ตอนที่ 358 เรื่องเศร้าของยอดปรมาจารย์ลี่จื้อเทียน

Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ

” เจ้าเหลือขอ ! ”

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขารู้ว่าจวินโม่เซี่ยต้องมีส่วนเกียวข้อง  มิเช่นนั้นเหตุใดจวินโม่เซี่ยจึงขอให้เขาไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ในครั้งนี้ ?  เช่นนั้น เขาจึงอดที่จะจับบ่าของเจ้าเหลือขอผู้นี้ไม่ได้เมื่อได้เห็นเขา  จากนั้น เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว หัวเราะขณะที่เขย่าจวินโม่เซี่ย

 

จวินโม่เซี่ยหัวเราะชั่วร้าย  จากนั้นเขาพยายามให้หยุดจากการโดดนจับ  และ เขายืนอยู่ด้านข้างภูเขา เขาจีบปาก และมุมปากของเขายกขึ้นเป็นคันศรขณะที่เขามองไปยัง ศึกชี้ชะตา ที่เกิดขึ้นในที่ห่างไกลออกไป

 

” เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ท่านเอาชนะ เฟิงจวนจุ้นในการต่อสู้หรือไม่ ? “

จวินโม่เซี่ยถาม  เขาไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รู้สึกว่าสองคนนี้ได้ล้ำเส้นกันอีกครั้ง

 

เฟิงจวนจุ้น ท้าทายเขามานับ ทศวรรษ  เข่นนั้น เขาจักปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร ?  ยิ่งกว่านั้น เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็ได้เรียนรู้กระบวนท่าใหม่ และมีโอกาสที่จะอาชนะคู่ต่อสู้เก่าได้ เช่นนั้น เหตุใดเขาจึงไม่แสดงมันออกมาละ ?

 

” หึหึ … ข้าโชคดี … แค่โชคดี ! ”

ปากเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวเปิดออก  แต่เขาพยายามคงใบหน้าเคร่งขรึม  แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจแม้นว่าเขาพยายามที่จะเก็บซ่อนมันไว้  และ นั้นดูเหมือนว่าเขาโดนใครบางคนต่อยเข้าไปที่ใบหน้า

 

จวินโม่เซี่ยหัวเราะด้วยความพึงพอใจ  ความจริง เขายิ้มจนปากฉีกถึงหู  จากนั้นเขาถาม

” เจ้าเอาชนะเขาอย่างมั่นใจหรือ…?  “

 

มุมปากของเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวยกเป็นรอยยิ้มที่กว้างขึ้นขณะตอบ

” ข้าทำเช่นนั้น ข้าทำ !  แต่พวกเราเป็นเพื่อนกัน เช่นนั้น พวกเราจึงเพียงเรียนรู้จากการพัฒนาของกันและกัน  พวกเราเพียงเรียนรู้กันและกันเท่านั้น !  ฮ่า ฮ่า …. ”

เขาไม่อาจยับยั้งความภูมิใจในตอนที่เอ่ยจบ  จากนั้นเขาหัวเราะลั่น …

 

ไม่แปลกใจที่ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจักมีจิตวิญญาณที่สูงส่งเช่นนี้  ในที่สุดเขาก็ได้เอาชนะคู่ต่อสู้นับสามสี่สิบปีได้  ความจริงเขาได้สร้างความโดดเด่นที่หนือกว่าได้  ความสำเร็จดังกล่าวจักทำให้ทุกคนพึงพอใจในตัวเอง !  ความจริงเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวทำตัวไม่แยแสต่อความสำเร็จของตัวเองเมื่อพูดถึงความยับยั้งชั่งใจทั้งหมดของเขา

 

” ท่านหัวเราะสิ่งใด ?  เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว !  กองทัพพันธมิตรพ่ายแพ้ ! นั่นทำให้เจ้ามีความสุขหรือ ?  นั่นทำให้เจ้าภูมิใจหรือ … ? “

ลีจื้อเทียนหันมองไปยัง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว  ดวงตาของเขาเพ่งไปราวกระบี่เฉียบคม  ราวกับเขากำลังระเบิดอารมณ์

 

ลีจื้อเทียนเศร้าหมองอย่างมาก  และ เจ้าต้องการปลดปล่อยใส่ใครบางคน  แต่เขาไม่คาดว่าจักมีคนในฝ่ายเขาจักหัวเราะมีความสุขในเวลานี้

 

นี่คือการตบหน้าข้า !  และเจ้ากำลังเยาะเย้ยการสูญเสียของข้า ?

 

” แม่ข้า !  แม้เจ้า ลีจื้อเทียน  แต่ไม่ใช่ข้า เข้าใจไหม ? “

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวมีความสุขอย่างมากในตอนนี้   เขามีความสุขเพราะเขาได้บรรลุในสิ่งมี่เขาเฝ้ารอมานาน  ยิ่งไปกว่านั้น ลีจื้อเทียน ตำหนิเขาต่อหน้าจวินโม่เซี่ย ดังนั้น นี่ทำให้ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว มีความสับสนอย่างมาก  ดังนั้น เขาจึงมีโทสะขึ้นมาในทันที

” คนอื่นไม่อาจหัวเราะได้เพราะคนจาก มณฑนของเจ้ากำลังตายอย่างนั้นหรือ ?  เป็นเหตุผลอันใดกัน ?  นี่เป็นครั้งที่สามในวันนี้ที่เจ้าสร้างปัญหาให้ข้า !  แม่เจ้า !  เจ้าคิดว่า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว นั้นเป็นอิฐหินหรืออย่างไร ? “

 

ในตอนนั้นดูเหมือนเหยี่ยมผู้โดดเดี่ยวกำลังตั้งท่า !  ชัดเจนว่าสิ่งต่างๆเกินรับมือ !

 

ข้าช่วยชีวิตลูกชายเจ้าตอนที่เจ้าโง่นั้นทำให้ เฟิงจวนจุ้นขุนเคือง !  แล้วเจ้ายังโกรธข้า ?  และตอนนี้เจ้ายังใช้อารมณ์มากเกินไป !  ข้าหัวเราะไม่ได้เมื่อข้าต้องการอย่างนั้นหรือ ?  ข้าคือใคร … ขี้ข้า มณฑลฉือฮั่น อย่างนั้นหรือ ?

 

ลีจื้อเทียนคำรามทางจมูก จากนั้นเขายกข้าเดินไปข้างๆพวกเขา

 

สีหน้า จวินโม่เซี่ยแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการดูการกระทำอยู่ข้างๆ  เขายังผลัก เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ออกไป  ราวกับกำลังบอกถึงความปรารถนาออกมาว่า ทำเพื่อข้า !

 

” ข้าบอกให้ยุด ! ”

เสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้า ขุนเคือง และโทสะดังก้องขึ้นราวฟ้าร้อง

 

ลีจื้อเทียน และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว กำลังจะลงมือ  แต่ พวกเขาต้องตกใจด้วยเสียงนี้  พวกเขามองขึ้นไป และ ประสกเหมยกำลังเข้ามาใกล้พวกเขาโดยไม่รู้ตัว  ดวงตาของนางเฝ้าดูจวินโม่เซี่ยอย่างสนใจ  ราชันแห่งเทียนฟาตัวสั่นและมีแสงโชตชั่วในดวงตา  แก้มของนางเกือบเปลี่ยนเป็นสีแดง หน้าแดง

 

จวินโม่เซี่ยยังไม่ได้แสดงตัว แต่ ประสกเหมย รู้แล้วว่าเขาคือเจ้าคนสกปรกนั้น  และ การได้พบสิ่งนี้ทำให้นางเกือบเป็นลม

 

นางเห็นใบหน้าที่งดงามและหล่อเหลา แต่จำได้เพียงฝันร้ายที่นางได้พบเมื่อวันก่อน … การถูกทารุณที่นางต้องประสบ  ประสกเหมยรู้สุกหัวใจเต้นแรงอย่างกระวนกระวาย เลือดพุ่งพล่านใจร่างของนางและพุ่งขึ้นมาบนหัว  ลมหายใจของนางติดขัด  ความจริง นางมองเห็นถึงดวงดาวแห่งความสับสนได้ตรงหน้า  นางรีบสูดหายใจ และในที่สุดก็สงบลงเล็กน้อย

 

นี่เป็นความประหลาดใจ …หรือนางกำลังตกหลุมรัก  การตอบสนองนี้เกิดจากโทสะ

 

มันเป็นความโศกเศร้า ขุ่นเคือง และความอับอายอย่างที่สุด  ชนิดที่สามารถล้นขึ้นไปถึงสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย !

 

ความจริง แม้แต่สวรรค์ก็สงสารนาง

 

ในที่สุดข้าก็ได้พบคนผู้นี้อกครั้ง !

 

ข้าจักทำให้เขากลายเป็นเนื้อบด ข้าจักสับเขาเป็นพันชิ้น !  ความจริง โทสะของข้าก็ไม่อาจลดลงแม้นข้าจักสับเจ้าเป็นพันชิ้น ไอ้คนหยาบคายสารเลว !

 

นางพยายามควบคุมอารมณ์ และระงับโทสะขณะที่นางลอยอยู่ข้างบน  ราชันแห่งเทียนฟาพยายามควบคุมตัวเองอย่างมาก แต่นางไม่อาจหยุดการสั่นไหวเล็กของร่างกายได้

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้ ลีจื้อเทียน และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ได้หายจากการตกใจแล้ว  ลีจื้อเทียนตะโกนลั่น และเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง  เขาเป็นยอดปรมาจารย์อันดับสองของโลก  จักหยุดได้อย่างไรแม้นจักมีคนบอกเขา ?  …. โดยเฉพาะกับคนที่เขาถือว่าเป็นศัตรู ?

 

เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็เริ่มเคลื่อนไหว  เขากำลังเผชิญหน้ากับยอดปรมาจารย์อันดับสอง  เช่นนั้น เขาจักทำให้มันง่ายได้อย่างไร ?  ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเตรียมทุกอย่างที่เขามีเพื่อเผชิญกับการท้าทายนี้ …

 

แต่กระนั้น เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวก็ไม่อาจโจมตีได้ เมื่อ ลีจื้อเทียนหายไปจากสายตา

 

ประสกเหมยมีโทสะอย่างมาก  นางบอกให้พวกเขาหยุด แต่ ลีจื้อเทียนกล้าที่จักทำตามความต้องการต่อไป  เช่นนั้นนางจึงไม่อาจยับยั้งโทสะที่พุ่งพล่านอยู่ได้  นางพุ่งออกไปด้วยโทสะ และคว้าคอ ลีจื้อเทียน  จากนั้น นางตรึงเขาไว้กับพื้น  หัวของ ลีจื้อเทียน ชนเข้ากับก้อนหิน  ก่อนหน้านี้เขาเคยนั่งอยู่บนหินห้อนนี้  แต่มันถูกหัวเขากระแทกเข้าไปในตอนนี้  จากนั้น ประสกเหมยตบหน้าของเขา

 

“ปั้ง ! ”

 

 

เสียงนั้นดังก้อง !  และ มันดังไปทั่วบริเวณนั้น

 

” ข้าบอกให้เจ้าหยุด !  เจ้าไม่ได้ยินข้าหรือ เจ้าโง่ ?!  ตาแก่โง่ ! ”

ประสกเหมยยังคงโจมตีเขาต่อไปด้วยโทสะ  นางปล่อยแขนและขาของนางล่องลอยออกไปและเตะต่อยเข้าอย่างต่อเนื่อง  ชัดเจนว่านางไม่อาจควบคุมตัวเองและอารมณ์ของนางได้แล้ว  นางคำรามขณะที่ยังคงโจมตีต่อไปด้วยโทสะ

” เจ้าหูหนวกหรือ ?  เจ้าไม่ได้ยินข้าหรือ ?  ข้าทำให้เจ้าฟังได้หรือ ?  เจ้ากล้าที่ะไม่ฟังข้าได้อย่างไร … ? เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือเจ้าคนไร้ยางอาย ?  ตาแก่ สกปรก ไร้ยางอายต่ำต้อย กล้าแสร้งว่าไม่ได้ยินข้าอย่างนั้นหรือ ? “

 

ยอดปรมาจารย์อันอับสอง ลีจื้อเทียน ไร้ความแข็งแกร่งที่จักตอบโต้  เขาทำได้เพียงมองไปยัง ประสกเหมย ด้วยความโศกเศร้าและโกรธเคือง  เขาถูกทำให้อับอายจนความอยากฆ่าตัวตายก่อขึ้นใจหัวใจของเขา

 

ข้าอยากตาย !

 

โศกอนาฏกรรมของ ลีจื้อเทียน นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบาย

ข้า ข้า …ข้าเพียงต้องการต่อสู้กับ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว !  ทำไมถึงทำให้เจ้าขุ่นเคือง ?  เหตุใดเจ้าจึงตบตีข้า ?

 

ข้าไม่อาจรู้ได้ แต่โชคร้ายของเขาเริ่มตั้งแต่เขาเอ่ยว่า

“ข้าหวังว่าท่านจักสบายดีจากครั้งก่อนที่เราพบกัน ? “

และชัดเจนว่าเป็นเพราะจวินโม่เซี่ย  และจากนั้น ประสกเหมยก็สูญเสียความมีเหตุผลและเกิดโทสะเมื่อผู้กระทำผิดต่อนาง จวินโม่เซี่ย ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของนาง  เช่นนั้น นางจักไม่ทำร้ายเขาได้อย่างไร ในเมื่อเขาไม่ฟังคำสั่งของนาง ?

 

ลีจื้อเทียนคงเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังสภาวะยากลำบากของเขาหากเขาได้รู้สิ่งนี้  ความจริง เขาจักได้รู้ว่า การตบตีที่เขาได้รับนั้นไม่ไร้เหตุผล  แต่ ปัญหาคือ … เขาไม่รู้อะไรเลย …

 

ดังนั้น ลีจื้อเทียนจึงแสดงออกถึงวามโศกเศ้ราและเสียใจ ความจริง มันไปถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว  ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกกำลังชกต่อย ยอดปรมาจารย์อันดับสอง  ความจริง แม้แต่ใบหน้าของเขายังโดนกระแทกอยู่หลายครั้ง !

 

นี่คือการดูหมิ่น !  ข้าจักไปเผชิญหน้ากับ วีรบุรุษและยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในโลกนี้ได้อย่างไร ?

 

ขนาดคนพาลก็มิได้กลั่งแกล้งเช่นนี้ !  เข้าบ้าคลั่งเมื่อข้าเอ่ยวาจาเหล่านั้น แต่ตอนนี้ข้ามิได้เอ่ยสิ่งใดเลย  ข้าเพียงแค่มีส่วนร่วมกับ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว !  ข้าควรทำอย่างไรเจ้าจึงคิดว่าเหมาะสม ?  ข้าต้องทำตัวอย่างไรเจ้าจึงพอใจ ?

 

ลีจื้อเทียนอยากตะโกนสิ่งเหล่านี้ออกไป  แต่เขาไม่อาจทำได้  ความจริง มันเป็นไปไม่ได้  เพราะว่า ….

 

เล่ยเปายู่ และ ปู้กวงเฟิง ยังอุทานตกใจ

” พลังแห่งจักวาล ?  โลกาคุมขัง … ”

พวกเขามองไปยัง ประสกเหมยด้วยความหวาดกลัว  ก่อนหน้านี้ทั้งสองวางแผนจะก้าวออกไปและไกล่เกลี่ย  แต่ พวกเขาทั้งสองกลับต้องถอยกลับมาในตอนนี้

 

บางที ยอดปรมาจารย์ลี่และคนอื่นๆไม่อาจรู้ตัว  แต่ สองอดีตยอดปรมาจารย์ และ ประมุขทองคำจาก โลกเซียนอมตะจักไม่รู้ได้อย่างไร ?

 

” พลังแห่งจักรวาลแปรเปลี่ยนเป็นสวรรค์และโลก พลังแห่งการรวมตัวของหยินและหยาง พลังแห่งจักรวาลที่อยู่ในมือข้า  เช่นนั้น ข้าจึงเป็นเลิศที่สุดในโลก !  ไม่มีศัตรูคนใดต่อต้านข้าหากข้าสามารถใช้พลังเช่นนั้นจัดการกับพวกเขา “

นี่คือ พลังแห่งจักรวาล

 

เหมือนว่า เคล็ดวิชาของ ประสกเหมยจักไปถึงระดับสูงสุดและขณะที่นางกำลังจัดการกับ ลีจื้อเทียน ไม่มีช่องให้เขาหลบเลี่ยง  และ ดูเหมือนว่าลี่จื้อเทียนจะไม่มีกำลังในกรตอบโต้  ชัดเจนว่านี่เป็นเพราะ โลกที่คุมขัง กลอุบายของ พลังแห่งจักรวาล

 

ราวกับโลกถูกทำให้กลายเป็นกรงขัง  คู่ต่อสู้จักกลายเป็นนักโทษ และจากนั้น พวกเขาสามารถทำทุกสิ่งที่พอใจกับนักโทษได้  นี่คือผลของ โลกาคุมขัง คำอธิบายนี้อาจจะเกินจริง แต่นั้นคือสิ่งที่เป็น ….

 

ประสกเหมยโจมตีด้วยโทสะของนาง และได้แสดงถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมา  แต่ เป็นที่ชัดเจนว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้เป็นเพียงการอุ่นเครื่องของนาง !

 

เล่ยเปายู่ และ ปู้กวงเฟิง มองหน้ากัน  พวกเขาตื่นกลัวภายใน  พวกเขาโชคดีที่ไม่ได้ขยับตัว  มิเช่นนั้น ทั้งสองจักไม่ถูกโยนและโดนต่อยหน้าแทนอย่างนั้นหรือ….. ?

 

ทั้งสองถอนใจอย่างเย็นชา  แต่พวกเขาเขาผ่อนคลายอย่างมาก

 

ลีจื้อเทียน กำลังถูก ประสกเหมยจัดการ  แต่ เขาไม่อาจหลบหรือต่อต้านได้  เขาใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ได้รู้ว่าเขามิอาจขยับนิ้วได้  ชายผู้น่าสงสารไม่อาจต้านทางได้เลย  เช่นนั้น เขาจึงเพียงมองออไปอย่างไร้ความหวังขณะที่ ประสกเหมยคว้าคอเขา ตรึงเขาไปที่พื้น และต่อยหน้าเขาโดยไม่พัก  ความจริงเขา เขาไม่สามารถแม้ส่งเสียงครวญคราง ….

 

ในที่สุด ประสกเหมยก็ได้ปลดปล่อยโทสะใส่ ลีจื้อเทียน มากเพียงพอ  เช่นนั้นนางจึงโยนเขาออกไป ดูราวกับนางกำลังโยนขยะทิ้ง  จากนั้นนางหันหน้ามาช้าๆ และมองไปยัง จวินโม่เซี่ย สายตาของนางแหลมคมและเยือกเย็น  ราวกับนางต้องการสาปแช่งเขา !

 

” เจ้าชั่วนี่เป็นใคร ? “

ประสกเหมยขบฟัน และถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง  นิ้วของนางชี้ไปยังจวินโม่เซี่ย แต่ดวงตาของนางมองไปยัง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว

 

” ข้ามาจากสกุลจวิน  ข้ารู้ได้หรือไม่ว่าพี่ผู้นี้ต้องการสิ่งใดจากข้า ? “

จวินโม่เซี่ยเดินหน้าไปและตอบ นางรู้ถึงนิสัยของ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว แต่ จวินโม่เซี่ยรู้  ประสกเหมยนั้นไร้เทียมทาน แต่ไม่อาจมีผู้ใดที่สามารถใช้น้ำเสียงนั้นกับ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และ หลบไปโดยไม่ได้ยินสิ่งใดตอบกลับมา

 

จวินโม่เซี่ยเดาว่า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จักถามอย่างตรงไปตรงมาและหยาบคาย

” เจ้ากำลังถามใคร ? “

หากเขาไม่ลงมือให้เร็วพอ  ชัดเจนว่าวาจาเหล่านั้นจักทำให้ ประสกเหมยขุนเคือง  และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว คงจักมีจุดจบเหมือน ลีจื้อเทียน และต้องทนทุกข์ทรมาณอย่างมากเช่นเขา

 

ดังนั้น จวินโม่เซี่ย จึงชิงลงมือก่อนที่ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จักทำ  เขาคิดว่า ประสกเหมยผู้นี้จะไม่มีเรื่องไม่พอใจเขา  เช่นนั้น เขาจึงคิดว่ามิใช่เรื่องใหญ่ที่จักคุยกับเขา

บางทีอาวุโสผู้นี้ได้เห็นหน้าและกรามของข้า และเขาต้องการให้ข้าสืบทอดวิชาและเป็นศิษย์ของเขา ….

 

หากเป็นเช่นนั้น ในโลกนี้ข้ามีผู้ใดต้องหวาดกลัว …. ?

วะ ฮ่าฮ่าฮ่า ….