**บทที่****200-1:**เริงร่า

เมื่อได้ยินว่าเจ้าอ้วนครอบครองดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้าอย่างแท้จริง ฉุ่ยจิ้งมีความสุขมาก “ศิษย์พี่นั้นได้รับพรจากสวรรค์อย่างแท้จริง มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งแต่กลับถูกค้นพบโดยท่าน!”

“ฮาฮา!” เจ้าอ้วนยิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์น้องผ่อนคลายเถิด แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นส่วนของข้าก็จะเป็นส่วนของเจ้าด้วยเช่นกัน!”

“ขอบคุณศิษย์พี่อย่างมาก!” ฉุ่ยจิ้งคำนับให้กับเจ้าอ้วนพร้อมกล่าวว่า “ทำไมไม่ให้ศิษย์น้องผู้นี้รินไวน์ให้กับท่านอีกสักแก้วเพื่อตอบแทนน้ำใจล่ะ?”

“ไม่จำเป็น ไม่ต้องลำบาก!” เจ้าอ้วนส่ายหัวจนแทบจะเป็นลมพร้อมกล่าวว่า “ข้าจะต้องตายอย่างแน่นอนถ้าหากดื่มมันมากกว่านี้ ศิษย์น้องเรามาคุยเรื่องสำคัญกันเถิด! แม้ว่าดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้าจะยอดเยี่ยม แต่มันจะต้องมีวิธีในการกินมัน! ดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้านั้นหาได้ยากมากในโลกนี้ ข้อมูลของมันมีบันทึกไว้เล็กน้อยมาก เนื่องจากเป็นเช่นนี้ข้าจึงต้องพึ่งพาเจ้าเรื่องการเข้าใจมัน!”

“สิ่งนั้นง่ายมาก ท่านอาจารย์ได้บอกกล่าวกับข้าไว้แล้วก่อนที่นางจะเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝน!” ฉุ่ยจิ้งเริ่มอธิบาย “มันเป็นสิ่งที่มีปราณจิตวิญญาณหนาแน่นมากและมีเพียงผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิเท่านั้นที่จะกินมันได้ ถ้าหากเป็นผู้ฝึกตนระดับต่ำกินมันเข้าไป พวกเขาจะระเบิดออกเนื่องจากไม่อาจต้านทานปราณจิตวิญญาณที่หนาแน่นกว่าได้ นอกจากนั้นเมื่อกินมันเข้าไปแล้วยังมีอีกหลายข้อห้ามที่ต้องระมัดระวัง ซึ่งมันสำคัญมากและผู้ที่จะกินมันต้องเลือก!”

“อะไรนะ? หมายความว่าอะไร?” เจ้าอ้วนถามออกมาด้วยความสับสน

“หมายความว่าดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้านั้นเต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณแห่งธาตุทั้งห้าอย่างหนาแน่น สำหรับผู้ฝึกตนประเภทวารี ถ้าหากข้ากินมันเข้าไป แน่นอนว่าข้าจะดูดซับได้เพียงวารีและธาตุอื่นจะหายไป พอเข้าใจหรือไม่?”

“ข้าเข้าใจ แล้วเราควรทำเช่นไร?” เจ้าอ้วนถามกลับ

“ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อยเพราะว่าในร่างกายของท่านมีธาตุทั้งห้าครบแล้ว ท่านไม่จำเป็นต้องเลือกสิ่งใดและสามารถดูดซับทั้งหมดได้ แต่ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ข้านั้นจะต้องค่อย ๆ ดูดซับธาตุวารีเข้าไป สำหรับธาตุอื่นก็เพียงต้องทำการเผาผลาญให้มันออกไปจากร่างกายของข้าให้เร็วที่สุด กล่าวก็คือการกระทำเช่นนี้จะต้องใช้พลังงานอย่างมาก!” ฉุ่ยจิ้งอธิบาย

“ข้าเข้าใจ ที่เจ้ากำลังจะบอกก็คือข้าจะต้องเข้าสู่สมาธิทันทีหลังจากกินมันเข้าไป ถูกไหม?” เจ้าอ้วนกล่าว

“ประมาณนั้น เคล็ดวิชาการฝึกฝนของท่านมันเป็นสิ่งที่พิเศษมาก ไม่มีผู้ใดที่สามารถเพลิดเพลินได้กับพรสวรรค์เช่นนี้ แต่…” ในขณะที่ฉุ่ยจิ้งกล่าวเช่นนั้น ใบหน้านางเปลี่ยนเป็นจริงจังพร้อมกล่าวเสริม “ศิษย์พี่ซ่ง ถ้าหากท่านเพิ่งกินมันเข้าไป เส้นลมปราณของท่านจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นและปราณจิตวิญญาณจะเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าหากท่านเข้าอยู่ในสภาวะตีบตัน ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นเรื่องยากมากที่จะดูดซับมัน และถ้าหากเป็นเช่นนั้นมันจะดูดซับปราณจิตวิญญาณของท่านเข้าไปแทนและกรณีนั้นจะอันตรายอย่างยิ่ง กว่าจะดูดซับได้สำเร็จก็คงจะต้องสูญเสียมันไปเป็นจำนวนมาก ดังนั้นศิษย์น้องจึงมีวิธีที่อยากจะแนะนำท่าน!”

“กล่าวมา!” เจ้าอ้วนตอบ

ฉุ่ยจิ้งกล่าวเสริม “ข้าขอแนะนำให้เราเข้าสู่การฝึกฝนแบบคู่ ให้การดูดซับเป็นไปอย่างช้า ๆ และใช้กฎแห่งสวรรค์ช่วยให้การเดินทางของปราณจิตวิญญาณดีขึ้น สิ่งที่ดีที่สุดคือเราจะสามารถผ่านพ้นสถาวะตีบตันได้ในจังหวะเดียว และไม่สูญเสียดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้า แน่นอนว่าถ้าหากเราดื่มชาวิถีเต๋าด้วย ผลของมันจะยอดเยี่ยมอย่างมาก!”

“ฮ่าฮ่า!” ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาระเบิดเสียงหัวเราออกมาดังลั่น “ข้ายังคงมีชาวิถีเต๋าอยู่เพียงพอสำหรับเราสองคนที่จะดื่มมัน แน่นอนว่าเรื่องนี้มีเพียงข้าที่ติดปัญหา!”

“ปัญหาอะไรกัน?” ฉุ่ยจิ้งถามอย่างอยากรู้

“เป็นเพราะไวน์องุ่นดีอสรพิษ ถ้าหากเราเข้าสู่การฝึกฝนแบบคู่ เจ้าจะต้องสัญญากับข้าว่าเจ้าจะไม่เลี้ยงไวน์ข้าเช่นนี้ทุกวัน ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ข้าคิดว่าเจ้าควรจะสังหารข้าโดยตรงเสียดีกว่า!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างอ้อนวอน

“โอ้!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ย่อมได้ ตกลง อย่างไรแล้วเราไม่สามารถแยกจากกันได้ในขณะที่ฝึกฝนแบบคู่ มันไม่สามารถถือได้ว่าเป็นการพบปะแต่อย่างใด ดังนั้นข้าจะละเว้นให้ แต่ถ้าหากท่านต้องการพบข้าหลังจากที่การฝึกฝนแบบคู่จบลง ท่านจะต้องดื่มไวน์อีกครั้ง!”

“ตกลง ไม่มีปัญหา!” เจ้าอ้วนตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส

“อืม ถ้าเป็นเช่นนั้น เราเข้าสู่การฝึกฝนแบบคู่กันตอนนี้เลย!” ฉุ่ยจิ้งรีบดึงเจ้าอ้วนเข้าไปในห้องนอนของนาง

เจ้าอ้วนรีบหยุดนางไว้อย่างรวดเร็ว “เจ้าจะรีบร้อนไปด้วยเหตุใดกัน? ดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้านั้นไม่สามารถวิ่งหนีไปไหนได้ ข้าจะต้องแจ้งให้กับบุคคลที่บ้านทราบก่อนว่าจะเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝนครั้งใหญ่ ถูกต้องหรือไม่? เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่กังวลถึงข้า!”

“เหอะ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าท่านจะเป็นคนที่ห่วงใยผู้อื่น!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวอย่างหึงหวง “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ข้าจะให้เวลากลับไปแจ้งพวกนางก่อน!”

“ฮ่าฮ่า ข้าขอขอบคุณเจ้ามาก!” เจ้าอ้วนรีบตอบ

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งมีความสุขเร็วเกินไป ข้าต้องการที่จะแจ้งให้ท่านทราบถ้าหากว่าท่านเดินออกไปจากจันทราคติแล้ว นั่นหมายความว่าท่านกล่าวลากับข้า นั่นแปลว่าเมื่อท่านมาพบข้าอีกครั้ง จะนับเป็นการพบปะครั้งใหม่ทันที เหอะเหอะ!” ฉุ่ยจิ้งกล่าวพร้อมกับหัวเราะคิกคัก “และธรรมเนียมในการพบข้า หวังว่าท่านคงยังไม่ลืม ใช่ไหม?”

“ไวน์น้ำดีอสรพิษหนึ่งขวด?” เจ้าอ้วนรู้สึกท้อแท้ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “ข้าเพียงจะกลับไปบอกลาคนที่บ้านเท่านั้น ข้าไม่สามารถทำได้งั้นหรือ?”

“กฎก็คือกฎ!” ฉุ่ยจิ้งตอบกลับ

“ลืมมันไปเสีย เจ้าน่ากลัวเกินไปแล้ว!” เจ้าอ้วนได้แต่บ่นออกมาอย่างทำอะไรไม่ได้ “ข้าจะไม่กลับไป แต่ข้าจะส่งจดหมายไปพร้อมกับดาบบิน ตกลงไหม?”

“เหอะ นับว่าเป็นวิธีการที่ฉลาด!” ฉุ่ยจิ้งพยักหนักพร้อมกับยิ้มออกมาราวกับนางได้เอาชนะชายหนุ่มของตนเองได้สำเร็จ ซึ่งนั่นทำให้เจ้าอ้วนหวั่นไหวอย่างรุนแรง

ก่อนที่หัวใจของเจ้าอ้วนจะกลับสู่ความขื่นขม เขาใช้ดาบบินเพื่อส่งข่าวว่าเขาจะไม่กลับบ้าน หลังจากนั้นเขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนางเพื่อที่จะฝึกฝนแบบคู่กับฉุ่ยจิ้ง

สามปีผ่านไป ฉุ่ยจิ้งและเจ้าอ้วนกลับออกมาจากห้องลับ

ในขณะนั้น เจ้าอ้วนและฉุ่ยจิ้งเดินจับมือกันออกมาจากห้องและทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วทั้งสองไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ดังเช่นชายหญิง แต่มันเป็นสายสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์

ในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนได้ฝึกฝนแบบคู่นั้น สายสัมพันธ์ของจิตวิญญาณทั้งคู่ได้ใกล้ชิดกัน กล่าวได้ว่าทั้งคู่อาจเป็นทั้งคู่ชีวิตและเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายก็ได้

นอกจากนี้ ด้วยพลังของชาวิถีเต๋าทำให้ทั้งสองเข้าใจกฎแห่งสวรรค์อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นหลังจากที่พวกเขาได้ดูดซับพลังของดอกบัวแห่งองค์ประกอบธาตุทั้งห้า ทั้งสองคนประสบความสำเร็จและเข้าสู่ระดับปฐมภูมิขั้นกลางทันที

ก่อนอื่นต้องรู้ว่า มันผ่านมาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นที่พวกเขาเข้าสู่ระดับปฐมภูมิ ด้วยผลลัพธ์เช่นนี้ทำให้มันกลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่งที่สามารถผ่านพ้นไปได้โดยช่วงเวลาอันสั้น นอกจากนั้นการที่ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิขั้นต้นจะก้าวเข้าสู่ขั้นกลาง โดยปกติแล้วจะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งทศวรรษ แม้แต่เหล่าอัจฉริยะยังใช้เวลาถึงสิบปี การที่จะสามารถก้าวกระโดดได้ภายในเวลาเพียงแค่ห้าปี มันสามารถเกิดขึ้นได้ครั้งเดียวภายในรอบสามร้อยปีเท่านั้น!

แม้ว่าจะก้าวขึ้นมาเพียงระดับเดียว แต่ทั้งหมดนั้นหมายถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา เนื่องจากความแข็งแกร่งของปราณสายฟ้าที่เจ้าอ้วนมีนั้นจะถูกกำหนดโดยความแข็งแกร่งของผู้ใช้มัน แน่นอนว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ทั้งความบริสุทธิ์ของสายฟ้าที่ถูกปรับแต่งออกมา กล่าวก็คือเจ้าอ้วนสามารถต่อสู้กับผู้ฝึกตนระดับจินตันได้อย่างไม่เคอะเขิน แน่นอนว่าแม้แต่ระดับจินตันขั้นกลางก็ไม่สามารถหลบหนีเขาได้

สำหรับฉุ่ยจิ้ง แม้สีหน้าของนางยังคงปกติอยู่ แต่แววตาของนางเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง พลังของเทวะจันทราวารีของนางนั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งอย่างมากจนกระทั่งความคนรอบข้างของนางสามารถรับรู้ถึงพลังนั้นได้โดยที่นางไม่รู้ตัว

ฉุ่ยจิ้งเดินออกไปส่งเจ้าอ้วนอย่างเงียบงันพร้อมกล่าวอย่างไม่เต็มใจ “ถึงเวลาที่ต้องกล่าวลาแล้ว”

“เจ้าอย่าได้กล่าวน้ำเสียงเศร้าโศกเช่นนั้นเลย” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างขื่นขม “เราอยู่ใกล้กันเพียงเท่านี้ เจ้าสามารถเดินไปหาข้าได้เสมอ ทำไมเจ้าจึงไม่ไปพบข้าบ้างล่ะ?”

“ไปเพื่อมองดูท่านกำลังต่อสู้กับสตรีทั้งสองนางหรือ?” ฉุ่ยจิ้งกล่าวเช่นนั้น ก่อนที่จะผลักเขาออกไป นางปิดประตูอย่างรุนแรงพร้อมตะโกนว่า “จำไว้ด้วย ในวันข้างหน้าถ้าหากว่าท่านมาพบข้า ท่านจะต้องดื่มไวน์น้ำดีอสรพิษหนึ่งขวด!”

“แล้วทำไมเจ้าจึงไม่ไปหาข้าแทนล่ะ!” เจ้าอ้วนตะโกน “ข้าจะให้เจ้าดื่มน้ำส้มสายชูสักเหยือก!”

ฉุ่ยจิ้งไม่ได้ตอบกลับ แต่น้ำที่อยู่ในทะเลสาบกลับถูกเปิดใช้งานและเกิดเป็นมังกรนับร้อยตัวพุ่งเข้าหาเจ้าอ้วน

เมื่อเจ้าอ้วนเห็นเช่นนั้น เขารู้ได้ทันทีว่าฉุ่ยจิ้งต้องการที่จะเล่นงานเขา แล้วเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร? ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ทว่ามังกรวารีที่ฉุ่ยจิ้งส่งออกมานั้นมีมากเกินไป เจ้าอ้วนไม่สามารถหลบเลี่ยงพวกมันทั้งหมดได้ พวกมันตามติดเจ้าอ้วนอย่างไม่ลดละ นั่นทำให้เจ้าอ้วนเปียกโชกไปทั้งตัว เจ้าอ้วนกำลังวิ่งหนีอย่างน่าสมเพชเหมือนครั้งที่เขาถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็ก

“ฮิฮิ!” ฉุ่ยจิ้งที่อยู่ในบ้านไม่อาจอดกลั้นเสียงหัวเราะไว้ได้ นางตะโกนออกมา “เจ้าอ้วน เจ้าสามารถป้องกันการโจมตีเหล่านี้ได้ แต่เจ้ากลับยอมที่จะกลายเป็นคนโง่เพียงเพราะไม่อยากให้ข้าโกรธ แม้ว่าเจ้าจะมีข้าอยู่ภายในหัวใจ แต่เจ้าก็ยังมีหัวใจให้กับหญิงอื่นเสมอ สิ่งที่เจ้ากระทำนั้นน่ารังเกียจเกินไป ดูเหมือนว่าสิ่งที่ท่านอาจารย์กล่าวนั้นไม่ผิดแม้แต่น้อย แน่นอนว่าเจ้าเป็นโชคชะตาของข้า ในชีวิตก่อนหน้านี้ข้าติดหนี้เจ้าไว้มากเกินไป ดังนั้นข้าจึงต้องมาชดใช้ทุกสิ่งภายในชีวิตนี้!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น น้ำตาของนางไหลอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างไม่อาจห้ามได้

หลังจากนั้นก็ไม่มีกล่าวสนทนากันแต่อย่างใด เจ้าอ้วนออกจากลานจันทราคติ เขาเร่งกลับไปที่ลานม่านหมอกของตน เมื่อกลับมาถึง สิ่งแรกที่พบเห็นในสายตาคือหานหลิงเฟิงและมู่ซื่อหรง ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ทั้งสองยังคงรอคอยอยู่ที่นี่ไม่ได้ออกไปที่ใดแม้สักวัน