กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 992

นอกจากสเตฟานีและคุณนายลูอิสแล้ว ยังมีฮาร์วีย์ที่เป็นคนแรกที่อวยพรให้ชาร์ลีเพื่อขอบคุณสำหรับการที่เขาบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

คนอื่น ๆ ต่างพากันอวยพรเขา ไม่ใช่เพราะการบริจาคเงินให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เพียงเพราะพวกเขาเห็นว่าชาร์ลีดูเป็นคนร่ำรวย

นี่เป็นความแตกต่างกัน บรรดาผู้ที่รีบเร่งร่วมอวยพรให้เขาสำหรับการบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า คนเหล่านั้นที่เพียงแค่อวยพรชาร์ลีก็เพราะพวกเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์กับชาร์ลี

ท้ายที่สุด สำหรับคนทั้งหมดที่นี่ในวันนี้ ใครก็ตามที่สามารถบริจาคเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ ก็ไม่ใช่คนธรรมดาหรือคนทั่วไป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาเข้าใจกันอยู่แล้ว

ชาร์ลีและฮาร์วีย์ดื่มไวน์ด้วยกัน ฮาร์วีย์ถอนหายใจอย่างจริงใจขณะที่เขาพูด “ชาร์ลี ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นว่า วันนี้นายเป็นอย่างไรบ้าง! ฉันรู้สึกเสมอว่านายแตกต่างเมื่อเทียบกับพวกเราที่เหลือ ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงคิดว่านายจะมีแนวโน้มที่ยอดเยี่ยมในอนาคต! ฉันไม่คิดเลย ว่านายจะทำได้จริง ๆ!”

ชาร์ลียิ้มอย่างเฉยเมยก่อนจะพูดว่า “เมื่อก่อนเราทั้งคู่นอนบนไซต์ก่อสร้างด้วยกัน เราคงจะมีความสุขมากถ้าเรามีอาหารพอกินทุกวัน ในทุกเดือนตอนที่เราได้รับค่าจ้าง เราจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยขึ้นนิดหน่อย เราจะซื้ออาหารพิเศษเพิ่มอีกสองจานและเบียร์อีกสองสามขวด และในตอนนั้น ฉันคิดว่ามันเป็นความสุขอย่างมากที่จะได้ดื่มกันในโรงเก็บของไซต์ก่อสร้าง”

หลังจากหยุดชั่วครู่ ชาร์ลีพูดต่อว่า “เพราะประสบการณ์นั้น ในตอนนี้ฉันจึงไม่คาดหวังอะไรมาก แม้ว่าฉันจะกินอาหารที่ดีขึ้น ใส่เสื้อผ้าที่ดีขึ้น หรืออยู่ในบ้านที่ดีขึ้น ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างให้ฉันเท่าไร”

ฮาร์วีย์พยักหน้าอย่างจริงจังก่อนจะพูดว่า “น้องชาย ฉันเข้าใจสิ่งที่นายพยายามจะพูด เราทั้งคู่ทำงานที่เดียวกันและได้รับเงินจำนวนเท่ากันในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม ฉันจะเก็บเงินที่หามาอย่างยากลำบากทั้งหมดเพื่อตัวเองเสมอ เพราะฉันหวังว่าจะได้เปลี่ยนชีวิตด้วยทุนนี้ ในทางกลับกัน นายบริจาคเงินที่หามาอย่างยากลำบากทั้งหมดให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเสมอ ตอนนั้นฉันรู้เลยว่า ไม่มีใครเทียบนายได้ในชีวิตนี้ เพราะนายเป็นคนที่ดีกว่าฉันเป็นมาก!”

หลังจากนั้น ฮาร์วีย์ก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเขาจะหัวเราะและพูดว่า “ความจริงได้พิสูจน์แล้วอย่างชัดเจน ว่าฉันมันไม่มีอะไรเลยจริง ๆ”

ชาร์ลีตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “พี่ชาย อย่าตีค่าตัวเองต่ำเกินไปเลย ตราบใดที่นายทำตัวให้คู่ควรกับโลกนี้ คู่ควรกับความรู้ผิดชอบชั่วดี และเห็นคุณค่าของตัวนายเอง นายจะยังเป็นคนที่มีความสุขมาก แม้ว่านายจะไม่มีทรัพย์สินทางวัตถุมากมายอยู่ในมือก็ตาม ”

หลังจากนั้น ชาร์ลีก็พูดต่อไปว่า “ลองมองไปรอบ ๆ โลกนี้สิ มีเศรษฐีกี่คนที่ทำเงินจากการทำชั่วและเพิกเฉยต่อผิดชอบชั่วดีของตัวเองโดยสิ้นเชิง? มีกี่คนที่จงใจคิดหาวิธีขโมย หยิบฉวย โกง หรือแม้แต่ครอบครองสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเอง มีคนน้อยมากจริง ๆ ที่มีจิตสำนึกที่รู้ผิดชอบชั่วดี!”

แคลร์ฟังคำพูดของชาร์ลีอย่างเงียบ ๆ ตลอดเวลานี้ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าภาพสามีในฝันของเธอกลับคอย ๆ ผุดขึ้นมาในใจของเธอ

แคลร์ประทับใจตั้งแต่นาทีที่เขาตัดสินใจบริจาคเงินให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จนถึงวินาทีที่เขาพูดข้อความแบบนี้

ฮาร์วีย์ดื่มไวน์ไปเล็กน้อยแล้วและแอลกอฮอล์ก็ทำให้จิตใจของเขาขุ่นมัว เขาทำท่าหุนหันพลันแล่น ในเวลานี้ เขาจับมือชาร์ลีขณะพูดด้วยตาสีแดง “ชาร์ลี ฉันมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงมากว่ายี่สิบปี ในที่สุดฉันก็เข้าใจความหมายของชีวิตแล้ว เมื่อฉันคิดถึงมัน ฉันไม่ควรออกไปตั้งแต่แรก เหตุผลที่ฉันไปแลงคาสเตอร์ก็เพราะว่าฉันคิดว่าฉันจะสามารถทำอะไรสักอย่างในชีวิต

ฉันคิดว่าฉันจะสามารถสร้างรายได้และสร้างชีวิตที่ดีให้กับตัวเองได้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยคิดที่จะอุทิศตนให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ฉันเติบโตเลย ตอนนี้ ฉันรู้สึกผิดจริง ๆ พอมองย้อนกลับไปในชีวิตของฉัน…”

ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยขณะที่เขาพูด “ฮาร์วีย์ เรา ต้องดูแลตัวเองก่อนถึงจะดูแลคนอื่นได้ ถ้านายดูแลตัวเองไม่ดีพอ ฉันก็ไม่ต้องการให้นายบริจาคเงินที่นายมีอยู่ในจำนวนจำกัดให้กับสถานเด็กกำพร้า ดังนั้นนายต้องดูแลตัวเองให้ดีก่อน เราทุกคนต่างต้องทนทุกข์มามากแล้วในอดีต และเราไม่มีครอบครัวหรือใครอื่นที่จะสามารถพึ่งพาได้ คนเดียวที่เราพึ่งพาได้คือตัวเราเอง ในเวลาแบบนี้ นายต้องทำตัวเองให้ดีขึ้นก่อน”

ฮาร์วีย์ร้องไห้ออกมาและเขาก็สำลักขณะที่พูดว่า “นี่นายกำลังเกลี้ยกล่อมฉันอยู่ ทีตัวนายเอง ทำไมนายไม่ทำแบบเดียวกันล่ะ? ฉันรู้ ตอนที่คุณนายลูอิสป่วย นายรวบรวมเงินอย่างสิ้นหวัง และมอบเงินทั้งหมดที่นายหามาได้ให้กับคุณนายลูอิส เพื่อให้เธอได้รักษาตัวเธอเอง ทำไมตอนนั้นนายถึงไม่โฟกัสที่จะทำตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นก่อนล่ะ?”

ชาร์ลีตอบอย่างเขินอายว่า “เราต่างก็อยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ฉันเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วในขณะที่นายไม่”

หลังจากนั้น ชาร์ลีก็จับมือแคลร์ก่อนจะพูดกับฮาร์วีย์ว่า “ทุกคนในโอลรัส ฮิลล์ รู้จักชื่อเสียงฉันดีว่าเป็นลูกเขยที่อาศัยอยู่กับภรรยา ภรรยาของฉันทั้งจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม และแม้กระทั่งหลังคาคลุมหัว ฉันไม่ต้องเสียเงินสักเพนนีเดียวในการอยู่ กิน ดื่ม หรือแม้แต่ทำให้ร่างกายอบอุ่น เพราะฉันมีภรรยาที่ดีแบบนี้ ดังนั้น มันคงไร้ประโยชน์สำหรับฉันที่จะมีเงินมาก”

เมื่อชาร์ลีจับมือเธอ แคลร์ก็กระสับกระส่ายเล็กน้อย

เมื่อเธอได้ยินคำพูดของชาร์ลี เธอรู้สึกซาบซึ้งมาก

เธอรู้สึกราวกับว่าเธอเริ่มเข้าใจสามีของเธอมากขึ้นในเวลานี้

ในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกว่าสามีของเธอเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ

ในอดีต เธอเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนที่หมดหนทาง ไร้ประโยชน์ และไม่มีความทะเยอทะยานเลย เธอคิดว่าสามีของเธอเป็นคนไร้ค่าที่ไม่กล้าแม้แต่จะตอบโต้การดูถูกหรือทุบตี

แต่ตอนนี้ แคลร์รับรู้ได้ว่าสามีของเธอช่างลึกซึ้งและละเอียดกว่าที่เธอคิด