”ชูฮัน…”ซางจิ่วตี้ก็เอ่ยเสียงกระซิบออกมาในที่สุด ทันทีที่เธอเห็นชูฮัน เธอก็แทบจะน้ำตาแตก แม้กระทั่งสงสัยว่าตัวเองกำลังฝันอยู่รึเปล่า?
หยางเทียนนั้นประหลาดใจยิ่งกว่าเพราะเขาเผลอกอดแขนของติงซือเย้าที่อยู่ข้างๆโดยไม่รู้ตัวทุกคนต่างตกอยู่ในห้วงอารมณ์ที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้กันหมด บางคนก็ไม่เชื่อตาตัว พวกเขาทั้งตบหน้าและขยี้ตาตัวเองจนแดง
เกาช้าวฮุ่ยก็นิ่งค้างไปขณะหนึ่งเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคนที่ดูตื่นเต้นจนน้ำตาแทบไหลกันเกาช้าวฮุ่ยเขย่าแขนชูฮันขณะเอ่ยถาม “เฮ้ พวกเขาตกหลุมรักนายเหรอ? ทำไมต้องดีใจเกินเหตุอะไรขนาดนี้?”
ชูฮันเมินเกาช้าวฮุ่ยอย่างสิ้นเชิงหากเขาก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นัยน์ตาคู่ดำสนิทมีประกายวาวเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เขาออกไปดิ้นรนอย่างยากลำบากอยู่ข้างนอก ขุมหลุมที่ค่ายต่างๆและเล่นเล่ห์กล แม้แต่ในค่ายหนานตู้ ในตอนที่เขายากลำบากและเหนื่อยล้า เขาก็ยังไม่เคยมีความรู้สึกดำดิ่งลึกอย่างเช่นนี้ตอนนี้มาก่อน
เมืองอันลูคือบ้านที่เขาเติบโตขึ้นมาและเป็นที่ที่เขาต้องการปกป้องเป็นที่ที่เขาต้องการสร้างปฏิหาริย์ขึ้น
เขารวบรวมผู้คนที่มีความสามารถเก่งกาจ คนที่เป็นเลิศที่สุด เขาเกณฑ์คนเหล่านี้มาจากทั่วทั้งจีน
ความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาของเขาเป็นสิ่งที่นำพาค่ายเขี้ยวหมาป่า
กองทัพเขี้ยวหมาป่าที่นำเขาออกมาและเป็นเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เป็นดาบที่คอยฟาดฟันเพื่อความทะเยอทะยานของเขา
ต่อหน้าผู้คนเหล่านี้ยังมีเพื่อนที่นับถือเป็นพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกัน สหายที่เขาฝึกฝนมากับมือเพื่อฆ่าซอมบี้ และเพื่อนพ้องที่มารวมตัวเพราะเหตุผลของแต่ละคน และหญิงสาวอันเป็นที่รักของเขา
ทุกคนอยู่ตรงนี้กันหมดที่นี้คือที่ของเขา!
สายลมเหมือนจะส่งสัญญาณไรผมที่หน้าผากของซางจิ่วตี้ปลิวลู่ไปด้านหลัง และในจังหวะนั้นเองเสียงที่เต็มไปอำนาจก้องกังวาลของชูฮันก็ดังขึ้นอย่างไร้สัญญาณเตือนล่วงหน้า
”เขี้ยวหมาป่ารายงานสงคราม!”
ไม่มีการเกริ่นล่วงหน้าไม่มีวี่แวว ประโยคแรกที่ชูฮันพูดพร้อมกับพลังอำนาจที่แฝงมาในน้ำเสียงทำให้ตกใจตกใจ และในเวลาเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกสะพรึงกลัว นัยน์ตาคู่สีดำสนิทของชูฮันที่ดำดิ่งสะท้อนแววประกายบางอย่าง ชวนให้คนมองรู้สึกราวกับดูดถูกกลืนเข้าไป
สิ่งแรกที่ชูฮันทำหลังจากกลับมาคือถามถึงสงครามและนั้นคือการสร้างความมั่นใจให้ทุกคนรู้ว่าเขี้ยวหมาป่าจะไม่มีวันแพ้ ใครที่มันกล้าจะทำลายพวกเขา พวกมันจะต้องตายโดยไม่ทันได้กระพริบตา! ทางด้านเกาช้าวฮุ่ยนั้นก็แสนจะผิดหวังแม้แต่เจ้า Amaterasu 3000 ที่แสนจะสุดยอดถูกมองข้ามอย่างไม่ใยดี เกาช้าวฮุ่ยเดินตามทุกคนที่พามายังห้องประชุมอย่างล่องลอย เขายืนนิ่งบื้อๆราวกับคนโง่ที่มุมห้อง สายตามองไปที่ชูฮันที่เป็นคนทำให้เขาช็อคอีกครั้ง
เขาไม่เคยเจอคนคนนี้มาก่อนเขาไม่เคยเจอคนธรรมดาที่ทำให้เขารู้สึกแอบกลัวในใจได้มาก่อนเลยในชีวิต และตอนนี้เมื่อได้ยินสิ่งที่คนของชูฮันแสดงความรู้สึกต่อชูฮันออกมา เขาก็รู้สึกได้ถึงปัญหาอย่างหนึ่งในใจตัวเอง
ด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลลึกลับผู้สูงศักดิ์การจะเป็นเพื่อนกับคนธรรมดานั้น มันจะดูตกต่ำมั้ย?
แต่เขาอยากจะเป็นเพื่อนกับชูฮันจริงๆ!
เลือดสงคราม การดิ้นรนท่ามกลางความสิ้นหวัง ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ แต่ตลอดชีวิตของเกาช้าวฮุ่ย เขาไม่เคยเจอประสบการณ์เช่นนี้เลย เขาไม่เคยรู้ว่าการเดือดจนเลือดพล่านมันเป็นยังไง แต่วันนี้ตอนที่ชูฮันยืนนิ่ง ในขณะกลุ่มคนที่มีความสามารถมากมายต่างมองไปที่ชูฮันเป็นทางเดียวพร้อมกับความเคารพบูชา เกาช้าวฮุ่ยที่เป็นประจักษ์พยานกับภาพตรงหน้าก็อึ้งอย่างมาก เพราะความตื่นเต้นและความเคารพอย่างสุดหัวใจที่ทุกคนแสดงออกมาทำให้หัวใจของเกาช้าวฮุ่ยรู้สึกซาบซึ้ง
และตอนนี้ที่ชูฮันเอ่ยออกมาคำพูดที่เปล่งอำนาจและรัศมีน่าเกรงขาม ในที่สุดเกาช้าวฮุ่ยก็เข้าใจคำนี้
นี้คือเกียรติยศนี้คือความสง่าราศีของผู้นำใช่มั้ย?
อารมณ์ที่แสนจะซับซ้อนทำให้เกาช้าวฮุ่ยค่อนข้างฮึกเฮิมและหุนหันพลันแล่น ตอนนี้เขาอยากจะเข้าร่วมกับชูฮัน อยากจะทำสิ่งที่เรียกว่างานหนัก
ห้องประชุมในขณะนี้เต็มไปด้วยผู้คนทุกคนรีบมารวมตัวกันเมื่อรู้ว่าชูฮันมาถึงแล้ว รวมถึงเจียงโจวแห่งแผนกวิจัย ซูชิงจากแผนกก่อสร้าง และหลูฮงเชิงจากแผนกผลิตอาวุธทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าน้อยหรือมากเกี่ยวกับสงครามต่างมารวมกันหมด
การกระทำของชูฮันนั้นไร้ซึ่งความกังขาหรือสงสัยจากทุกคนทั้งนั้นความเชื่อใจเต็มเปี่ยมที่ทุกคนมีให้แก่เขานั้นฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก พวกเขาเชื่อว่าหัวหน้าชูฮันของพวกเขาสามารถจัดการทุกอย่างได้หมด
และเป็นการประชุมเร่งด่วนที่เกิดขึ้นกระทันหันทำให้ทุกคนไม่ได้สังเกตเห็นเกาช้าวฮุ่ยลืมแม้กระทั่งวัตถุที่ไม่สามารถระบุตัวตนที่สร้างความแตกตื่นให้หลายคนก่อนหน้านี้ แม้ว่าชูฮันจะไม่ได้แนะนำเกาช้าวฮุ่ยให้ทุกคน แต่เพราะเห็นว่าเกาช้าวฮุ่ยปรากฏตัวพร้อมกับชูฮัน หัวใจและสมองของทุกคนสั่งการให้เปิดรับเกาช้าวฮุ่ยเข้ามาทันทีอย่างอัตโนมัติ
หรือนี้คือคนเก่งกาจอีกคนที่ชูฮันเจอตัว?
งั้นก็มาเป็นส่วนหนึ่งของเขี้ยวหมาป่าด้วยกัน!
”สถานการณ์ของสงคราม…ลูกผสมยังไม่ปรากฏตัวขึ้นเลยสักครั้งเดียวตอนนี้มีซอมบี้ล้อมค่ายเราอยู่มากกว่า 150,000 ตัว มีการฆ่าพวกมันไปไม่น้อย ตอนนี้เราจึงไม่รู้จำนวนที่แน่ชัดของซอมบี้ครับ” นายทหารที่รายงานสถานการณ์ให้ชูฮันเหงื่อแตกพลั่กด้วยความประหม่า เขารู้ว่าการไม่รู้ข้อมูลที่ละเอียดแน่ชัดของศัตรูนั้นเป็นเรื่องที่น่าละอาย “อีกฝ่ายแบ่งกองทัพซอมบี้ไปอีกส่วน ใช้แผนหลอกกองทัพเขี้ยวหมาป่าหายเข้าไปในป่า หลังจากกองทัพเขี้ยวหมาป่าติดกับพวกมันก็จู่โจมล้อมเอาไว้ในหุบเขาในป่าลึกครับ”
”แล้วตอนนี้กองทัพเราเป็นยังไง?”ชูฮันไม่ได้มีความรู้สึกแย่อะไร เขายังคงนิ่งและแผ่อำนาจออกมา
”กองทัพเขี้ยวหมาป่าตอนนี้มีทหารเหลืออยู่800 คนครับ ส่วนทีมนักฆ่าขนนก ทีมความลับของพระเจ้า ทีมหลงยาและฮูหยารวมกันมีทั้งหมด 207 คนครับ เหอเฟิงมีความสามารถในการบัญชาการ ทว่าเขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ตอนนี้อาวุธและทรัพยากรของเราขาดแคลนอย่างหนัก นอกจากที่เหมิงชีเหว่ยและทีมหน่วยข่าวกรองลับส่งมาสำรองด้วยเฮลิคอปเตอร์จากค่ายจินหยางห้าลำแล้ว ก็ไม่มีความช่วยเหลืออื่นส่งมาเลยครับ” เสียงของคนที่รายงานสั่นๆ
กองทัพเขี้ยวหมาป่ามุ่งหน้าไปในภูเขาด้วยทหาร1,500 นาย และตอนนี้เหลือเพียง 800 คน ณ จุดนี้ลูกผสมก็ยังไม่ปรากฏตัวขึ้น แสดงให้เห็นถึงจุดวิกฤตหนักที่พวกเขาเผชิญอยู่
นอกเหนือจากความช่วยเหลือที่ได้จากทีมหน่วยข่าวกรองลับแล้วมันก็ยังไม่มีการสนับสนุนหรือความช่วยเหลือจากค่ายไหนเลย ทั้งๆที่เรื่องมันเกิดมาตั้งหลายวันแล้ว!
นัยน์ตาสีดำของชูฮันขุ่นมัว”สถานการณ์ภายในของค่ายล่ะ?”
ทันทีที่ชูฮันพูดออกทุกคนในห้องช็อคค้างกันหมด การที่จู่ๆหัวหน้าชูฮันโผล่มาและถามถึงสถานการณ์ของสงครามและตัวค่าย เป็นไปได้มั้ยว่าหัวหน้ามีตาทิพย์?
แม้แต่ซางจิ่วตี้เองก็ไม่คิดเธอรีบตอบคำถามของชูฮัน “มีเหตุการณ์ที่จู่ๆก็มีซอมบี้ซ่อนตัวอยู่ในค่ายของเรา ทำให้มีการโจมตีกระทันหันเกิดขึ้น และเราก็ยังสืบสวนที่มาไม่ได้”
ยิ่งพูดเสียงของซางจิ่วตี้ก็ยิ่งแผ่วลงเรื่อยๆมันมีการโทษตัวเองรวมถึงความอับอายแสดงออกมาให้เห็นได้ชัด ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นแต่เธอกลับยังหาต้นตอของหนอนบ่อนไส้ไม่เจอเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้!
”มีซอมบี้โผล่มาทั้งหมดกี่ตัวแล้วมีซอมบี้ระยะ 6 มาด้วยมั้ย?” ชูฮันลูบปลายคางขณะถามอย่างสบายๆ
ทุกคนตกใจอีกครั้งตาพวกเขาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า นี้มันเหลือเชื่อ หัวหน้าเดาออกได้ยังไง?
”ค่ะระยะ 6 และมันถูกฆ่าเรียบร้อย” ซางจิ่วตี้ตอบเสียงเบา แววตาคู่สวยสบตากับชูฮัน เหมือนกับเธอจะพึ่งรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แววตาชูฮันเป็นประกายวาว”ดีนี่ ซอมบี้ระยะ 6 มันบีบให้คนที่แข็งแกร่งที่สุดของเราออกมาในสถานการณ์นั้น ถ้าให้ฉันเดา มันคงจะมีซอมบี้ระยะ 6 ปรากฏขึ้นที่จุดอื่นของค่ายด้วยล่ะสิ? ทั้งทางตะวันออกและตะวันตกจนทำให้ทหารของเราระส่ำระส่ายจัดการไม่ถูก นี้ไม่ได้เรียนรู้จากฉันกันเลยเหรอ?”
��