บทที่****200-2: เริงร่า

 

เมื่อพบว่าผู้มาเยือนเป็นเจ้าอ้วน ทั้งมู่ซื่อหรงและหานหลิงเฟิงต่างน้ำตาไหลขณะวิ่งเข้ามากอดอย่างไม่คิดรีรอ

“เจ้ากลับมาแล้ว!” หานหลิงเฟิงกล่าวออกมาด้วยความรักใคร่

“ฮ่าฮ่า!” เจ้าอ้วนยิ้มพร้อมกับจูบนาง “เด็กน้อย ข้ากลับมาแล้ว!” ในขณะนั้นเขายืดมือของตนเองเพื่อสัมผัสกับหน้าอกของนาง

ใบหน้าของหานหลิงเฟิงแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที แต่นางไม่ได้ขัดขืนเขาแต่อย่างใดพร้อมกับปล่อยให้เขาทำตามใจตนเอง

มู่ซื่อหรงที่อยู่ด้านข้างกระซิบกับเจ้าอ้วนว่า “พี่ชายซ่ง ข้าคิดถึงท่าน!”

“โอ้ งั้นหรือ?” เจ้าอ้วนตอบกลับอย่างยียวน “เจ้าคิดถึงส่วนใดของข้า?”

“ฮี่ฮี่” เมื่อมู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น นางคว้ามือของเจ้าอ้วนเพื่อไปจับหน้าอกของนางพร้อมกลาวว่า “จับและดูว่ามันคิดถึงท่านมากเท่าใด!”

“ฮี่ฮี่” เป็นธรรมดาที่เจ้าอ้วนจะกล่าวออกมาอย่างไม่ได้คิดอะไรนักพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “ตรงไหนนะที่คิดถึงข้า?”

เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนยียวน ไม่เพียงแต่นางไม่โกรธ นางกลับเปิดเผยความต้องการของตนเองอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ายวน “ที่ตรงนี้! ตรงนี้คิดถึงท่านมากที่สุด!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางปลดสายที่รัดชุดเอาไว้ นางพลันดึงมือของเจ้าอ้วนสู่จุดที่เร้นลับที่สุดของร่างกาย

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมู่ซื่อหรงที่กระทำเช่นนี้ ความปรารถนาที่เจ้าอ้วนเก็บกดไว้ยาวนานถึงสามปีได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ มังกรของเขาเริ่มที่จะแผ่อำนาจออกมาใต้กางเกงอันเปียกชุ่ม

เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่ซื่อหรงหัวเราะออกมาอย่างไม่อาจช่วยได้ นางถอดเสื้อผ้าที่เปียกของเจ้าอ้วนออก พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าคิดถึงมันอย่างถึงที่สุด!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางได้กลืนมันลงคอไปทั้งหมด

เจ้าอ้วนไม่สามารถอดทนต่อการกระตุ้นเช่นนี้ได้ เขาอุ้มหญิงสาวทั้งสองคนไปที่เตียง จากนั้นการต่อสู้ที่หอมหวานได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

หานหลิงเฟิงไม่อาจควบคุมตนเองได้และปล่อยให้เจ้าอ้วนทำตามใจ ทั่วทั้งห้องจึงเต็มไปด้วยเสียงแห่งความรัญจวนอย่างไม่อาจควบคุมได้

แต่มู่ซื่อหรงนั้นแตกต่างออกไป! หลังจากที่นางฝึกฝนเคล็ดวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหาร นางมีการเปลี่ยนแปลง นางชื่นชอบความรุนแรงและกลายเป็นหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความปรารถนา นางโยกสะโพกของตนเองอย่างดุเดือดพร้อมกับจู่โจมเจ้าอ้วนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย “อา พี่ชายซ่ง สิ่งนี้ ข้าชื่นชอบช่วงเวลาที่ถูกท่านย่ำยีอย่างยิ่ง ได้โปรดทำกับข้าอย่างใจท่านต้องการ ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่ท่านมีกับข้าได้เลย!”

ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเสียงมู่ซื่อหรงครวญคราง เจ้าอ้วนรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ราวกับคลื่นยักษ์กำลังถาโถมเขาอย่างรุนแรง เขาใช้พลังทั้งหมดที่เขามีและหยุดลงหลังจากผ่านไปยาวนานถึงหกชั่วโมง ในเวลานั้นหานหลิงเฟิงยอมแพ้ไปนานแล้ว แต่สำหรับมู่ซื่อหรงนั้นนางคล้ายเป็นเปลี่ยนสถานะเป็นโคลน ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับนิ้วของตนเอง

แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังไม่ลืมที่จะใช้ลิ้นของตนเองทำความสะอาดน้องชายของซ่งจงอย่างเอาใจ เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เจ้าอ้วนรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก ถึงขั้นที่เขาเริ่มรู้สึกอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับนางให้มากขึ้นไปอีกขั้น

หลังจากที่ได้ถ่ายทอดความปรารถนาทั้งหมดที่ถูกเก็บไว้มายาวนานสามปีออกไปจนหมด เจ้าอ้วนนอนเปลือยกายอยู่บนเตียงอย่างมีความสุขกับหญิงสาวทั้งสอง ในขณะนั้นเขาไม่ลืมที่จะถามหานหลิงเฟิงว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงสามปีที่ผ่านมา

หานหลิงเฟิงพยายามใช้น้ำเสียงปกติตอบกลับเมื่อเจ้าอ้วนกำลังลูบไล้หน้าอกของนางอยู่ “สามปีที่ผ่านมานับได้ว่าสถานการณ์ยังคงสงบ เหล่าสี่พี่น้องถูกจัดการอย่างอยู่หมัดโดยเจ้า ทั้งหมดเข้าสู่การเก็บตัวฝึกฝนและไม่ออกมาก่อกวนผู้ใด ดังนั้นเหล่าผู้คนภายในสำนักเสวียนเทียนจึงรู้สึกขอบคุณเจ้าเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ทั้งหมดในสามปีที่ผ่านมา!”

“เหอะ!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พยัคฆ์อย่างไรก็คือพยัคฆ์ไม่มีวันเปลี่ยน แน่นอนว่าทั้งสี่พี่น้องจะไม่อยู่ในความเงียบนานนัก ข้าขอเดิมพันว่าพวกมันจะออกมาก่อกวนอีกแน่นอนหลังพ้นสภาพการเก็บตัวฝึกฝน พวกเขาก้าวเข้าสู่ระดับจินตันหรือยัง?”

“กล่าวกันว่าหลังจากที่พี่ใหญ่จินได้รับความอัปยศในครั้งนั้นในตอนนี้เขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับจินตันแล้ว อีกไม่นานเขาจะออกมาพร้อมกับความแข็งแกร่ง!” หานหลิงเฟิงกล่าว “แต่ที่เหลือยังคงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ และไม่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จในเร็ววันนี้อีกด้วย!”

“แล้วยินเป็นอย่างไรบ้าง?” เจ้าอ้วนถามอย่างสนใจเป็นพิเศษ “เขายังเป็นขันทีอยู่ไหม?”

“แน่นอนว่าไม่ อาจารย์ทั้งสองของเขานั้นยิ่งใหญ่มาก เวลาเพียงปีเดียวสามารถทำให้เขาฟื้นฟูตนเองและกลับมามีสภาพสมบูรณ์ได้ สิ่งที่สามารถบอกความจริงได้ก็คือหลังจากนั้นเขาได้ออกเดินทางเพื่อไปทดสอบความสามารถนี้กับหญิงสาวที่เป็นมนุษย์ธรรมดา สิ่งนี้ทำให้ข่าวของเขากระจายไปทั่วทั้งภูเขา คุณชายใหญ่และคุณชายรองโกรธจัดจนแทบจะสังหารเขาให้ตายตกไปเสีย!” หานหลิงเฟิงกล่าว

“ฮ่าฮ่า อย่าบอกนะว่าไอ้งี่เง่าผู้นี้มันหลุดจากภูเขาออกสู่โลกภายนอก? เหตุใดเขาจึงไม่มีความรู้พื้นฐานเลย? ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกตนชอบธรรมข้อห้ามนั้นยิ่งใหญ่มากสำหรับการมีเพศสัมพันธ์กับมนุษย์ธรรมดา มันไม่สำคัญหรอกถ้าหากเขาทำมันลงไปแต่ทำไมเขาต้องอวดโอ่เรื่องนี้? การทำเช่นนี้แปลว่าเขาแสวงหาความตายงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนได้แต่ถามออกมาด้วยความสับสน

สำหรับหานหลิงเฟิงนางตอบกลับด้วยความงุงงง “เรื่องนี้มันแย่เกินกว่าจะรับไหวเสียจริง สิ่งที่ยินได้ไปกระทำกับชาวบ้านเช่นนั้น นอกจากนี้เรื่องมันกระจายไปทั่วทั้งภูเขา แต่เขากลับปฏิเสธว่าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น! แต่กลับไม่มีใครเชื่อเขาสักคน!”

“เหอะ จะมีใครบ้างเวทนามัน คิดหรือจะมีผู้ใดเชื่อ” เจ้าอ้วนกล่าวต่อ “บางทีสถานการณ์ของเขาอาจจะน่าเวทนาเกินกว่าที่พวกเจ้าจะกล่าวออกมาหรือเปล่า?” เจ้าอ้วนถามต่อ “ทางด้านอาวุโสฉิงเฟิงซีกับฟู่หงจางล่ะ ไม่ได้ผลเลยงั้นหรือ?”

แม้ว่าสำนักเสวียนเทียนจะประสบความสำเร็จกับฟู่จงหาง แต่สิ่งนั้นไม่มีผลกับไป๋ซื่อหลงและมู่ซื่อหรง เพราะนางสามารถใช้พลังของดาบได้อย่างเต็มที่แล้ว ในฐานะที่เป็นยาของฟู่หงจาง ส่วนหนึ่งถูกเก็บไว้ในสำนัก อีกครึ่งถูกส่งเก็บไว้ให้กับผู้มีพระคุณ ในฐานะที่เขาเป็นกุญแจสำคัญในการหลอกล่อตาเฒ่าเฟิง เจ้าอ้วนนั้นได้รับรางวัลนี้ด้วย เขาได้รับฟู่หงจางสามชิ้นจากภารกิจนี้

สามปีก่อนเขาได้รับรู้ว่าฉิงเฟิงซีบาดเจ็บสาหัส เขาได้ทำการท้าทายพี่ใหญ่จินด้วยความโกรธ แม้ว่าจะทำการแก้แค้นไม่สำเร็จ แต่เขาก็จะไม่ล้มเลิกการแก้แค้นนี้อย่างแน่นอน นอกจากนั้นเขายังมอบฟู่หงจางให้กับฉิงเฟิงซีเพื่อตอบแทนที่เขาดูแลเจ้าอ้วนมานานหลายปี

ในตอนแรกฉิงเฟิงซีไม่ต้องการของล้ำค่าเช่นนี้จากเจ้าอ้วน แต่สุดท้ายแล้วเขาได้พ่ายแพ้ความพยายามของเจ้าอ้วนพร้อมกับรับมันไว้อย่างไม่มีทางเลือก หลังจากผ่านไปสามปีเจ้าอ้วนคิดว่าอาการบาดเจ็บของฉิงเฟิงซีคงจะดีขึ้นไม่มากก็น้อย

หลังจากหานหลิงเฟิงได้ยินเช่นนั้น นางตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “อาวุโสฉิงเฟิงซีตอนนี้แข็งแรงมากเพราะว่ายาฟู่หงจางของเจ้า เขาสามารถเข้าสู่ระดับจินตันได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้เขากำลังปรับเสถียรภาพของพลังอยู่ คงอีกไม่นานที่เขาจะกลับออกมา! ว่ากันว่านักบวชฮัวอวิ๋นให้ความสำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก!”

เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาอดคิดกับตนเองไม่ได้ ‘นักบวชฮัวอวิ๋นไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่นัก เขาสนใจข้า เพียงแต่เขาต้องการใช้ฉิงเฟิงซีเพื่อที่จะแสดงความปรารถนาดีต่อข้าเท่านั้น! ตอนนี้เขากำลังทำให้ข้าติดหนี้บุญคุณเขาอย่างไม่สิ้นสุด จิ้งจอกเฒ่าตนนี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก!’

เมื่อคิดเช่นนี้ เจ้าอ้วนไม่มีอารมณ์จะกล่าวอะไรอีกต่อไป ตอนนี้เขาถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้งโดยลิ้นของมู่ซื่อหรง เจ้าอ้วนอุ้มหานหลิงเฟิงขึ้นมาจากนั้นการต่อสู้จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

แต่ในขณะนั้นทั้งสามคนได้ยินเสียงถีบประตูดังลั่น

“ไขมันบัดซบ บิดาของเจ้ามาแล้ว!” สำหรับเสียงนั้นเป็นใครอื่นไม่ได้นอกจากเหล่าพี่น้องทั้งสี่

แน่นอนว่าทั้งสี่คนตกอยู่ในอาการมึนงงอย่างสมบูรณ์ สถานการณ์ภายในห้องนั้นช่างรุนแรงเกินจะกล่าว และไม่ควรอย่างยิ่งที่พวกเขาจะเข้ามาเห็นเช่นนี้

ชายหญิงสามคนเปลือยกายอยู่ เจ้าอ้วนนอนอย่างสบายอารมณ์อยู่บนเตียง มู่ซื่อหรงอยู่ระหว่างขาของเขาและใช้ปากดูแลมังกรของเจ้าอ้วนอย่างดุเดือด สำหรับหานหลิงเฟิงนั้นนั่งอยู่บนอกของเจ้าอ้วน และเขากำลังขยี้หน้าอกของนางอยู่ ในตอนนี้เป็นเวลากลางวันแสก ๆ ใครจะคิดกันว่าพวกเขาทั้งหมดจะได้เห็นภาพเช่นนี้?

ไม่ช้า เมื่อทั้งสามคนเรียกสติของตนเองกลับมา หานหลิงเฟิงกรีดร้องออกพร้อมกับที่เจ้าอ้วนคำรามลั่นพร้อมกับนำผ้าห่มคลุมหญิงสาวทั้งสองไว้ แต่มู่ซื่อหรงยังคงใช้ปากกับมังกรของเจ้าอ้วนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหล่าสี่พี่น้องนั้นทำตัวไม่ถูก รอยยิ้มที่ยั่วยวนของนางทำให้น้องชายของสี่พี่น้องลุกยืนทันที

ตอนนี้เจ้าอ้วนไม่ได้ห้ามปรามมู่ซื่อหรง หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว เขาลุกขึ้นพร้อมกับสวมชุดคลุมอย่างรวดเร็วและยืนอยู่เบื้องหน้าทั้งสี่คน

“คนหัวล้านทั้งสี่อยากตายงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนตะโกน แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดคนไหนสามารถอดทนได้เมื่อหญิงสาวของเขาถูกจ้องมองโดยผู้อื่น

ดังนั้นในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาปล่อยหมัดออกไปทันทีโดยไม่รอฟังคำอธิบายใด

แต่ทั้งสี่คนก็ไม่ได้คิดจะอธิบายสิ่งใดอยู่แล้ว พี่ใหญ่จินเข้าสู่ระดับจินตันแล้ว ในตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับหมัดของเจ้าอ้วน แม้ความแข็งแกร่งของเจ้าอ้วนจะสามารถอดทนต่อทัณฑ์สวรรค์ได้ แต่เขาสามารถต่อสู้กับผู้ฝึกตนเพาะกายที่เหนือกว่าเขาได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น หลังจากทั้งคู่ปะทะกันทั้งสองถอยออกมาสองถึงสามก้าวทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นบนพื้น

พลังของหมัดที่เจ้าอ้วนส่งออกไปทำให้เกิดพายุขึ้นภายในห้องทำลายข้าวของทุกอย่าง มู่ซื่อหรงและหานหลิงเฟิงอยู่ในสภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

แต่เหล่าสี่พี่น้องไม่ได้รับอันตรายใดๆ อีกทั้งพวกเขายังหัวเราะอย่างสบายใจ

“เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าช่างโชคดีอะไรเช่นนี้!” พี่รองยินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “แม้แต่ศิษย์น้องผู้มีชื่อเสียงอย่างมู่ซื่อหรงยังใช้ปากบริการเจ้าเลย! เจ้ามันช่างมันน่ากลัวจริงๆ!”

“แต่หานหลิงเฟิงนั้นก็ถือว่าไม่เลว ร่างกายของนางช่างงดงามยิ่งนัก!” น้องเล็กเที่ยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

“ไม่ว่านางจะงดงามถึงเพียงใด นางก็เป็นเพียงหญิงสาวสำส่อนที่ถูกทำลายโดยเจ้าไขมันบัดซบนี้!” ถงกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “ใครจะไปคิดว่าหลังกำแพงนี้ นางจะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ในเวลากลางวัน!”

เมื่อหานหลิงเฟิงได้ยินเช่นนั้น นางโกรธจัดทันที เจ้าอ้วนเช่นกัน เขาตะโกนออกมาดังลั่น “เจ้าพวกหัวล้านสารเลว พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตายตกไปในวันนี้!”

ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาโบกมือพร้อมกับเรียกดาบแห่งธาตุทั้งห้าออกมา ดาบทั้งห้าเล่มพุ่งเข้าใส่เหล่าสี่พี่น้องราวกับคลื่นยักษ์โหมซัด!