เล่มที่ 20 เล่มที่ 20 ตอนที่ 600 ช่วยเจ้าวาดเต่าทรงพลัง

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

ท้ายที่สุด การถอนพิษของกูสือซานก็ไม่เป็นผล เขากระซิบกับไหวชิ่งกงจู่ที่เจ็บจนแทบจะสูญสิ้นสัมปชัญญะว่า “องค์หญิง พิษนี้… ราชครูไม่อาจถอนได้พ่ะย่ะค่ะ! ”

ไม่เพียงถอนไม่ได้เท่านั้น กูสือซานตรวจร่างกายไหวชิ่งกงจู่อยู่ครึ่งค่อนวัน ทว่าตรวจไม่พบสารพิษใดๆ

นี่มัน… ช่างน่ากลัวจริงๆ

แม้แต่ราชครูก็ไม่อาจถอนพิษได้?

ไหวชิ่งกงจู่เจ็บปวดและสิ้นหวัง นางกัดฟันกรอด

“ตงหลิงหวง เจ้าวางพิษอันใดข้า? เจ้า… เจ้าคิดจะทำร้ายข้าอย่างนั้นหรือ? ”

ตงหลิงหวงขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยท่าทางราวกับคนถูกปรักปรำ “ไหวชิ่งกงจู่ เจ้าต้องรับผิดชอบคำพูดด้วย คิดทำร้ายเจ้าอันใด ไม่ใช่ว่าพวกเรากำลังแข่งขันกันอยู่หรือ? ”

“ใช่… ใช่ กำลังแข่งขันกันอยู่ ทว่าเหตุใด พิษที่เจ้าวางไว้ แม้แต่ราชครูกูก็ถอนไม่ได้? ”

ทันใดนั้น สีหน้าของตงหลิงหวงก็แปรเปลี่ยนเป็นไร้เดียงสา

“โอ้… ไหวชิ่งกงจู่ เหตุใดเจ้าไม่รีบพูด? เพียง… ก่อนหน้าที่เราจะแข่งขัน หาได้มีกฎว่าข้าไม่สามารถวางยาพิษที่ราชครูกูถอนไม่ได้! ”

ไหวชิ่งกงจู่กระตุกมุมปากอย่างเจ็บปวด คำพูดของตงหลิงหวงผู้นี้ยิ่งทำให้กล้ามเนื้อมุมปากของนางกระตุกด้วยความเดือดดาล

ยามนี้ กูสือซานยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่เห็น เมื่อมองไปยังตงหลิงหวง แววตาของเขาก็เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม

“ตงหลิงหวง เจ้า… เจ้าวางพิษอันใดข้า? เจ้า… เจ้าต้องถอนพิษให้ข้า” ไหวชิ่งกงจู่เจ็บปวดจนทนไม่ไหวแล้ว

ทว่าตงหลิงหวงยังมีท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว นางจิบน้ำชาราวกับกำลังร่ำสุรา

“โอ้? ความหมายขององค์หญิงคือ เจ้ายอมแพ้แล้วหรือ? ”

“ยอมแพ้? ข้าจะยอมแพ้ได้อย่างไร? ”

“ในเมื่อองค์หญิงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เช่นนั้นการแข่งขันก็ยังดำเนินต่อไป! และเนื่องจากการแข่งขันยังไม่สิ้นสุด ข้าจึงไม่สามารถถอนพิษให้เจ้าได้”

“เจ้า… เจ้าต้องการให้ข้าทรมานจนตายหรือ? ”

ต่อให้ต้องเจ็บปวดจนตาย ก็ไม่เกี่ยวอันใดกับตงหลิงหวงแม้แต่น้อย!

ไหวชิ่งกงจู่กัดฟันกรอด นางนอนเกลือกกลิ้งบนพื้นหลายครั้ง ขณะเดียวกันก็ตรวจสอบสาเหตุของอาการปวดท้องจนแทบทนไม่ไหว ทว่าตรวจเท่าไรก็ไม่พบ

สุดท้ายก็นอนกอดขาโต๊ะ และกระแทกศีรษะเข้ากับมัน “ราชครูกู ท่าน… ท่านพบเบาะแสอันใดหรือไม่? ”

เมื่อเห็นไหวชิ่งกงจู่เป็นเช่นนี้ ใบหน้าของกูสือซานก็แสดงถึงความทุกข์ใจ

“องค์หญิงโปรดอภัย กระหม่อม… ตรวจไม่พบสิ่งใดเลย”

“ข้าแพ้ไม่ได้… ข้าจะแพ้ได้อย่างไร! ”

ไหวชิ่งกงจู่ยังไม่หยุดโขกศีรษะกับขาโต๊ะ แต่ไหนแต่ไรมา นางไม่คิดว่าตนเองจะพ่ายแพ้ เพราะตั้งแต่เล็กจนโต นางไม่เคยรู้สึกว่าบนโลกนี้จะมีพิษที่นางถอนไม่ได้

ความคิดที่หยั่งรากลึกถูกทำลายลงอย่างฉับพลัน มันเจ็บปวดยิ่งกว่าความเจ็บจากการโดนพิษทั้งร่างเสียอีก

“ไหวชิ่งกงจู่ เหตุใดเจ้าจึงดื้อรั้นเช่นนี้? ” ตงหลิงหวงขมวดคิ้วแน่น

เล็บอันแหลมคมและเรียวยาวของไหวชิ่งกงจู่เกาะขาโต๊ะแน่น นางกัดฟันกรอด

“ตงหลิงหวง… เจ้า… เจ้าหุบปาก! ”

“ได้ ข้าจะหุบปาก! ดูจากสภาพของเจ้า อีกสักครู่ ไหวชิ่งกงจู่ เจ้าคงเจ็บปวดจนตาย ข้าขอตัวไปนอนก่อน! ทุกท่าน ขออภัยด้วย! ”

ตงหลิงหวงพูดพลางเก็บพัดดัง ‘ขวับ’ ก่อนจะใช้มือยันหน้าผาก และงีบหลับไปจริงๆ

ไหวชิ่งกงจู่โขกศีรษะตนเองกับขาโต๊ะสามร้อยครั้ง กูสือซานและองครักษ์ของนางต่างพากันยื้อยุดอยู่หลายครั้ง ทว่าไม่สำเร็จ จึงทำได้เพียงมองนางโขกศีรษะจนหน้าผากเต็มไปด้วยเลือด

ท้ายที่สุด ไหวชิ่งกงจู่ก็ทนไม่ไหว นางปีนไปเกาะขาตงหลิงหวงเพื่อขอความเมตตา

“ตงหลิงหวง ข้า… ข้ายอมแพ้แล้ว เจ้า… เจ้ารีบถอนพิษให้ข้าเถิด! ”

“ตงหลิงหวง… ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว เจ้ารีบถอนพิษให้ข้าเถิด! ”

ตงหลิงหวงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา พลางเหยียดแขนทั้งสองข้างอย่างเกียจคร้าน

“ไหวชิ่งกงจู่ เจ้ามั่นใจแล้วหรือว่าจะยอมรับความพ่ายแพ้? ”

“ข้ายอมแพ้ ตงหลิงหวง ข้ายอมแพ้แล้ว การแข่งขันของเราในวันนี้ เจ้าคือผู้ชนะ เจ้าชนะแล้ว! รีบถอนพิษให้ข้าเถิด”

“ตกลง! ”

จากนั้น ตงหลิงหวงก็ถอนพิษให้ไหวชิ่งกงจู่

ไหวชิ่งกงจู่หาได้เป็นยอดฝีมือด้านพิษของแคว้นไหวเจียง นางเป็นเพียงผู้ที่รู้วิชาพิษเท่านั้น นางไม่เคยเห็นพิษที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อน จึงต้องการจะมองชัดๆ ว่าตงหลิงหวงถอนพิษอย่างไร

รวมถึงซูจิ่นซีที่อยู่ชั้นบนด้วย

ทว่า….

ผลลัพธ์กลับทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมาก

ตงหลิงหวงไม่ได้ทำอันใด นางเพียงให้เม็ดยาสีขาวหิมะแก่ไหวชิ่งกงจู่ หลังจากไหวชิ่งกงจู่ทานยา อาการปวดก็ทุเลาลง

หลังจากเม็ดยาสีขาวหิมะถูกนำออกมา ซูจิ่นซีใช้ระบบถอนพิษตรวจสอบทันที ทั้งนางยังตรวจพบส่วนผสมในยาเม็ดนั้น และนำส่วนผสมมาอนุมานส่วนประกอบของยาพิษ ทว่า… กลับล้มเหลว

เมื่อความเจ็บปวดบรรเทาลง เส้นผมของไหวชิ่งกงจู่ก็พันกันยุ่งเหยิง ตอนที่เจ็บปวดจนหมดหนทาง เสื้อผ้าของนางก็ขาดวิ่นเสียหลายรู

กูสือซานและองครักษ์เข้าไปพยุงไหวชิ่งกงจู่ ทว่านางกลับผลักพวกเขาออกอย่างแรง

“ข้าไม่ได้พิการ เดินเองได้”

พูดจบ ไหวชิ่งกงจู่ก็ชี้ไปที่ตงหลิงหวง “ตงหลิงหวง… เจ้า… ” เพียงคำว่า ‘เจ้า’ ออกมาจากปาก ไหวชิ่งกงจู่ก็กัดฟันแน่นและเปลี่ยนท่าที “ตงหลิงหวง ข้าจะจดจำเจ้าไว้! ”

“ออมมือแล้ว! ”

ตงหลิงหวงกางพัดออกอีกครั้ง ดัง ‘ขวับ’

ไหวชิ่งกงจู่กัดริมฝีปากตนเองแน่น และเดินออกจากประตู โดยมีองครักษ์ของนางรีบตามออกไป

อย่างไรก็ตาม ไหวชิ่งกงจู่ยังไม่ทันเดินพ้นประตู ตงหลิงหวงที่อยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นมา ทำให้ไหวชิ่งกงจู่แทบอาเจียนออกมาเป็นเลือด

“ไหวชิ่งกงจู่ อย่าลืมเล่า เจ้าต้องเปลือยกายเข้าร่วมการแข่งขันซิ่งหลิน ห้ามใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว! ”

ไหวชิ่งกงจู่หยุดฝีเท้า ทั้งยังกัดฟันดังกึกกึก

ตงหลิงหวงพูดเสริมขึ้นมาอีกประโยค “ยังมีอีก เต่า! อย่าลืมเล่า หากวาดไม่ได้ก็มาหาข้า! ข้าจะช่วยวาดเต่าพันปีอันแสนทรงพลังให้เจ้า! ”

ไหวชิ่งกงจู่เดือดดาลจนร่างกายซวนเซ หากไม่จับขอบประตูไว้ นางคงโกรธจนล้มพับไปแล้ว

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางจึงก้าวข้ามธรณีประตูไปด้วยความยากลำบาก

กูสือซานกวาดสายตามองใบหน้าตงหลิงหวง ก่อนจะเดินตามไหวชิ่งกงจู่ไป ทว่าเดินไปได้เพียงสองก้าวก็หันกลับมา “องค์รัชทายาทตงหลิง! ”

ตงหลิงหวงหันกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ราชครูกูมีอันใดหรือ? ”

“ไม่… ไม่พ่ะย่ะค่ะ… ” กูสือซานไม่รู้เช่นกันว่า เหตุใดเขาจึงเรียกตงหลิงหวงออกไป เมื่อเห็นอีกฝ่ายขมวดคิ้ว เขาพลันรู้สึกประหม่า “วิชาพิษของพระองค์ไม่เลวจริงๆ ! ”

ใบหน้าของตงหลิงหวงแสดงออกอย่างไม่ทุกข์ร้อน นางไม่พูดอันใด นับเป็นการยอมรับอย่างเรียบเฉย

กูสือซานไม่พูดอันใดอีก และเดินตามไหวชิ่งกงจู่ออกไป

ภายในโรงน้ำชาเหลือเพียงซูจิ่นซีกับพรรคพวกที่อยู่ชั้นบน และตงหลิงหวงกับคนอื่นๆ ที่อยู่ชั้นล่าง

ตงหลิงหวงเรียกเถ้าแก่และสั่งชาที่ดีที่สุดของโรงน้ำชามาสองกา

เถ้าแก่รีบนำชามาให้

“นี่คือชาที่ดีที่สุดในร้านขอรับ”

ตงหลิงหวงเปิดฝากาน้ำชาและดมกลิ่น “ชาอันใด? ”

“นี่คือชาหงเหอ เป็นชาที่มีชื่อที่สุดในบรรดาชาดำ ในแคว้นหนานหลี มีเพียงสามร้านที่มีชานี้ ร้านข้าน้อยมีสามกา หนึ่งกาเก็บไว้ที่ตนเอง ส่วนอีกสองกาที่เหลือเป็นของท่านขอรับ”

เถ้าแก่ไม่ได้พูดโกหก ก่อนหน้านี้ที่ไหวชิ่งกงจู่กับตงหลิงหวงเรียกสถานะระหว่างกัน เถ้าแก่ผู้ฉลาดหลักแหลมก็เดาสถานะของตงหลิงหวงออก ดังนั้น ตอนนี้เขาจึงนำชาดีออกมาเพื่อเอาใจรัชทายาทตงหลิงหวง

การประจบประแจงผู้ใดเป็นพิเศษ ไม่ควรทำแบบขอไปที

ตงหลิงหวงเก็บกวาดไหวชิ่งกงจู่ นับว่าเป็นการแก้แค้นแทนเขา!

สมเหตุสมผลที่เขาจะนำชาสองกานี้มามอบให้แขกผู้มีเกียรติท่านนี้

หลังจากตรวจสอบแล้วว่าชาสองกานี้มีคุณภาพชั้นสูง ไม่มีสิ่งเจือปน นางก็ยื่นกาน้ำชาที่ยังไม่ได้เปิดฝาไปให้เถ้าแก่

“นำไปให้สหายทั้งสองท่านที่อยู่ชั้นบนให้ข้าด้วย “