายตรงเช่นเดียวกัน แต่เจ้าเด็กนั่นก็กำเริบเสิบสานและโอหังอวดดีมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตที่หรูหรา สามารถกล่าวได้เลยว่า ไม่เคยได้รับความลำบากเลยสักวันเดียว
ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับการที่หยางหลิวรักลูกของตัวเองมากเกินไป
“ครั้งแรกที่ได้เห็นแม่ของลูก ก็ทำให้พ่อถึงทำให้ตกตะลึงแล้ว ก่อนหน้านี้ พ่อไม่เคยคิดเลยว่าจะมีผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย”
“เธอดูเหมือนกับนางฟ้าที่ลงมาจากฟากฟ้า น้ำเสียงของเธอก็ราวกับนกกระจาบฝน รอยยิ้มของเธอราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ”
“พวกเราเริ่มมาจากคนรู้จัก มาเป็นคนรู้ใจและจนมาถึงเป็นคนรักกัน พ่อก็เคยถามถึงตัวตนของเธอมาก่อน รวมไปถึงว่าเพราะอะไรถึงได้มาเป็นอาสาสมัครในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า”
“เธอบอกว่า เธอไม่มีพ่อแม่มาตั้งแต่เล็ก และโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ดังนั้นเธอจึงอยากที่จะตอบแทนสถานที่แห่งนี้”
“นอกจากนี้พ่อยังมองออกอีกว่า เธอชื่นชอบเด็ก ๆ มาจากก้นบึ้งของหัวใจ”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เขาก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผู้หญิงที่รักเด็กในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าขนาดนั้น จะไปสามารถเอาลูกของตัวเองออกได้อย่างไรกัน?”
“เมื่อมาคิดได้ตอนนี้ ในตอนนั้นที่พ่อบีบบังคับเธอให้เอาลูกออก มันก็เป็นเรื่องที่เกินไปหน่อยจริง ๆ ”
ราวกับหัวใจของฉินเทียนถูกตัดด้วยมีด เขาพูดเสียงเคร่งขรึมว่า “พูดเข้าประเด็นเถอะ!”
ฉินฉีกระซิบว่า “ประเด็นสำคัญก็คือ พ่อใช้ทางอ้อม และได้ยินถึงชื่อของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เคยรับเลี้ยงเธอ หลังจากนั้นจึงแอบส่งคนไปตรวจสอบเงียบ ๆ”
“พ่อไม่ได้มีความหมายอื่นใด เพียงแค่อยากที่จะช่วยตามหาคนในครอบครัวของเธอให้เจอเท่านั้น”
“ผลลัพธ์ก็คือ——”
“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้น เดิมทีแล้วไม่เคยรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงอย่างเธอมาก่อน”
ฉินเทียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ความหมายของคุณก็คือ แม่ของผมโกหกอย่างนั้นเหรอ”
ฉินฉีพยักหน้า “ใช่แล้ว”
“หลันจือเชื่อใจพ่อมา หลังจากที่รู้จักกัน เธอก็ไม่เคยโกหกเรื่องอะไรกับพ่อมาก่อนเลย และมีเพียงแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวเท่านั้น”
“เธอยอมที่จะโกหก และก็ไม่ยินยอมที่จะบอกประวัติชีวิตที่แท้จริงของเธอเอง ดังนั้นพ่อจึงได้รู้ ว่าเธอเกลียดเรื่องนั้นเป็นอย่างมาก”
“ดังนั้นหลังจากนั้นเป็นต้นมา พ่อก็ไม่เคยถามอีกเลย”
“พ่อรู้เพียงแค่ว่า พ่อรักเธอ เพียงแค่เธอเป็นผู้หญิงของพ่อแค่นั้นก็พอแล้ว ส่วนเรื่องอื่นนั้น ที่จริงแล้วไม่ได้สำคัญอะไรเลย”
ฉินเทียนเงียบไปอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อดูตามสถานการณ์ในปัจจุบัน หลันจือแม่ของเขา จะต้องมีตัวตนที่พิเศษมากอย่างแน่นอน และด้วยสถานการณ์ที่บังเอิญนี้ เขาสืบทอดสายเลือดเหล่านั้นของแม่มาด้วย แต่กลับกลืนกินวิญญาณแห่งต้นกำเนิดของแม่ไปจนหมด
และสายเลือดนี้ ก็ไม่ต้องพูดว่า มันได้ถูกถ่ายทอดไปบนร่างกายของเด็กที่อยู่ในท้องของซูซูแล้ว
เด็กคนนี้ เริ่มที่จะกลืนกินวิญญาณแห่งต้นกำเนิดของซูซูแล้ว
เดิมทีเขามีความหวังว่า จะสามารถหาตระกูลของแม่เจอได้ แล้วไขปริศนาของสายเลือด จากนั้นก็ช่วยเหลือซูซูเอาไว้
แต่ใครจะไปรู้ว่า ตระกูลของแม่นั้น เป็นเรื่องลึกลับอย่างไม่คาดคิด
หรือว่า ซูซูจะไม่มีทางช่วยเหลือแล้วจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? และเธอจะเปลี่ยนเหมือนกับแม่ของตัวเอง หลังจากที่ดิ้นรนให้กำเนิดลูกแล้ว เนื่องจากวิญญาณแห่งต้นกำเนิดถูกกลืนกินจนหมดไปแล้ว ก็จะอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หัวใจของฉินทีก็ราวกับโดนเข็มมาทิ่มแทง
จะเป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร?
ผ่านไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่อาจที่จะยอมรับได้เลย!
เขาก้มหน้าลง ขบฟันแน่ ทั่วทั้งตัวสั่นเทา น้ำตานองหน้า ราวกับความชั่วร้ายที่อยู่ภายในต้องการที่จะตื่นขึ้น
“เสี่ยวเทียน”มือใหญ่ที่อบอุ่นมือหนึ่ง วางอยู่บนไหล่ของเขา
ฉินเทียนเงยหน้าขึ้น เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา และมีความสับสนอยู่เต็มไปหมด เขากล่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวว่า “เช่นนั้นมันไม่มีทางแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“พ่อ พ่อช่วยผมคิดหาวิธีหน่อยสิครับ ผมอยากที่จะช่วยซูซู!”
“เธอเป็นผู้หญิงที่ผมรักที่สุด…”
พ่อ?
นี่คือชื่อเรียกที่ร้องออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ราวกับมีกระแสน้ำอุ่นพัดเข้ามา แล้วโจมตีเข้าไปที่กลางหัวใจของฉินฉี
วินาทีนั้น ความแค้นระหว่างพ่อลูกตลอดยี่สิบสองปี ได้สลายหายไปหมดแล้ว
ฉินฉีก็น้ำตาเอ่อล้นที่ดวงตาออกมาอย่างอดไม่ได้
เลือดความเป็นพ่อลูกของพวกเขาข้นกว่าน้ำ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉินเทียนก็ได้ยืนอยู่อย่างอัศจรรย์ในตำแหน่งของเขาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนหน้านี้
หนึ่งก็คือผู้หญิงที่รักมากที่สุด อีกหนึ่งก็คือสายเลือดของตัวเอง
เก็บผู้ใหญ่ไว้หรือจะเก็บเด็กไว้?
ตัวเลือกแบบเดียวกัน ปัญหาที่แก้ยากเหมือนกัน ในวินาทีนี้ สำหรับความทุกข์ทรมานทั้งหมดของฉินเทียน ฉินฉีก็เข้าใจมันอย่างดี
“อย่ากังวลใจไป”
“หลังจากที่ได้เห็นเมื่อครั้งก่อน นั่นเป็นเหตุผลที่พ่อใช้เวลานานมากกว่าที่จะมาหาลูก เพียงเพราะกำลังจะหาวิธีแก้ปัญหาอยู่”
“ผ่านความพยายามไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของพ่อกับนักบวชที่อยู่ในวิหารของศาสนาเต๋า ในที่สุดภายในหนังสือโบราณเล่มหนึ่ง ก็หาประโยคหนึ่งที่เกี่ยวข้องในบันทีกเจอ”
“อีกทั้ง พวกเราได้ปรึกษาหารือกันแล้ว จึงทำสูตรยาขึ้นมาสูตรหนึ่ง”
“จริงเหรอ?”
“ตำรับยาอะไร พ่อ พ่อรีบบอกมาเร็วเข้า!”ฉินเทียนจับมือของฉินฉีอย่างตื่นเต้น
จนตอนนี้ถึงได้ค้นพบว่า เขาเรียกพ่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว อีกทั้งยังเหมือนเด็กน้อยที่หมดหนทางหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่ออย่างไรอย่างนั้น แล้วคว้ามือของเขาเอาไว้
ความไม่พอใจในช่วงหลายปีมานี้ พอผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงอย่างไรก็ไม่เหมาะสมอยู่ดี และจึงปล่อยมืออย่างไม่รู้ตัว แล้วปกปิดความเคอะเขินได้ยาก
แต่ฉินฉีก็ไม่ได้สนใจมากนัก เขาหยิบสูตรยาหนึ่งออกมา และเปิดห่อของออก ภายในเต็มไปด้วยเห็ดหลินจือขนาดเล็กใหญ่มากมาย
“พ่ออนุมานกับนักบวชซ้ำแล้วซ้ำเล่า รู้สึกว่าวิธีการนี้บางทีอาจจะสำเร็จก็ได้ เช่นนั้นแล้ว เพื่อหล่อเลี้ยงหยางด้วยหยิน และบำรุงหยินกับหยาง”
“การอ้างอิงของยาสูตรนี้ ก็คือเห็ดหลินจือ อายุยิ่งมากก็จะยิ่งดี”
“เสี่ยวเทียน ลูกทำตามสูตรยานี้ดูก่อน ไปลองรักษาซูซูดูสักหน่อย”
เดิมทีแล้วฉินเทียนก็เป็นคนมีความรู้เช่นกัน ยิ่งกว่านั้นตอนที่เขากำลังฝึกฝนกุ่ยเหมินสิบสามเข็ม แต่สำหรับสมุนไพรต่าง ๆ รวมไปถึงเภสัชวิทยา ก็เคยได้ศึกษามาก่อน
เขาได้ดูสูตรยาอย่างละเอียด ราวกับว่าประตูได้เปิดออก และจู่ ๆ ก็เห็นแสงสว่างขึ้นมา
เขากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “นักบวชคนนี้ ก็คือคนที่ผลเคยเจอตอนสมัยยังเด็กใช่ไหมครับ? ในเวลานั้นเขาก็เกือบอายุเจ็ดสิบแล้ว ตอนนี้ก็คงจะอายุเกือบหนึ่งร้อยแล้วล่ะมั้ง?”
“ใช่แล้ว ผมจำนามแฝงของเขาได้ เรียกว่าท่านนักบวชอายุยืน”
ฉินฉีอมยิ้มและกล่าวว่า “เป็นเขานั่นแหละ”
“ครั้งที่แล้วลูกไปอย่างรีบร้อน ไม่มีโอกาสได้พบหน้ากัน เสี่ยวเทียน หลังจากนี้หากมีโอกาส พ่อรู้สึกว่าลูกน่าจะลองคุยกับเขาดูสักหน่อยได้”
“ไม่แน่ว่า อาจจะมีส่วนช่วยด้วยก็ได้”
ฉินเทียนพยักหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง “ตามที่พ่อบอก สูตรยาของพ่อกับท่านนักบวชอายุยืนนี้ ยังจับใจความไม่ได้อย่างสมบูรณ์ ถูกไหมครับ?”
ฉินฉีพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว”
“แต่อย่างไรก็ตาม ลูกลองดูก่อน หากมันมีประสิทธิภาพ เช่นนั้นก็สามารถอธิบายได้ว่า พวกเรามาถูกทางแล้ว”
“หลังจากที่กลับไปแล้ว พ่อกับท่านนักบวชจะได้ไปค้นคว้าต่อ พ่อเชื่อว่า ตราบใดที่พวกเราพร้อมใจกันทำงานร่วมกัน เรื่องก็จะไม่ซ้ำรอยเดิมเหมือนอย่างในปีนั้นอย่างแน่นอน”
ในตอนนี้ ความรู้สึกของฉินเทียนที่มีต่อผู้ชายที่อยู่ข้างหน้านี้ ถึงแม้ว่าจะยังซับซ้อนอยู่เล็กน้อย แต่ทว่า เขาก็ไม่อาจเกลียดมันได้อีกแล้ว
ประการแรก ในอดีตเขาไม่ได้ชอบตัวเอง เป็นเพราะว่าตัวเองนั้นทำร้ายผู้หญิงที่เขารัก แล้วจะเกลียดได้อย่างไร?
อีกทั้งเมื่อมองในอีกแง่หนึ่ง ฉินฉี ก็ถือว่าเป็นเหยื่อที่แท้จริงคนนั้น
ประการที่สอง ในขณะที่แม่ของเขานอนป่วยอยู่ เขาก็แต่งงานกับคนรักใหม่ เห็นชัดมากว่า นี่ก็ถูกแรงกดดันจากคนในครอบครัว ให้จำเป็นต้องทำเช่นนั้น
พูดตามตรงแล้ว เมื่อเกิดในครอบครัวใหญ่ เดิมทีก็ไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้อยู่แล้ว
หลังจากทำหน้าที่ของครอบครัวเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นก็ได้ย้ายไปอยู่บนเขาเพียงลำพัง จากนั้นก็คอยเฝ้าหลุมศพและของที่ระลึกของแม่ เป็นใจแรกไม่เปลี่ยนแปลง
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า เขารักแม่ของตัวเองสุดหัวใจจริง ๆ
ครั้งนี้ก็เพื่อซูซู จึงวิ่งเต้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นี่ก็ทำให้พอที่จะมองเห็นความรักทางสายเลือดได้แล้ว