ตอนที่ 115-4 ผู้อาวุโส ท่านยังอ่อนหัดนัก

จำนนรักชายาตัวร้าย

เห็นคู่รักหนุ่มสาวกำลังพ่อแง่แม่งอนกัน อวี้จิงเหลยถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง 

 

 

“เยียนเอ๋อร์ ปู่ไม่เป็นไร!” เสียงหัวเราะนี้ดังมาจากข้างใน ก็เพราะว่าเขาดีใจจริงๆ  

 

 

“เยียนเอ๋อร์ สายตาของเจ้าแหลมคมไม่เบา! หลินเจียงอ๋องนับว่าเป็นคนไม่เลวทีเดียว!” 

 

 

อวี้จิงเหลยถึงกับยกนิ้วให้กับซย่าโหวฉิงเทียน 

 

 

“ท่านอ๋อง เยียนเอ๋อร์ของข้ามอบให้ท่านแล้ว! นางยังเล็กอาจจะเอาแต่ใจไปบ้าง ขอให้ท่านอภัยให้มาก!” 

 

 

เมื่อครู่ที่อวี้จิงเหลยเจตนาโมโหโกรธา เพราะต้องการทดสอบวรยุทธ์ของซย่าโหวฉิงเทียนนั่นเอง 

 

 

นึกไม่ถึงว่าเขาจะปิดบังเอาไว้ได้ลึกล้ำถึงเพียงนี้! 

 

 

ถึงตอนนี้อวี้จิงเหลยก็รู้สึกเชื่อบ้างแล้วในคำพูดของซย่าโหวฉิงเทียนที่ว่าจะปกป้องอวี้เฟยเยียน 

 

 

หลานเขยที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เขายอมรับแล้ว! 

 

 

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! ท่านปู่วางใจได้เลย!” 

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนเห็นอวี้จิงเหลยพยักหน้ารับปากให้อวี้เฟยเยียนแต่งงานกับตน ก็รีบคารวะเขาทันที 

 

 

“เดี๋ยวๆ!” เห็นอวี้จิงเหลยยอมยกนางให้กับเขาไปอย่างง่ายดาย  

 

 

อวี้เฟยเยียนก็รู้สึกไม่ยุติธรรม ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ร่ำร้องจะตีกันแทบเป็นแทบตายหรอกหรือ แล้วเหตุใดเพียงครู่เดียว คนทั้งสองก็เห็นพ้องต้องกันเสียนี่! 

 

 

“ท่านปู่ เมื่อครู่ท่านปู่ไม่ยอมรับปากมิใช่หรือ เหตุใดประมือกับเขาเพียงครู่เดียว ท่านปู่ก็กลับคำ ตอบตกลงเสียนี่” 

 

 

“นี่เขาเรียกว่าไม่ประมือไม่รู้จักอย่างไรเล่า!” 

 

 

อวี้จิงเหลยหัวเราะแล้วตบบ่าของซย่าโหวฉิงเทียนสองสามครั้ง 

 

 

ได้ยินเชียนเสวี่ยบอกว่าท่านอ๋องคอแข็งไม่เบา ที่นี่นั้นมีสุราชั้นดีอยู่หลายไห วันนี้พวกเราดื่มสักไหสองไห  

 

 

“สองไหไม่พอหรอก!” 

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนส่ายหน้า แล้วยื่นมือออกมาชูสองนิ้ว 

 

 

“ยี่สิบไหกำลังพอดี!” 

 

 

“ดี เจ้าหนุ่มนี่ ยโสดี! “ 

 

 

“ดี! ขอเพียงแต่เจ้าดื่มได้ แล้วข้าจะหวงสุราเหล่านั้นอยู่อีกได้อย่างไร! ไป…” 

 

 

ส่วนที่อวี้เฟยเยียนที่เดิมทีมีคำถามมากมายอยากจะเอ่ยถามผู้เป็นปู่ แต่เมื่อเห็นพวกเขากำลังอารมณ์ดี นางจึงเดินตามหลังพวกเขาไปอย่างเงียบๆ  

 

 

ใครจะคาดคิดว่าจู่ๆ อวี้จิงเหลยก็หยุดฝีเท้า กวักมือเรียกอวี้เฟยเยียนเข้าไปหา 

 

 

“ที่ท่านอ๋องพูดมานั้นถูกต้อง พ่อของเจ้าคือเชียนหาน แม่ของเจ้าคือตี้อู่เยียนเอ๋อร์” 

 

 

แววตาของอวี้จิงเหลยที่ทอดมองมานั้นฉายแววแห่งความรักและเมตตาออกมาชัดเจน 

 

 

“ปู่ผิดเองที่คิดไปว่าการที่ไม่ให้เจ้ารับรู้เรื่องพวกนี้ จะเป็นการปกป้องเจ้าได้ดีที่สุด ตอนนี้ปู่เปลี่ยนความคิดแล้ว! เจ้าอยากจะรู้อะไร ปู่จะบอกเจ้าทุกอย่าง!” 

 

 

“ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเจ้า! นกน้อยอย่างไรเสียก็ต้องกางปีนโบยบินด้วยตนเองในสักวัน “ 

 

 

“มีท่านอ๋องอยู่เคียงข้างเจ้า ปู่ก็วางใจแล้ว!” 

 

 

อวี้เฟยเยียนนึกไม่ถึงว่าอวี้จิงเหลยจะประเมินซย่าโหวฉิงเทียนสูงถึงเพียงนี้ 

 

 

ระหว่างทางที่มา อวี้เฟยเยียนคิดอะไรไปมากมาย 

 

 

มิน่าเล่าเมื่อใดนางได้ฟังเรื่องราวของอวี้เชียนหานและตี้อู่เยียนเอ๋อร์แล้ว ถึงได้รู้สึกเจ็บปวดถึงเพียงนั้นความรู้สึกที่อยู่ในใจของนางยากจะสรรหาคำใดมาบรรยายได้ 

 

 

ที่แท้นางคือลูกของพวกเขานั่นเอง สายเลือดสายใยสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดกาล 

 

 

แต่อวี้ฟยเยียนก็เข้าใจว่าการที่ท่านปู่ปิดบังนางก็เพื่อที่จะปกป้องนาง 

 

 

ชายชราที่อยู่ตรงหน้านี้ รักและเป็นห่วงนางด้วยใจจริง! 

 

 

“ท่านปู่ ขอบคุณนะคะ!” 

 

 

อวี้เฟยเยียนโผเข้าสวมกอดอวี้จิงเหลยทันทีโดยไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเนื้อตัวของเขาจะเต็มไปด้วยฝุ่นดิน 

 

 

ชายชราผู้นี้ใช้วิธีการของเขาปกป้องนางมาโดยตลอด! 

 

 

“เจ้าไม่กล่าวโทษปู่ก็พอแล้ว!” 

 

 

อวี้จิงเหลยน้ำตารื้น เขาเอื้อมมือออกมาปัดไรผมที่ปกหน้าของอวี้เฟยเยียนไปทัดไว้ที่ข้างใบหู 

 

 

“เยียนเอ๋อร์ หลังจากแต่งงานแล้ว เจ้าไปที่เมืองอู๋โยวเถอะ!” 

 

 

“ไปหาพ่อแม่บังเกิดเกล้าของเจ้า!” 

 

 

เมื่อก่อน ถึงแม้ว่าอวี้จิงเหลยจะมีความคิดเช่นนี้ แต่เขาก็ยังเป็นห่วงหากว่าปล่อยให้อวี้เฟยเยียนไปที่เมืองอู๋โยวเพียงลำพัง เขาจะวางใจได้อย่างไร! บัดนี้ข้างกายอวี้เฟยเยียนมีซย่าโหวฉิงเทียน ซึ่งอวี้จิงเหลยถูกใจผู้ช่วยคนนี้อย่างที่สุด 

 

 

“ท่านปู่…” 

 

 

ได้ยินอวี้จิงเหลยกล่าวเช่นนี้ อวี้เฟยเยียนก็ขอบตาร้อนผ่าว แล้วตวัดสายตาเหลือบมองไปที่ซย่าโหวฉิงเทียน 

 

 

“เฮอะ! ใครจะแต่งงานกับเขากัน! ข้าไม่แต่งกับเขาเสียหน่อย!” 

 

 

เมื่อซย่าโหวฉิงเทียนได้ยินในสิ่งที่อวี้จิงเหลยเอ่ยขึ้น เขาก็ตวัดชายชุดขึ้นขุกเข่าลงทันที 

 

 

“ขอบคุณที่ท่านปู่ส่งเสริม!” 

 

 

คำเรียกขานว่า ‘ท่านปู่’ นั้นของเขา ทำให้อวี้จิงเหลยถึงกับหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข เขาเอื้อมมือออกมาประคองให้ซย่าโหวฉิงเทียนลุกขึ้น 

 

 

อวี้จิงเหลยมือหนึ่งจับมือของอวี้เฟยเยียน อีกมือหนึ่งจับมือของซย่าโหวฉิงเทียนเอาไว้แล้วลากเอามือของซย่าโหวฉิงเทียนมาวางไว้บนมือของอวี้เฟยเยียน 

 

 

“ข้ามีหลานสาวกับเขาคนนี้เพียงคนเดียว รักและทะนุถนอมมาอย่างดีที่สุด ท่านอ๋องอย่าทำให้ข้าผิดหวังละ!” 

 

 

“เรียกชื่อของข้าก็พอ…” 

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนกุมมือของอวี้เฟยเยียนเอาไว้ แล้วยิ้มออกมาอย่างงดงาม 

 

 

“ข้าจะทะนุถนอมรักนางดังดวงแก้วตาของข้า!” 

 

 

“ดีๆ!” 

 

 

อวี้จิงเหลยมีความสุขและดีใจอย่างที่สุด 

 

 

เทียบกับอวี้จิงเหลยแล้ว ในตอนนี้ซย่าโหวจวินอวี่ร้อนใจจนเดินวานไปวนมาราวกับหนูติดจั่น  

 

 

ลูกชายไปที่จวนจงอี้โหวเพื่อพบอวี้จิงเหลย เพื่อแสดงเจตนารมณ์เรื่องของเขากับอวี้เฟยเยียน ไม่รู้ว่าอวี้จิงเหลยจะมีท่าทีอย่างไร! 

 

 

ถึงแม้ว่าก่อนหน้าที่ซย่าโหวจวินอวี่จะถ่ายทอดเรื่องเกี่ยวกับสกุลอวี้รวมทั้งความชื่นชอบส่วนตัวของและลักษณะนิสัยอื่นๆ ของอวี้จิงเหลยให้กับซย่าโหวฉิงเทียนได้รู้ แต่เขาก็รู้จักลูกชายของเขาดีว่าเป็นพวกที่ 

 

 

เวลาทำอะไรไม่ค่อยจะกระทำตามปกติขั้นตอนแบบคนอื่นเขาสักเท่าไหร่ 

 

 

หากว่าซย่าโหวฉิงเทียนดันไปดื้อดึงงัดข้อกับอวี้จิงเหลยเข้า จะทำอย่างไร 

 

 

ด้านหนึ่งก็กำลังเป็นห่วงบุตรชาย อีกด้านหนึ่งก็เกรงว่าอวี้จิงเหลยจะ ‘รังแก’ ซย่าโหวฉิงเทียนเข้า ดังนั้นฮ่องเต้จึงทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นชุดธรรมดาเดินทางไป เยี่ยมเยือนยังจวนสกุลอวี้พร้อมกับเซี่ยงจิ้นและฉู่อิน 

 

 

ใครจะคาดคิดว่าเมื่อไปถึงจวนสกุลอวี้ ซย่าโหวจวินอวี่กลับไม่ได้พบพวกเขาเลยสักคน 

 

 

ตรงกันข้ามกลับได้พบพ่อบ้านของสกุลอวี้ แจ้งว่าซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้จิงเหลยออกไปต่อสู้กันที่ด้านนอก 

 

 

ข่าวนี้ทำให้ฮ่องเต้ทรงสะดุ้งโหยงร้อนพระทัยจนแทบจะไหม้! 

 

 

ลูกเอ๋ย ในเวลาปกติไปต่อยตีกับเขาก็แล้วไป เหตุใดในเวลาเช่นนี้ถึงยังไม่ท้าตีกับเขาได้! 

 

 

นี่เจ้ามาสู่ขอ หรือมาหาเรื่องกันแน่! 

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่แทบน้ำตาอาบแก้ม 

 

 

ดูสิเขาสู้อุตส่าห์ตระเตรียมทุกอย่างเอาไว้มากมาย แม้กระทั่งรวบรวมข้อมูลครบครันรอบด้านก็เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือซย่าโหวฉิงเทียน เมื่อใกล้ถึงเวลา เขายังมาช่วยเหลือซย่าโหวฉิงเทียนด้วยตัวเองอีกด้วย 

 

 

ตอนนี้ดีนี่ ไม่ต้องให้เขาช่วยเจ้าลูกชายตัวดีกลับทำเรื่องของตัวเองจนพังไม่เป็นท่า น่าปวดหัวจริงๆ เลย! 

 

 

หรือเป็นเพราะอวี้จิงเหลยปฏิเสธคำขอแต่งงานของซย่าโหวฉิงเทียน ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนเกิดโมโห ติดจะเล่นงานอวี้จิงเหลยเล่นๆ สักหน่อย 

 

 

เจ้าลูกชายบ้าบิ่นโหดเ**้ยมเช่นนั้น คงจะไม่เลาะกระดูกหักเส้นเอ็นของอวี้จิงเหลยไปแล้วใช่ไหม 

 

 

ยิ่งคิด ฮ่องเต้ก็ทรงยิ่งกังวลพระทัย 

 

 

นี่ลูกชายของเขาโตมาอย่างไรกันเนี่ย โตมากลายเป็นเช่นนี้ได้…