DND.
หลังจากครุ่นคิดม่อเทียนฉวนตาลุกวาว
“ไม่ง่ายนักหรอกที่จะปิดบังความลับจากข้า”
คนตำหนักโลหิตกลับตำหนักไปทีละคน
เมื่อทุกคนไปหมดแล้ววิญญาณดวงหนึ่งลอยขึ้นมาจากพื้นดินช้า ๆ มันคือวิญญาณรองเจ้าดินแดนเสี่ยว เขามาซ่อนตัวในตอนที่จินมู่สู้กับซือหยู เขาจึงรอดตายมาได้
เขาเหลือบมองซากจากการต่อสู้รอบกายด้วยความสะพรึงกลัว
“จินมู่ตายแล้วรึ?”
รองเจ้าดินแดนเสี่ยวไม่แม้แต่แอบมองในตอนที่ซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ใครจับได้
“ม่อเทียนฉวนฆ่าเขาเองกับมือสินะ?”
นี่คือความเป็นไปได้เดียวที่เขาคิดออก
รองเจ้าดินแดนเสี่ยวกัดฟันและบินไปทางดินแดนมีดสวรรค์ทันที
“หวังว่าท่านเจ้าดินแดนจะไม่ลงโทษข้าหนักนัก”
เขาพ่ายแพ้การแข่งจินมู่ยังตายไปแล้ว เขารู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่เขาอสูรซือหยูค้นร่างของจินมู่และพบของดี ๆ มาเต็มไม้เต็มมือ เขาพบน้ำหญ้าผีร้ายที่หยดลงบนพื้นแล้วจะเกิดเถาวัลย์ ในเวลาวิกฤติ มันจะช่วยจับตัวศัตรูของเขาได้ เขาเจอมากถึงแปดหยด ซือหยูให้กงซุนหวูซื่อไปสามหยด
“หึหึของเล่นนี้น่าสนุก มันคงจะใช้ได้ดีกับพิษของพี่ชานเหลียงเชียวล่ะ หึหึ”
กงซุนหวูซื่อแสยะยิ้มชั่วร้าย
ซือหยูผงะโดยไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินนางเขาค้นตัวจินมู่ต่อไปและพบชิ้นแก่นไม้ที่เคยถูกใช้ในการแข่ง เขาตาลุกวาว เขาดึงเอาน้ำพุแห่งชีวิตจากแก่นไม้ชิ้นก่อนมาแล้ว นี่จะทำให้เขาได้น้ำพุแห่งชีวิตมาอีก
หลังค้นจนไม่เหลือของมีค่าซือหยูจึงเริ่มดูส่วนที่สำคัญที่สุด…นั่นคือข้างในร่างของจินมู่
ซือหยูสะบัดแขนผ่าร่างจินมู่ออกเขาเห็นว่าภายในร่างจินมู่ไม่มีเครื่องแสดงถึงการเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่เลย มันเป็นเพียงโครงสร้างไม้ทั่วไป หรือพูดอีกอย่างก็คือจินมู่คือหุ่นเชิดที่ถูกสร้างให้มีปัญญา
เมื่อผ่าออกแล้วซือหยูเห็นแผ่นหินมรกต เขาคว้ามันขึ้นมา ด้วยพลังเซียนที่ปะทุออกมาจากแก้ว ซือหยูไม่บุ่มบ่ามอัดพลังลงไป เขาเก็บไว้โดยรอที่จะหารือกับหยุนย่าสี
กงซุนหวูซื่อมองแผ่นหินมรกตและแก้วระดับสูงสองดวง
“พวกมันเป็นแก้วระดับสูงเป็นของที่ยากจะได้มาของจริง”
นางไม่ได้ขาดแคลนแก้วระดับสูงแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเหมือนนาง
“เพื่อความปลอดภัยข้าจะยังไม่เอาแก้วออกมา เจ้าเอาแก้วธาตุไฟดวงนี้ไปสิ”
ซือหยูหยิบเอาแก้วระดับสูงสีแดงเพลิงที่ได้จากแหวนมิติขององครักษ์แสงกระจ่างออกมาเขามีมันทั้งหมดสามดวง ถ้าหากกงซุนหวูซื่อไม่ช่วยในการต่อสู้ครั้งนี้ก็คงจะยากที่เขาจะฆ่าจินมู่ได้ การให้แก้วระดับสูงกับนางไปสักดวงเป็นของขวัญนั้นไม่ได้มากมายอะไรเลย
กงซุนหวูซื่อไม่รับมันเอาไว้นางหันไปหาเขาด้วยใบหน้ากึ่งยิ้ม
“แล้วคู่หมั้นพี่เล่า?จะให้นางด้วยไหม?”
“ไม่ใช่ตอนนี้”
ซือหยูตอบเขามีแก้วระดับสูงอยู่จำกัด ตามความสัมพันธ์ตอนนี้ มันยังไม่คู่ควรที่จะให้แก้วระดับสูงกับปิงหวูชิง
กงซุนหวูซื่อตาเป็นประกาย
“จริงนะ?”
ซือหยูพยักหน้า
“หึหึงั้นข้าจะเก็บแก้วนี่ไว้”
กงซุนหวูซื่อรับมันและกลิ้งมันไปมาในมือราวกับได้ของโปรดสุดล้ำค่า
จากนั้นนางจึงเรียกสร้อยคอและฝังแก้วดวงนี้ลงในสร้อยพร้อมกับสวมเอาไว้
“เจ้าจะไม่ใช่มันบ่มเพาะพลังหรือ?”novel-lucky
ซือหยูถามด้วยความสงสัย
กงซุนหวูซื่อตอบ
“นี่เป็นเครื่องแสดงความรักของพี่ซือหยูข้าจะเอาไปใช้บ่มเพาะพลังได้ยังไงกัน? หึหึ”
ซือหยูหมดคำพูดเมื่อได้ฟังนางพูดเช่นนั้น
“แล้วก็มันเปล่าประโยชน์หากจะใช้กับข้า”
กงซุนหวูซื่อพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ฤทธิ์โอสถอมตะยังอยู่ในกายฐานพลังข้ายังคงเท่าเดิมกับตอนที่ข้ากินหญ้าภูติเข้าไป จะฝึกฝนเท่าใดก็ไม่มีประโยชน์”
ซือหยูตกตะลึงเขาได้ฟังเรื่องนี้ในตอนที่อยู่ป่าปีศาจร้าง แต่เขาไม่รู้ว่ากงซุนหวูซื่อเป็นภูติระดับเก้าตั้งแต่ตอนนั้น แสดงว่านางเป็นภูติระดับเก้าตั้งแต่สิบขวบไม่ใช่หรือ? นี่มันพรสวรรค์บ้าอะไรกัน? ซือหยูงุนงง กงซุนหวูซื่อที่ซุกซนแก่นแก้ว แท้จริงแล้วกลับเป็นสัตว์ประหลาดที่มีพรสวรรค์ที่สุดในเขาอสูร!
กงซุนหวูซื่อเงยคอราวกับรู้ว่าซือหยูจะพูดอะไร
“หึหึข้าน่ะเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ ข้าเคยดังอยู่ช่วงนึงเลยล่ะ”
ซือหยูถาม
“ไม่มีทางจะรักษาเจ้าได้เลยหรือ?”
กงซุนหวูซื่อหน้าหมอง
“วิธีน่ะมีแต่ไม่มีวิธีที่รับประกันได้ว่าจะสำเร็จเลย น้ำพุแห่งชีวิตมีโอกาสสูง แล้วสมบัติในแดนมณีก็อาจจะช่วยได้ มันคือไม้เท้าภูติมณี”
ซือหยูสามารถตัดน้ำพุแห่งชีวิตไปได้เลยนอกจากจะเป็นน้ำพุจากเทพไม้ น้ำพุจากชาวเผ่าไม้คนอื่นนั้นไม่สามารถรักษานางได้
“ไม้เท้าภูติมณีคืออะไรกัน?”
เขาถาม
แววตากงซุนหวูซื่อมีหวังขึ้นมาเล็กๆ
“มันคือสมบัติที่เซียนมณีเคยใช้มันเหมือนกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์รูปแบบจักรพรรดิที่มีพลังชำระล้าง บางทีมันอาจจะแก้ฤทธิ์ยาในตัวข้าได้”
ของที่เหมือนกับสมบัติศักดิ์สิทธิ์รึ?ซือหยูมีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ในครอบครองอยู่หลายชิ้น เขารู้เรื่องความวิเศษของพวกมัน บางทีมันอาจจะช่วยรักษานางได้จริงก็ได้
“เจ้าถึงพยายามเก็บคะแนนเพื่อหาทางไปแดนมณีสินะ?”
กงซุนหวูซื่อพยักหน้า
“ใช่พ่อข้าไม่อยากให้ข้าไปแดนมณีเลยไม่ช่วยข้า ข้าต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น”
แดนมณีเป็นสถานที่ที่เหล่าวีรบุรุษและยอดฝีมือแห่งจิวโจวรวมตัวกันและมันก็ยังเป็นสุสานของผู้มีพรสวรรค์เหล่านั้นด้วย จำนวนยอดฝีมือที่ถูกฝังในแดนมณีมีอยู่นับไม่ถ้วน
เป็นการเสี่ยงอย่างมากที่กงซุนหวูซื่อจะไปแดนมณีโดยไม่มีใครปกป้องในฐานะผู้เป็นพ่อย่อมอยากให้ลูกสาวใช้ชีวิตตามปกติมากกว่าการไปเสี่ยงตาย
ซือหยูถาม
“แล้วแดนมณีจะเปิดเมื่อใดกัน?เราต้องรออีกนานเท่าไหร่กันแน่?”
กงซุนหวูซื่อตอบ
“เวลาที่แน่นอนคือสองเดือนกับอีกสามวันมันคือเวลาที่ราชาเก้าเขตตั้งร่วมกัน มันคือวันที่แดนมณีจะปรากฏตัวอีกครั้งในแดนจิวโจว เมื่อมันมาถึง ยอดฝีมือหนุ่มสาวจากทุกกองกำลังจะสัมผัสได้และมุ่งหน้าไปที่นั่น”
ซือหยูขนลุก
“เจ้าจะบอกว่าใครก็ตามที่มีพลังมากพอจะสัมผัสมันได้รึ?แล้วจะเก็บสี่ล้านคะแนนไปทำไมกัน?”
กงซุนหวูซื่อส่ายหัว
“นั่นแหละประเด็น!พอทุกคนจากทวีปรวมตัวกัน ถ้าหากไม่มีกฎระเบียบ เจ้าคิดว่ามันจะเป็นยังไง?”
ซือหยูคิดครู่หนึ่ง
“คงจะมีการนองเลือดตั้งแต่ก่อนแดนมณีเปิดหลายคนคงจะฆ่ากันตายไปก่อนแล้ว”
กงซุนหวูซื่อพูด
“ใช่แล้วดังนั้นจึงต้องมีการตั้งกฎขึ้นมาล่วงหน้า คนที่จะได้เข้าแดนมณีจะต้องได้รับการแนะนำจากอสูรเนรมิตร ยอดฝีมือที่จะเข้าแดนมณีจะไปหาการคุ้มครองจากอสูรเนรมิตร”
“ดังนั้นคนทั่วไปจะถูกปฏิเสธที่หน้าประตู มีแค่ยอดฝีมือตัวจริงเท่านั้นที่จะได้ไปฝึกฝนต่อ…”
นางอธิบาย
กฎเช่นนี้ไม่เป็นธรรมกับคนทั่วไปแต่มันเป็นประโยชน์กับทั้งจิวโจว
ในโลกที่มีทุกชนชั้นอยู่ร่วมกันถ้าทุกคนมีโอกาสได้เข้าร่วมแดนมณี คนทั่วไปก็คงจะร่วมมือกันกำจัดคนที่แกร่งกว่า
ถ้าหากคนที่อ่อนแอร่วมมือกันกำจัดผู้แข็งแกร่งไปได้วงจรอุบาทเช่นนี้จะเกิดต่อไปเรื่อย ๆ ความหวังดีที่เซียนมณีมีให้จะสูญเปล่า