ความขัดแย้งทางความคิด (1) โดย Ink Stone_Fantasy
หยุดการแสดง? แต่หนังเวทมนตร์มันถ่ายทำจบไปแล้ว แถมยังไม่จำเป็นต้องให้นักแสดงขึ้นไปแสดงบนเวทีด้วย….ไม่สิ สิ่งสำคัญคือทำไมเขาต้องพูดแบบนี้ด้วย?
เมย์ที่ึิคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะขอร้องออกมาแบบนี้ยืนตกตะลึงไปทันที
น่าจะเป็นเพราะรู้ว่าคำพูดตัวเองดูรุนแรงไปหน่อย เคแกนจึงรีบพูดขึ้นมาต่อ “ไม่ได้หมายถึงว่าให้ยกเลิก เพียงแค่ให้หยุดไปชั่วคราวก่อนเท่านั้น อย่างเช่นบอกว่าร่างกายไม่สบาย จำเป็นต้องพักผ่อน เลื่อนการแสดงออกไปอีกประมาณอาทิตย์หนึ่ง ข้าคิดว่าเจ้าหน้าที่พวกนั้นก็น่าจะอนุญาตให้พวกข้าได้พบฝ่าบาทแล้วล่ะ”
“แต่ว่า…” เดิมเมย์อยากจะแย้งขึ้นมาว่าหนังเวทมนตร์มันไม่เหมือนกับละครเวทีที่ผ่านๆ มา ตอนที่แสดงก็ไม่จำเป็นต้องให้เหล่านักแสดงขึ้นไปบนเวที แต่คำพูด ‘แต่ว่า’ เพิ่งจะออกมาจากปาก เรินต์เกนก็พูดถากถางขึ้นมาทันที
เมย์มองออกว่าเธออดกลั้นมานานแล้ว
“ข้าบอกท่านแล้วว่าเสียเวลาเปล่า เรื่องนี้เป็นฝีมือของนาง แล้วจะมาให้นางหยุดมือได้ยังไงล่ะ? อาจารย์ ท่านมองคนผิดแล้วล่ะ”
“ข้าเคยเพียงแค่นึกว่าเจ้าเดินทางผิด ละทิ้งการไล่ตามความฝันในด้านการแสดง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะทำแบบนี้ได้” เบอร์นิสกระทืบเท้าออกมาอย่างโมโห “เสียดายที่วันนี้ข้าพูดดีกับเจ้า….คุณนายแลนนิส เจ้ามองว่าละครเวทีคืออะไรกันแน่? เครื่องมือในการหาชื่อเสียงเหรอ?”
“ถ้านางไม่พูดออกมา พวกเราก็คงยังไม่รู้ความจริง ภรรยาของหัวหน้าอัศวินคาร์เตอร์ แลนนิส เจ้าหน้าที่พวกนั้นอยากจะเอาใจนางมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? ข้าไม่เชื่อว่าด้วยชื่อเสียงของอาจารย์เคแกน ฝ่าบาทโรแลนด์จะทรงไม่ให้แม้กระทั่งโอกาสในการขึ้นแสดง!”
“พอได้แล้ว!” เคแกนพูด “ที่ข้าเรียกนางมาไม่ใช่เพื่อมาฟังพวกเจ้าทะเลาะกัน! ยิ่งไปกว่านั้นข้าก็ไม่คิดว่าเมย์จะทำแบบนั้นด้วย ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อข้า ก็ขอเชิญออกไปจากห้องนี้ซะ ตอนนี้ข้าแค่อยากฟังคำตอบของนาง!”
พระเจ้า เมย์ตกใจจนหุบปากไม่ลง เธอเหมือนจะพอเดาเรื่องราวออกจากคำพูดเสียดสีเหล่านี้ คณะละครเคแกนอย่างจะแสดงละครเวทีในงานราชาภิเษก พวกเขาได้ยื่นเรื่องขออนุญาตกับทางสำนักงานเมืองตามกำหนดการ แต่กลับถูกทางสำนักงานเมืองปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้หลังจากที่เรินต์เกนและคนอื่นๆ รู้ว่าเธอแต่งงานกับหัวหน้าอัศวินแล้ว พวกเธอจึงคิดว่าเธอวางแผนให้เจ้าหน้าที่ปฏิเสธคำขออนุญาตของทางคณะละครเคแกน?
นี่มันเป็นการเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง!
ถ้าเรื่องราวมันเป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงแสดงความเป็นศัตรูออกมาทางสีหน้าอย่างไม่ปิดบัง
ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธไม่ให้เข้าพบก็ดีหรือที่บอกว่าผิดหวังก็ดี หรือแม้กระทั่งการขัดแข้งขัดขากันเพื่อแย่งชิงบท ล้วนแต่ปัญหาระหว่างนักแสดงด้วยกัน นี่ถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในวงการการแสดง ไม่มีใครที่จะอาฆาตแค้นกันด้วยเรื่องแบบนี้ แต่หากใช้ลูกไม้สกปรกมาขัดขวางการขึ้นแสดงของอีกฝ่ายนั้นจะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที เพราะนั่นถือเป็นทำผิดต่ออาชีพอันเป็นที่รักของเหล่านักแสดงอย่างร้ายแรง
หากเปลี่ยนเป็นเธอ เกรงว่าเธอคงจะแสดงอาการไม่พอใจและดูถูกออกมารุนแรงกว่านี้เสียอีก
“แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในโรงแรมวิสเซิลวันนั้น ข้าไม่ได้คุยกับใครเลยนอกจากสมาชิกในคณะละครที่มาด้วยกัน” เมย์ค่อยๆ พูดอธิบาย “เรื่องนี้ข้ารับประกันได้”
“ข้าเองก็เชื่อแบบนี้ ดังนั้นข้าถึงได้ตัดสินใจที่จะคุยกับเจ้า” เคแกนนวดขมับเล็กน้อย “พวกเราไม่รู้เรื่องเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่แห่งนี้เลย แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าปัญหามันเกิดขึ้นตรงนี้ ที่ข้าต้องขอให้เจ้าทำแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ข้าเองก็จนปัญญา แต่แน่นอนว่าหลังจากนี้พวกข้าจะชดเชยให้เจ้าแน่”
เมื่อพูดถึงคำว่าชดเชย เรินต์เกนและคนอื่นๆ ต่างขมวดคิ้วและหันมองไปทางอื่น
แต่ในเวลานี้เมย์ไม่มีใจจะไปนั่งถามว่าจะชดเชยให้ยังไง เท่าที่เธอรู้จักเคแกน เฟสมา ที่อีกฝ่ายพูดมาเช่นนี้จะต้องมีเหตุผลแน่
“ก่อนที่ข้าจะให้คำตอบท่าน ข้าอยากถามคำถามท่านหน่อยได้ไหม” เธอครุ่นคิดเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้ที่ผู้จัดการของท่านบอกว่าท่านผิดหวังในตัวข้า….เพราะอะไรเหรอ?”
ชายแก่นิ่งเงียบไป จากนั้นจึงโบกมือไปทางเหล่านักแสดง
“อาจารย์….” เรินต์เกนเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเงียบ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องหนังสือไป
คนอื่นๆ เองก็เดินตามเธอออกไป ไม่นานภายในห้องหนังสือก็เหลือพวกเขาเพียงแค่สองคน
เคแกน เฟสจ้องมองดูเมย์ สายตาที่แฝงเอาไว้ด้วยความตำหนิของอีกฝ่ายทำให้เธอรู้สึกอยากจะหลบสายตา
“ในสองปีนี้ เจ้าแสดงละครไปแล้วกี่เรื่อง?”
แต่คำพูดของอีกฝ่ายกลับทำให้เธอคิดไม่ถึง
“เอ่อ…7 – 8 เรื่องมั้ง?” เมย์ตอบอย่างลังเล
“ทั้งหมด 12 เรื่อง” เคแกนชูนิ้วออกมานับ “ซินเดอเรลลา, บันทึกของแม่มด, แดดยามเช้า, เมืองใหม่….ยังไม่ต้องไปพูดถึงว่าเนื้อหาในละครพวกนี้มันเป็นยังไง แต่เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเจ้าแสดงพวกมันได้ดีแล้ว?”
เมย์ตกตะลึง “เรื่องพวกนี้…ท่านได้ดูด้วยเหรอ?”
ไม่ นี่เป็นคำถามที่โง่มาก เธอคิดขึ้นมาได้ การแสดงของเธอส่วนใหญ่จะอยู่แค่ในดินแดนตะวันตก เขาน่าจะฟังคนอื่นพูดมาต่างหาก
แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิด เคแกนส่ายหัว “ในดินแดนตะวันตกของเกรย์คาสเซิลมีลูกศิษย์ข้าอยู่เต็มไปหมด อยากจะรู้เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่เรื่องยากจะอะไรเลย” เขาถอนหายใจ “แต่ตอนที่แสดง ‘เจ้าชายตามรัก’ เจ้าใช้เวลาครึ่งปีกับอีกสองเดือน”
เมย์ไม่ได้พูดอะไร เธอเข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของอีกฝ่าย
การแสดงที่ยอดเยี่ยมนั้นต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอย่างมาก นี่คือกฎเกณฑ์ที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ของวงการการแสดง ต่อให้เป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์แค่ไหน แต่ทุกคนก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าตัวเองจะสามารถท่องจำบทได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องได้ในระยะเวลาสั้นๆ
ความจริงแล้ว เนื่องจากมีละครที่ต้องทำการซ้อมเยอะ เธอเองก็เคยทำผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แบบที่เมื่อก่อนไม่เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน อย่างเช่นจำบทผิด ใช้สีหน้าผิด ความผิดพลาดเหล่านี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับชาวบ้านทั่วๆ ไป แต่สำหรับผู้ชมที่ดูละครเป็นแล้ว นี่ย่อมต้องเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงแน่นอน
“ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงได้ย้ายจากลองซองมาอยู่ที่เมืองชายแดน แล้วก็เริ่มแสดงละครไร้สาระพวกนี้” เคแกนพูดเสียงคร่ำเคร่ง “บางทีมันอาจจะเป็นเพราะคำสั่งของผู้ปกครอง แต่ถ้าเจ้าไม่ยินยอม เขาก็ไม่อาจบังคับให้เจ้าทำเช่นนี้ได้ เพราะละครเวทีนั้นคือการเต้นระบำต่อหน้าผู้ชม ไม่มีใครที่จะเต้นระบำได้ทั้งๆ ที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ เมย์…” เขาไม่ใด้ใช้คำว่าคุณนายแลนนิสอีก หากแต่เปลี่ยนไปใช้น้ำเสียงของอาจารย์เหมือนอย่างในอดีต “เจ้าน่าจะรู้ดีว่าระดับของผู้ชมนั้นสามารถสะท้อนระดับฝีมือของนักแสดงได้ ถ้าไม่มีความต้องการและมาตรฐานที่สูง แล้วจะเอาแรงผลักดันที่จะทำให้ตัวเราก้าวหน้ามาจากที่ไหน? จริงอยู่ที่เจ้าทำให้ผู้ชมจำนวนมากชื่นชอบได้ แต่เจ้ากลับทิ้งเป้าหมายในการเป็นสุดยอดนักแสดงไป นี่คือสิ่งที่ทำให้ข้าผิดหวังในตัวเจ้า…”
ไม่สามารถโต้แย้งได้ ไม่สามารถพูดอธิบายได้แม้แต่คำเดียว เพราะเมย์รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นพูดถูก ถ้าดูจากระดับการแสดงเพียงอย่างเดียว ในช่วงนี้ฝีมือของเธอตกลงไปจริงๆ เวลาที่ใช้ในการฝึกซ้อมไม่เพียงแต่จะลดลงอย่างมาก แต่เธอถึงกับทิ้งบทของตัวเองในละครเรื่อง ‘หัวใจแห่งหมาป่าไป’ ละครเรื่องแล้วเรื่องเล่าทำให้เธอไม่สามารถทุ่มตัวเองให้เข้าไปอยู่กับมันอย่างจริงจังได้ การดูแลคณะละครสตาร์ฟลาวเวอร์ก็ดึงสมาธิส่วนใหญ่ของเธอไป
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เธอจึงถามขึ้นมาว่า “ละครที่ท่านจะแสดง ท่านเตรียมตัวมานานแล้วเหรอ?”
“สองปีพอดี” เคแกนพูดอย่างภูมิใจ “นอกจากแสดงละครเก่าๆ ก่อนหน้านี้แล้ว ในช่วงเวลาสองปีมานี้พวกเราต่างก็ฝึกซ้อมมันอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นบนเรือหรือที่โรงแรมแห่งนี้ พวกเราก็ไม่ปล่อยให้เวลาเสียเปล่าไปแม้แต่นิดเดียว ทุกๆ รายละเอียดล้วนแต่เก็บได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขอเพียงมีเวทีดีๆ สักที่ เด็กพวกนี้ก็จะสามารถแสดงละครเวทีที่สมบูรณ์แบบออกมาได้ สมบูรณ์แบบกว่าเรื่อง ‘ตามรัก’ ที่เป็นจุดสูงสุดในอาชีพนักแสดงของข้าเสียอีก
เขามองเมย์ตรงๆ “ถึงแม้เจ้าจะทำผิดต่อพรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานให้เจ้ามา แต่เรื่องความรักที่เจ้ามีต่อการแสดงนั้นข้าเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ในจุดนี้ข้ามองไม่ผิดแน่ แต่ถ้าได้ดูละครที่ยอดเยี่ยม เจ้าก็จะสัมผัสได้ถึงความสุขจากก้นบึ้งของหัวใจ ข้าพูดถูกใช่ไหมล่ะ?”