บทที่ 374 หรือว่าพวกเธอจะตาย

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 374

หรือว่าพวกเธอจะตาย

อันที่จริงทุกคนคิดกันมากไปเอง มู่หรงเสวี่ยก็แค่กินแล้วก็นอน เธอไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลยสักนิด

เพียงแค่ว่าวันก่อนเหล่าสาวใช้และขันทีต่างก็ตัวสั่นด้วยความตกใจและทำท่าทางราวกับท้องฟ้าจะถล่มลงมาซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะดึงดูดความสนใจของคนอื่นได้

แน่นอนว่าไม่นานหลังจากนั้น ผู้หญิงกว่า 100 คนในวังหลังก็เริ่มที่จะวุ่นวายใจ เดินกลับไปกลับมาอยู่ในตำหนักกันวุ่นวายไปหมด

เห็นได้ชัดว่าในวังแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก จนมีบางคนต้องเอาเรื่องนี้มาบอกมู่หรงเสวี่ย

“ข้าไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไงเลยเพคะ?”

มู่หรงหยีตามองแสงอาทิตย์และพูดออกมาอย่างขี้เกียจ “ถ้าอยากจะพูดก็พูด แต่ถ้าไม่อยากก็ไม่ต้องพูดออกมา”

สาวใช้สำลักไปชั่วขณะ “คือที่ตำหนักด้านหลักดูเหมือนจะกำลังวุ่นวายกันใหญ่เลยเพคะ”

“โอ้ มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” มู่หรงอยากที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เรื่องนี้เธอเองก็บอกกับหลินหยางแล้ว เธอถึงขนาดตัดสินใจที่จะตายไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยซ้ำ แต่ใครจะรู้ว่าหลินหยางจะปฏิเสธ

ข้าราชสำนักของเขาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับผู้หญิงของเขา ต่อให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในวังหลัง เขาก็จะไม่ดุเธอ อย่างมากที่สุดก็แค่ทำลายชื่อเสียงของพระมเหสี แต่แน่นอนว่าเขาไม่สนใจ นั่นคือสิ่งที่หลินหยางบอกกับเธอ

ในตอนนั้นสีหน้าของมู่หรงเสวี่ยไม่ได้แสดงอาการใดๆ เธอก็แค่เป็นห่วงเขา แต่สิ่งที่เขาพูดก็มีเหตุผล กองกำลังทั้งหมดอยู่ในกำมือเขา

ในเรื่องของอำนาจ เขาเองก็มีอำนาจมากที่สุดในยุคนี้ เขาไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่าผู้หญิงพวกนั้นในวังหลังเลย

ถ้าเป็นแบบนั้น มู่หรงเองก็ขี้เกียจที่จะสนใจเรื่องพวกนี้เหมือนกัน ไม่สำคัญเลยว่าวังหลังจะเป็นยังไง อีกอย่างตำแหน่งพระมเหสีของเธอก็ยังอยู่ ใครจะกล้าเข้ามาท้าทายเธอได้ง่ายๆ อีกอย่างหลินหยางก็ยังเป็นเพื่อนของเธอจึงไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องกังวลอีก

“หลายวันที่ผ่านมานี้เหล่าพระสนมในวังหลังต่างก็เดินกันให้วุ่นเลยเพคะ” สาวใช้รายงาน

เป็นเรื่องที่ดีจริงๆที่เธอได้ติดตามเจ้านายที่เธอคิดว่าทรงอำนาจที่สุดเพียงแค่ว่าตอนนี้เธอเป็นห่วงเจ้านายของตัวเองมาก นี่เป็นอาชญากรรมครั้งใหญ่ที่ทำให้ถูกลงโทษเก้าชั่วโคตรได้เลยถ้าพระมเหสีผิดจริง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างมาก อีกอย่างพระมเหสีดูเหมือนจะมีเมตตาอย่างมาก แล้วแบบนี้เธอจะปล่อยพระองค์ไปได้ยังไงล่ะ? พูดได้ว่าตอนนี้เหล่าสาวงามพวกนั้นเป็นภัยอย่างมากแล้วพวกเธอจะไม่สนใจได้ยังไง

ถึงแม้ตอนนี้พระองค์จะยังสวยแต่ความสวยก็ไม่จีรัง พระองค์จะเป็นคนโปรดขององค์จักรพรรดิไปได้อีกนานแค่ไหนกัน

วิธีที่ดีที่สุดคือทำให้ผู้หญิงในวังหลังได้รู้ว่าใครคือคนที่ทรงอำนาจตัวจริง

พวกนางกล้าที่จะมายั่วยวนองค์จักรพรรดิ และพูดกันว่าพระมเหสีนั้นโง่แต่พระองค์ทรงรู้ทุกอย่าง พูดได้เลยว่าพระมเหสีไม่ใช่คนโง่ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ยอมปล่อยองค์จักรพรรดิหรอก

พระมเหสีไม่มีท่าทีของความกังวลเลย แต่เธอเองกลับเป็นฝ่ายที่กังวล

“ถ้าพวกนางอยากที่จะเดินไปทั่วแต่เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ งั้นทำไมเจ้าไม่ไปแจ้งทางวังหลวงให้สั่งพวกนางว่าห้ามเดินไปทั่วล่ะ?” เธอเข้าใจความคิดของเหล่าผู้หญิงที่อยู่ตำหนักด้านหลังอย่างดี เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้รู้สึกถึงภัยคุกคามอะไรเลย

อีกอย่างเธอไม่ใช่พระมเหสีที่แท้จริง ก็แค่ตำแหน่งชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างปัญหามากมายอะไร ตราบใดที่พวกนางไม่เข้ามายุ่งกับเธอ เธอก็ยังสามารถที่จะคุยด้วยได้

แต่ถ้ามีใครที่กล้าเข้ามายุ่ง งั้นก็อย่าหาว่าเธอหยาบคายก็แล้วกัน ยังไงซะหลินหยางก็เป็นคนที่ขอให้เธอดูแลวังหลังในช่วงที่เธอยังกลับไปไม่ได้

“พระมเหสี พระองค์ไม่ร้อนรนเลยนะเพคะ” สาวใช้ตัวน้อยพูดออกมาอย่างกังวล แน่นอนว่าเธอเป็นห่วง ยังไงซะพระมเหสีก็เป็นเจ้านายก็เธอ ถ้าเจ้านายล้ม เธอก็คงจะมีจุดจบที่ไม่ดีเท่าไร หลังจากที่พิจารณาถึงสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว เธอจึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อที่จะเตือนพระมเหสี

“ทำไมต้องกังวลด้วยล่ะ? สิ่งที่ข้าคิดก็แค่พวกผู้หญิงเหล่านั้นคุยกัน มันจะเรื่องใหญ่อะไรกัน?” มู่หรงไม่ได้หันไปมองหน้าสาวใช้ร่างเล็กเลย

สาวใช้คนนี้ค่อนข้างที่จะคล้ายกับเสี่ยวฉิงแต่นางดูจะกังวลใจอยู่ตลอด เดาว่าชีวิตในวังหลังคงสอนให้นางเป็นแบบนี้แต่เธอก็ไม่โทษนางหรอก

แน่นอนว่าพวกนางต่างก็หวังดีกับเจ้านายตัวเองกันทั้งนั้น

“พระมเหสี ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย ข้าน้อยสมควรตาย” สาวใช้คุกเข่าลงไป

มู่หรงกลอกตา “ เอาละ ลุกขึ้นได้แล้ว นี่มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย”

สาวใช้ลุกขึ้นทันที เมื่อเทียบกับท่าทางสั่นเทิ่มด้วยความตกใจในตอนแรก ตอนนี้นางก็ดูมีความกล้าขึ้นมา เหตุผลหลักก็เพราะพระมเหสีใจดีกับพวกนางมากและแทบจะไม่ลงโทษอะไรพวกนางเลย

พระมเหสียังพูดดีอยู่ซึ่งดูไม่น่าจะมีอะไรที่ผิดปกติ หลังจากที่รู้จักนิสัยของพระมเหสีมานาน สาวใช้ก็รู้สึกผ่อนคลายไปมาก

“พระมเหสี พวกนางคงกำลังวางแผนอะไรกันแน่ๆ พระองค์อยากให้ข้าส่งคนไป…” สาวใช้กระซิบ

ตอนนี้ทุกคนต่างก็กำลังมีแผนการ ไม่งั้นคงเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอดได้ในวังหลัง แม้แต่เหล่าขันทีก็ยังเป็นพวกมือดีซึ่งชะล่าใจไม่ได้เลย

มู่หรงยิ้ม “ไม่มีอะไรมาทำลายความสุขท่ามกลางแสงแดดได้ เพลิดเพลินกับเหล่าดอกไม้เถอะ จะคิดมากไปทำไม?! ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?” มู่หรงเสวี่ยกินองุ่นเข้าไปอีกลูก

สาวใช้ตัวน้อยถึงกับพูดไม่ออก เธอกังวลมากจนอยากที่จะดึงผมตัวเองอยู่แล้ว ทำไมพระมเหสีถึงไม่เข้าใจเรื่องง่ายแบบนี้เลยนะ? ทุกอย่างในวังหลังเป็นเรื่องที่ควรจะต้องสนใจ

โดยเฉพาะพวกคนที่ใจคอโหดเหี้ยมที่อยู่ตำหนักด้านหลังยิ่งน่ากลัวเข้าใหญ่ สงครามของพวกผู้หญิงน่ากลัวกว่าของพวกผู้ชายมากนัก

เพียงแค่ความคิดเห็นเล็กน้อยๆก็มีค่าถึงชีวิตแล้ว พระมเหสีไม่กังวล แต่เธอทำไมได้ เธอกลัวจะตายอยู่แล้ว โดยเฉพาะวันนั้นที่ได้ยินเสียงผู้ชายในห้องของพระมเหสีซึ่งทำให้เธอแทบจะสติหลุด เธอถึงขนาดคิดว่าตัวเองคงจะต้องตายแต่ก็ยังรอดชีวิตมาได้ พระมเหสีดูผ่อนคลายอย่างมาก

แต่พวกเธอก็ไม่เห็นผู้ชายในห้องของพระมเหสีเลย จึงคิดว่าพวกเธออาจจะได้ยินผิดไปเอง ยังไงซะก็ไม่มีหลักฐานใช่ไหม?!

พระมเหสีของเธอก็ยังเป็นพระมเหสี ขนาดมีเรื่องแบบนี้แต่ก็ยังหยุดความรักขององค์จักรพรรดิที่มีต่อพระมเหสีไม่ได้ อย่างน้อยองค์จักรพรรดิก็ยังมาหาพระมเหสีทุกคืน

ตำแหน่งเดิมของเธอในฐานะสาวใช้ก็สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย เธอถึงขนาดมีสาวใช้ของตัวเองด้วย รวมทั้งพระมเหสียังมอบไข่มุกแสนสวยให้กับเธออีก

“ไม่ต้อง เจ้าก็แค่ทำตัวดีๆและไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแล้ว พวกนางจะสร้างปัญหามากแค่ไหนอย่างที่อยากก็ปล่อยไป” มู่หรงพูดเสียงเรียบ

สาวใช้กระทืบเท้าพร้อมทั้งหันหัวมามองด้วยความไม่พอใจ ยังไงซะนางก็เป็นพระมเหสีและเธอไม่รู้ว่าจะสู้ยังไง สาวใช้เลิกที่จะคิดอะไรที่รุนแรงทันที แต่จะให้เธออยู่เฉยๆเธอคงจะทำไม่ได้ พวกนางต้องคิดวิธีที่จะกำจัดพระมเหสีอยู่แน่ๆ แต่พระองค์กลับไม่สนใจเลย ทุกวันยังดื่มกินและนอนหลับสบายจนแทบจะอ้วนเป็นหมูอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเจ้านายไม่สนใจ งั้นเธอก็จะไม่สนใจพวกนางด้วย แต่เธอก็จะไปแอบดูซะหน่อย

“พระมเหสี ข้าจะไปดูลาดเลาซะหน่อยนะเพคะ”

“ไปเถอะ อย่าให้ถูกจับได้ล่ะ ถ้ามีใครทำร้ายเจ้าก็สู้กลับไปให้แรงเท่าที่จะแรงได้ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าจะรับรองให้เจ้าเอง” ตาของมู่หรงเกือบที่จะปิดอยู่แล้วแต่สาวใช้เป็นคนของเธอจะให้ใครมารังแกไม่ได้

พวกผู้หญิงในวังหลังต่างก็นิสัยไม่ดี เธอกลัวว่าพวกนางจะไม่สนใจสาวใช้ตัวเล็กๆอยู่ในสายตา อีกอย่างช่วงนี้ก็มีคนมากมายที่พยายามจะจัดการเธอด้วย

มู่หรงคิดอยู่สักพักแล้วก็โบกมือเรียก ทหารชุดดำสองคนรีบเข้ามาทันที “ตามนางไป อย่าให้นางได้รับบาดเจ็บ” ถึงแม้สาวใช้คนนี้จะไม่ได้ดีเท่ากับเสี่ยวฉิง แต่ช่วงที่ผ่านมานี้นางก็คอยดูแลเธอมาอย่างดีตลอด ถึงแม้ตอนเริ่มต้นจะไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรแต่เธอก็มองว่านางเป็นคนของเธออยู่ดี

สาวใช้ตรงไปที่ตำหนักของเหล่านางสนมในวัง เธอเห็นกลุ่มของผู้หญิงกำลังคุยกันอยู่ที่สนาม เธอรีบหลบอยู่ในมุมทันที ตั้งใจที่จะแอบฟังว่าผู้หญิงขององค์จักรพรรดิกำลังคุยอะไรกัน

ทหารลับสองนายที่องค์จักรพรรดิสั่งให้มาคุ้มกันพระมเหสี เผื่อมีคนของตำหนักหลังเข้ามาทำร้ายมู่หรงเสวี่ย บวกกับอีกสองนายที่มู่หรงสั่งให้ออกมา ดังนั้นจึงมีทหารลับสี่นายแต่แน่นอนว่าสาวใช้ไม่รู้ตัวเลยสักนิด

ในตอนนี้แม่นมหลิวของหลิวจือหลิงที่กำลังเดินเข้ามาในสวนสังเกตเห็นร่างของสาวใช้ เธอหันไปมองที่สนมที่อยู่ในสนามและเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น พระมเหสีคงจะรู้เรื่องนี้แล้วแน่ๆ เธอรีบร้องออกมาทันที “กล้าดียังไง เจ้ามาจากตำหนักไหนกันเนี่ย? มาทำลับๆล่อๆอะไรอยู่นี่?” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาค่อนข้างที่จะดังซึ่งทำให้สาวใช้รู้สึกกลัวและตกใจ

เหล่าสนมที่อยู่อีกฝั่งของสนามเองก็ได้ยินด้วยเช่นกัน พวกนางต่างก็สีหน้าซีดเผือดเมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่จึงรีบลุกขึ้นและวิ่งมาทันที

แน่นอนว่าเมื่อเห็นใบหน้าของสาวใช้ สีหน้าของพวกนางก็ไม่สู้ดีเท่าไร คนที่เคยไปตำหนักของพระมเหสีต่างก็รู้ดีว่านี่เป็นสาวใช้ที่อยู่ข้างกายพระมเหสี

“ถวายบังคมเหล่าพระสนม” สาวใช้ทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม

“เจ้ามาทำลับๆล่อๆอะไรที่นี่?” หนึ่งในพวกนางถามออกมา

นางได้ยินไปมากแค่ไหนนะ ในหัวใจของพวกเธอต่างก็คาดเดาไปต่างๆนานา

สาวใช้ถอนหายใจในความโชคร้ายของตัวเอง เธอยังไม่ได้ยินอะไรเลยแต่ก็ถูกจับได้ซะก่อน “ข้ากำลังจะกลับแล้ว ข้ามาเก็บเครื่องหอมให้กับพระมเหสีเพคะ” มาเก็บเครื่องหอมก็หมายถึงการมาเก็บดอกไม้ เธอไม่ได้โง่ ถ้าตอนนี้เธอไม่พูดถึงพระมเหสี เธอคงต้องตายแน่ๆ

สีหน้าของเหล่าสนมที่มองมาไม่ค่อยดีเท่าไร พวกนางต่างก็มองหน้ากันเองไปมา พวกนางเป็นแค่นางสนม ต่อให้พระมเหสีทำเรื่องที่ผิดพลาดแบบนั้นจริงๆ แต่ตราบใดที่พระองค์ยังไม่ลงจากตำแหน่งก็สามารถที่จะจัดการพวกเธอได้ทุกเมื่อ

แต่สิ่งที่พวกเธอเพิ่งจะคุยกันเมื่อกี้ ถ้าพระมเหสีรู้เข้าก็เกรงว่าพวกเธอคงจะจบไม่สวยอย่างแน่นอน สาวใช้คนนี้ดูเหมือนจะเป็นสาวใช้ของพระมเหสี พวกนางต่างก็สีหน้าไม่ค่อยจะดีเท่าไร และต่างก็มีความรู้สึกปั่นป่วนที่ไม่ดีเท่าไรด้วย

“ไร้สาระ แล้วดอกไม้อยู่ที่ไหน ทำไมเจ้าต้องมาเก็บถึงที่นี่ด้วย?” หนึ่งในพวกนางพูดออกมา

สาวใช้หัวเราะออกมา “พระมเหสีสั่งมาเป็นพิเศษ” ต่อให้พระมเหสีไม่ได้สั่ง แต่ยังไงซะคนที่จะจัดการผู้หญิงพวกนี้ได้ก็มีแต่เจ้านายของเธอ เมื่อเธอกลับไปเธอจะไม่ยอมรับผิดเอง เธอยอมที่จะให้พระมเหสีลงโทษดีกว่าตกอยู่ในน้ำมือของคนพวกนี้

“แล้วจะทำยังไงดี?”

“ฆ่านางซะ ไม่งั้นพวกเรานี่แหละที่จะต้องตาย”