ในขณะที่บริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นกำลังทำพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่นั้นธุรกิจอีกฟากหนึ่งของหลิงหยุนก็กำลังทำพิธีเปิดอีกครั้งอย่างมีชีวิตชีวาเช่นกัน..
วันนี้หวังหงหยวนดูเบิกบานเป็นพิเศษเพราะร้านเสื้อผ้ากับคลินิกสามัญชนได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งแล้ว เขาพาพนักงานที่ร้านมาช่วยกันติดปะทัดไว้ที่หน้าคลินิกสามัญชน
ญาติของพนักงานที่เสียชีวิตจากการระเบิดครั้งนั้นก็ได้มาร่วมแสดงความยินดีด้วย พวกเขาต่างก็ไม่ติดใจอะไรเพราะหลิงหยุนได้จ่ายค่าชดเชยเป็นที่พึงพอใจ อีกทั้งผู้กระทำผิดก็ได้ถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว
นับวันหวังหงหยวนก็ยิ่งมั่นใจว่าตนเองนั้นเลือกติดตามคนไม่ผิดเพราะหลิงหยุนไม่เพียงเก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง แต่ยังเป็นคนที่มีเมตตาจิตมากด้วย อีกทั้งไม่ว่าจะจับธุรกิจอะไรก็เจริญก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว ทุกการกระทำของหลิงหยุนนั้นล้วนตราตรึงอยู่ในใจของหวังหงหยวนไม่รู้ลืม..
แต่ถึงกระนั้นหวังหงหยวนก็รู้ตัวดีว่าตนเองนั้นเป็นเพียงแค่คนตัวเล็กๆธรรมดาๆเท่านั้นจึงไม่กล้าที่จะไปร่วมพิธีเปิดบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นที่ยิ่งใหญ่ของหลิงหยุน..
หลังจากไปช่วยติดปะทัดให้ที่คลินิกแล้วหวังหงหยวนก็กลับไปที่ร้านเสื้อผ้าของตนเอง..
“ผู้จัดการหวัง..วันนี้เทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าอย่าลืมจุดประทัดในทิศนั้นด้วยล่ะ!”
เสียงร้องตะโกนของคนผู้หนึ่งดังขึ้นทางด้านหลังของหวังหงหยวนเขาหันกลับไปมองทันที และเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็รีบยิ้มให้พร้อมกับถามขึ้นว่า
“ท่านนักพรตโม่..วันนี้บริษัทเทียนตี้ทำพิธีเปิด ท่านไม่ไปร่วมงานด้วยเหรอครับ”
โม่วู่เตามองหวังหงหยวนพร้อมกับตวัดแส้ในมือขึ้นและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ที่โน่นมีผู้คนมากมายดูช่างโกลาหลวุ่นวาย แล้วก็ยังเสียงดังหนวกหู การไปที่นั่นจะเป็นการทำลายจิตแห่งเต๋าของข้าที่บ่มเพาะมานานเสียเปล่าๆ!”
แต่หากถังเมิ่งกับหลิงหยุนอยู่ด้วยล่ะก็..ทั้งคู่คงต้องรีบแย้งขึ้นทันทีว่า ที่โม่วู๋เตาไม่ไปร่วมพิธีเปิดบริษัทเทียนตี้นั้น ก็เพราะติดใจพยาบาลสาวสวยที่คลินนิกสามัญชนต่างหากเล่า!
จากนั้นโม่วู๋เตาจึงแสร้งร้องบอกกับหวังหงหยวน“การเปิดกิจการเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ทราบว่าที่คลินิกเป็นเช่นใดบ้าง ไม่รู้ว่าจะบูชาเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งได้อย่างถูกต้องหรือไม่?”
หวังหงหยวนได้ฟังจึงรีบตอบไปว่า“ท่านนักพรตโม่ช่างเปี่ยมไปด้วยเมตตา พวกเราเดินไปดูที่คลินิกกันจะดีกว่า!”
ระหว่างนั้นซันยู่วเจียวหลี่จินเหลียน และชางเสี่ยวเหมิง พยาบาลสาวทั้งสามก็ได้มาถึงคลินิกสามัญชนแล้ว และทั้งหมดก็กำลังทำความสะอาดประตูด้านนอกคลินิกอยู่พอดี..
“ท่านนักพรตโม่มาแล้ว..เชิญท่านนักพรตเข้าไปดื่มชาด้านในก่อนค่ะ!”
หลี่จินเหลียนเห็นโม่วู๋เตาเดินเข้ามาจึงรีบเชื้อเชิญให้เข้าไปนั่งด้านในทันที และพยาบาลสาวทั้งสองต่างก็พากันวิ่งไปต้อนรับ เว้นแต่เพียงซันยู่วเจียวคนเดียวเท่านั้น..
“ขอข้าเดินดูรอบๆคลินิกก่อนพิธีเปิดมีวันนี้ไม่ใช่รึ แล้วเหยา…”
โม่วู่เตาพูดได้เพียงแค่นั้นก็นิ่งเงียบไปเมื่อสายตาไปกระทบเข้ากับหน้าอกใหญ่โตของหลี่จินเหลียน..
ชางเสี่ยวเหมิงรีบตอบกลับในทันที“อ่อ.. ท่านนักพรตคงหมายถึงหัวหน้า.. ตอนนี้พี่เหยาลู่กำลังคุยกับแขกอยู่ด้านบน ท่านนักพรตต้องมาพบหัวหน้าเหรอคะ”
โม่วู๋เตารีบส่ายหน้าทันทีและได้แต่คิดในใจว่า ‘ขืนข้าบอกว่ามาพบเหยาลู่ ข้าคงถูกหลิงหยุนจับหักขาแน่ๆ’
“ไม่ใช่..ข้าเพียงแค่มาดูความถูกต้องของพิธีเปิดเท่านั้น…”
…..
บนชั้นสองของคลินิกสามัญชนนั้นมีสาวงามอยู่กันมากมาย ทั้งไป๋เซียนเอ๋อที่มากับฉีเสี่ยวชิงและฉีเสี่ยวหง แล้วก็เหลียงเฟิงอี้ที่มาพร้อมกับฉางหลิง
ส่วนเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั้นหลังจากที่ส่งท่านหมอเสี่ยวแล้วก็ขับรถมาที่คลินิกเพราะเธอเป็นแพทย์ประจำคลินิกสามัญชน ส่วนเสี่ยวเม่ยหนิงนั้นในเมื่อหลิงหยุนอยู่ที่บริษัทเทียนตี้ เธอก็ไม่ยอมมาที่คลินิกอย่างแน่นอน..
นอกจากนั้นก็ยังมีกงเสี่ยวลู่กับซูปิงหยานมาด้วยรวมแล้วทั้งพยาบาลสาวสวยทั้งสามคน
รวมแล้วที่คลินิกสามัญชนมีเหล่าสาวงามมารวมตัวกันถึงสิบสองคนเลยทีเดียว..
เหลียงเฟิงอี้เหลือบมองไปทางบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ครั้งนี้พวกผู้ชายพากันไปฝั่งโน้นกันหมด พวกเขาไม่สนใจที่นี่ แต่พวกเราสนใจนะ!”
จากนั้นเหลียงเฟิงอี้ก็เม้มปากเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า“คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ จะเกิดเรื่องได้มากมายขนาดนี้!”
เหยาลู่ซึ่งผ่านความเป็นความตายมาหลายครั้งตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ใช่ค่ะ.. มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายจริงๆ แต่ตอนนี้จิงฉูก็ได้กลับสู่ความสงบแล้วล่ะ!”
จากนั้นเหยาลู่ก็พูดต่อว่า“คุณหมอเหลียงคะ.. พี่หลิวลี่ใกล้จะคลอดลูกแล้ว ตอนนี้แอดมิตอยู่ที่แผนกสูติของโรงพยาบาลที่คุณหมอทำงานอยู่..”
เหลียงเฟิงอี้เข้าใจได้ทันที“อ่อ.. ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันโทรบอกเพื่อนที่เป็นหมอให้ช่วยดูแลให้!”
เวลาสิบเอ็ดโมงสิบแปดนาที..คลินิกสามัญชนก็ได้จุดปะทัดทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ!
ฉีเสี่ยวหงเดินเข้าไปกระซิบถามเหยาลู่“พี่เหยาลู่คะ.. ทำไมพี่ถึงไม่ไปร่วมงานที่บริษัทเทียนตี้ล่ะคะ”
เหยาลู่หันมามองฉีเสี่ยวหงพร้อมกับยกมือขึ้นลูบไล้ศรีษะของเธอในขณะที่ในใจก็คิดว่า
‘หลิงหยุน..นายก็มีโลกของนาย ส่วนโลกของฉันเป็นโลกของคนธรรมดาๆ..’
โลกของคนธรรมดา!
หญิงสาวหลายคนที่อยู่ที่นี่เวลานี้..ใช่ว่าพวกเธอจะไม่อยากไปร่วมแสดงความยินดีกับหลิงหยุน เพียงแต่พวกเธอไม่กล้า!
เหยาลู่ก่อนที่จะมาเจอหลิงหยุนนั้นก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวฐานะยากจนคนหนึ่ง..
กงเสี่ยวลู่ก็เป็นเพียงแค่ครูในโรงเรียนมัธยมจิงฉูตำแหน่งสูงสุดก็แค่ครูประจำชั้น..
ฉางหลิงก็เป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนมัธยมที่มีฐานะปานกลางเท่านั้น..
ซูปิงหยานเองก็เป็นเพียงแค่เจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เล็กๆแห่งหนึ่ง..
ส่วนฉีเสี่ยวชิงกับฉีเสี่ยวหงนั้นยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะฐานะก็ยากจนไม่ต่างจาเหยาลู่..
เหลียงเฟิงอี้นั้นดูเหมือนจะเหนือกว่าหญิงสาวคนอื่นๆแต่ถึงกระนั้นก็เป็นเพียงแค่ศัลยแพทย์ธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ละคนต่างก็ไม่ได้มีภูมิหลังครอบครัวที่ใหญ่โตพวกเธอเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปของโลกใบนี้เท่านั้น หากไปอยู่ในงานที่ใหญ่โตเช่นนั้น ก็แทบไม่รู้ว่าจะต้องแนะนำตัวเองว่าอะไรด้วยซ้ำ!
เมื่อครั้งที่หลิงหยุนเปิดคลินิกสามัญชนพวกเธอต่างก็เคยรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่ออยู่ในงานมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เวลานี้หลิงหยุนร่ำรวยมีเงินกว่าหมื่นล้าน แม้แต่คนใหญ่คนโตหลิงหยุนยังคุยด้วยราวกับไม่มีอะไร..
หญิงสาวทุกคนเหมือนจะรู้ฐานะของตนเองดีจึงไม่มีใครกล้าไปร่วมงานเปิดบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของหลิงหยุน!
หลิงหยุนเติบโตก้าวหน้ารวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้หลังจากเปิดคลินิกสามัญชนแล้ว มีใครบ้างที่คิดว่าหลิงหยุนจะสามารถเปิดธุรกิจใหญ่โต และประสบความสำเร็จได้สูงเช่นนี้
ที่นั่นมีหนิงหลิงยู่หลินเมิ่งหาน เกาเฉินเฉิน เสี่ยวเม่ยหนิง เฉิงเมี่ยน ซูหลิงเฟย.. ยังมีหลิงซิ่วจากปักกิ่งอีก แต่ละคนล้วนมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา
และหญิงสาวทั้งหมดต่างก็คิดเช่นนี้พวกเธอจึงได้มารวมตัวกันที่นี่แทน!
จะมีก็แต่ไป๋เซียนเอ๋อกับเหมี่ยวเสี่ยวเหมาเท่านั้นที่ไม่ได้คิดเช่นนั้นไป๋เซียนเอ๋อมาที่นี่เพราะไม่ได้สนใจฐานะลาภยศบนโลกใบนี้ ส่วนเหมี่ยวเสี่ยวเหมาก็มาที่นี่เพราะเธอเป็นหมอ และคิดว่าตนเองควรต้องมาเท่านั้น..
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเหยาลู่ก็กล่าวกับทุกคนว่า “ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมพิธีเปิดคลินิกสามัญชนอีกครั้ง ฉันจองห้องไว้ที่ภัตตาคารในโรงแรมแชงกรีล่า พวกเราไปดื่มฉลองกันต่อดีกว่า!”
สาวงามทุกคนต่างก็เห็นด้วยอย่างยิ่งเหยาลู่จึงหันไปถามโม่วู๋เตา แต่มีหรือที่โม่วู๋เตาจะกล้าไปกับสาวงามทั้งสิบสองคน จึงได้แต่ปฏิเสธไปอย่างเสียดาย
“ไม่ดีกว่า..เถ้าแก่หวังบอกว่าต้องการพบข้าเที่ยงนี้ เชิญพวกเจ้าตามสบาย!”
พูดจบโม่วู๋เตาก็เดินตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าทันที.. ไอลีนโนเวล
…..
ที่สำนักงานใหญ่บริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่น..
เวลานี้หลิงหยุนค่อนข้างว่างแล้วเพราะงานในส่วนอื่นๆต่อจากนี้เขาไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม มีเพียงถังเมิ่งกับเฉินเจี้ยนเตาก็เพียงพอแล้ว เขาจึงได้แต่แอบมายืนพักผ่อนอยู่เงียบๆ
“ท่านประธานใหญ่..คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกันอีก! ไม่ทราบว่าจะให้เกียรติถ่ายรูปกับฉันหน่อยจะได้มั๊ยคะ”
ฟ่านลู่ปิงเดินเข้ามาทักทายหลิงหยุนพร้อมกับเป็นฝ่ายขอถ่ายรูปกับหลิงหยุน แต่หลิงหยุนกลับปฏิเสธกลับไปซึ่งๆหน้า..
“ขอโทษครับ..ผมไม่ถ่ายรูปกับใคร!”
แต่ฟ่านลู่ปิงกลับไม่มีท่าทีผิดหวังเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงยิ้มและพูดต่อว่า “ดูเหมือนเมื่อครั้งที่เราพบกันในปักกิ่ง จะมีเรื่องเข้าใจผิดเกิดขึ้นระหวางเรา”
“เอ่อ..พอดีฉันมีโฆษณาที่ต้องถ่ายอีกสองตัวในจิงฉู จึงมีเวลาอยู่ที่นี่นานหน่อย ไม่ทราบว่าคุณหลิงพอจะมีเวลาไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกันสักมื้อมั๊ยคะ”
“เราจะได้ถือโอกาสปรับความเข้าใจกันด้วย…”
แต่หลิงหยุนกลับยิ้มแต่หลิงหยุนยังคงปฏิเสธ “ขอโทษครับ.. ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาว่างเลย!”
ฟ่านลู่ปิงถูกปฏิเสธอีกเป็นครั้งที่สอง..
หลิงหยุนต้องการเวลาที่จะเตรียมตัวก่อนเดินทางไปปักกิ่งและเขาก็ยุ่งมากจริงๆ อีกทั้งความรู้สึกที่เขามีต่อฟ่านลู่ปิงนั้นก็ไม่ดีนัก หลิงหยุนจึงคร้านที่จะสนใจเธอ..
และเมื่อถูกปฏิเสธถึงสองครั้งต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้ฟ่านลู่ปิงก็ถึงกับหน้าเสีย..
“ท่านประธานใหญ่คะ..ใครๆก็อยากเชิญคุณไปกินข้าวด้วยทั้งนั้น! เห็นแก่หน้าฉัน.. ไม่ปฏิเสธสักครั้งจะได้มั๊ยคะ!”
ซูหลิงเฟยผ่านมาเห็นเข้าพอดีจึงรีบเดินเข้ามาหาฟ่านลู่ปิงและช่วยเธอแก้ไขสถานการณ์
หลิงหยุนได้แต่หัวเราะและหันไปถามซูหลิงเฟยว่า “ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา.. ไม่ทราบว่าสาวสวยต้องการอะไรเหรอครับ”
ซูหลิงเฟยตอบกลับยิ้มๆ“ฉันอยากจะขอสัมภาษณ์แบบเอ็กคลูซีพกับท่านประธานหลิง ไม่ทราบพอจะมีเวลาให้บ้างมั๊ยคะ”
หลิงหยุนรีบยกมือขึ้นปฏิเสธทันที“ถ้าคุณอยากจะสัมภาษณ์ผมออกทีวี เชิญสัมภาษณ์ถังเมิ่งได้เลย เขาเป็นประธานบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่น และรู้เรื่องธุรกิจดีกว่าผม!”
ซูหลิงเฟยร้องออกมาอย่างนึกเสียดาย“ไม่ให้หน้าฉันบ้างเลย! ไปออกรายการของฉันมีแต่จะทำให้คุณมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้น ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย!”
หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ“คุณซูคนสวย.. ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ให้หน้าคุณ แต่ตอนนี้ผมกลัวการเป็นที่รู้จักของผู้คนมาก ความหวังดีของคุณผมขอรับไว้ด้วยใจก็แล้วกัน..”
“ขอบคุณมากครับ!”
จากนั้นหลิงหยุนก็รีบขอตัวหลบหนีออกไปทันที…
หลังจากที่หลิงหยุนออกไปแล้วฟ่านลู่ปิงจึงพูดขึ้นว่า “หลิงเฟย.. ขอบคุณที่ช่วยให้ฉันดูดีขึ้น!”
ซูหลิงเฟยยักไหล่พร้อมกับหัวเราะออกมา“ไม่หรอก.. พวกเราสองคนแห้วทั้งคู่..”
…….
หลังจากร่วมรับประทานอาหารกับแขกเหรื่อเสร็จแล้วเวลาบ่ายสองโมงครึ่งหลิงหยุนก็จัดการส่งแขกกลับไปจนเกือบหมดแล้ว และเป็นอันว่าเสร็จสิ้นพิธีเปิด
หลิงหยุนกลับไปที่ห้องประธานและหลิงซิ่วซึ่งนั่งอยู่ด้านในก็ได้ถามขึ้นว่า “จากนี้ไปเจ้ามีแผนการเช่นใด”
หลิงหยุนตอบโดยแทบไม่ต้องคิด“สองสามวันจากนี้ไป.. ข้าจะไปจัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้นก็จะเดินทางไปปักกิ่งทันที!”
หลิงซิ่วพยักหน้า“ดี.. ถ้าเช่นนั้นพวกเราก็กลับไปปักกิ่งพร้อมกัน! ว่าแต่ทำไมวันนี้ข้าจึงไม่เห็นสาวงามรอบตัวเจ้ามากนัก..”
หลิงหยุนถอนหายใจ“พวกนางไม่ยอมมา อาจเป็นเพราะพวกนางรู้สึกต่ำต้อยก็ได้!”
“อ่อ..ข้าพอเข้าใจ!”
…..
เย็นในวันเดียวกันนั้น..หลิวลี่ก็ได้ให้กำเนิดลูกชายที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ และได้ตั้งชื่อของเขาว่าหลี่เจี้ยน หลิงหยุนไปแสดงความยินดีด้วยตัวเอง และได้มอบเช็คจำนวนสิบล้านหยวนไว้ให้หลิวลี่อีกด้วย..
หลิงหยุนได้พบกับเหลียงเฟิงอี้ที่โรงพยาบาลด้วยและได้ทาบทามให้เธอมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่ตนเองได้ซื้อกิจการไว้ และเหลียงเฟิงอี้ก็ตอบตกลง!
วันต่อมา..หลินหงจวินก็เดินทางกลับ และหลิงหยุนก็ได้ไปส่งด้วยตัวเอง หลังจากนั้นจึงได้แวะไปเยี่ยมเยียนแม่ของฉางหลิงตามที่เคยรับปากไว้ และได้มอบชุดเครื่องประดับที่ทำจากหยกจักรพรรดิเป็นของขวัญให้ด้วย
…….
ในคืนวันที่10 สิงหาคม.. หลังจากที่หลิงหยุนได้ใช้วิชาพฤกษาขจีเร่งความเจริญเติบโตของสมุนไพรแล้ว เขาก็ได้เดินทางไปที่หลุมยักษ์ และเปิดจิตหยั่งรู้สำรวจดูหยกมังกรเขียวขนาดมหึมาที่ตนเคยนำมาทิ้งไว้ที่ก้นหลุม และพบว่าทุกอย่างยังคงอยู่เป็นปกติดี..
หลังจากนั้นหลิงหยุนก็เดินทางไปที่อพาร์ทเมนท์ซึ่งเขาเคยอาศัยอยู่กับเฉิงเม่ยเฟิงและค้างคืนที่นั่น..