**บทที่****197:**เอาแต่ใจ

นอกจากพวกเขาจะแปลกใจแล้ว ก็ยังไม่อาจกล่าวคำใดออกมาได้อีก ความแข็งแกร่งของเจ้าอ้วนนั้นมากเกินกว่าที่จะเข้าใจได้ การสร้างหลุมใหญ่ขนาดนี้เทียบเท่ากับการโจมตีสุดกำลังของผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นกลางหรือขั้นสุดท้าย แน่นอนว่าผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมินั้นไม่อาจรอดชีวิตได้ แม้ว่าพี่ใหญ่จินจะใช้งานหุ่นศักดิ์สิทธิ์และมีพลังเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนระดับจินตัน โอกาสรอดของเขาก็มีไม่มากนัก

ในขณะนี้เจ้าอ้วนอยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นต้นเท่านั้น สำหรับผู้ที่อยู่ในระดับต่ำสุดแต่กลับสร้างการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ได้ แล้วจะไม่ให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกตื่นกลัวได้อย่างไร?

แต่เมื่อเทียบกับคนอื่นแล้ว เจ้าอ้วนเองก็กลุ้มใจเช่นกัน เหตุผลนั้นง่ายมาก แม้ว่าพี่ใหญ่จินจะถูกโจมตีด้วยพลังที่รุนแรงแต่เขากลับไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด เขามีเพียงแผลฟกช้ำและสามารถรอดพ้นจากการโจมตีเหล่านี้มาได้ ในความจริงเขาควรจะบาดเจ็บมากกว่านี้

แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงพลังของพี่ใหญ่จินที่สามารถรอดพ้นจากการโจมตีนี้ได้ ในความจริงเขาไม่สามารถที่จะหลบหนีได้ด้วยตนเอง แต่เป็นเพราะคุณชายใหญ่และคุณชายรองสามารถช่วยเขาไว้ได้ในช่วงเวลาสุดท้าย ในขณะที่สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หยินหยางแห่งธาตุทั้งห้ากำลังเริ่มระเบิด มันสามารถระเบิดหุ่นศักดิ์สิทธิ์ของพี่ใหญ่จินให้แหลกสลายได้ในพริบตา คุณชายใหญ่และคุณชายรองเข้าช่วยชีวิตเขาได้อย่างทันท่วงทีและได้ป้องกันเขาจากการถูกระเบิด

ด้วยสถานะของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน แน่นอนว่าคุณชายใหญ่และคุณชายรองนั้นแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักบวชฮัวอวิ๋น การป้องกันเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในชั่วพริบตา แต่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นว่าพวกเขาทั้งสองดำเนินการอย่างไร หลังจากที่ทั้งหมดเห็นทั้งสองปรากฏตัวขึ้นข้างพี่ใหญ่จิน ทุกคนจึงเข้าใจความจริงทั้งหมด

เมื่อเห็นหลุมขนาดใหญ่ จินคิดกับตนเองด้วยเหงื่อที่แตกซึมออกมาทั่วร่างกาย ‘ขอบคุณอาจารย์ที่เข้ามาช่วยข้าได้ทันเวลา ถ้าไม่เช่นนั้น วันนี้ข้าจะต้องตายตกไปในเงื้อมมือของไขมันบัดซบอย่างแน่นอน!’

ทั้งคุณชายใหญ่และคุณชายรองต่างถูกเติมเต็มไปด้วยความโกรธ คุณชายรองตะโกนออกมา “ไขมันบัดซบ เจ้าจะต้องชดใช้ที่ทำเช่นนี้ในการต่อสู้ที่ยุติธรรมของสำนัก!”

“แค่ก ๆ” เจ้าอ้วนไอออกมาสองครั้งและเริ่มอธิบาย “รายงานอาวุโส ไม่ใช่ว่าข้าจะทำตนเลวทราม มันเป็นเพียงการป้องกันตน ในเมื่อพี่ใหญ่จินนั้นแสดงสิ่งที่น่าเกรงกลัวออกมาก่อน ช่วงเวลาที่เขาใช้งานหุ่นศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายของเขาส่องสว่างเรืองรอง ดูราวกับว่าเขาพร้อมจะทำลายทุกสิ่งอย่างที่ขวางทาง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งเช่นนั้น เป็นธรรมดาที่ศิษย์จะต้องปกป้องตนเอง ถูกต้องหรือไม่?”

“ถูกต้องบ้าอะไรกัน!” คุณชายรองตะโกนออกมา “เจ้าต้องการที่จะสังหารเขา!”

“ข้าไม่คิดเช่นนั้น ไม่คิดเลยจริง ๆ!” เจ้าอ้วนรีบปฏิเสธทันที “ข้าเพียงแต่ประเมินความแข็งแกร่งของพี่ใหญ่จินผิดไปเท่านั้น!”

กับคุณชายใหญ่และคุณชายรองเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้งสองถูกความโกรธครอบงำทันที ในช่วงเวลาเช่นนี้เจ้าอ้วนยังมีอารมณ์ที่จะหยอกล้อศิษย์ของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สำนึกผิดอันใดทั้งสิ้น

ดวงตาของคุณชายรองเต็มไปด้วยความโกรธ ในตอนนี้เขาต้องการที่จะสอนบทเรียนให้กับเจ้าอ้วนสักหน่อย ในขณะที่เขาเผยจิตสังหารออกมา นักบวชฮัวอวิ๋นพุ่งลงมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าอ้วนพร้อมหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องต้องการจะทำอะไรงั้นหรือ?”

“ข้าต้องการจะสั่งสอนบทเรียนแห่งสวรรค์ให้กับเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้!” คุณชายรองคำรามออกมา

“อะไรกัน?” เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขาหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ากำลังจะบอกว่าต้องการรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่างั้นหรือ?”

“อะไรคือการข่มเหงศิษย์?” คุณชายรองโต้กลับ “เด็กเหลือขอนี้กำลังล่วงเกินข้า อย่าบอกนะว่าข้าไม่สามารถสั่งสอนบทเรียนให้กับมันได้?”

“ไร้สาระ!” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับด้วยท่าทางไม่แยแส “ข้าอยู่ที่นี่ตลอดเวลาและเด็กคนนี้ก็ไม่ได้ล่วงเกินอันใดเจ้าแม้แต่น้อย เขาทำให้เจ้าขุ่นเคืองตั้งแต่เมื่อใดกัน? เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าอับอายที่ศิษย์ของเจ้าเป็นเพียงขยะ และต้องการระบายความโกรธกับเด็กของข้า! นี่เจ้าแก่เกินกว่าที่จะรู้ได้หรือว่าความอัปยศคืออะไร?”

“เจ้า!” คุณชายรองได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจัดจนแทบจะตายตกอยู่ตรงนั้น ในตอนนี้เขาต้องการที่จะต่อสู้กับนักบวชฮัวอวิ๋นอีกด้วย

แต่คุณชายใหญ่ดึงเขากลับมายืนอยู่ด้านข้างพร้อมกล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ศิษย์พี่จ้าวสำนัก เด็กเหลือขอที่ยืนอยู่ด้านหลังท่านต้องการที่จะสังหารเพื่อนร่วมสำนัก หลุมขนาดใหญ่ตรงนี้เป็นหลักฐานชั้นดี!”

“ฮ่าฮ่า สังหารเพื่อนร่วมสำนักงั้นหรือ? ช่างเป็นการใส่ร้ายที่ยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับเขา!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “แต่ข้าคิดว่ามันเป็นเพียงการปกป้องตนเอง! ศิษย์ของเจ้าใช้หุ่นศักดิ์สิทธิ์ แล้วเขาจะต้องเผชิญกับความยุติธรรมนี้อย่างโศกเศร้างั้นหรือ? เหตุใดเราจึงไม่หาคนมาตัดสินกันล่ะ ผู้ฝึกตนประเภทเพาะกายใช้วิชาหุ่นศักดิ์สิทธิ์กับผู้ฝึกตนสายฟ้าที่ใช้เพียงสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ฝ่ายใดกันที่ควรถูกกล่าวโทษ?”

“เรื่องนั้น…” เมื่อคุณชายใหญ่ได้ยินเช่นนั้น เขาหมดคำที่จะกล่าวทันที ในความจริงด้วยสถานะของผู้ฝึกตนสายฟ้ามันไม่ผิดที่เขาจะใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ในการต่อสู้ แต่จินเป็นผู้ฝึกตนเพาะกายและใช้สิ่งที่ใช้ได้ครั้งเดียวคือหุ่นศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นการเล่นผิดกติกาเล็กน้อย อาจกล่าวได้ว่าเป็นการรังแกคนที่อ่อนแอกว่า! ถ้าหากพวกเขาไปหาคนมาตัดสิน แน่นอนว่าจินจะต้องกลายเป็นฝ่ายผิด!

เมื่อเห็นว่าไม่อาจสู้ได้ในเรื่องนี้ คุณชายใหญ่รีบกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า ศิษย์พี่จ้าวสำนักช่างมีวาจาที่เฉียบแหลมและทำให้ศิษย์น้องผู้นี้พ่ายแพ้เสียแล้ว แต่มีข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ท่านต้องยอมรับ เจ้าไขมันสารเลวนั้นรู้ตัวอย่างแน่นอนว่าการโจมตีครั้งนี้สามารถเอาชีวิตของจินได้ แต่เขายังคงต้องการจะใช้มันในการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจฆ่า ข้ากล่าวถูกต้องหรือไม่?”

“เรื่องนั้น…” นักบวชฮัวอวิ๋นไม่รู้จะตอบกลับเช่นไร

เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าอ้วนเข้าแทรกทันที “อาวุโส ท่านตัดสินสถานการณ์ผิดไป!”

“โอ้?” คุณชายใหญ่กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “เด็กเหลือขอ เจ้าต้องการจะกล่าวอะไร!”

“อาวุโส ศิษย์คิดว่าพี่ใหญ่จินผู้นี้แข็งแกร่งอยู่เหนือพวกพ้องของข้าทั้งหมด รวมกับที่เขาใช้งานหุ่นศักดิ์สิทธิ์ เขาจะต้องแข็งแกร่งอย่างมาก สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์คงไม่อาจทำอันตรายให้กับเขาได้ ดังนั้นข้าจึงโยนมันออกไป!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างงุ่มง่าม “แค่ก ๆ จากสิ่งที่ข้าเห็นแน่นอนว่าศิษย์ของท่านผิด ด้วยความที่พี่ใหญ่จินเป็นศิษย์ของท่าน และด้วยสถานะของท่าน มันก็ไม่ผิดที่ข้าจะประเมินเขาสูงกว่าปกติ ถูกต้องหรือไม่?”

“ถูกต้องแล้ว!” เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น เขาตอบกลับพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เด็กคนนี้กล่าวถูกต้องแล้ว เพราะเขาเป็นศิษย์ของเจ้า แน่นอนว่าเขาจะต้องประเมินจินไว้สูงกว่าปกติอย่างแน่นอน! เจ้าก็คงไม่สามารถดูถูกศิษย์ตนเองได้ ถูกต้องหรือไม่? ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เจ้าจะมีข้อกังขาอะไรอีก?”

“เจ้า!” คุณชายใหญ่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะติดกับดักของเจ้าอ้วน ในตอนนี้เขาไม่สามารถกล่าวอะไรได้อีก เพราะยิ่งพูดไปก็จะยิ่งเป็นการดูถูกศิษย์ตนเอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเก็บกดความโกรธไว้ในใจ

เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าอ้วนรู้ได้ทันทีว่าเขาเข้าใจแล้ว ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นจริงจังเล็กน้อยพร้อมกล่าวว่า “อา ไม่ว่าจะอย่างไร ศิษย์ได้ทำผิดพลาดไปในครั้งนี้ ข้ายินดีที่จะขอโทษพี่ใหญ่จินและอาวุโสทั้งสอง! หวังว่าพวกท่านจะยกโทษให้กับข้า!”

ในขณะที่เจ้าอ้วนกล่าวออกไปเช่นนั้นแล้ว มันคงไม่ดีนักในสถานะของอาวุโส ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงขุ่นเคืองใจเท่านั้น

แต่ในขณะนั้นพวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเจ้าอ้วนที่แสร้งทำเป็นสุภาพเช่นนั้น และเห็นว่าอาวุโสทั้งสองไม่คิดเอาเรื่องอะไรต่อ เขารีบกล่าวออกมาทันที “อาวุโส วันนี้การต่อสู้ได้ถูกทำลายลงไปแล้วและข้ากับพี่ใหญ่จินยังไม่ได้ต่อสู้กันเลยในวันนี้! เกี่ยวกับเรื่องนี้ ข้าคิดว่าเราควรไปหาสถานที่อื่นเพื่อต่อสู้กันใหม่ในวันพรุ่งนี้ดีหรือไม่?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น คุณชายใหญ่และคุณชายรองโกรธจัดพร้อมกับตะโกนอยู่ภายในใจ ‘บัดซบ เจ้ายังไม่ได้ต่อสู้งั้นหรือ? เจ้าคิดว่าหุ่นศักดิ์สิทธิ์มันงอกออกมาจากต้นไม้หรืออย่างไร?’

ในตอนนี้พวกเขาทั้งหมดเข้าใจได้ทันทีว่าเจ้าอ้วนจะไม่มีทางปล่อยให้จินไปโดยง่าย เพราะว่าเขาต้องการแก้แค้นให้กับฉิงเฟิงซี ถ้าหากเขาไม่ได้จัดการจิน แน่นอนว่าเขาคงไม่มีคืนวันที่ได้หลับอย่างสบายใจ

ถ้าหากเป็นคนอื่น คุณชายใหญ่และคุณชายรองจะไม่เข้าไปแทรกแซงเรื่องของศิษย์มากจนเกินไป แต่หลังจากเห็นการกระทำของเจ้าอ้วนในวันนี้ พวกเขาจะกล้ายินยอมให้ศิษย์ของตนเข้าไปทะเลาะกับคนเช่นนี้ได้อย่างไร? มันจะไม่ใช่การต่อสู้ที่ยุติธรรมอีกต่อไป เห็นได้ชัดว่าเจ้าอ้วนต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อสังหาร!

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนหมู่มาก มันไม่ดีที่คุณชายใหญ่และคุณชายรองจะปฏิเสธเจ้าอ้วน ถ้าหากเป็นเช่นนั้นชื่อเสียงของทั้งสองจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอน ทั้งสองตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้

แต่โชคดีที่คุณชายใหญ่นั้นเฉียบแหลมและมีไหวพริบ เขาตอบกลับอย่างสงบ “ในตอนนี้พี่ใหญ่จินมาถึงสภาวะตีบตันแล้ว เขาจะต้องเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝนเพื่อเข้าสู่ระดับจินตัน ในวันนี้ข้าได้ยกเว้นให้เจ้าแล้วและจะไม่มีการละเว้นให้อีกครั้ง!”

“เป็นเช่นนั้น!” คุณชายรองรีบตอบกลับ “การเข้าสู่ระดับจินตันเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่สามารถรอได้อีก จิน! แล้วเจ้ารออะไรอยู่ เหตุใดจึงยังไม่รีบเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝนอีก?”

“ขอรับ!” ในขณะนั้นพี่ใหญ่จินไม่เหลือจิตใจที่จะต่อสู้กับเจ้าอ้วนอีกต่อไป เมื่อเขาได้ยินอาจารย์กล่าวเช่นนั้น เขารีบตอบรับพร้อมออกไปอย่างรวดเร็ว

ความจริงแล้วแม้วิธีการของคุณชายใหญ่และคุณชายรองจะฟังดูดี แต่ทุกคนอย่างรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเกรงกลัวเจ้าอ้วน

เจ้าอ้วนชัดเจนในจุดยืนของตนเอง แต่น่าเสียดายที่เขาไม่กล้าที่จะเถียงกับทั้งสองด้วยเพราะติดเรื่องสถานะของทั้งคู่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยืนมองจินเดินออกไป

แต่ถ้าหากเจ้าอ้วนไม่ได้แก้แค้น เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงง่าย ๆ แม้ว่าพี่ใหญ่จินจะออกไปแล้ว แต่ยังเหลือพี่น้องทั้งสามอยู่ตรงนี้ สำหรับพี่น้องลำดับที่สองยินนั้นถูกทำให้กลายเป็นขันทีด้วยลูกเตะจากเจ้าอ้วนเรียบร้อยอยู่ก่อนแล้ว

ดังนั้นเขาจึงคิดจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้ เขาออกมายืนด้านหน้าพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่ ข้าไม่สามารถต่อสู้กับพี่ชายของพวกท่านได้และรู้สึกเสียใจอย่างมาก วันนี้อากาศค่อนข้างดีและเป็นวันที่เหมาะสมกับการต่อสู้ เหตุใดเราจึงไม่ลองมาต่อสู้กันดูล่ะ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าพี่น้องที่เหลืออยู่ตรงนั้นเหงื่อแตกทั่วร่างกายทันที พวกเขาไม่มีหุ่นศักดิ์สิทธิ์หรือแม้ว่าพวกเขาจะมี ก็ไม่อาจทำให้พวกเขากล้าที่จะยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าอ้วนที่ใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่พวกเขาไม่ต้องการที่จะปฏิเสธเจ้าอ้วนในสถานที่มีคนมากมายเช่นนี้ ทั้งหมดทำได้เพียงมองไปที่คุณชายใหญ่และคุณชายรองอย่างสิ้นหวัง

ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินเช่นนั้น ต่างส่งเสียงเชียร์ออกมาทันที “พี่เที่ย พี่เที่ย! สู้เลย!”

“อย่าขี้ขลาด! เจ้าไม่ได้แข็งแกร่งงั้นหรือ?”

“เจ้ากำลังอ้อนวอนสิ่งใดกับอาจารย์ของตนเอง? อย่าบอกนะว่าเจ้ายังต้องการดื่มนมจากเต้าในขณะที่เจ้าแก่งั่กเช่นนี้?”