บทที่ 595 จงใจล่อคุณมา

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

เย่เทียนเซ็งสุดๆ

ถึงแม้เขาอุตส่าห์มาที่โรงพยาบาลเพื่อพบตู้เฮิงฉุน แต่ตอนนี้มีคนดูอยู่มากมาย เขาไม่อาจถามข้อมูลของแก๊งหย่งเย่กับเขาได้จริงๆ

ถึงยังไงด้วยความลึกลับของแก๊งหย่งเย่ โอกาสน้อยมากที่ตู้เฮิงฉุนจะเต็มใจบอก เขาจะไต่สวนตู้เฮิงฉุนต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ก็คงไม่ได้

ในเมื่อข่มเหงด้วยบารมีไม่ได้ เย่เทียนมีแต่ต้องใช้วิธีเอาผลประโยชน์เข้าล่อ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเลือกสกัดจุดของตู้เคอหลิน

ตอนนี้เขาแค่ต้องถ่วงเวลาออกไปเท่านั้น จนกว่าตู้เฮิงฉุนจะพบความผิดปกติของตู้เคอหลิน!

“เถ้าแก่ตู้ คุณคิดไว้ดีเกินไปรึเปล่าครับ ถ้าคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีตำรวจและกฎหมายไปทำไมครับ?!”

เมื่อเห็นว่าตู้เฮิงฉุนพูดเพียงไม่กี่คำพี่พยาบาลสาวก็มีความคิดจะยอมจบ เย่เทียนยอมที่ไหน

“แกพูดถูก ถ้าคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีตำรวจและกฎหมายไว้ทำไม”

แต่เย่เทียนไม่พูดอะไรยังดี พอเขาพูดปุ๊บก็เรียกความไม่พอใจจากตู้เฮิงฉุนมาทันที “ไอ้หนุ่ม ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นใครมาจากไหน ยังไงซะแกก็หักแขนหักขาของลูกชายฉัน แกจะต้องชดใช้!”

“เถ้า เถ้าแก่ตู้ครับ เหมือนคุณชายตู้จะผิดปกติไปนะครับ!”

แต่ไม่รอให้เย่เทียนตอบอะไร พี่หวังด้านข้างก็พบความผิดปกติของตู้เคอหลินซะก่อน และปริปากบอกตู้เฮิงฉุนด้วยเสียงเจื่อนๆ “คุณ คุณชายตู้ทำหน้าแบบนี้ตลอดเลยครับ ไม่แม้แต่กระพริบตา…..”

“หืม?!”

ตู้เฮิงฉุนผงะ เขารีบหันหลังกลับและตะโกนใส่ตู้เคอหลิน “ลูกชาย เป็นอะไรมั้ย”

น่าเสียดายที่ตู้เคอหลินผู้โดนเย่เทียนสกัดจุดไม่สามารถแม้แต่จะกะพริบตาได้ อย่าว่าแต่ขานตอบตู้เฮิงฉุนเลย

ตู้เฮิงฉุนกังวลขึ้นมาทันที เขารีบยื่นมือไปคว้าตู้เคอหลินมาเขย่าไปมา แต่ตู้เคอหลินก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง

ถ้าไม่ใช่ว่าดวงตาของตู้เคอหลินยังกลอกไปมาได้อยู่ ตู้เฮิงฉุนเกือบจะคิดว่าเขาตายไปแล้ว

“แกทำอะไรกับลูกชายของฉัน?!”

แต่ตู้เฮิงฉุนไม่ใช่คุณชายเจ้าสำราญอย่างตู้เคอหลิน แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เป็นอุปสรรคที่เขาจะพุ่งความสงสัยไปที่เย่เทียน

นี่ก็เป็นเรื่องที่ปกติมาก ในห้องคนไข้ก็มีเย่เทียนนี่แหละที่มีสีหน้าสบายใจที่สุด

“เถ้าแก่ตู้ ผมว่าคุณเปลี่ยนไปแซ่โบ้ยก็ได้นะครับ ทำไมถึงชอบโบ้ยทุกอย่างให้ผมล่ะครับ”

เย่เทียนทำท่าทางใสซื่อ “ที่คุณชายตู้เป็นอย่างตอนนี้ คงเพราะสวรรค์ต้องการลงโทษเขา”

เมื่อเห็นว่าตู้เฮิงฉุนเริ่มจะเครียดขึ้นมา เย่เทียนก็รู้ว่าปลาเข้ามาติดเบ็ดแล้ว หากเขาจากไป ตู้เฮิงฉุนต้องตามมาแน่นอน ถึงตอนนั้นค่อยหาสถานที่ที่ไม่มีคน แล้วจะต้องกังวลอีกเหรอว่าตู้เฮิงฉุนจะไม่ยอมบอกข้อมูลของแก๊งหย่งเย่?

“เอาล่ะ ผมยังมีธุระให้ทำต่อ ไม่มีเวลามาเสียอยู่ที่นี่ขนาดนั้น!”

พูดจบ เย่เทียนก็หันหลังกลับโดยไม่ลังเล ก้าวฉับไวออกจากห้องคนไข้

“แกพาลูกชายฉันไปตรวจร่างกายก่อน ถ้าเขาเป็นอะไรไป แกได้ใช้ครึ่งชีวิตที่เหลือในคุกแน่!”

ตู้เฮิงฉุนร้อนใจขึ้นมาทันที เขาไม่สนอะไรอีก รีบเรียกพี่หวังมาดูแลตู้เคอหลิน ก่อนจะไล่ตามเย่เทียนออกไปอย่างเร่งรีบ

“ไอ้หนุ่ม อย่าเพิ่งไป! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

แต่พอวิ่งมาถึงหน้าห้องคนไข้ ตู้เฮิงฉุนก็ลังเลขึ้นมา แม้ว่าเขายังอยู่ในวัยที่มีพละกำลัง แต่เขามีฐานะสูงส่ง เขาไม่กล้าที่จะทำให้เรื่องมันใหญ่โตเมื่อต้องเผชิญกับเด็กอย่างเย่เทียน

“เถ้าแก่ตู้ ผมไม่ใช่ลูกชายของคุณนะครับ คุณบอกให้หยุดผมก็ต้องหยุดเหรอ?”

เย่เทียนเบ้ปาก ยอมหยุดฝีเท้าที่ไหน แต่ก็ไม่กล้าเดินไวมาก เขากลัวว่าตู้เฮิงฉุนจะตามมาไม่ทัน

“ประธานตู้ เกิดอะไรขึ้นครับ”

ในตอนนั้นเอง รปภ ของโรงพยาบาลก็มาถึงในที่สุด

“พวกนาย ไปไล่ตามเด็กหนุ่มคนนั้นเดี๋ยวนี้!”

ตู้เฮิงฉุนใจชื้นขึ้นมา เขารีบเรียก รปภ มาสามสี่คน

เจ้านายตัวเองสั่ง พวก รปภ จะกล้าเห็นต่างที่ไหน พวกเขารีบไล่ตามฝีเท้าของตู้เฮิงฉุน และไล่ล่าเย่เทียนพร้อมกัน

เมื่อสัมผัสได้ว่าตู้เฮิงฉุนไล่ตามมาจากด้านหลัง เย่เทียนก็ลอบถอนหายใจ เขาจงใจหลอกล่อตู้เฮิงฉุนอยู่แล้ว จึงไม่เลือกที่จะออกจากโรงพยาบาล แต่เดินไปทางดาดฟ้าของโรงพยาบาล

น่าเสียดายที่เย่เทียนหลอกล่อกลุ่มของตู้เฮิงฉุนขึ้นดาดฟ้าไม่สำเร็จ เขาถูกขวางไว้ตอนที่ห่างจากดาดฟ้าแค่หนึ่งชั้น

มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ยังไงซะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนมาอยู่ที่โรงพยาบาล เขาไม่คุ้นเคยกับโรงพยาบาล บวกกับพวก รปภ ได้วอเรียกเพื่อนร่วมงานระหว่างไล่ล่าให้ขึ้นลิฟท์มาถึงก่อนแล้ว

แม้ว่าไปไม่ถึงดาดฟ้าจะน่าเสียดายอยู่เล็กน้อย แต่เย่เทียนก็ไม่ได้ใส่ใจนัก

ชั้นนี้เป็นสถานที่ที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลใช้ประชุม ไม่ค่อยมีใครมา จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการบีบบังคับให้สารภาพอย่างแรง!

“เถ้าแก่ตู้ คุณสั่งคนมาขวางผมแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ?”

ในที่สุดเย่เทียนก็หยุดฝีเท้าลง ก่อนจะกวาดสายตามอง รปภ ที่ล้อมเข้ามาด้วยสายตาสบายๆ สีหน้าเรียบเฉย ไม่มีความกลัวเลยสักนิด

ในสายตาของเขา รปภ เหล่านี้ไม่เข้าตาเลย อย่าว่าแต่มากันแค่สิบคนเลย ต่อให้มาเพิ่มอีกเป็นเท่าตัวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!

“หมายความว่ายังไง? แกยังกล้าถามฉันอีกเหรอว่าหมายความว่ายังไง”

ตู้เฮิงฉุนยิ้มเย็น “แกทำร้ายลูกชายของฉันขนาดนั้น ถ้าฉันในฐานะพ่อปล่อยแกไปง่ายๆแบบนั้น แล้วหลังจากนี้ฉันตู้เฮิงฉุนจะเอาหน้าที่ไหนใช้ชีวิตอยู่ในเมืองจินต่อไป?!”

“เถ้าแก่ตู้ คุณนี่อยู่อย่างสุขสบายมานาน จนสมองใช้งานไม่ค่อยดีแล้วใช่มั้ย?”

เย่เทียนนึกขำในใจ เขาพูอย่างเยาะเย้ย “คุณคิดว่าคุณเป็นผู้ชนะแล้วแน่ๆ แต่คุณเคยคิดมั้ยครับว่าผมจงใจหลอกล่อคุณขึ้นมาที่นี่?”

“แกหมายความว่ายังไง?!”

ตู้เฮิงฉุนสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองเย่เทียนด้วยอารมณ์ซับซ้อน

ในระหว่างที่ไล่ล่า เขาก็เคยคิดถึงข้อนี้ แต่พอนึกถึงสภาพอนาถาของตู้เคอหลิน จะไม่ให้เขาไล่ล่าได้ยังไง

ไม่ว่ายังไงตู้เคอหลินก็เป็นลูกชายของเขา!

ไม่ว่าตู้เคอหลินจะทำเรื่องเลวร้ายลงไปเพียงใด เขาในฐานะพ่อก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน แล้วไหนตู้เคอหลินโดนทำร้ายมาหนักขนาดนี้?!

“อีกเดี๋ยวคุณก็รู้ครับ”

เย่เทียนหัวเราะเฮ่ะๆ ขี้เกียจยืดเยื้อกับตู้เฮิงฉุนอีกต่อไป เขาขยับเท้าและเป็นฝ่ายพุ่งเข้าไปหา รปภ ที่รุมล้อมเข้ามาก่อน

“แกจะโอหังเกินไปแล้วไอ้หนุ่ม”

“ดูถูกพวกเราขนาดนี้ ดูท่าถ้าไม่เจ็บตัวซะบ้างแกคงคิดว่าตัวเองไร้เทียมทานจริงๆ”

“เพื่อนๆ ลุยเข้าไปด้วยกันเลย ให้เจ้าเด็กนี่ได้เห็นความสามารถของเรา!”

การสบประมาทของเย่เทียนส่งผลให้ รปภ สิบกว่าคนที่อยู่ที่นี่บันดาลโทสะกันหมด พวกเขาพากันพุ่งเข้าไปหาเย่เทียน

แต่พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มคนธรรมดา ต่อให้มีจำนวนเยอะกว่าแต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เทียนอยู่ดี

เย่เทียนเปรียบดั่งหมาป่าที่เข้าไปในฝูงแกะ ออกหมัดซ้าย เตะเท้าขวา ทุกครั้งที่ลงมือก็จะมี รปภ คนหนึ่งล้มลง และโหยหวนอย่างเจ็บปวด ไม่สามารถลุกขึ้นต่อสู้ได้อีก……