DND.
“ถึงพวกอสูรเนรมิตรที่แนะนำยอดฝีมือได้จะทะเลาะกันบ้างมันก็ดีกว่าความวุ่นวายที่ไม่มีคนจัดการ”
กงซุนหวูซื่อบอก
และในความเป็นจริงยิ่งยอดฝีมือเก่งเท่าใดก็ยิ่งง่ายที่จะได้รับการปกป้องจากอสูรเนรมิตร มันยังทำให้พวกเขาเข้าสู่แดนมณีได้อย่างปลอดภัย
ซือหยูพูด
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าตำหนักม่อจะเป็นคนพาเราไปที่นั่นและแนะนำพวกเราสินะ”
เพราะในจิวโจวไม่มีอสูรเนรมิตรหน้าไหนที่กล้ายุ่งกับม่อเทียนฉวน
“แล้วมีแค่อสูรเนรมิตรที่แนะนำคนได้อย่างเดียวรึ?พวกเซียนอย่างราชาเขตกลางกับจ้าวผาบั่นภูติทำไม่ได้หรือ?”
กงซุนหวูซื่อตอบ
“เป็นไปไม่ได้แดนมณีมีพลังพิเศษที่ป้องกันเซียนเข้าใกล้ระยะล้านลี้ เซียนที่เข้าใกล้จะถูกส่งตัวออกมาอย่างไม่มีข้อยกเว้น”
“ถึงเซียนมณีจะตายไปหลายปีนางก็ยังเป็นเซียนที่อายุมากที่สุดในจิวโจว นางมีชีวิตหลายหมื่นปี ถึงจะตาย พลังของนางก็ไม่ใช่สิ่งที่ราชาเก้าเขตจะต้านทานได้”
ซือหยูได้ยินคำบอกเล่ามากมายเกี่ยวกับเซียนมณีแต่เขาก็หยุดนับถือนางไม่ได้ เพาะนางคือผู้ที่ปกป้องจิวโจวมาหลายหมื่นปี แม้จะสิ้นชีวิตไปแล้วนางก็ยังไม่ลืมมนุษย์ในจิวโจว
“ในอีกสองเดือนสามวันยอดฝีมือนับไม่ถ้วนจะปรากฏตัว วีรบุรุษจะเกิดขึ้นในคนเหล่านี้”
ซือหยูรู้จักยอดฝีมือสูงสุดเพียงสองคนนั่นคือกู้ไทซูแห่งดินแดนพรสวรรค์และปี้หลิงเทียนแห่งดินแดนมีดสวรรค์ จิวโจวมีพื้นที่ราวสี่สิบห้าดินแดน ควรจะมียอดฝีมือสูงสุดสักสี่สิบห้าคนเป็นอย่างน้อย ทุกคนน่าจะแข็งแกร่งและไร้เทียมทานเมื่อต้องเจอกับคนในขอบเขตเดียวกัน การต่อสู้กับพวกเขาย่อมต้องเป็นเรื่องยาก
ถ้าเขาไม่เตรียมตัวให้ดีในอีกสองเดือนต่อให้เขาได้เข้าไปยังแดนมณี เขาก็คงแข่งขันกับคนเหล่านั้นไม่ได้ และก็ยากที่เขาจะช่วยกงซุนหวูซื่อตามหาไม้เท้าเซียนมณี
และหยุนย่าสียังหวังให้ซือหยูนำสิ่งที่เซียนมณีทิ้งเอาไว้กลับมาด้วยถ้าหากเขามีพลังไม่มากพอก็ยากที่จะทำได้ เขาต้องรีบเพิ่มพลังให้ได้มากที่สุด!
“ข้าคิดจะปิดประตูฝึกตนในเวลาสองเดือนนี้”
กงซุนหวูซื่อพูดตาลุกวาวดั่งแสงเทียน
นางพูดต่อ
“ท่านป้าบอกข้าว่านางเตรียมพลังชีวิตของจ้าวเทวะระดับห้าได้ห้าร้อยคนแล้วนางกำลังจะส่งพลังนั้นมา นางจะส่งมาถึงได้ในอีกสองเดือนแน่นอน”
ซือหยูดีใจเขาจะได้มันแล้วสินะ? เขามีผลึกเทพก้อนใหญ่ของเซียนมณีอยู่ มันมีส่วนหนึ่งของความทรงจำนาง เขาต้องใช้พลังชีวิตจำนวนมากในการเรียกดู พลังของจ้าวเทวะระดับห้าถึงห้าาร้อยคนน่าจะมากพอที่จะเปิดมันดูได้ และถ้าหากเขาได้สิ่งใดจากผลึกเทพ มันก็คงจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
“ดีล่ะข้าจะไปบ่มเพาะพลังเหมือนกัน”
ซือหยูพูดแม้ว่าจะไม่รู้ว่าต้องไปที่ใดห้องฝึกเงามายาคนเต็มไปแล้ว และหากใช้ห้องฝึก เขาจะต้องหยุดบ่มเพาะอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อที่จะจ่ายคะแนนฝึกต่อ เขาไม่สามารถบ่มเพาะเป็นระยะเวลานานได้
ตอนนั้นเองปิงหวูชิงตื่นขึ้น นางมองทั้งสองที่กำลังพูดคุยกัน
“จินมู่อยู่ไหน?” novel-lucky
กงซุนหวูซื่อรู้สึกผิดและหัวเราะกลบเกลื่อน
“อืมพี่หยูเซี่ยนฆ่ามันไปแล้ว เขาล้างแค้นให้พี่หวูชิงนะ”
ปิงหวูชิงลูบหลังหัวและถามอีกครั้ง
“แล้วใครลอบทำร้ายข้า?”
“รองเจ้าดินแดนเสี่ยวมันชั่วร้ายยิ่งนัก”
กงซุนหวูซื่อวิ่งไปนวดไหล่ปิงหวูชิงและพูดต่อ
“พวกมันฉวยโอกาสตอนที่พวกเรายังไม่ทันระวังแล้วลอบทำร้ายพวกเราแต่ก็โชคดีที่ข้ารู้ตัวก่อนแล้วป้องกันพลังส่วนมากได้”
ปิงหวูชิงยังคงมึนหัว
“มันถูกพวกเราบดขยี้จนเหลือแต่ร่างวิญญาณแล้วไม่ใช่หรือยังไง?มันจะมาลอบทำร้ายพวกเราได้รึ?”
“อืม…เขา…เขากินยาไงใช่แล้ว เขาจะต้องกินยา”
กงซุนหวูซื่อพูดอย่างหนักแน่น
ปิงหวูชิงคิดแต่ก็ไม่ได้กังวลมากนัก นางกำลังจะยืนขึ้น แต่ก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอของกงซุนหวูซื่อ
“แก้วไฟระดับสูงรึ?เจ้าได้มันมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“พี่หยูเซี่ยนให้ข้ามา”
ซือหยูไม่รู้ว่ากงซุนหวูซื่อคิดอะไรถึงบอกเรื่องนี้กับนางกงซุนหวูซื่อจงใจบอกที่มาของแก้วระดับสูงด้วยตาเป็นประกายราวกับจะโอ้อวด ราวกับว่านางพยายามจะยั่วปิงหวูชิง
ปิงหวูชิงมองซือหยู
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าแก้วระดับสูงล้ำค่าเพียงใด?แม้แต่ข้าก็ไม่ได้มีมากนัก”
ซือหยูตอบ
“ข้ารู้…แล้วมันยังไง?”
ปิงหวูชิงเจ็บใจโดยไม่รู้สาเหตุนางค่อนข้างหงุดหงิด ทำไมเขาให้กงซุนหวูซื่อแต่ไม่ให้นาง? ซือหยูให้นางสามล้านคะแนน เขาต้องรักนางแน่ แล้วทำไมเขาถึงพยายามเอาใจผู้หญิงอื่นเล่า? หรือว่าเขายังรักกงซุนหวูซื่ออยู่?
ยิ่งนางคิดเท่าใดก็ยิ่งยากที่นางจะคงความใจเย็นไว้ได้นางรู้สึกเหมือนถูกขโมยสมบัติของตัวเองไปเมื่อมองสร้อยแก้วระดับสูงบนคอกงซุนหวูซื่อ แต่นางก็ไปได้ดีกับกงซุนหวูซื่อมาหลายปี นางรีบข่มความโกรธในใจอย่างรวดเร็ว
ปิงหวูชิงยืนขึ้นและผลักมือกงซุนหวูซื่อที่ยื่นให้นาง
“ข้าจะกลับไปรักษาตัวและบ่มเพาะพลัง…”
นางพูด
“อีกสองเดือนค่อยเจอกัน”
นางรีบเดินไป
กงซุนหวูซื่อจ้องปิงหวูชิงที่ห่างออกไปและยิ้มบางๆ
“พี่ซือหยูยินดีด้วย! พี่หวูชิงจะต้องตกหลุมรักพี่แน่”
ซือหยูส่ายหน้า
“นางก็แค่สนใจเรื่องกระบี่เท่านั้นนางมีหัวใจผู้บ่มเพาะที่หนักแน่น ยากที่นางจะรักใครได้”
“หึหึพี่ซือหยูไม่เข้าใจผู้หญิงเอาซะเลย”
กงซุนหวูซื่อพูดราวกับคนแก่
“สตรีเป็นสิ่งประหลาดยิ่งดีเท่าไหร่ก็ยิ่งมีบุรุษมาตามติดเท่านั้น และก็ยิ่งยากที่นางจะสนใจ โดยเฉพาะพี่หวูชิงที่สนใจแต่เรื่องกระบี่ นางหยิ่งยโสและสันโดษ นางไม่ตกหลุมรักง่าย ๆ เป็นไปได้ที่นางจะไม่สนใจใครเลย”
“แต่ถ้านางเห็นว่าบุรุษคนนั้นกำลังจะทิ้งนางไปหาสตรีอื่นนางจะเริ่มสนใจเขาขึ้นมาและจะสังเกตเห็นว่าเขาตระการตาแค่ไหน กว่าจะรู้ตัวก็ตกหลุมรักไปเสียแล้ว พี่ซือหยู ข้าพยายามจะช่วยพี่อยู่นะ เพราะถ้าข้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป นางจะไม่รักพี่แม้จะหลังแต่งงานแล้ว”
คำพูดนางดูมีเหตุผลแต่มันดูแปลกเมื่อผู้พูดคือกงซุนหวูซื่อ นางเองก็รักซือหยูแต่กลับไม่พยายามสลัดปิงหวูชิงให้พ้นทาง นางกลับอยากช่วยให้ทั้งสองได้อยู่ร่วมกันเสียอีก นางคิดอะไรอยู่กันแน่?
“เอาเถอะข้าจะไปบ่มเพาะพลังเตรียมไปแดนมณี ข้าจะต้องเรียนรู้วิธีใช้สิ่งที่ข้าเพิ่งได้มา”
กงซุนหวูซื่อรู้ว่าซือหยูจะถามนางจึงพยายามจงใจพูดกลบเกลื่อน นางโบกมือให้เขาและกลับเรือนไป
ซือหยูงุนงงดูเหมือนว่าเขาจะต้องหาเวลาดี ๆ บอกเรื่องทั้งหมดกับทั้งสองคนนี้แล้ว
แต่ก่อนที่เขาจะคิดเรื่องสถานที่บ่มเพาะพลังทหารสองคนก็พุ่งมายังเขาอสูรและจับตัวซือหยู
“คำสั่งเจ้าตำหนักม่อจงไปกับพวกเรา”
ม่อเทียนฉวนเรอะ?ซือหยูไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้หาเบาะแสที่ทำให้สงสัยเขาอีกแล้วหรือ? เขาจะต้องหาทางจัดการเรื่องนี้ให้จบสิ้นไปสักที เขาจะต้องลบล้างข้อสงสัยทั้งหมดของนาง ถ้าไม่อย่างนั้นนางจะต้องเป็นปัญหาใหญ่ของเขาแน่
ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาที่แท้จริงยังอยู่ในอนาคตอีก ถ้าเขาไม่ได้หยุนย่าสีปกป้อง เขาจะปกปิดอะไรจากนางไม่ได้แน่ถ้านางค้นวิญญาณเขาอีกครั้ง