บทที่ 594 แค่ขอโทษไม่ได้หรอก

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ใครวะ! ใครที่มันใจกล้าหน้าด้านมาตีลูกชายของฉัน”

ทันใดนั้น ฝูงชนที่มุงอยู่หน้าประตูห้องคนไข้ก็สลายตัว เผยให้เห็นชายวัยกลางคนหน้าตาเกรี้ยวกราด

ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากตู้เฮิงฉุน?!

ในฐานะคนระดับสูงสุดของตู้ซื่อกรุ๊ป หนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาล ตู้เฮิงฉุนมีอำนาจเด็ดขาดในโรงพยาบาลแน่นอน

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมตู้เคอหลินสามารถทำตามอำเภอใจในโรงพยาบาล แต่ไม่มีใครว่าอะไรเลย

หรือพูดให้ถูกคือ ไม่ใช่ว่าไม่มีใครอยากยุ่ง แต่ไม่กล้ายุ่งเลยต่างหาก!

ส่วนคนที่มีอำนาจอย่างแท้จริง ตราบใดที่ตู้เคอหลินไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา พวกเขาก็ไม่ยุ่งไม่เข้าเรื่องหรอก

ตู้เฮิงฉุนโกรธมาก เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าตู้เคอหลินจะโดนคนอื่นทำร้ายในโรงพยาบาลของตัวเอง

หลังจากฝูงชนที่มามุงสลายตัวกันแล้ว ตู้เฮิงฉุนก็เห็นตู้เคอหลินที่กองอยู่บนพื้น โดยเฉพาะเมื่อเห็นแขนขาที่ผิดรูปผิดร่างของตู้เคอหลิน เขาโมโหจนแทบจะมีไฟพ่นออกมาจากตาได้

“ใครเป็นคนทำ!”

สีหน้าตู้เฮิงฉุนมืดมนถึงขีดสุด เขาตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “ใครมันบังอาจขนาดนี้ กล้าหักขาของลูกชายฉัน?!”

“พ่อครับ! ในที่สุดพ่อก็มา ช่วยผมด้วย! ช่วยผมด้วยครับ!”

พอเห็นว่าตู้เฮิงฉุนมา สภาพตู้เคอหลินราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตเขาได้ รีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ

“ลูกชาย บอกพ่อมา ใครในสองคนนี้หักแขนหักขาของลูก? หรือว่ามีส่วนทั้งคู่?”

ตู้เฮิงฉุนรีบวิ่งเข้าไปในห้องคนไข้ ก้าวฉับไวเข้าไปหาตู้เคอหลิน และตรวจดูอาการบาดเจ็บของเขาคร่าวๆ ก่อนจะเบนสายตาไปที่เย่เทียนและพี่หวัง

“เขา เขานั่นแหละครับ!”

การมาถึงของตู้เฮิงฉุนช่วยให้ตู้เคอหลินมีที่พึ่งพิง แต่เนื่องจากแขนขาโดนหัก เขาได้แต่มองเย่เทียนอย่างโกรธแค้น​​ และพูดอย่างชิงชัง “พ่อครับ ไอ้สารเลวคนนั้นแหละที่หักแขนหักขาของผม!”

ตู้เฮิงฉุนได้ฟัง ก็หันมองเย่เทียนด้วยสีหน้าอึมครึม เอ่ยเสียงเย็นชา “ไอ้หนุ่ม แกกล้าหาญดีนี่ คิดว่าฉันตู้เฮิงฉุนเป็นคนที่รังแกได้ง่ายๆเหรอ?”

“เถ้าแก่ตู้ กินข้าวมั่วๆได้ แต่พูดจามั่วๆไม่ได้นะครับ!”

เย่เทียนส่ายหัวเล็กน้อย ชี้ไปที่พี่หวัง และพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “ขาของคุณชายตู้หักโดยเจ้านี่ คุณอย่ามาปรักปรำผมนะครับ”

พี่หวังได้ฟัง สีหน้าย่ำแย่ลงในบัดดล คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนจะต่ำช้าขนาดนี้ ปัดให้ทุกอย่างออกจากตัวเองหมด

“เถ้า เถ้าแก่ตู้ ไม่เกี่ยวกับผมนะครับ เขาเป็นคนสั่งให้ผมลงมือครับ….”

เมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของตู้เฮิงฉุน พี่หวังไม่รอช้า รีบออกมาอธิบายทันที

“เขาบอกให้แกทำแกก็ทำเหรอ ถ้าเขาให้แกไปตาย แกก็จะไปตายจริงๆใช่มั้ย”

แต่ไม่รอให้พี่หวังพูดจบ ตู้เฮิงฉุนก็ขัดขึ้นด้วยความโมโห

“ไม่ใช่นะครับเถ้าแก่ตู้ เขาข่มขู่ผมนะครับ!”

พี่หวังอธิบายด้วยหน้าตาสลด “เขาบอกว่าถ้าผมไม่ทำร้ายคุณชายตู้ เขาก็จะทำให้ผมเป็นเหมือนกับคุณชายตู้ เขาจะหักแขนหักขาของผมครับ!”

“แกไสหัวไปไกลๆเลย เดี๋ยวฉันค่อยคิดบัญชีกับแกทีหลัง”

ตู้เฮิงฉุนคำรามเสียงดุดัน และจ้องเย่เทียนเขม็ง

เมื่อเห็นท่าทางกราดเกรี้ยวของตู้เฮิงฉุน พี่หวังกล้าพูดอะไรอีกที่ไหน เขายอมถอยไปด้านข้างแต่โดยดี

“ไอ้หนุ่ม แกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงอำมหิตสั่งคนอื่นมาหักแขนหักขาของลูกชายฉัน”

ตู้เฮิงฉุนมองเย่เทียนอย่างพิจารณา พบว่าเย่เทียนที่ยืนอยู่ตรงข้ามมีรอยยิ้มจางๆอยู่บนใบหน้า ท่าทางไม่กลัวเกรงเลยสักนิด จึงทำให้เขาระแวงขึ้นมา

“ผมเป็นใครไม่สำคัญครับ”

เย่เทียนส่ายหัวเล็กน้อย พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “ส่วนเรื่องที่ทำไมผมต้องทำร้ายคุณชายตู้ คุณถามทุกคนในที่นี้ได้เลย เชื่อว่ามีคนเยอะแยะที่อยากบอกคุณ”

“ถามทุกคนในที่นี้?”

ตู้เฮิงฉุนขมวดคิ้วเล็กน้อย เบนสายตาออกจากเย่เทียน มองฝูงชนที่มารวมตัวกันหน้าประตูห้องคนไข้อีกครั้ง

เหล่าคนที่มามุงดูไม่กล้าสบตากับตู้เฮิงฉุนเลยสักนิด คนที่ทำงานอยู่ที่นี่กลัวว่าจะตกงานเพราะเหตุนี้

ส่วนเหล่าญาติผู้ป่วยก็ยิ่งไม่กล้าล่วงเกินตู้เฮิงฉุน

ยังไงซะถ้าตู้เฮิงฉุนเป็นบ้าเป็นบอพาลพวกเขาขึ้นมาจริงๆ ไล่พวกเขาออกจากโรงพยาบาล ถึงเวลานั้นจะร้องไห้ยังไม่มีที่ให้ร้อง

ถึงแม้จะไม่มีใครตอบตู้เฮิงฉุน แต่ตู้เฮิงฉุนก็พอรู้คร่าวๆว่าเรื่องเป็นมายังไง

ยังไงซะตู้เคอหลินนิสัยเป็นยังไง เขาในฐานะพ่อรู้ดี

“บางทีลูกชายของฉันอาจจะเหลวไหลไปบ้าง แต่แกก็ไม่ควรลงมือหนักขนาดนี้ ถึงกับหักแขนหักขาของลูกชายฉัน”

ตู้เฮิงฉุนสมกับเป็นผู้นำของเรือใหญ่ธุรกิจอย่างตู้ซื่อกรุ๊ป เขาสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม “ฉันไม่ขออะไรมาก แกไปมอบตัวกับตำรวจแล้วเข้าไปอยู่ในคุกสักพักซะ เรื่องค่ารักษาแกไม่ต้องชดใช้!”

“พ่อครับ!”

แต่ไม่รอให้เย่เทียนตอบ ตู้เคอหลินกลับตะโกนเสียงดังขึ้นมาก่อน “ไอ้สารเลวนี่แหละที่…..”

เย่เทียนขมวดคิ้วเป็นปมทันที มือขวาดีดออกไปโดยไม่ให้ใครรู้ตัว ชี่ทิพย์สายหนึ่งสกัดร่างกายของตู้เคอหลินโดยไม่ทิ้งร่องรอย จนเขาพูดอะไรไม่ออกอีกครั้ง

ประสบกับเหตุการณ์พิศวงเช่นนี้อีกครั้ง ตู้เคอหลินตกใจจนเสียสติ แต่เขาอ้าปากกว้างสุดก็เปล่งเสียงออกมาได้แค่อือๆ คนอื่นไม่รู้เลยว่าเขาพูดอะไร

“ลูกชาย อยากจะพูดอะไรเหรอ ที่อะไร?”

ตู้เฮิงฉุนไม่รู้ว่าตู้เคอหลินกำลังเจอกับอะไร เห็นเขาปิดปากกะทันหัน จึงขมวดคิ้วและถามต่อ

เกรงว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนที่หน้าตาทรงคุณธรรมตรงหน้านี้ก็คือตัวการหักแขนหักขาของตู้เคอหลินที่เขาตามหามานาน!

“เถ้าแก่ตู้ ยังไงซะคุณก็เป็นประธานของบริษัทใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์นะครับ จะปรักปรำผมก็ต้องมีเหตุผลบ้างสิ”

เย่เทียนก้าวออกมาอย่างถูกจังหวะ และเบ้ปาก “คุณเห็นตอนไหนว่าผมลงมือกับลูกชายของคุณ?”

“คุณชายตู้ลวนลามพี่พยาบาลสาวกลางวันแสกๆ ผมว่าไม่แน่นี่อาจเป็นบทลงโทษที่สวรรค์มอบให้เขานะครับ!”

“ใช่แล้วๆ!”

พยาบาลสาวก็ออกตัวอย่างกล้าหาญ ก่อนจะร้องทุกข์ “เถ้าแก่ตู้คะ คุณชายตู้เป็นคนที่แย่มาก ฉันได้บอกเขาไปหลายครั้งแล้วค่ะว่าฉันมีแฟน แต่เขาก็ยังมาตื๊อฉันอีกหลายครั้ง และกระทั่งคิดจะขืนใจฉัน!”

ขณะที่พูด พยาบาลสาวร้องห่มร้องไห้อย่างน่าสงสาร ประหนึ่งว่าตู้เคอหลินได้ทำอะไรลงไปกับเธอแล้วจริงๆ

ตู้เฮิงฉุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวพร้อมกล่าว “เมื่อกี้ฉันพูดไปแล้วว่าต่อให้ลูกชายของฉันมีส่วนผิดอยู่บ้าง แต่การหักแขนหักขาของเขาออกจะเกินไป”

“แม่หนู เธอน่าจะเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลของเราใช่มั้ย ถ้าลูกชายของฉันทำอะไรไม่ดีกับเธอ ฉันขอโทษเธอแทนเขาด้วย”

คำพูดท่อนหลัง เห็นได้ชัดว่าพูดกับพยาบาลสาว

พยาบาลสาวได้ยิน สีหน้าดีขึ้นมาก

ถึงยังไงการที่เถ้าแก่ใหญ่อย่างตู้เฮิงฉุนขอโทษเธอ ก็เป็นการให้เกียรติเธอสุดๆอย่างไม่ต้องสงสัย

“เถ้าแก่ตู้ คุณนี่นิสัยไม่ดีเลยนะครับ”

“หากคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีตำรวจและกฎหมายไปทำไมครับ?!”

แต่เย่เทียนที่ตั้งใจมาหาเรื่องโดยเฉพาะไม่ยอมรับวิธีจัดการแบบนี้อยู่แล้ว…..