บทที่ 1109 จากไปก่อน

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1109 จากไปก่อน

กู้ชูหน่วนรู้ว่านี่เป็นสิ่งซึ่งมากที่สุดที่พวกเขาจะยอมรับได้ หากยังฝืนต่อไป ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยละทิ้งแผ่นอักษรสีเหลือง

เนื่องจากแผ่นอักษรสีเหลืองเป็นสิ่งกำหนดชะตาของพวกเขาว่าจะสามารถกลับไปยังดินแดนเยี่ยอวี่ได้หรือไม่ กลับไปทำลายเผ่าหยกเพื่อล้างแค้นให้กับเผ่าเพลิงฟ้าได้หรือเปล่า

ส่วนเซี่ยวอวี่เซวียน

เขายังคงอยู่ใบโลกใบนี้ ครั้งนี้ปล่อยเขาไปก่อน ครั้งหน้าเมื่อได้พบกับเขาเมื่อไหร่ก็ค่อยเอาชีวิตของเขา

และเซี่ยวอวี่เซวียนก็เหมือนจะรู้เรื่องนี้ดี

เสียงของเขาแหบแห้ง “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไปเถอะ”

กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นเศร้าและพูดอย่างเสียใจว่า “เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าพูดเช่นนี้มันทำให้ข้ารู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก ในตอนที่อยู่เขตหวงห้าม พวกเราสัญญากันว่าจะเป็นและตายไปด้วยกันไม่ใช่หรือ ไม่เจอกันเพียงไม่กี่เดือน ข้างกายเจ้ามีผู้หญิงคนอื่น เจ้าก็คิดจะผลักไสไล่ส่งข้าเลยงั้นหรือ?”

เขตหวงห้าม……

ในเขตหวงห้ามตอนนั้น มันก็เป็นสิ่งที่เผ่าเพลิงฟ้าสร้างขึ้นมาเพื่อคุมขังและรังแก เข่นฆ่าพวกเขา

ในตอนที่อยู่ในเขตหวงห้าม เขาและนางสองคนสามารถกล่าวได้เลยว่าเป็นแมวเก้าชีวิต สุดท้ายพวกเขาก็สามารถรอดชีวิตออกมาได้

ส่วนนาง ไม่ใช่เพียงแค่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามสีเท่านั้น แม้แต่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์เจ็ดสีนางยังนำออกมารักษาเขา ซึ่งทำให้คนทั้งโลกขุ่นเคืองใจ

เห็นได้ชัดว่านางจงใจแกล้งเขา

หัวใจของเซี่ยวอวี่เซวียนยังคงหนักอึ้ง

โดยเฉพาะประโยคที่ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นอยู่เคียงข้าง จึงอยากจะผลักไสไล่ส่งนางไป

นี่มัน……

ชีวิตนี้ นอกจากนางแล้ว เขาไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนเป็นอันขาด

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “วันนี้ ปู่และหลานสาวคู่นั้นข้าจะเป็นคนปกป้องเอง ปกป้องเซี่ยวอวี่เซวียน และปกป้องแผ่นอักษรสีเหลืองด้วยเช่นกัน”

“เช่นนั้นก็อย่าหาว่าพวกเราไม่เตือน ล่วงเกินแล้ว”

ผู้อาวุโสทั้งหกของเผ่าเพลิงฟ้าลงมือพร้อมกัน

สามคนหยุดกู้ชูหน่วนเอาไว้

และอีกสามคนเข้ามาสังหารเซี่ยวอวี่เซวียน

พวกเขายังมีความกังวลเกี่ยวกับกู้ชูหน่วนอยู่ในใจ เพียงแค่ต้องการขวางนางเท่านั้น ไม่ได้คิดจะฆ่า

แต่สำหรับพวกของเซี่ยวอวี่เซวียน พวกเขาลงมืออย่างเหี้ยมโหด ต้องการกำจัดพวกเขาให้หายไปจากโลกใบนี้

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น

กู้ชูหน่วนพ่นลมหายใจอันเยือกเย็น จากนั้นก็เริ่มต้นใช้เคล็ดลับ

นางรู้ หากวันนี้นางคิดจะปกป้องเซี่ยวอวี่เซวียน ปกป้องแผ่นอักษรสีเหลือง โจมตีผู้อาวุโสทั้งหกให้ถอยกลับไปโดยไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต นางคงหมดโอกาสชนะ

เซี่ยวอวี่เซวียนเป็นพี่ชายของนางที่สัญญาด้วยชีวิตและความตาย

นางต้องปกป้อง

อี้หยุนเฟยเองก็มีบุญคุณกับนางเป็นอย่างมาก นางจำเป็นต้องนำแผ่นอักษรสีเหลืองกลับไปช่วยชีวิตเขา

นางจึงจำเป็นต้องปกป้อง

การต่อสู้ครั้งนี้ นางจะต้องชนะ

ดาบเต้นรำราวกับดอกไม้ จิตสังหารแผ่กระจาย

ผู้อาวุโสที่ล้อมรอบกู้ชูหน่วนอยู่สึกหวั่นไหวอยู่ในใจ

นอกจากความสามารถและกำลังที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วของกู้ชูหน่วน นางในตอนนี้ก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับหกแล้ว

แม้ว่าจะเป็นเพียงขั้นเริ่มต้น แต่ความแข็งแกร่งของนางก็เกือบไปถึงขั้นกลาง

หากไม่ระวัง พวกเขาทั้งสามอาจจะจบไม่สวย

คนเดียวไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้ ถูกกู้ชูหน่วนทะลวงผ่านไป

“บูม……”

กู้ชูหน่วนและดาบรวมเป็นหนึ่ง กลายร่างเป็นมังกรและพุ่งไปที่หัวใจของผู้อาวุโสฉื่อ

พวกของผู้อาวุโสฉื่อรู้สึกโกรธและตกใจ

เซี่ยวอวี่เซวียนได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาสามารถคนเพียงพอที่จะสังหารเขา

พวกเขารวมพลังกัน อีกนิดเดียวก็สามารถดูดกลืนร่างกายของเซี่ยวอวี่เซวียนได้แล้ว

หากถูกพลังที่พวกเขาหลอมรวมกลืนกิน เซี่ยวอวี่เซวียนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่จิตวิญญาณก็ไม่เหลือ

แต่ยัยผู้หญิงบ้านนั่นกลับยื่นมือเข้ามายุ่ง

ผู้อาวุโสฉื่อเป็นคนสร้างค่ายกลขึ้นมา เขารีบเก็บมัน หากเซี่ยวอวี่เซวียนตาย เขาเองก็ต้องตายไปด้วย

เขายกเลิกค่ายกล เซี่ยวอวี่เซวียนรอด เขาเองก็รอด

ภายใต้ความสมดุลของทั้งสอง ผู้อาวุโสฉื่อจึงละทิ้งค่ายกล หลีกเลี่ยงการโจมตีที่รุนแรงจนถึงชีวิตของกู้ชูหน่วนและดาบของนาง

“มันจะมากเกินไปแล้ว มากเกินไป พวกเจ้าขัดขวางจักรพรรดินีไว้ ข้าจะเป็นคนไปสังหารเซี่ยวอวี่เซวียนเอง”

กู้ชูหน่วนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเยือกเย็น

ดาบในมือของนางเล็งไปที่ผู้อาวุโสฉื่อ ไม่ปล่อยให้เขามีช่องว่างได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

นางพยายามสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้แบบหนึ่งต่อสี่

เนื่องจากพวกเขาไม่กล้าทำร้ายนาง

ผู้อาวุโสขั้นห้าของเผ่าเพลิงฟ้าสองคนถูกกู้ชูหน่วนโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ล้มลงกับพื้นและลุกไม่ขึ้น

และในเวลานี้ นางต่อสู้แบบสามต่อหนึ่ง ขัดขวางการเคลื่อนไหวของยอดฝีมือขั้นหกของเผ่าเพลิงฟ้า

แรงกดดันที่เซี่ยวอวี่เซวียนได้รับลดลงอย่างมาก

กู้ชูหน่วนกล่าวออกมาว่า “หาโอกาสพาพวกเขาหนีไป พวกเขาไม่กล้าทำอะไรข้า”

เซี่ยวอวี่เซวียนเข้าใจ มิตรภาพหลายปีทำให้พวกเขาเข้าใจซึ่งกันและกัน

การต่อสู้เต็มไปด้วยความเงียบงัน

แต่ในตอนนั้นเอง……

มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน……

แรงกดดันจากขั้นสูงสุดระดับหกกำลังพุ่งลงมาจากด้านบนท้องฟ้า

พลังนี้มุ่งตรงมายังร่างของเซี่ยวอวี่เซวียน

มันเป็นฝ่ามีที่ทรงพลัง ความรุนแรงของมันสามารถบดขยี้โลกใบนี้ได้

ใบหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไป นางคิดจะมาปกป้องเซี่ยวอวี่เซวียน แต่เวลานั้นผู้อาวุโสฉื่อพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะหยุดนางไว้

ผู้อาวุโสอีกสองคนก็ช่วยสนับสนุนผู้อาวุโสฉื่อ ทำพยายามที่จะหยุดกู้ชูหน่วนเอาไว้

พัดกระดูกลึกลับของเซี่ยวอวี่เซวียนถูกเหวี่ยงขึ้น แสงสีทองสว่างไสวผลิบาน เข้าปะทะกับฝ่ามืออันทรงพลังนั่นอย่างรุนแรง

“บูม……”

เขากระอักเลือดออกมา

อวัยวะภายในร่างกายปั่นป่วนอย่างรุนแรง

คนของเผ่าเพลิงฟ้าจะปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปได้อย่างไร

ชั้นสูงสุดระดับหก ขั้นกลางระดับหก ปล่อยกระบวนท่าของตนเองออกมา โจมตีขนาบมาจากสองด้าน

เซี่ยวอวี่เซวียนสามารถรับมือได้เพียงด้านเดียวเท่านั้น ไม่สามารถรับมือได้ทั้งสองด้าน

เมื่อเห็นว่าการโจมตีอันรุนแรงกำลังใกล้เข้ามาอีกครั้ง

เฉินหลิงพุ่งออกไป ใช้ร่างกายของนางเป็นเกราะกำบังโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น

ปู่เฉินหลิงเห็นเช่นนั้นก็รีบดึงเฉินหลิงกลับมา และใช้ร่างของเขาในการปกป้องนางไว้อีกครั้ง

“พัฟ……”

ปู่เฉินหลิงกระอักเลือด หมดสติไปอย่างอ่อนแรง

“ท่านปู่……”

เฉินหลิงตะโกนออกมาด้วยหัวใจที่แตกสลาย

ใบหน้าของเซี่ยวอวี่เซวียนซีดขาว การย่างก้าวของเขาไร้ซึ่งสมดุล

กู้ชูหน่วนหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด และไม่เกรงใจพวกของผู้อาวุโสฉื่ออีกต่อไป

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว……

เงาจำนวนมากกำลังพุ่งเข้ามาจากระยะไกล

นั่นก็คือเหล่าองครักษ์ที่ลั่วอิ่งพามาเพื่อขัดขวางเหล่าผู้อาวุโสแห่งเผ่าเพลิงฟ้า

กู้ชูหน่วนกระโดดข้ามไปขวางคนที่โจมตีและคิดจะสังหารเซี่ยวอวี่เซวียน

และในขณะเดียวกัน หยางเหมยก็บินเข้ามา

ทันทีที่เขาบินขึ้นมาก็เห็นอาจารย์ของตนเองถูกฝ่ามือโจมตีเข้าตรงหน้าอก หายใจอย่างอ่อนแรง ทั้งหมดเป็นเพราะเขาใช้ร่างกายของตนเองเพื่อปกป้องเซี่ยวอวี่เซวียน

เขาตะโกนออกมาพร้อมวิ่งเข้าไป “อาจารย์……”

“อาจารย์……เกิดอะไรขึ้น เหตุใดพวกเขาต้องฆ่าอาจารย์ด้วย……อาจารย์……”

เฉินหลิงร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด กอดปู่ของตนเองไว้แน่น หยิบยาออกจากอกของนางอย่างสั่นเทาเพื่อป้อนให้เขา

“ท่านปู่ ท่านจะต้องอดทน ข้าไม่ยอมให้ท่านตาย ฮือ ฮือ……พี่หลาน ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่ง สามารถช่วยท่านปู่ของข้าได้หรือไม่?”

เซี่ยวอวี่เซวียนส่ายหน้าด้วยความรู้สึกละอายใจ

“เส้นลมปราณขาด อวัยวะภายในถูกทำลาย ข้าขอโทษ……”

หยางเหมยหยางเหมยคว้าคอเสื้อของเซี่ยวอวี่เซวียน “เจ้าไปทำให้ผู้ใดขุ่นเคืองกันแน่ เหตุใดพวกเขาต้องสังหารอาจารย์ของข้าด้วย……”

ชายชราโบกมือ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “อย่า……อย่าไปโทษเขา……ข้าเต็มใจที่จะทำเช่นนี้”

“อาจารย์”

“เจ้าเองก็โตมากแล้ว ทำเรื่องอันใดก็อย่างหุนหันพลันแล่น ข้า……ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าต้องดูและหลิงเอ๋อร์ให้ดี”

“อาจารย์……ท่านจะไม่ตาย ข้าจะพาท่านไปหาหมอ”

“ไม่……ไม่จำเป็น……”

ชายชรายื่นมือออกมาอย่างสั่นเทา พยายามกุมมือของเซี่ยวอวี่เซวียน

เซี่ยวอวี่เซวียนกุมหลังมือของเขาไว้ ฟังคำพูดสั่งเสียสุดท้ายจากเขา

“คุณ……คุณชายเซี่ยว ข้ามีหลานสาวเพียงคนเดียว หลิงเอ๋อร์กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก เป็นเด็กน่าสงสาร ข้า……ข้าอดเป็นห่วงนางไม่ได้”

“ท่านผู้อาวุโสวางใจ ข้าเซี่ยวอวี่เซวียน ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ ข้าจะปกป้องนางให้ถึงที่สุด”

“ดี……ดี……ข้าขออะไรเจ้าสักเรื่องได้หรือไม่?”

“ท่านผู้อาวุโสเชิญกล่าวออกมา”

“ข้า……ข้าอยากให้เจ้า……แต่ง……แต่งงานกับนาง ได้……ได้หรือไม่?”

เนื่องจากเหตุผลดังกล่าว เซี่ยวอวี่เซวียนพยายามที่จะปล่อยมือและปฏิเสธชายชรา

แต่มือของชายชราเริ่มแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าเขาพยายามบีบเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี

น้ำตาไหลของเขาไหลออกมา ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาเต็มไปด้วยการอ้อนวอนและความคาดหวัง

พลังชีวิตของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าเขาพยายามกลั้นลมหายใจของเขาไว้เพื่อรอคำตอบ

มองไปที่เฉินหลิงซึ่งกำลังร้องไห้ หยดน้ำตาของนางราวกับสายฝน

นึกถึงความเมตตาที่ปู่และหลานสาวคู่นี้มอบให้กับเขาในช่วงเวลาหลานเดือนที่ผ่านมา ในช่วงเวลาที่เขาบาดเจ็บสาหัส

จู่ ๆ เซี่ยวอวี่เซวียนก็ไม่สามารถปฏิเสธออกมาได้

ได้แต่อึ้งอยู่อย่างนั้น

“เจ้า……เจ้าสามารถ……รับ……รับปากข้าได้หรือไม่?……”

หยางเหมยกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าจะงุนงงอะไรอยู่ รีบรับปากท่านอาจารย์ ที่ท่านอาจารย์ต้องบาดเจ็บถึงเพียงนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะช่วยเจ้า เจ้าอยากเห็นท่านอาจารย์ตายตาไม่หลับอย่างนั้นหรือ?”

ริมฝีปากของเซี่ยวอวี่เซวียนเบะออกเล็กน้อย เขาพยักหน้าด้วยความลำบากใจ

“ได้ ข้ารับปากท่าน ข้าจะแต่งงานกับเฉินหลิง ปกป้องดูแลนางไปจนแก่เฒ่า”