“พูดเหลวไหลอะไร! ซี้ซั้วใส่ร้ายสามีตัวเอง คุณคิดจะทำอะไร!”
สายตาซินชานจะพ่นไฟออกมาได้แล้ว เขาคิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่าภรรยาเขาจะกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้แล้ว ในเมื่อสงสัยเขาแบบนี้ ถ้าพูดออกไป หน้าที่การงานเขาจะเป็นยังไง? ไม่แน่อาจจะมีเรื่องได้
“งั้นทำไมไม่กลับมา? ไม่กลับมาก็คือมีคนอื่นอยู่ข้างนอก!”
ซุนหม่านเซียงเริ่มกลัว แต่ไม่ยอมลดรา หลายปีมานี้ เธอชินที่เขาเชื่อฟังเธอมาตลอด ชินที่ซานยอมเธอ จากหงุดหงิดเล็กน้อยก็กลายเป็นมากขึ้น กลายเป็นนิสัยเธอแบบตอนนี้
“ไม่มีเหตุผล! ผมจะกลับไปอยู่ที่หมู่บ้านเกษตร ไม่ได้กลับไปตั้งนานแล้ว พ่อแม่ผมคุณไม่เยี่ยม แต่ผมต้องเยี่ยม”
ซินชานพูดประโยคนี้จบก็ไม่สนใจเสียงร้องของซุนหม่านเซียง เขาเดินออกไปกับซินห้าวและเฉินเยี่ยน
ลงบันไดมา เฉินเยี่ยนยังได้ยินเสียงร้องได้และเสียงด่าแว่วๆ ของซุนหม่านเซียงอยู่เลย
หันหลังกลับมามอง บ้านหลังนี้ เธอรู้สึกอัดอั้นตันใจ ก่อนมาเธอคิดไว้แล้วว่าซุนหม่านเซียงไม่ชอบเธอ จะแกล้งเธอ แต่เธอไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเธอจะมาเจอซุนหม่านเซียงแบบนี้ ทำให้เธอประหลาดใจจริงๆ
“เฮ้อ ตอนอายุยังน้อยถึงแม้ว่าเธอจะขี้โมโห แต่ก็ไม่ได้ไม่มีเหตุผลขนาดนี้ กลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ”
ซินชานก็หันหลังกลับเช่นกัน เขาถอนหายใจ เหมือนตอนที่ภรรยายังอายุน้อยในแววตายังระยิบระยับเป็นประกาย ดวงตาของเธอเหมือนพูดได้ พอมองเขา ก็ทำให้เขาใจเต้นแรง จนคิดว่าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ
พ่อแม่บอกว่าเขาไม่ควรแต่งกับหญิงในเมือง โอหังเกินไป ไม่เหมือนพวกเขา แต่เขาไม่ฟัง เขาคิดว่าซุนหม่านเซียงอะไรก็ดีไปหมด
ซุนหม่านเซียงขี้โมโห เขาคิดว่าน่ารักดี ซุนหม่านเซียงรังเกียจหมู่บ้านเกษตรกร เขาก็คิดว่าปกติ เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน ซุนหม่านเซียงทำอาหารไม่เป็น ทำงานไม่เป็น งั้นเขาทำเอง ขอแค่เธอยอมแต่งกับตัวเองก็พอ
แต่ตอนนี้เป็นแบบนี้หรือ? ความสุขของพวกเขาล่ะ? ใช่ชีวิตที่เขาอยากได้หรือเปล่า?
ความสุขในชีวิตเหมือนพังทลายไปแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากกลับบ้าน
ซินห้าวก็หันกลับมาดู ก่อนหน้านี้เขาหวังว่าที่นี่จะให้ความอบอุ่นกับเขา แต่ไม่มีเลย
ตอนนี้ออกมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้กลับมาจะเป็นอย่างไร อารมณ์แบบไหน
ซินห้าวเหลือบมองเฉินเยี่ยน สายตาดูอ่อนโยน มีเฉินเยี่ยนเคียงข้างเขา ต่อจากนี้เขาจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว
“ไปเถอะ”
ซินชานส่ายหน้า ช่วงนี้เขาไม่อยากกลับมาแล้ว นอกจากทำงาน ก็จะกลับไปดูพ่อแม่ พ่อแม่อายุมากแล้ว ถึงแม้ร่างกายจะแข็งแรงดีอยู่ แต่พวกเขาก็หวังจะให้เขากลับไปอยู่ดี
“คิดจะทำอะไรก็ทำเถอะ พ่อสนับสนุนลูก หลายปีมานี้ พ่อก็ไม่รู้ว่าแม่ลูกเป็นอะไรไป แล้วซูเหม่ยลี่นั่น ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี แต่พ่อมักจะรู้สึกว่าเธอ จะพูดยังไงดีนะ ในใจเธอกับการแสดงออกของเธอไม่เหมือนกัน ในเมื่อลูกชอบเฉินเยี่ยน ก็ทำดีกับเธอ พ่อมองออก เธออยากจะใช้ชีวิตกับลูกด้วยใจจริง พวกลูกแต่งงานกันอยู่ข้างนอกก็ดีเหมือนกัน แต่มีเวลาว่างก็กลับมาเยี่ยมบ้าง ไม่ว่ายังไง เธอก็คือแม่ของลูก”
ซินชานฝากฝังกับซินห้าวตอนที่กำลังจะแยกกับซินห้าวและเฉินเยี่ยนในอำเภอ
ซินห้าวพยักหน้า
เฉินเยี่ยนก็ยิ้มให้ซินชาน เธอรู้ว่าซินชานยอมรับเธอแล้ว
ซินห้าวขี่พาเฉินเยี่ยนกลับ
ระหว่างทางทั้งสองคนคุยกันมากมาย วันนี้เป็นแบบนี้แล้ว พวกเขาตัดสินใจทำตามที่พวกเขาพูด แต่งงานที่บ้านใหม่ของซินห้าว หลังแต่งงานแล้วพวกเขาอยากจะอยู่ที่ไหนก็อยู่ที่นั่น
ทั้งสองคนปรึกษากันเรื่องกำหนดวันแต่งงานไว้เดือนแปด หลังแต่งงาน เฉินเยี่ยนอยากทำอะไร ซินห้าวก็ไม่ห้าม เขาจะสนับสนุนเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนพิงไหล่ซินห้าว ตั้งแต่นี้ต่อไป ไม่เพียงแต่ซินห้าวสนับสนุนเธอ เธอก็สนับสนุนซินห้าวด้วยเช่นกัน เธอและซินห้าวจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน จับมือก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
“แวะไปดูที่โรงงานหน่อย แล้วค่อยกลับนะคะ”
ตอนที่ใกล้ถึงโรงงานม้วนบุหรี่ เฉินเยี่ยนพูดกับซินห้าว หลายวันก่อนมีคนสั่งบุหรี่มาไม่น้อย เธอจะไปดูว่าผลิตเป็นยังไงบ้าง
“ได้สิ”
ซินห้าวพยักหน้า ไปที่ไหนกับเฉินเยี่ยนก็ดีทั้งนั้น
มาถึงหน้าโรงงานม้วนบุหรี่ เฉินเยี่ยนมองดู ไม่เห็นลุงยามที่หน้าประตู เวลาปกติลุงยามจะอยู่หน้าประตู ไม่ปล่อยให้คนนอกเข้าได้ วันนี้ทำไมไม่อยู่?
ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนเข้าไปในโรงงาน มีเสียงร้องไห้ระงมดังขึ้นมา
ไม่ดี เกิดเรื่องแล้ว
เฉินเยี่ยนรีบกระโดดลงจากรถ ซินห้าวก็รีบเบรกรถ จอดรถนิ่งแล้ว เดินตามหลังเฉินเยี่ยนไป
ทั้งสองคนเดินตามเสียงร้องไห้และเสียงโวยวายไป
เสียงฝีเท้าเฉินเยี่ยนดูเร่งรีบ ทะเลาะกับฝั่งบ้านซินมายกหนึ่แล้ว เดิมทีคิดว่าจะกลับมาดูบุหรี่ พ่อแม่จะได้ดีใจ กลายเป็นเธอมีเรื่องหนักใจอีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าโรงงานจะเกิดเรื่อง มาเป็นระลอกระลอกจริงๆ หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่
เฉินเยี่ยนและซินห้าวเจอต้นตอของเสียงแล้ว เป็นส่วนที่ทำอาหาร
ที่ตรงนี้มีสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นครัว อีกห้องเป็นห้องพักผ่อน
ทำไมถึงได้เกิดเรื่องที่นี่? ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เฉินเยี่ยนคิดถึงแม่หม้ายคนนั้น ในใจเธอรู้สึกไม่สงบขึ้นมา
“คุณยังบอกว่าเปล่า ฉันเห็นกับตาว่าคุณอยู่บนเตียงเธอ เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้า หน้าขายหน้าที่สุด ยังไม่ยอมรับอีก! เฉินจง ฉันตาบอดไปจริงๆ คุณเพิ่งมีเงินเท่าไรเอง เพิ่งมีชีวิตที่สุขสบายมากี่วันคุณก็เริ่มโกหกแล้ว คุณมีผู้หญิงอื่น คุณไม่ต้องการฉันแล้ว คุณทำแบบนี้กับฉันได้หรือ!”
เสียงร้องไห้ เสียงด่าทอทำให้เฉินเยี่ยนชะงักไป เสียงหวางนิว
ก่อตั้งโรงงานขึ้นมา นอกจากตอนแรกที่หวางนิวมาช่วยทำความสะอาดแล้ว เธอไม่เคยมาที่โรงงานเลย มีเรื่องอะไรก็จะให้คนไปแจ้งข่าวเฉินจงหรือเฉินเยี่ยนกลับมา
แต่วันนี้เธอมาโรงงาน ได้ยินเสียงเธอร้องไห้โวยวาย ได้ยินคำพูดพวกนั้นของเธอ เฉินเยี่ยนกังวลใจ
เธอเดินไปแล้วพูดกับตัวเองไปพลาง เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้ เธอรู้จักนิสัยเฉินจงดี เฉินจงไม่มีทางหาผู้หญิงคนอื่น
ใช่ เฉินจงหน้าตาดีมาก ถึงแม้ว่าคนยุคนี้จะยังไม่มีรสนิยมชอบผู้ชายที่แก่กว่ารุ่นลุง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเฉินจงมีเสน่ห์มาก มีผู้หญิงไม่น้อยต่างชอบเขา แต่เฉินจงกลับไม่เคยคุยเล่นกับคนอื่นเลย
ในหมู่บ้านเกษตรกร มีผู้ชายมากมายพูดจาดูถูกสาวน้อยสาวใหญ่ แต่เฉินจงไม่เคยทำเลย
หม่าเหลียนแม่หม้ายคนนั้นตั้งแต่เข้าโรงงานมาก็ทำงานได้ดี มีอะไรให้ช่วยก็ช่วยเหลือคนอื่น แต่เธอรู้ว่าพ่อรักเดียวใจเดียว ไม่คิดมีคนอื่น
พ่อไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่นอน
อีกอย่างนี่ยังเป็นเวลากลางวันอยู่ แล้วให้แม่มาเห็นสภาพแบบนี้ นี่มันไม่ถูกต้อง!
ในพริบตาเฉินเยี่ยนคิดไปมากมาย
มีคนมากมายล้อมอยู่รอบห้อง ต่างกระซิบกระซาบวิจารณ์กัน
“ฉันอยู่กับคุณหลายปีมานี้ ฉันเคยรังเกียจที่ใช้ชีวิตลำบากหรือ? ไม่ง่ายเลยกว่าชีวิตจะสบายอย่างตอนนี้ คุณรังเกียจฉัน คุณรังเกียจฉัน พูดมาสิ คุณหาผู้หญิงคนอื่นลับหลังฉัน คุณจะให้ฉันอยู่ยังไง”
เสียงหวางนิวดังขึ้นมาอีกครั้ง ฟังแล้วน่าเศร้าใจยิ่งนัก
“ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ใช่เรื่องแบบนั้น”
เฉินจงพูดเสียงเบา เสียงเขาดูกลุ้มใจ และมีความโกรธอึดอัดอยู่
“ไม่ใช่เรื่องอะไร! คุณยังหลอกฉันอีก มิน่าทุกวันคุณอยากมาโรงงานขนาดนี้ พอดีมีคนมาอ่อยคุณ คุณจะหาคนใหม่คุณรอให้ฉันตายก่อนสิ คุณไปหาผู้หญิงที่อายุน้อยก็ไป นี่หาแม่หม้าย คุณจะให้ฉันทำตัวยังไง จะให้ลูกฉันทำตัวยังไง”
หวางนิวกลับไม่ฟังคำพูดเฉินจง เธอเห็นกับตา เธอเชื่อสิ่งที่เธอเห็น