ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

**บทที่****188:**จินยินถงเที่ย

“ฮือ!” หานหลิงเฟิงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าอ้วนพร้อมกล่าวว่า “เจ้าบัดซบนั่นเป็นหนึ่งในศิษย์ของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินที่เพิ่งมา ทั้งสี่คนนั้นเรียกตนเองว่า จินยินถงเที่ย เจ้าคนผู้นี้เป็นพี่น้องลำดับที่สองของเที่ย!”

“น้องชายของเที่ย?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินดังนั้น เขากล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “เชื่อข้าเถอะ น้องชายของมันเป็นเพียงเนื้อไก่ชิ้นหนึ่งเท่านั้นและตอนนี้ถูกทำลายโดยข้าแล้ว!”

“สถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” หานหลิงเฟิงไม่อาจช่วยได้นอกจากอธิบาย “แม้ว่าเจ้าจะทำให้เขากลายเป็นคนพิการ แต่ว่าเขายังมีพี่ชายอีกสามคนซึ่งเป็นถึงอาจารย์ลุงระดับจินตัน อีกทั้งยังมีคุณชายใหญ่กับคุณชายรองคอยปกป้องเขาอยู่ เจ้าสร้างปัญหาใหญ่ให้กับตนเองแล้ว!”

“คุณชายใหญ่กับคุณชายรอง?” เจ้าอ้วนถามออกไปด้วยความสับสน “นี่มันเรื่องอะไร พวกเขากำลังเล่นอะไรกันอยู่?”

“พวกเขาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรไปยุ่งเกี่ยว ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินที่เพิ่งมาใหม่นามสกุลจิน เขาเป็นสองพี่น้องที่ให้ผู้อื่นเรียกพวกเขาว่าคุณชายใหญ่กับคุณชายรอง” หานหลิงเฟิงอธิบาย “พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนประเภทเพาะกาย ว่ากันว่าเคล็ดวิชาที่พวกเขาใช้ฝึกตนนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก มันแข็งแกร่งมากในการต่อสู้ นักบวชฮัวอวิ๋นนั้นได้ต่อสู้กับพวกเขามาก่อน แม้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะหนึ่งในนั้นได้ แต่เขาจะพ่ายแพ้ถ้าหากต้องต่อสู้กับทั้งสองคนพร้อมกัน! อีกทั้งในตอนนี้เทพธิดาเหมยฮวายังเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝนเป็นเวลาร้อยปี นักบวชฮัวอวิ๋นถูกจัดการลงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เขาอยู่ตัวคนเดียว เหล่าศิษย์ของคุณชายใหญ่กับคุณชายรองจึงทำตัวเป็นอันธพาลยิ่งขึ้น พวกเขามักจะเดินไปรอบลานของสำนักเพื่อจัดการกับคนที่อ่อนแอกว่า ทั้งหมดไม่เคยแสดงความเมตตาใดเมื่อลงมือ อา ใช่แล้ว อาจารย์ลุงฉิงเฟิงซีของเจ้าเพิ่งกลับมายังสำนักเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และไม่สามารถอดทนต่อการกระทำของคุณชายทั้งสองได้ ในตอนสุดท้ายเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบจะพิการ!”

“อะไรนะ?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจัดพร้อมกับถามต่อทันที “เหตุใดท่านอาจารย์ลุงฉิงเฟิงซีจึงบาดเจ็บสาหัส?”

“ตอนนี้เขาปลอดภัยแล้ว แต่แน่นอนว่าจะต้องนอนเฉยไปหลายสิบปี ในตอนแรกเขาพยายามจะก้าวเข้าสู่ระดับจินตัน แต่ในตอนนี้เขาจะต้องล่าช้าออกไปอีกสิบปี! นอกจากนี้ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้เกิดรอยแผลในจิตใจของเขา ซึ่งมันส่งผลต่อการเข้าสู่ระดับจินตันอีกด้วย!” หานหลิงเฟิงกล่าวอย่างสงสาร “ว่ากันว่าในตอนแรกเขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ แต่ในตอนนี้โอกาสนั้นน้อยนิดเหลือเกิน!”

“เจ้าตัวบัดซบ!” หลังจากที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขากลายเป็นสีเขียวเพราะความโกรธจัด ภายในสำนักเสวียนเทียนแห่งนี้มีเพียงฉิงเฟิงซีเท่านั้นที่เป็นอาวุโสคนเดียวที่คอยปกป้องเขา ในตอนนี้เขาบาดเจ็บหนักและผลกระทบของมันมากเกินไป เมื่อรู้เช่นนี้เขาจะเก็บงำความโกรธนี้ไว้ได้อย่างไร?

ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังถูกไฟแห่งความโกรธถาโถมและคิดที่จะค้นหาบางคนเพื่อระบายความแค้นนี้ เขามองออกไปยังประตูด้านนอกมองสิ่งที่เขาเพิ่งส่งมันออกไปเมื่อครู่นี้ ในตอนนี้มีบุคคลสามคนกำลังเดินเข้ามาภายในลาน

ทั้งสามคนสูงกว่าแปดฟุต ศีรษะของพวกเขาโล้นและล้าน แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะไม่ได้ดีไปมากกว่าเจ้าอ้วนเท่าไหร่ แต่เจ้าอ้วนสามารถกล่าวได้ว่าพวกเขาทั้งหมดแข็งแกร่งมาก ถ้าหากเปรียบเจ้าอ้วนเป็นหมี พวกเขาดูราวกับพยัคฆ์

สำหรับทั้งสามคนที่เพิ่งเดินเข้ามา หนึ่งในนั้นที่อยู่ทางด้านซ้ายตะโกนออกมา “จงออกมารับความตายของเจ้าซะ!”

“ใครทำให้น้องของข้าบาดเจ็บ จงออกมาแต่โดยดี!” อีกคนที่อยู่ทางด้านขวาตะโกนออกมา แต่ผู้ที่อยู่ตรงกลางไม่ได้กล่าวสิ่งใดมีเพียงใบหน้าที่เคร่งขรึมเท่านั้น

ในขณะที่หานหลิงเฟิงเห็นเช่นนั้น นางรีบกล่าวออกมาอย่างตกใจ “แย่แล้ว! พวกนั้นคือพี่ชายทั้งสามในกลุ่มจินยินถงเที่ย บุคคลที่ยืนอยู่ตรงกลางเป็นลำดับที่หนึ่งชื่อจิน อีกคนที่อยู่ฝั่งซ้ายเป็นลำดับที่สามชื่อถงและคนที่ยืนอยู่ด้านขวาเป็นลำดับที่สี่ชื่อเที่ย พวกเขามาเพื่อแก้แค้นให้กับยินพี่น้องลำดับที่สอง!”

เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความประหลาดใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า ประเสริฐยิ่งนักที่พวกมันมาหาข้าถึงที่ ข้าเพียงแค่กำลังคิดจะไปหาพวกมันเพื่อแก้แค้นอยู่เช่นกัน!” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาดันร่างกายของหานหลิงเฟิงออกเบา ๆ และเดินออกไปที่ลานเพื่อเผชิญหน้ากับบุคคลทั้งสาม

ในขณะที่เจ้าอ้วนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขา เขาหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า ข้าสงสัยเหลือเกินว่าลมอะไรพัดให้คนหัวล้านสี่คนมาอยู่ตรงนี้! มันช่างดูประหลาดเหลือเกิน!”

คนหัวล้านทั้งสี่มองเห็นเจ้าอ้วนและไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงกล่าวอะไรเช่นนี้

เมื่อทั้งสามเข้าใจความหมายของคำพูด พวกเขาโกรธจัดทันที จินซึ่งเป็นพี่ใหญ่คำรามออกมา “สุกรตัวนี้หลุดออกมาจากที่ใดกัน เจ้าอยากจะเล่นสนุกกับข้า? เหนื่อยแล้วหรือกับชีวิตนี้?”

“ข้าเบื่อที่จะใช้ชีวิตแล้ว เพราะว่ามีเหล่าคนหัวล้านเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ของข้า!” เจ้าอ้วนโต้กลับอย่างเฉยเมย

แม้ว่าเขาจะมีท่าทีที่ไม่สนใจ แต่เจ้าอ้วนได้เตรียมระฆังทองแดง ดาบแห่งธาตุทั้งห้าพร้อมด้วยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขา แน่นอนว่าเขาได้คาดการณ์ว่าทั้งสามคนจะต้องโจมตีเข้ามาด้วยความโกรธ

เมื่อทั้งสามคนได้ยินเช่นนั้น ไม่ผิดไปจากที่เจ้าอ้วนคิด พวกเขาทั้งหมดโกรธจัดทันที ทั้งสามไม่กล่าวอะไรต่อนอกจากคำรามออกมาอย่างโกรธจัดพร้อมทั้งเรียกใช้งานวิชาของตนเอง ร่างกายของพวกเขากลายเป็นสีทองดั่งเช่นทองคำพร้อมกับเปล่งประกายออกมาทั่วบริเวณ

นี่คือวิธีการฝึกตนของผู้ฝึกตนประเภทเพาะกาย ความแข็งแกร่งของร่างกายพวกเขานั้นน่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดา ซึ่งความแข็งแกร่งของมันสามารถเทียบเท่ากับสมบัติวิเศษได้ จากนั้นพวกเขาทั้งหมดจะวิ่งไปข้างหน้าเพื่อมอบความตายให้กับศัตรูด้วยความแข็งแกร่งและความเร็วทั้งหมดที่มี

เพียงแค่ในขณะที่พวกเขากำลังเรียกใช้วิชาของตนเอง เจ้าอ้วนได้เรียกใช้งานอสนีวารีขั้วลบเพื่อซุ่มโจมตีแล้ว แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำให้พวกเขาตาย แต่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องรู้สึกอับอายขายหน้าแน่นอน

ในขณะที่การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น มีเสียงตะโกนมาจากด้านหลัง “ทุกคนหยุด!” ถัดจากเสียงนั้น เกิดแสงปรากฏอย่างรวดเร็วเป็นผู้ฝึกตนระดับจินตันสี่คนเข้ามาแยกเจ้าอ้วนออกจากตัวบัดซบทั้งสาม

เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับจินตัน เจ้าอ้วนและทั้งสามคนไม่กล้าที่จะหยาบคายและหยุดการกระทำทั้งหมดทันที

เจ้าอ้วนมองเห็นว่าทั้งสี่คน เขาตระหนักได้ทันทีว่ามีสองคนเป็นศิษย์ของนักบวชฮัวอวิ๋นและอีกสองคนเป็นศิษย์ของเป็นฝ่ายของผู้ฝึกตนเพาะกาย เจ้าอ้วนไม่เคยพบเห็นเขามาก่อนจึงคิดว่าน่าจะเป็นศิษย์ของคุณชายใหญ่กับคุณชายรอง

ในขณะนั้นศิษย์ของนักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “จ้าวสำนักเรียกพบพวกเจ้าทุกคน ทั้งหมดจงตามข้ามา!” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขากระพริบตาให้เจ้าอ้วนเพื่อบอกให้สบายใจ

แน่นอนว่าเจ้าอ้วนเข้าใจในความหมายของมันพร้อมกับยิ้มกว้างตอบทันที จากนั้นเขาจึงเก็บสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์และตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ไปกันเถิด!”

เหล่าพี่น้องทั้งสามนี้ไม่อาจขัดคำสั่งของจ้าวสำนักได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงบินเข้าไปยังสำนักชั้นในเพื่อเข้าไปในลานเสวียนเทียน

ระหว่างทางเจ้าอ้วนได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดจากผู้ฝึกตนระดับจินตันทั้งสองคน ในขณะที่เจ้าอ้วนทำให้ยินพี่น้องลำดับที่สองพิการ นักบวชฮัวอวิ๋นกำลังเข้าไปพูดคุยกับคุณชายใหญ่และคุณชายรอง ในตอนสุดท้ายพวกเขาได้รับข่าวว่าพี่น้องลำดับที่สองถูกทำร้าย แน่นอนว่าทั้งสามคนตกใจ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดที่จะเรียกทั้งหมดเข้าพบเพื่อถามไถ่ถึงเหตุการณ์

หลังจากอธิบายว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้นให้เจ้าอ้วนฟังแล้ว ผู้ฝึกตนระดับจินตันแอบกำชับเจ้าอ้วน “หลังจากที่เจ้าเข้าไป เจ้าพูดได้ทุกสิ่ง ไม่ต้องกลัว จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกเราจะปกป้องเจ้า!”

เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขารู้ถึงสถานการณ์ที่กำลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจว่านักบวชฮัวอวิ๋นต้องการให้เขาสร้างความวุ่นวาย แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบวิธีนี้เท่าไหร่นัก แต่ในตอนนี้เขาอยู่ในหมากกระดานนี้เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งเขายังไม่สามารถกล่าวขอโทษต่อยินได้ อีกฝ่ายมุ่งร้ายต่อหานหลิงเฟิง เพียงแค่โชคชะตาที่เขาต้องพบเจอมันโชคร้ายกว่าความตาย ดังนั้นเขาจึงทำความเคารพผู้ฝึกตนระดับจินตันเป็นสัญญาณว่าเขาจะให้ความร่วมมือ

เมื่อเห็นไหวพริบของเจ้าอ้วน ผู้ฝึกตนระดับจินตันได้แต่ยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่พร้อมกับแอบยกนิ้วโป้งให้กับเจ้าอ้วนอย่างลับ ๆ หลังจากนั้นทั้งสองจึงเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทั้งหมดได้เดินทางมาถึงห้องโถงใหญ่ ในขณะนั้นมีหลายคนอยู่ภายในนั้น บุคคลที่นั่งอยู่บนแท่นกลางห้องแน่นอนว่าต้องเป็นนักบวชฮัวอวิ๋น ในตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ดีและพยักหน้าให้กับเจ้าอ้วนด้วยรอยยิ้มประหนึ่งมิตรสหาย

ด้านขวาล่างมีอาวุโสอยู่สองคน หนึ่งในนั้นมีรูปร่างที่ผอมบาง อีกคนที่อยู่ด้านข้างดูอ้วนกว่าเล็กน้อยแต่ก็ยังถือว่าผอมและดูอ่อนแออย่างมาก

แต่ยิ่งพวกเขาปกปิดมากเท่าไหร่เจ้าอ้วนยิ่งรู้สึกประหลาดใจในร่างกายของผู้ฝึกตนเพาะกาย พวกเขาสามารถปรับขนาดของร่างกายตนเองได้เมื่อบรรลุการฝึกตนทั้งหมดแล้ว ในตอนเริ่มแรกร่างกายของพวกเขาจะสูงใหญ่และหนาดังเช่นสี่พี่น้องจินยินถงเที่ย

หลังจากที่สำเร็จในการฝึกฝนแล้ว ร่างกายของพวกเขาจะกลับสู่สภาพเดิมในตอนต้น แต่ความแข็งแกร่งยังคงอยู่ แน่นอนว่าอาวุโสทั้งสองที่อยู่ตรงหน้าของเขามีความแข็งแกร่งอย่างมาก ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงไม่กล้าที่จะหยาบคายกับพวกเขา

นอกเหนือจากสามคนนี้แล้ว มีศิษย์ระดับจินตันอีกสี่คนที่เป็นคนรับใช้อยู่ข้างๆ แต่หนึ่งคนที่ดูจะพิเศษมากกว่าคนอื่นก็คือฉุ่ยจิ้ง นางนั่งอยู่บนดอกบัวราวกับว่าหลุดออกไปอีกโลกหนึ่ง แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันยังไม่มีเก้าอี้รองรับ แต่ว่านางมี! แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านางคือบุคคลสำคัญของสำนักเสวียนเทียน

หลังจากที่เจ้าอ้วนพร้อมทั้งสามคนเดินเข้ามา มีคนพาพี่น้องลำดับที่สองมาด้วย ในเวลานั้นมู่ซื่อหรงและดาบเทวะไร้ผู้ต้านแอบเข้ามาและยืนเงียบอยู่ด้านหลังของนักบวชฮัวอวิ๋นเพื่อรอชมการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งสองคนได้รับยาอายุวัฒนะแล้ว และการฝึกฝนของพวกเขาเป็นไปได้ด้วยดี ในขณะนี้ทั้งสองเข้าสู่ระดับปฐมภูมิแล้ว

หลังจากที่เข้ามาแล้วพวกเขาทั้งสองมองหน้าเจ้าอ้วนด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความรักและความเกลียดชัง รักเพราะว่าเจ้าอ้วนสามารถจับกุมตาเฒ่าเฟิงได้ และปลดปล่อยพวกเขาออกจากความทุกข์ทรมาน แต่ก็เกลียดในความโชคดีและรู้สึกอิจฉาอย่างมาก! เหตุใดเจ้ายาจกผู้นี้ที่ไร้ผู้ใดสนับสนุนจึงก้าวหน้าได้ไกลกว่าพวกเขา? เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ทั้งสองรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม!

ในขณะนั้นคุณชายใหญ่และคุณชายรองได้แต่ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นว่ายินถูกลากเข้ามา หลังจากที่ใช้สัมผัสวิญญาณเพื่อตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเขา ทั้งหมดตกตะลึงทันทีพร้อมกับใช้สายตาข่มขู่มองไปที่เจ้าอ้วน!

เจ้าอ้วนขนลุกทันทีเมื่อถูกจ้องมองเช่นนั้นและเริ่มคิดที่จะทำอะไรสักอย่าง เขาตัดสินใจทำความเคารพอาวุโสทั้งหมดทันที “ข้าขอทำความเคารพจ้าวสำนักและอาวุโสทั้งสอง!”