“เป็นไปได้ยังไง! นั่นเป็นนักบู๊แดนในชั้นสูงสุดทั้งสามคนเลยนะ!”

“คิดไม่ถึงว่าพลานุภาพของหมัดเดียวจะน่ากลัวขนาดนี้!”

“อีกทั้งดูเหมือนเขาไม่ได้ใช้แรงทั้งหมดด้วย!”

พวกนักบู๊ที่อยู่รอบๆ พากันตกตะลึงมาก แววตาที่มองเฉินโม่เหมือนมองสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง

หลี่เจ๋อเบิกตาโตทันที แอบตกตะลึงในใจ

“อาจารย์ พละกำลังของหมอนั่นถึงแดนไหนแล้ว” หลี่เจ๋อถามผู้อาวุโสข้างๆ

ผู้อาวุโสคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ฉันก็ดูไม่ออก วิชาที่เด็กนั่นฝึกฝน น่าจะมีผลปิดบังพละกำลัง”

หลี่เจ๋อยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ “ขนาดอาจารย์ก็ยังดูพละกำลังของเขาไม่ออกเหรอ”

“วางใจเถอะ เขาน่าจะแค่ฝึกวิชาที่ค่อนข้างประหลาด พละกำลังน่าจะแย่กว่าฉันเยอะ!” ผู้อาวุโสพิจารณา จากอายุของเฉินโม่ ถึงฝึกฝนตั้งแต่ออกจากท้องแม่ ตอนนี้ถึงระดับปรมาจารย์แดนคุ้มกายก็สุดยอดมากแล้ว อีกทั้งพละกำลังของเขา ถึงแดนมองขวัญตั้งนานแล้ว

ตอนนี้หยางหมิงหยู่ก็หรี่ตาลงเล็กน้อย ถามผู้อาวุโสด้านหลังว่า “ผู้อาวุโสใหญ่ คุณคิดว่าพละกำลังของหมอนั่นถึงระดับไหนแล้ว”

ผู้อาวุโสด้านหลังส่ายหน้า พูดเสียงขรึมว่า “ฉันดูไม่ออก เขาน่าจะฝึกวิชาลับบางอย่าง ที่สามารถปิดบังพละกำลังได้!”

ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอีกว่า “หรือไม่งั้น พละกำลังของเขาก็เหนือกว่าฉันมาก!”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ขนาดหยางหมิงหยู่ที่เป็นผู้มีความคิดลึกซึ้งมาตลอด ยังอดตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้ “เป็นไปได้ยังไง จากอายุของเขา เข้าสู่แดนคุ้มกายก็เรียกได้ว่าเป็นปีศาจแล้ว ถ้าพละกำลังของเขาเหนือกว่าผู้อาวุโสใหญ่ งั้นแสดงว่าเขาถึงระดับแดนเทพแล้วน่ะสิ!”

ผู้อาวุโสใหญ่ส่ายหน้า สีหน้าผ่อนคลายเล็กน้อย “ฉันคิดว่าอย่างที่สองมีโอกาสเป็นไปได้น้อย เป็นไปได้ว่าเขาน่าจะฝึกวิชาลับที่ปกปิดพละกำลังเอาไว้”

หน่วยมังกรทั้งสามคนที่อยู่ในกลุ่มคนด้านหลัง สีหน้าของมังกรสิบแปดกับมังกรสิบหก เต็มไปด้วยความตกตะลึง พวกเขาอยู่ค่อนข้างห่างมาก สัมผัสไม่ได้ว่าพละกำลังของสามคนนั้นเป็นยังไง แต่เห็นเฉินโม่เหวี่ยงหมัดออกไปโจมตีนักบู๊สามคน ตายไปสองคนบาดเจ็บสาหัสอีกหนึ่งคน ทำให้พวกเขาตกใจจนลูกตาแทบหลุดออกมา

“พละกำลังของเฉินไต้ซือ เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนที่เราเจอ!” มังกรสิบหกพูดอย่างทอดถอนใจ

จู่ๆ มังกรสิบหกแปลกใจมาก มองมังกรห้าที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ถามด้วยตาเป็นประกายว่า “พี่ห้า ถ้าพี่สู้กับเฉินไต้ซือ โอกาสชนะเป็นยังไง”

มังกรห้ามองเงาคนที่ผอมเล็กน้อย ในแววตามีความคิดต่อสู้มากมาย

“ยังไม่เคยลอง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!”

ในบรรดาทั้งสามคน นักบู๊คนสุดท้ายที่บาดเจ็บสาหัสจนล้มลงกับพื้น มองเฉินโม่ด้วยใบหน้าหวาดผวา เหมือนเห็นผี

ถึงเป็นปรมาจารย์ แค่พวกเขาสามคนร่วมมือกัน ก็สามารถฝืนได้ครู่หนึ่ง แต่วัยรุ่นที่ดูอายุประมาณ 18 ปี กลับเหวี่ยงหมัดมาเพียงหมัดเดียว กลับทำให้พวกเขาสามคน ตายไปสองคนและบาดเจ็บสาหัสอีกหนึ่งคน!

นี่……นี่มันพละกำลังอะไรกันแน่!

คนนั้นไม่กล้าจินตนาการเลย ถ้ารู้ก่อนหน้านี้จะแย่งยันต์หยกไปทำไมอีกล่ะ เป็นการเอาชีวิตของทั้งสามคนเข้าไปเสี่ยงอย่างไร้เหตุผล

เฉินโม่ไม่สนใจคนสุดท้าย ในสายตาของเขา สามคนนี้ก็แค่สิ่งที่จะมีหรือไม่มีก็ได้

“ไปกันเถอะ!” เฉินโม่พูดกับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน ท่าทางสุขุม

“อืม!” ท่าทีที่เนี่ยเสี่ยวเชี่ยนมีต่อเฉินโม่ ยิ่งเลื่อมใสและหวาดกลัวขึ้น

ขณะที่เฉินโม่กับเนี่ยเสี่ยวเชี่ยน กำลังจะกลับไปพักผ่อนบนหน้าผา ในหุบเขาทางตะวันตก มีแสงสีเขียวสว่างขึ้นอย่างกะทันหัน

แสงสีเขียวนั่นพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กะพริบแล้วก็หายไป แต่ก็โดนพวกนักบู๊ที่รออยู่นานเห็นเข้า

“นั่นคือ……เขาซูคงปรากฏออกมาแล้ว!” นักบู๊อายุน้อยคนหนึ่งพูดด้วยความดีใจ

จู่ๆ พวกนักบู๊พากันเดินถอยกลับไป ต่างคนต่างมุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดแสงสว่างสีเขียว