TQF:บทที่ 650 บรรลุ (4)
อาเสียงรู้สึกขบขัน พยักหน้ายิ้มๆให้กับสาวน้อยน่ารักตรงหน้า “น่าจะมีอาหารอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็เป็นงานเลี้ยงน้ำชาที่จัดโดยราชวงศ์ ย่อมต้องมีขนมอร่อยๆให้ทุกคนได้ทานกันอยู่แล้ว ได้ข่าวว่าโอรสและธิดาของเหล่าองค์ชาย ผู้มีฝีมือจากตระกูลต่างๆล้วนเข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชานี้หมด”
พูดจบ สายตาของอาเสียงก็มองไปที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยว ที่จริงทุกคนก็รู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร เกรงว่าเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดคือนาง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้อยู่แก่ใจ นัยน์ตาลึกล้ำของนางส่องประกายอย่างแปลกประหลาด ริมฝีปากได้รูปคลี่รอยยิ้มอย่างมีความหมาย
หยูเฮงน้อยปรบมือเล็กๆของนาง มีประกายแห่งความตื่นเต้นในแววตา ร้องอย่างมีความสุข “ว้าว คนเยอะขนาดนั้นต้องสนุกมากแน่ๆเลย คุณหนู เราก็ไปเล่นด้วยกันสิ”
“ท่านปู่เสียง พี่ชายและพี่สาวจะไปด้วยรึเปล่า” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถามเรียบๆโดยไม่สนใจการเว้าวอนของหยูเฮงน้อย
“คุณชายทั้ง 2 ท่านและคุณหนูก็ได้รับบัตรเชิญเช่นกัน”
“หืม แล้วท่านปู่ทวดและท่านปู่เล็กล่ะ ให้ไปรึเปล่า”
“นายท่านและคุณชายใหญ่บอกว่าให้คุณหนูเล็กเป็นผู้ตัดสินใจ”
“อ๋อ…”
เมื่อทราบความคิดของทุกคนแล้ว เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็หันไปมองท่านย่าที่อยู่ข้างๆ และถามยิ้มๆ “ท่านย่า ท่านคิดว่ายังไง”
“เจ้านี่นะ แล้วแต่เจ้าเถอะ”
ไม่คัดค้านและไม่สนับสนุน ฟางซูหยุนไม่เคยบงการชีวิตให้หลานสาวอยู่แล้ว เพราะนางรู้ว่าหลานสาวมีวิธีจัดการในแบบของตัวเอง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเขาจับปลายผมขึ้นมาม้วนเล่นที่ปลายนิ้ว เรียวปากเป็นเส้นโค้งสวยงาม เผยให้เห็นฟันขาวสะอาด ตาหรี่ลงเป็นเส้น และพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ในเมื่อเราต้องอยู่ที่ชิงยางก็ต้องให้เกียรติเขาหน่อยใช่มั้ยล่ะ อย่างไรซะก็กินฟรี ไม่ไปก็โง่น่ะสิ”
“ใช่แล้วคุณหนู ถ้าอดกินฟรีก็น่าเสียดายแย่”
เมื่อคนโตและคนเล็กตัดสินใจแล้ว ก็รีบออกเดินทางทันที
เมื่อพวกนางมาถึงห้องรับแขก พี่ชายทั้ง 2 และพี่สาวได้แต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอให้พวกนางออกเดินทาง
ถ้าหากพวกนางไม่ไปเกรงว่าพี่น้องทั้ง 3 คนจะผิดหวังมาก
เมื่อบอกลากับเหล่าผู้ใหญ่แล้ว คุณหนูทั้งหลายก็เดินออกมาจากประตูตระกูลฟางท่ามกลางการคุ้มกันจากเหล่าทหารยาม
พวกเขาใช้รถลากสัตว์วิญญาณเดินทางแทนการเดินเท้า เมื่อผ่านไปครึ่งชั่วยามก็มาถึงงานเลี้ยงน้ำชาที่ตำหนักองค์ชาย 3 ในที่สุด
ยื่นบัตรเชิญไป ทหารยามที่เฝ้าอยู่ด้านนอกประตูก็ปล่อยให้เข้าไปทันที เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยได้เข้าไปในตำหนักองค์ชายเป็นครั้งแรก
วังงานเลี้ยงในตำหนักองค์ชายตั้งอยู่ในพระราชวังท่ามกลางป่าไม้ เผยให้เห็นหลังคาแก้วงดงาม ราวกับเกาะสีทองอร่าม
เมื่อมองจากระยะไกลก็จะเห็นว่ามีแสงหลากสีอยู่เต็มไปหมด อร่ามตาราวกับดินแดนสวรรค์ในโลกมนุษย์ วังสวรรค์บนสวรรค์ชั้น 9
งานเลี้ยงน้ำชาที่พระโอรสเป็นเจ้าภาพจัดอยู่ในสวนดอกไม้ด้านหลัง บรรดาดอกไม้แข่งกันเด่น ของล้ำค่าหายากมากมายซ่อนอยู่ในนั้น มีกลิ่นหอมดอกไม้จางๆล่องลอยอยู่ในอากาศ
ตำหนักองค์ชายใหญ่มาก เดินไปตามทางแล้วลอดผ่านป่าดอกไม้แห่งหนึ่งก็จะเห็นคนหนุ่มสาวที่มีท่าทางไม่ธรรมดาอยู่ตามทุกที่ในสวนศาลา
ถึงตรงนี้พืชพรรณนานาชนิดก็ได้เบาบางลงแล้ว มีเพียงต้นหญ้าที่ขึ้นเขียวขจี ด้านหน้ามีทะเลสาบสีฟ้าใสขนาดมหึมา มีปลาคราฟสีเงินกระโดดขึ้นๆลงๆเป็นครั้งคราว
คนส่วนมากในที่นี้ล้วนเป็นผู้มากด้วยฝีมือในวัยหนุ่มสาวทั้งนั้น มีอายุตั้งแต่ 10 กว่าปีจนถึง 20 กว่าปี หน้าตาก็ดูดีไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่เมื่อมองไปก็รู้สึกได้ถึงความพิเศษในทันที รวมถึงท่าทางเย่อหยิ่งและพลังลมปราณอันน่าทึ่ง
การมาของพวกนางดึงดูดสายตาของคนจำนวนมาก บางคนเหมือนจะเดาฐานะของทั้ง 2 คนออก แต่ละคนมีท่าทีตกตะลึง
ตอนนี้ในชิงยางยังมีใครไม่รู้ถึงชื่อเสียงเรียงนามของคุณหนูผู้เป็นญาติของตระกูลฟางบ้าง โดยเฉพาะเหล่าชายหนุ่มที่ถือว่าตัวเองนี้อยู่เหนือคนอื่นที่หาทางเข้าหาพวกนางอย่างไม่ตั้งใจ
เมื่อมาที่นี่ หยูเฮงน้อยมีท่าทีว่านอนสอนง่ายอย่างเหลือเชื่อ นางคอยอยู่ข้างกายเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเงียบๆ ดวงตาสีดำนิลคอยมองดูฝูงชน แต่จริงๆแล้วนางกำลังคุยกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยวอยู่
“คุณหนู คนที่มาที่นี่ไม่น้อยเลยนะ มีหลายร้อยคนเลย”
“แล้วก็นะคุณหนู บนตึกไม่ไกลนี้มีตาแก่หลายคนกำลังจ้องเราอยู่”
“คุณหนู มีผู้ชายหลายคนหมายตาท่านอยู่”
คำพูดของหยูเฮงน้อยดังขึ้นข้างหู เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้แต่ตอบไปทีอย่างไม่ใส่ใจ
ที่จริงสถานการณ์แบบนี้อยู่ในความคาดหมายของนางตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ
“พี่ซีเฉิง น้องซีเสียน คุณหนูฟาง พวกท่านมาแล้วเหรอ”
————————–