เฉินเยี่ยนเดินมาข้างหน้า มีคนเห็นเฉินเยี่ยนแล้ว เลยรีบหลีกทางให้เฉินเยี่ยนและซินห้าว 

 

 

คนงานพวกนี้ไม่รู้จักซินห้าว แต่พวกเขารู้ดี โรงงานม้วนบุหรี่นี้ เฉินจงเป็นหัวหน้าโรงงานในนาม แต่เรื่องทั่วไปอื่นๆ เฉินเยี่ยนเป็นคนตัดสินใจ 

 

 

อีกอย่างมนุษย์ชอบนินทามุงดูเหตุการณ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อยากดูเฉินเยี่ยนเห็นเรื่องอื้อฉาวของพ่อแม่ เห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน เธอจะจัดการยังไง 

 

 

เฉินเยี่ยนเข้ามาข้างใน ในห้องคนไม่เยอะ เฉินจง หวางนิว แล้วยังมีเฉินกุ้ยและหม่าเหลียน 

 

 

นอกจากนั้นยังมีหวางจวน หวางจวนกำลังประคองหวางนิว แต่เธอและเฉินกุ้ยเป็นเด็ก ไม่รู้ควรจะโน้มน้าวยังไง 

 

 

เฉินเยี่ยนมองเฉินจง สีหน้าเฉินจงดูอึมครึม น่ากลัว นัยน์ตาเขาแดง ผมเพ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายุ่งเล็กน้อย 

 

 

ส่วนหม่าเหลียนนั่งอยู่บนเตียง ผ้าปูที่นอนบนเตียงยุ่งเหยิง เสื้อผ้าเธอก็ยับ ก้มหน้าร้องไห้ ไม่พูดอะไรเลย 

 

 

เฉินเยี่ยนเห็นสภาพแบบนี้ในใจหนักอึ้ง ลำคอตีบตัน ไม่ว่าเรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ หวางนิวไม่ควรโวยวายแบบนี้ โวยวายแบบนี้ ทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว อยากจะปิดเงียบก็ทำไม่ได้ แล้วผลต่อมาจะเป็นยังไง? หวางนิวเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เธอน่าจะคิดแค่โมโห 

 

 

“เยี่ยนจื่อ ลูกกลับมาแล้ว มานี่ ลูกมาดูพ่อลูกทำเรื่องน่าอาย!” 

 

 

หวางนิวเห็นเฉินเยี่ยน เหมือนเห็นที่พึ่งทางใจ รีบดึงเฉินเยี่ยน 

 

 

“คุณพูดบ้าอะไร” 

 

 

สีหน้าเฉินจงยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่ 

 

 

เฉินเยี่ยนเดินไปข้าวหน้าประคองหวางนิว เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะพอเดินเข้าไปใกล้เฉินเยี่ยนได้กลิ่นเหล้า ออกมาจากตัวเฉินจง 

 

 

เฉินเยี่ยนมองอีก บนโต๊ะมีกาเหล้า มีแก้วเหล้า เห็นได้ชัดว่าเฉินจงดื่มเหล้า 

 

 

ดื่มเมาแล้วลวนลาม? 

 

 

เฉินเยี่ยนมองหม่าเหลียน เธอสวยมากจริง หวางนิวเทียบไม่ได้แม้แต่น้อยเลย ถึงแม้จะเป็นหวางนิวตอนสาวก็ยังเทียบไม่ได้ 

 

 

แต่เธอเชื่อว่าพ่อเธอไม่ใช่คนแบบนั้น 

 

 

ทุกคนต่างมองเฉินเยี่ยน ดูว่าเธอจะจัดการยังไง  

 

 

“พอแล้ว แม่ พ่อก็แค่ดื่มเหล้าไม่กี่แก้วกับป้าหม่าเอง นี่กลางวันแสกๆ แล้วยังอยู่ในโรงงานอีก จะทำอะไรได้? แม่เข้าใจผิดแล้ว ไม่มีเรื่องอะไร! แม่โวยวายแบบนี้ ชื่อเสียงพ่อกับป้าหม่าก็ไม่เหลือแล้ว แม่กันพ่ออยู่ด้วยกันมาหลายปีขนาดนี้ พ่อเป็นคนยังไงแม่ไม่รู้เหรอ เขาไม่มีทางทำ” 

 

 

เฉินเยี่ยนส่งสายตาไปที่หวางนิว ต้องสกัดกั้นเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เรื่องราวจากนี้จะเป็นยังไง พวกเขาค่อยปิดประตูคุยกัน 

 

 

“เข้าใจผิดอะไร! แม่เห็นกับตาว่าพวกเขาสองคนนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แม่ไม่ได้ตาบอด! พวกเขาจะต้องการชื่อเสียงอะไร กล้าทำเรื่องแบบนี้ พวกเขายังมียางอายบ้างไหม!” 

 

 

หวางนิวกลับไม่มองสายตาเฉินเยี่ยน โมโหตะโกนขึ้นมา วันนี้เฉินจงหักหลังทำเธอเสียใจ สูญสิ้นสติ 

 

 

เฉินจงอยากจะหาถ้ำหมุดเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด 

 

 

“เอาล่ะ ทุกคนแยกย้ายได้แล้ว เดือนนี้ยังมีบุหรี่อีกเยอะที่ยังไม่ได้ม้วนเลย ลูกค้ารออยู่นะ จวนเอ๋อร์ พี่ใหญ่ พวกพี่นำพวกเขาไปทำงานเถอะ” 

 

 

เฉินเยี่ยนสั่ง เธอไม่อยากให้ทุกคนมามุงดูอยู่ที่นี่ เพราะเธอคิดว่าเรื่องนี้มีนอกมีใน เดี๋ยวเธอจะถาม 

 

 

“ไปอะไร ไปไม่ได้! วันนี้ถ้าไม่พูดให้รู้เรื่อง ใครก็ห้ามไป ฉันจะให้ทุกคนได้ดูว่าพวกเขาเป็นคนยังไง ฉันจะดูว่าต่อจากนี้พวกเขาจะอยู่ยังไง” 

 

 

หวางนิวไม่ยอม 

 

 

หวางจวนกับเฉินกุ้ยไม่รู้จะทำยังไง 

 

 

เฉินเยี่ยนบีบมือหวางนิวแน่น หวางนิวกลับไม่รู้สึกเจ็บ มองดูนัยน์ตาแดงก่ำของหวางนิว เฉินเยี่ยนเข้าใจความเจ็บปวดเสียใจของเธอ ความเสียใจแบบนี้ทำให้เธอเป็นบ้าไปแล้ว เธอแค่ต้องการคำอธิบาย แต่ไม่ได้คิดว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง 

 

 

หวางนิวเป็นหญิงชาวเกษตรกร เธอไม่มีความรู้ เธอไม่ยี่หระอะไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอไม่มีความรู้สึก เธอเสียใจไม่เป็น 

 

 

เจอเรื่องแบบนี้ เป็นใครก็รับไม่ได้ เฉินเยี่ยนคิดถึงภาพนั้นที่เธอเจอเฉินเวยและอวี๋เหวยหมิน 

 

 

เฉินเยี่ยนแอบถอนหายใจ 

 

 

“งั้นก็พูดมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” 

 

 

เฉินเยี่ยนไม่เรียกให้คนอื่นไปแล้ว ในเมื่อหวางนิวยืนยัน เธอมีปมในใจ ก็ถามให้ชัดเจนไปแล้วกัน 

 

 

เฉินจงไม่พูดอะไร สีหน้าเขาดูอึกอัก ดูเขินอาย และก็ดูโมโหด้วย 

 

 

หม่าเหลียนเหลือบมองเฉินจง แล้วก็ก้มหน้าลง 

 

 

“ได้ พวกเธอไม่พูด ฉันพูด! ฉันจะให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเธอมันเป็นคนยังไง” หวางนิวชี้ไปที่ทั้งสองคน เธอโกรธจนทนไม่ไหวแล้ว 

 

 

“วันนี้ลูกไปบ้านแม่สามีมาใช่ไหม?” 

 

 

ประโยคนี้ของหวางนิวทำให้สายตาทุกคนต่างมองมาที่เฉินเยี่ยนและซินห้าว ทุกคนประเมินมองซินห้าว ที่แท้ก็เป็นสามีของเฉินเยี่ยนนี่เอง หน้าตาหล่อเหลา แต่ผู้ชายคนนี้ยังไม่ได้แต่งงานเลย มาเจอเรื่องแบบนี้ ช่างน่า… 

 

 

“พวกลูกไปแล้ว แม่ก็ทำงานที่บ้าน ตอนเที่ยงพ่อลูกไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน แม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงที่โรงงานก็มีข้าว เขาคงไม่หิวหรอก แม่กำลังทำงานอยู่นะ เสี่ยวเวยก็กลับมา เธอตาแดง เห็นก็รู้ว่าร้องไห้มา แม่ถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ให้ตายเธอก็ไม่ยอมพูด สุดท้ายเธออ้ำๆ อึ้งๆ บอกว่าพ่ออยู่ในโรงงาน เธอเห็นอะไร ก็ไม่ยอมบอก แม่ทั้งใจร้อนทั้งโกรธ แม่ว่าเธอ แต่เธอก็ไม่พูด สุดท้ายแม่กังวลว่าพ่อลูกจะเกิดเรื่องอะไร แม่เลยวิ่งไปหา” 

 

 

“ตอนที่แม่มาถึงยังไม่ได้คิดอะไรมาก นึกว่าพ่อลูกเป็นอะไรไป แต่แม่มาถึงนี่ ในโรงงานก็หาพ่อไม่เจอ สุดท้ายแม่มาเจอที่นี่ ประตูไม่ได้ปิดสนิท พวกเขาสองคนนอนอยู่บนเตียงอย่างหน้าไม่อาย เสื้อผ้าไม่ได้ใส่ โล่งโจ้งไม่เหลืออะไร อย่าให้พูดว่าน่าขายหน้าขนาดไหนเลย” 

 

 

“ลูกพูดมา ลูกพูดมา พวกเขาหน้าด้านไหม? คนหนึ่งเป็นแม่หม้าย อยากจะหาสามี ก็ไปหาคนที่เมียตายแล้วสิ ฉันยังมีชีวิตอยู่นะ เธอมาหาเขา เพราะเธออยากใช่ฉันตายใช่ไหม! เฉินจง คุณใกล้จะมีหลานอยู่แล้ว คุณยังทำเรื่องแบบนี้อีก ต่อไปคุณจะไปเดินในหมู่บ้านได้ยังไง คุณไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะลับหลังเอาหรือไง” 

 

 

หวางนิวพูดไปก็ร้องไห้ไป ด่าทอไป อารมณ์รุนแรงมาก 

 

 

ที่แท้ก็มีเฉินเวยมาเกี่ยวข้องนี่เอง สีหน้าเฉินเยี่ยนนิ่งขรึมลง เธอรู้ว่าเฉินเวยไม่พอใจ แต่เธอคิดเป็นพันๆ วิธียังไงก็ไม่คิดว่าเฉินเวยจะไม่ลงมือกับตัวเอง แต่เบนความสนใจไปที่พ่อแม่ แล้วยังถือโอกาสวันนี้ที่เธอไปบ้านซินห้าว เธอคำนวณไว้แล้วว่าตัวเองไม่อยู่บ้าน คิดไว้แล้วว่าหวางนิวเป็นห่วงเฉินจง แล้วคิดถูกต้องว่าหวางนิวเป็นคนวู่วาม 

 

 

เธอวางแผนเรื่องนี้ไว้ว่าพ่อแม่ต้องทะเลาะกันแน่นอน เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะทะเลาะออกมายังไง แบบนั้นเรื่องแต่งงานของเธอและซินห้าวอาจจะต้องเลื่อนออกไป พอเลื่อนออกไป เฉินเวยก็จะคิดว่าตัวเองมีโอกาส เธอไม่อยากให้ตัวเองกับซินห้าวได้แต่งงานกัน 

 

 

เธอทำเพื่อจุดประสงค์นี้ เธอกล้าทำถึงขั้นนี้ เธอไม่คิดเลยว่าถ้าเรื่องนี้ใหญ่โตขึ้นมา ครอบครัวแตกแล้ว พวกเธอจะต้องเจออะไรบ้าง! 

 

 

ในใจเฉินเยี่ยนเย็นชา 

 

 

สายตาเธอมองออกไปข้างนอก ในฝูงคนไม่มีเฉินเวยอยู่ เธอไม่ได้มา นี่คิดจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากข้อสงสัยใช่ไหม? 

 

 

“พ่อ พ่อมีอะไรอยากจะพูดไหม?” 

 

 

เฉินเยี่ยนสงบอารมณ์ลงแล้วถามเฉินจง 

 

 

เฉินจงอ้าปาก อยากจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก 

 

 

“ป้าหม่าล่ะ?” 

 

 

เฉินเยี่ยนมองไปที่หม่าเหลียน 

 

 

“ป้าอะไร เธอมันมือที่สาม! เธออยากจะมาเป็นแม่ของลูก เธอไม่ดูเลยว่าตัวเองคู่ควรไหม! หญิงร่าน หน้าไม่อาย” 

 

 

หวางนิวถุยน้ำลายไปทางหม่าเหลียน เธอยังอยากจะเข้าไปดึงทึ้งหม่าเหลียนด้วย แต่โดนคนดึงไว้ 

 

 

หม่าเหลียนไม่ขยับเลย สีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนเธอต่างหากที่เป็นผู้โดนกระทำ 

 

 

เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเยือกเย็น นี่ก็เฉินเวยอีกคน เล่นละครได้เก่งเหลือเกิน ทำไมตอนนั้นตัวเองถึงได้ตาบอด มองไม่ออกนะ!