“เอายันต์หยกมา จะไว้ชีวิตเธอ!” ผู้อาวุโสคนนั้นตะโกนอยู่กลางอากาศ

“ฝันไปเถอะ!” เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนตวาดอย่างโมโห

“หึ ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ยอมทำตาม ก็คงต้องใช้กำลังบังคับ!” ผู้อาวุโสกลางอากาศ เปลี่ยนฝ่ามือเป็นกรงเล็บ คว้ามาทางเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน

“ไสหัวไป!” เฉินโม่พูดอย่างเย็นชา สะบัดฝ่ามือออกไป

พลั่ก!

พลังที่มองไม่เห็น จู่โจมผู้อาวุโสคนนั้นจนกระเด็นออกไป แต่ไม่ได้บาดเจ็บ

เฉินโม่แอบประหลาดใจ “แม้ปริมาณชี่แท้ในตัวสามคนนี้ เทียบไม่ได้กับแดนมองขวัญ แต่ด้านคุณภาพสามารถขยี้ให้แบนได้เลย ถ้าฝึกฝนสั่งสมต่อไป ถึงขั้นที่สามารถฝึกพลังทิพย์ออกมาได้!”

“สามคนนี้ไม่ใช่นักบู๊ธรรมดาแน่นอน”

ผู้อาวุโสที่มีปานบนหน้า ก็แอบประหลาดใจเหมือนกัน “ไอ้เด็กนี่เป็นอัจฉริยะที่ได้รับการบ่มเพาะจากสำนักไหน คิดไม่ถึงว่าอายุแค่นี้จะมีพละกำลังขนาดนี้!”

“เจ้าสาม ไม่ได้ออกมานาน นายลืมแม้แต่สัญชาตญาณการต่อสู้เลยเหรอ โดนหมัดของเด็กน้อยสะเทือนจนต้องถอยหลัง!” ผู้อาวุโสสีหน้าเปล่งปลั่ง ดูเป็นคนแก่สุขภาพดี พูดเยาะเย้ย

“พี่ใหญ่ ไอ้เด็กนี่มีอะไรแปลกๆ เดาว่าเป็นสายเลือดบู๊โบราณเหมือนเรา!” ผู้อาวุโสที่มีปาน ไม่สนใจคำเยาะเย้ยของคนนั้น พูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

“หา?” ผู้อาวุโสที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ มองเฉินโม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างแปลกใจ

“ไอ้หนุ่ม นายคือสายเลือดไหนกัน” ผู้อาวุโสคนนั้นเอ่ยถาม

เฉินโม่ย้อนถาม “แล้วพวกนายสายเลือดไหน”

ผู้อาวุโสคนนั้นพูดว่า “เราคือสำนักหลิงหยุน หนึ่งในสิบสองสำนัก แล้วนายล่ะ”

เฉินโม่ฉุกคิดขึ้นในใจ “หนึ่งในสิบสองสำนัก พูดแบบนี้ก็ยังมีสำนักที่เหมือนกับพวกเขาอีกเยอะน่ะสิ!”

เฉินโม่ถามลองเชิงต่อ “สำนักของพวกนาย มีอะไรแตกต่างกับนักบู๊ทั่วไป”

เฉินโม่เพิ่งพูดประโยคนี้จบ ผู้อาวุโสคนนั้นโมโหมาก “ไอ้หนุ่ม นายไม่ใช่สายเลือดบู๊โบราณ นายเป็นใครกันแน่”

“สายเลือดบู๊โบราณ!” เฉินโม่ได้ยินสรรพนามใหม่อีกแล้ว ดูเหมือนสายเลือดบู๊โบราณ ไม่เหมือนกับนักบู๊ทั่วไป

ในเมื่ออีกฝ่ายจับได้แล้ว เฉินโม่เสแสร้งต่อไปก็ไม่ได้ “ฉันก็คือฉัน ไม่อยู่ในสายเลือดบู๊โบราณใดๆ ของพวกนาย!”

“ในเมื่อนายไม่ใช่สายเลือดบู๊โบราณ งั้นก็ไปตายซะ!” ผู้อาวุโสคนนั้นแผดเสียงอย่างโมโห เหมือนทั้งสามคนปรึกษากันมาล่วงหน้าแล้ว พุ่งมาจู่โจมเฉินโม่กับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน

แม้ทั้งสามคนมีพละกำลังแค่แดนคุ้มกาย แต่เท่ากับนักบู๊แดนมองขวัญโดยทั่วไป อีกทั้งยังไม่รู้ว่าทั้งสามคนมีไม้ตายอะไรหรือเปล่า

เฉินโม่ไม่กล้าประมาท คุ้มกันเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนไว้ข้างหลัง รับมือผู้อาวุโสบู๊โบราณทั้งสามคนด้วยตัวคนเดียว

ผู้อาวุโสทั้งสามคน โจมตีหมัดมาทางเฉินโม่จากสามทาง พลานุภาพแข็งแกร่งทำให้ต้นไม้ในรัศมี 10 เมตรรอบตัวเฉินโม่ แกว่งไปมาอย่างรุนแรง จนใกล้จะหัก

นักบู๊ที่รีบตามมาบริเวณรอบๆ เห็นภาพนี้ ต่างพากันตกตะลึง

“สามคนนี้เป็นใคร ทำไมแข็งแกร่งขนาดนี้!”

เฉินโม่ก็รู้สึกถึงแรงกดดันเล็กน้อย แต่การจู่โจมระดับนี้ ยังทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี

ไม่มีการเคลื่อนไหวที่อลังการ เฉินโม่วนมือทั้งสองข้าง วาดรูปครึ่งวงกลมด้านหน้า หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือดันออกไป

พลั่ก!

ผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งทั้งสามคน โดนแรงสั่นสะเทือนจนกระเด็นถอยหลังไป โงนเงนถอยหลังไปหลายก้าว มองเฉินโม่ด้วยใบหน้าไม่อยากเชื่อ

“คิดไม่ถึงว่าไอ้เด็กนี่จะแข็งแกร่งขนาดนี้!” พี่ใหญ่ในบรรดาทั้งสามคนพูดอย่างตกใจ

“พี่ใหญ่ ดูเหมือนนักบู๊โบราณอย่างเราไม่ได้ออกมานาน คิดไม่ถึงว่าพวกนักบู๊ปลอมของโลกมนุษย์ จะมีพละกำลังระดับนี้! ทำให้คนคิดไม่ถึงจริงๆ!” พี่รองที่ไม่ได้ปริปากพูดมาตลอด ถอนหายใจออกมา

เจ้าสามที่มีปานบนหน้าพูดว่า “ครั้งนี้หลังจากเรากลับไป ต้องแจ้งเรื่องนี้กับเจ้าสำนัก ไม่งั้นตอนนักบู๊โบราณอย่างเราเจอนักบู๊ปลอมพวกนี้ เกรงว่าจะเสียเปรียบมาก!”

“อืม!” อีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย