TB:บทที่ 142 การฝึกยิงปืน
เมื่อเห็นเฉินหลงทำความเคารพ ทันใดนั้นจิตใต้สำนึกของชายคนนั้นก็ได้สั่งให้เขามีท่าที่เป็นระเบียบอีกครั้ง
“เสี่ยวเฉิน เขาเป็นผู้บัญชาการของที่นี่ เฉินเจียนกั่ว ผู้บัญชาการเฉิน พวกนายทั้งสองคนมีสกุลเฉินเหมือนกัน ไม่แน่ 500 ปีก่อน พวกนายอาจจะมาจากตระกูลเดียวกันก็ได้นะ พวกนายควรจะสนิทๆกันเข้าไว้” หวังฮงแนะนำชายคนนี้ให้เฉินหลง
เมื่อรู้ว่าเฉินเจียนกั่วเป็นถึงผู้บัญชาการของที่นี่ เฉินหลงจึงรีบพูดเสริมว่า “สวัสดีครับ! ผู้บัญชาการ!”
เมื่อเห็นว่าเฉินเจียนกั่วยังคงดูสับสนนิดหน่อย หวังฮงจึงกระซิบข้างหูเขาว่าเฉินหลงเป็นใคร ทันใดนั้นเขาก็ได้เข้าใจทุกอย่างในทันที
“นายพลเฉิน กรุณารอสักครู่ ผมจะส่งคนพาคุณไปที่คลังอาวุธ คุณสามารถเลือกอาวุธอะไรก็ได้ที่คุณต้องการภายในค่ายทหาร คุณสามารถเลือกอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการเลยครับ”
หลังจากพูดออกไปไม่กี่ประโยค นายทหารก็รีบวิ่งไปข้างในค่ายทหารในทันที
เวลาได้ผ่านไปแค่ไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่ได้เดินมาพร้อมกับร้อยตรีคนหนึ่ง ดูๆแล้วเขาน่าจะอายุประมาณยี่สิบเจ็ดหรือยี่สิบแปดปี
หลังจากร้อยตรีมาถึง เขาก็ได้ทำความเคารพเฉินเจียนกั่วในท่าวันทยหัตถ์ทันที “สวัสดีครับ! ผู้บัญชาการ!”
ทันใดนั้นเฉินเจียนกั่วก็ได้ตอบกลับเขาด้วยท่าท่าวันทยหัตถ์เช่นกัน “เทียนเสี่ยวหมิง พาสุภาพบุรุษคนนี้ไปที่คลังอาวุธ แล้วให้เขาได้เลือกอาวุทหนึ่งชิ้น”
เมื่อกล่าวจบ เฉินเจียนกั่วได้พาหวังฮงไปที่สำนักงานของเขา
เทียนเสี่ยวหมิงเป็นคนที่รู้เรื่องปืนมากที่สุดในค่ายทหารของเขา มอบหมายให้เขาพาเฉินหลงไปเลือกปืนที่คลังอาวุธเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ในเมื่อมอบหมายงานให้ลูกน้องแล้ว เขาจึงพาหวังฮงไปที่สำนักงานของตัวเองเพื่อดื่มชาและพูดคุยเรื่องทั่วไปสักหน่อย
“ครั้งนี้ผมคงต้องรบกวนพี่เทียนแล้ว” เฉินหลงกล่าวอย่างสุภาพ
“ไม่เป็นไร สบายมาก ตามฉันมาทางนี้เลย” เทียนเสี่ยวหมิงตอบ พร้อมกับเดินนำเขาไปยังคลังอาวุธ
ในความคิดของเขา เฉินหลงก็เป็นเหมือนกับหลานของเพื่อนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บัญชาการเฉิน เนื่องจากว่าอีกฝ่ายไม่เคยเห็นปืนมาก่อน เห็นทีเขาคงต้องให้ความรู้กับอีกฝ่ายสักหน่อยแล้ว
เมื่อเห็นเทียนเสี่ยวหมิงเดินนำเขาไปแล้ว เฉินหลงก็เดินตามเขาไปที่คลังอาวุธทันที
เมื่อเข้ามาข้างในคลังอาวุธ เฉินหลงได้กลิ่นดินปืน ตามมาด้วยปืนที่วางเรียงกันเป็นแถวตั้งแต่ปืนพกไปจนถึงปืนใหญ่
หลังจากได้เห็นปืนพวกนี้แล้ว เฉินหลงรีบเดินตรงไปทางปืน ทันใดนั้นเขาได้หยิบมันขึ้นมาตรวจดูทั้งซ้ายและขวาด้วยท่าทางตื่นเต้น
หลังจากเห็นท่าทางของเฉินหลงแล้ว เทียนเสี่ยวหมิงก็มั่นใจในตัวเขามากขึ้น
แต่จู่ๆดวงตาของเทียนเสี่ยวหมิงก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพราะเขาได้เห็นเฉินหลงทำการแยกส่วนประกอบของปืนพกออกเป็น 54 ส่วนภายในสองวิเท่านั้น
“โอ้โห นายทำได้ยังไงละเนี่ย? ทั้งๆที่นายเป็นแค่รุ่นที่สองที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับปืน แต่นายสามารถแยกส่วนประกอบของปืนพกได้เร็วกว่าฉันอีกเนี่ยนะ? หรือว่าผู้บัญชาการหาคนเก่งๆให้มาแข่งกับฉัน?” เมื่อเห็นเฉินหลงใช้เวลาแยกส่วนปืนแค่สองวิ เทียนเสี่ยวหมิงถึงกับอึ้งเป็นไก่ตาแตกไปเลย หรือที่ผู้บัญชาการบอกว่าเอ็งไม่เคยจับปืนมาก่อนจะเป็นเรื่องโกหก? ไม่น่าจะใช่ คนอย่างผู้บัญชาการจะโกหกเขาไปเพื่ออะไรล่ะ เห้ย ไอ้น้อง นายไม่ได้ตั้งใจจะอวดฉันใช่ไหม? เอ๊ะ หรือว่าตั้งใจ..?
หลังจากทำการแยกส่วนปืนเสร็จแล้ว เฉินหลงก็รีบประกอบปืนให้มีสภาพตามเดิม
เฉินหลงได้รับความรู้เกี่ยวกับปืนจากระบบอัจฉริยะ แต่เมื่อได้ลองแยกส่วนปืน เขาถึงได้ตระหนักได้ว่ามันโคตรจะสนุกเลย!
หลังจากได้แยกชิ้นส่วนแล้วก็ประกอบปืน เฉินหลงได้เป็นเหมือนคนเสพติด เขาเริ่มทำการแยกส่วนปืนทุกรูปแบบที่เขาเห็นได้แก่ ปืนพก ปืนกลมือ ปืนกล ปืนซุ่มยิงและปืนใหญ่
เทียนเสี่ยวหมิงลองตรวจสอบปืนต่างๆหลังจากที่เฉินหลงทำการแยกส่วนและประกอบใหม่ เขาพบว่าปืนทุกกระบอกที่เขาประกอบใหม่ไม่มีสิ่งผิดปกติ มิหนำซ้ำยังประกอบได้สมบูรณ์แบบอีกต่างหาก
ในตอนนี้ เทียนเสี่ยวหมิงได้สลัดความคิดที่ว่ารุ่นที่สองคนนี้เป็นใคร ไปเป็นรุ่นที่สองคนนี้เป็นเซียนปืนได้ยังไง แล้วทำไมตอนที่เขาเข้ามาในคลังอาวุทครั้งแรก เขาถึงต้องแกล้งทำตัวเป็นหนุ่มน้อยด้วยล่ะ
“พี่เทียน ตอนนี้เราไปฝึกยิงปืนกันเถอะครับ” หลังจากเสพติดการแยกส่วนปืนแล้ว เฉินหลงก็อยากฝึกยิงปืนต่อ
ในเมื่อเขาได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการเฉินแล้ว เทียนเสี่ยวหมิงก็ต้องปฏิบัติตามคำขอของเฉินหลง
หลังจากนั้น เฉินหลงก็หยิบปืนและกล่องกระสุนจำนวนหนึ่ง แล้วเดินตามเทียนเสี่ยวหมิงไปยังสนามยิงปืน
ในบรรดาปืนที่เฉินหลงเลือกมานั้นคือปืนพก ปืนไรเฟิล และปืนซุ่มยิง นอกจากนี้ ในบรรดาปืนทั้งสามประเภท ถ้าเขาเลือกได้เพียงแค่หนึ่งประเภท เขาจะเลือกปืนซุ่มยิง เพราะเขาชอบมันมากที่สุด
สำหรับปืนกล เฉินหลงชอบปืนที่มีขนาดใหญ่แบบนี้มาก แต่ว่ามันพกไม่ค่อยสะดวก เขาเลยไม่เลือกมัน
ปืนพกของเฉินหลงเป็นปืนพกไทป์ 54 แบบคลาสสิกที่สุดในประเทศจีน ปืนไรเฟิลที่เลือกเป็นปืนไรเฟิลไทป์ 95 และปืนซุ่มยิงเป็นไทป์ 88 ไทป์ 85 และไทป์ 10
ในสนามยิงปืน เฉินหลงได้นำปืนพกมายิงเป้าเป็นอย่างแรก
บางทีเทียนเสี่ยวหมิงอาจถูกเฉินหลงมากระตุกต่อมโดยไม่รู้ เขาถึงได้หยิบปืนพกไทป์ 54 กระบอกหนึ่งมาแล้วเดินเข้าไปในสนาม พร้อมแข่งกับเฉินหลง
ถึงเขาจะแยกส่วนปละประกอบปืนไม่เร็วที่สุดในค่ายทหาร แต่ถ้าพูดถึงสกิลการยิงปืน เขาคิดว่าตัวเองไม่เป็นรองใครแน่นอน เพราะไม่มีใครกล้ามาแข่งกับเขา แถมยังพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคืออันดับหนึ่ง
ถึงเฉินหลงจะได้เรียนรู้ท่าจับปืนและวิธียิงปืนที่ถูกต้องจากระบบอัจฉริยะ แต่ในเมื่อตอนนี้คนที่เป็นอาจารย์ตัวจริงเสียงจริงอย่างเทียนเสี่ยวหมิงได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะอยากเรียนรู้ประสบการณ์จากอีกฝ่าย
ในตอนที่เทียนเสี่ยวหมิงถือปืนพกและเล็งไปที่เป้า จู่ๆท่าทางของเขาก็ต่างออกไปจากเดิม เขาแผ่ไอเย็นออกมาทั่วร่าง
เขาหายใจเข้าลึกๆ แล้วยิงกระสุนออกไปแปดนัด
ปัง! ปัง! ปัง! …
เฉินหลงและเทียนเสี่ยวหมิงยืนอยู่ห่างจากเป้าประมาณ 50 เมตร ในสายตาของเฉินหลง กระสุนทั้งแปดนัดของเทียนเสี่ยวหมิงพุ่งไปที่จุดศูนย์กลางของเป้าด้วยความเร็ว นอกจากนี้ระยะห่างระหว่างกระสุนทั้งแปดนัดอยู่ห่างกันไม่เกินสองมิลลิเมตร
หลังจากยิงกระสุนทั้งแปดนัดออกไป เทียนเสี่ยวหมิงวางปืนลง พร้อมกับแสดงสีหน้าภาคภูมิใจออกมา เขารู้สึกพอใจกับผลลัพธ์ของกระสุดทั้งแปดนัดมาก
แปะ! แปะ! แปะ! …
หลังจากที่ได้เห็นความสำเร็จของเทียนเสี่ยวหมิงแล้ว เฉินหลงอดไม่ได้ที่จะตบมือชื่นชมเทียนเสี่ยวหมิง
“โอ้โห สุดยอด มันทรงพลังมากๆเลยครับ พี่เทียน ผมสามารถเรียกมันว่าร้อยก้าวสู่หยางได้เลยนะครับเนี่ย” เฉินหลงกล่าวชื่นชมเขาจากใจ
ความแข็งแกร่งของเทียนเสี่ยวหมิงอยู่ในระดับ ‘ปรมาจารย์ชั้นสูง’ เขามีทักษะการยิง ที่ได้มาจากการฝึกฝนที่สั่งสมมานานหลายปี ความเพียรของเขาสมควรได้รับคำชมจากเฉินหลง
เฉินหลงเอ่ยชมเทียนเสี่ยวหมิงไม่น้อย เขาจึงหันไปบอกเฉินหลงด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเฉิน คุณลองยิงปืนดูสิครับ”
เฉินหลงพยักหน้ารับ เขาปรับลมหายใจของตัวเองเหมือนกับเทียนเสี่ยวหมิง จากนั้นก็ส่งลูกกระสุนออกไป
กระสุนสองนัดของเฉินหลงเป็นเหมือนกับจังหวะการหายใจของเขา แต่ในตอนนี้ เทียนเสี่ยวหมิงได้ตกใจไปเรียบร้อยแล้ว ตอนที่รู้ว่ากระสุนทุกนัดมีจังหวะตามการหายใจของเขาเมื่อเขายิงมันออกไป ทำให้เขาได้ท่ายิงที่สุดยอดที่สุด
ในความคิดของเทียนเสี่ยวหมิง เฉินหลงนับว่าเป็นปรมจารย์ของจริง เพราะมันสุดยอดตั้งแต่ที่เขาใช้จังหวะการหายใจของตัวเองแล้ว
แต่หลังจากที่เฉินหลงยิงปืนไปแล้ว ในตอนที่เทียนเสี่ยวหมิงได้เห็นเป้าของเฉินหลง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกสับสนขึ้นมา
‘อะไรล่ะนั่น? คุณผู้บัญชาการครับ คุณไม่ได้ส่งเขามาเล่นที่นี่จริงๆใช่ไหมครับ?’
ที่เทียนเสี่ยวหมิงไม่เข้าใจเป็นเพราะทั้งๆที่เขายิงกระสุนออกไปแล้ว แต่บนเป้ากลับไม่มีรูกระสุนเลยสักรู ทั้งๆที่เป็นนัดที่สุดยอดของเฉินหลงแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่เข้าเป้าเลยล่ะ?
เทียนเสี่ยวหมิงหันไปมองเฉินหลง ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
เฉินหลงค่อยๆส่งยิ้มให้เทียนเสี่ยวหมิง นี่ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้ยิงปืนเลยนะ จะยิงไม่เข้าเป้าก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน เขาไม่จำเป็นต้องมองหน้าตัวเองด้วยท่าทางเศร้าๆเลยสักนิด
จากนั้น เฉินหลงก็สูดลมหายใจอีกครั้ง ยกปืนขึ้นมา พร้อมกับเล็งไปตรงกลางเป้าที่อยู่ห่างออกไป 50 เมตร
เฉินหลงเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อกี้ตัวเองถึงยิงไม่เข้าเป้า ครั้งนี้เขาไม่มีทางยิงพลาดเป็นครั้งที่สอง!