บทที่ 407 ขานชื่อตาย

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บทที่ 407 ขานชื่อตาย

เมื่อมองไปที่ฉากตรงหน้า หวงเซียะก็พูดไม่ออก

ต่อให้เมื่อครู่นางจะไม่เข้าใจในคำพูดของหลิงตู้ฉิง แต่เมื่อนางเห็นหลิงเทียนหยุนเดินออกมาจากเงาของเผ่าปีศาจตนนั้นที่ตายลงไป นางก็เข้าใจได้ด้วยตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“นะ นี่เขาคือ ปีศาจเงา งั้นเหรอ? อย่าบอกนะว่าพวกท่านมาหาเลือดของปีศาจเงา?” หวงเซียะพูดขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ

จากความรู้ของนาง ปีศาจเงาเป็นเผ่าพันธ์เดียวที่มีความสามารถในการแปลงร่างเป็นเงา

นี่หลิงตู้ฉิงมีภรรยาเป็นปีศาจเงางั้นเหรอ? หวงเซียะได้แต่รู้สึกสงสัย

หลิงตู้ฉิงตอบว่า “ไม่ใช่!”

ในเวลาเดียวกัน ทั้งสองฝ่ายที่กำลังต่อสู้กันอยู่ด้านหน้าของพวกเขาทั้งหมดก็แยกกัน

ทั้งสองฝ่ายต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงและคนของเขา ด้วยสายตาแปลกประหลาด

การมาถึงของผู้เชี่ยวขอบเขตประสานทะเลปราณสองคนกับขอบเขตรวมแสงดาราอีกหนึ่งคน นั้นเป็นภาพที่แปลกมากสำหรับพวกเขาที่อยู่ในโลกขอบเขตนภา และที่สำคัญพวกคนเหล่านี้ยังสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของเผ่าปีศาจได้อย่างง่ายดาย

“พวกเจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงได้สังหารคนของพวกข้า!”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างเฉยเมย “ข้าต้องการไปผ่านทางไปที่สระโลหิตเพื่อใช้เลือดในนั้น พวกเจ้าไม่ควรมาขวางทางข้า ไม่เช่นนั้นหากเจ้าตายเจ้าก็อย่าได้มาโทษข้าว่าข้าไม่เตือน”

ผู้คงอีกฝั่งที่ได้ยินเช่นนี้ก็ตะคอกกลับด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวทันที “พวกข้ายังไม่ได้ดูดซับมันเลยด้วยซ้ำ แล้วเจ้าเป็นบ้าอะไรถึงจะมาตัดหน้าพวกข้าแบบนี้?”

หวงเซียะพูดอย่างรวดเร็วว่า “เดี๋ยวก่อน ๆ พวกท่านทุกคนช่วยมีเหตุผลกันหน่อยได้ไหม? สระโลหิตก็ออกจะมีขนาดใหญ่โต ยังไงซะพวกข้าก็คงไม่สามารถเอามันไปได้หมดอยู่แล้วจริงไหม? ข้าคือหวงเซียะจากภูเขาฟีนิกซ์ ข้าหวังว่าทุกคนจะไว้หน้าข้าสักหน่อย พวกข้าจะขอแบ่งมันไปเล็กน้อยเท่านั้นแล้วจากนั้นพวกข้าจะจากไปทันที”

เมื่อหวงเซียะพูดจบ อมนุษย์ที่มีผิวเป็นก้อนหินปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างก็เดินออกมาและพูดว่า “อ่า ที่แท้ก็เป็นคนของภูเขาฟีนิกซ์นี่เอง แต่ขอโทษทีที่นี่ไม่ใช่ภูเขาฟีนิกซ์ของเจ้า! หน้าของเจ้าไม่มีค่าใด ๆ ต่อหน้าพวกข้าที่นี่!”

“และอีกอย่าง เจ้าไม่รู้เหรอไงว่าทุกครั้งที่มีคนนำเลือดของสายเลือดใดก็ตามในสระโลหิตแห่งนี้ออกไป คนอื่น ๆ จะต้องรอไปอีกถึง 500 วันถึงจะสามารถเอาเลือดที่ต้องการออกไปได้อีกรอบ? ดังนั้นตอนนี้เจ้าจงมอบไปรอบ ๆ ดูว่ามันมีกี่คนที่ต้องการเลือดในสระเหมือนกันกับพวกเจ้า! ทีนี้เจ้ายังคิดว่าชื่อของภูเขาฟีนิกซ์อันไร้ค่าของเจ้ามันจะสามารถทำให้คนอื่นหลีกทางให้เจ้าได้อีกไหม?”

“แต่แน่นอนว่าในฐานะที่ข้าเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเจ้าอยู่บ้าง หากเจ้ายอมมาเล่นสนุกกับข้าสักรอบสองรอบ ข้าอาจจะยอมสละสิทธิ์ของข้าให้เจ้าก็ได้”

ในขณะที่พูดมนุษย์หินพูดมันก็เคลื่อนตัวไปหาหวงเซียะ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันลามกแค่ไหน

ใบหน้าของหวงเซียะแดงขึ้นทันที นางพูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยอารมณ์กังวล “พี่หลิง ภูเขาฟีนิกซ์และสันเขาหมื่นอสูรมีความขัดแย้งที่รุนแรงกันอยู่ เราไม่มีโอกาสแน่นอน”

การถูกทำให้อับอายนั้นทำให้นางโกรธมากก็จริง แต่ตอนนี้นางกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขาทั้งสามมากยิ่งกว่า

และถึงแม้ว่าหลิงเทียนหยุนจะเคยแสดงความสามารถที่น่ากลัวของเขาออกมาให้นางเห็น แต่ในตอนนี้คนของฝั่งตรงข้ามนั้นมีมากเกินไปซึ่งหลายคนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับครึ่งสวรรค์แล้วด้วยซ้ำ

“พวกเราจะไม่เป็นอะไรหรอก” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หยุนเอ๋อ ในเมื่อคนพวกนี้ไม่ฟังเรา ถ้างั้นเราก็คงต้องฆ่าพวกเขาให้หมด แต่เจ้าจงระวัง มีสามคนของพวกเขาที่เป็นอันตรายต่อเจ้า คนที่เจ็ดจากทางซ้ายมือคือคนที่มาจากตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ดังนั้นเจ้าจึงต้องฆ่าเขาก่อน อีกคนคือคนที่สามจากทางขวามือ มันคือเผ่าอสรพิษ ไอ้พวกนี้มันสามารถปล่อยพิษที่ร้ายแรงใส่เจ้าได้ ส่วนคนสุดท้ายคือคนที่สิบสามทางด้านขวามือ นางเป็นสมาชิกของเผ่าเงือก เสียงของนางจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเจ้า ส่วนคนอื่นที่เหลือนั้นไม่มีใครที่เป็นปัญหาสำหรับเจ้า”

หวงเซียะพูดอย่างประหม่า “พี่หลิง ฝั่งตรงข้ามมีคนอยู่ตั้งมากมาย นี่ท่านต้องการส่งลูกชายของท่านเข้าไปตายงั้นเหรอ? แม้ว่าเขาจะมีความสามารถของปีศาจเงา แต่ปีศาจเงาก็ใช่ว่าจะไร้เทียมทานจนสามารถรับมือได้กับผู้คนที่มีระดับเหนือกว่าแถมยังมีจำนวนมากถึงขนาดนี้ได้”

หลิงตู้ฉิงเพิกเฉยต่อคำพูดของหวงเซียะและพูดกับเหล่าคนฝั่งตรงข้ามว่า “ถ้าใครไม่อยากตายจงถอยออกไป 30 กิโลเมตรทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ข้ากำลังเก็บเลือด หากใครกล้าที่จะลอบโจมตีข้าในช่วงเวลานั้น ข้ารับประกันได้ว่ามันผู้นั้นจะต้องตายอย่างทรมาน”

หลังจากพูดจบเขาก็ดึงหวงเซียะเดินไปที่ด้านข้างของสระโลหิต

เมื่อเห็นการกระทำของหลิงตู้ฉิง สีหน้าของทุกคนก็มืดหม่นลง

พวกเขาทุกคนต่างสู้กันอย่างถวายหัวมาก็นานสองนานเพื่อแก่งแย่งเลือดที่อยู่ในสระโลหิตซึ่งจนปานนี้พวกเขาก็ยังไม่ได้มันมาเลย แต่ตอนนี้กลับมีไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้จะมาชิงตัดหน้าพวกเขาไปซะอย่างนั้น?

เมื่อมนุษย์หินที่พูดเมื่อครู่เห็นหลิงตู้ฉิงกำลังเข้าไปใกล้สระโลหิตมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะคอกขึ้นด้วยความโกรธ “นี่เจ้าเห็นว่าข้าเป็นตัวตลกงั้นเหรอ? ไปลงนรกซะ!”

เมื่อพูดจบมนุษย์หินตนนั้นก็โคจรพลังวิญญาณระดับ 13 ของขอบเขตนภาและบินพุ่งเข้าหาหลิงตู้ฉิงและหวงเซียะทันที

“ลงมาที่พื้นซะ!” หลิงตู้ฉิงตะโกน

จากนั้นมนุษย์หินรู้สึกราวกับว่าร่างกายของมันหนักขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า ส่งผลให้มันดิ่งลงสู่พื้นอย่างรุนแรงทันที

“กฎแห่งแรงดึงดูด?” มนุษย์หินส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นมันค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนกับพื้นด้วยสองขาของมันด้วยความยากลำบาก

เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ หัวใจของทุกคนก็สั่นสะท้าน นี่มันไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานทะเลปราณกลุ่มนี้ถึงกล้ามาที่โลกขอบเขตนภานี้ ที่แท้คนพวกนี้มันก็ไม่ธรรมดานี่เอง

แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตนภาระดับ 13 ผู้หนึ่งได้ล้มลงตายในสภาพศีรษะไม่สมบูรณ์รวมไปถึงดวงวิญญาณที่แท้จริงของเขาก็ถูกทำลาย

เมื่อเห็นเช่นนี้ทุกคนต่างกลัวจนตัวสั่น ใครเป็นคนฆ่าเขา?

หวงเซียะมองไปที่หลิงเทียนหยุนด้วยสายตาตกตะลึง เมื่อครู่เขายังอยู่ข้างนางอยู่เลยไม่ใช่เหรอ งั้นใครเป็นคนฆ่ากัน?

นางรู้สึกว่าการตายของผู้เชี่ยวชาญผู้นั้นน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิงตู้ฉิง เพราะหลิงตู้ฉิงเพิ่งพูดคนที่มาจากตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นเป็นคนแรกที่ควรจะฆ่า แล้วในตอนนี้คนจากตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์คนนั้นที่หลิงตู้ฉิงพูดถึงกลับตายลงเป็นคนแรกจริง ๆ

หลิงตู้ฉิงไม่ได้ใส่ใจกับอาการตื่นตระหนกของเหล่าผู้คน เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “พวกเจ้าทุกคนยกเว้นเจ้ามนุษย์หินไสหัวออกไปซะ ข้าไม่ต้องการที่จะสังหารหมู่พวกเจ้าทุกคน”

เหล่าผู้คนต่างมองไปที่หลิงตู้ฉิงด้วยสายตาตกตะลึง หลิงตู้ฉิงเป็นคนฆ่าจริง ๆ งั้นเหรอ?

กุญแจสำคัญคือไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งความจริงแล้ว หลิงเทียนหยุนได้ใช้ ‘มายาเที่ยงแท้’ สร้างร่างปลอมของเขาขึ้นมายืนข้างหลิงตู้ฉิงแทน ส่วนร่างที่แท้จริงของเขานั้นได้ไปซ่อนอยู่ในเงามืดของคนเหล่านั้นแล้ว

ตอนนี้คนจากตำหนักแสงศักดิ์สิทธิ์ตายไปแล้ว ดังนั้นมันจึงแน่นอนว่าไม่มีใครที่จะสามารถเปิดเผยร่างเงาของเขาได้แน่นอน

ส่วนคนอื่น ๆ แน่นอนว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่าเงาของพวกเขาจะมีใครก็ไม่รู้สามารถมาซ่อนอยู่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางสังเกตเห็นความผิดปกติใด ๆ แน่นอน

“ถ้าพวกเจ้าไม่ถอยออกไปตอนนี้พวกเจ้าจะต้องตายทั้งหมด!” หลิงตู้ฉิงพูดห้วน ๆ “ถ้าใครไม่เชื่อข้า ตัวอย่างต่อไปก็จะเป็นเจ้าคนนั้น!”

ทันใดนั้นเผ่าอสรพิษจากสันเขาหมื่นอสูรก็ตายตามไป ซึ่งการตายของมันก็ตายด้วยวิธีที่แปลกประหลาดเช่นเดียวกับคนแรกซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถตรวจสอบหาสาเหตุอะไรได้

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หน้าผากของหลายคนก็เริ่มเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น ๆ และจากนั้นพวกเขาก็ค่อย ๆ ถอยออกห่างจากระยะของสระโลหิต

ฉากประหลาดเมื่อครู่นี้ทำให้พวกเขาสั่นสะท้านด้วยความกลัว

เมื่อมีคนล่าถอยคนแรก คนอื่น ๆ ก็เริ่มทำตามเช่นกัน เนื่องจากไม่มีใครในพวกเขาที่อยากจะเป็นศพต่อไป แต่คนเดียวที่ไม่สามารถถอยได้ก็คือมนุษย์หินที่ตอนนี้ถูกตรึงอยู่ที่พื้น ซึ่งเมื่อมันเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าถึงขั้นวิกฤตแล้วมันก็รีบทำลายอักขระในห้วงสำนึกของมันและหายตัวไปจากเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ

“พี่หลิงเก็บมันไว้ทำไม มันปากดีขนาดนั้นมันสมควรที่จะถูกฆ่า” หวงเซียะกระทืบเท้าของนางและพูดขึ้นด้วยอารมณ์โมโห

นางไม่เชื่อว่าหลิงตู้ฉิงจะไม่สามารถรั้งมนุษย์หินตนนั้นให้อยู่ได้ เพราะนางเองก็เคยถูกหลิงตู้ฉิงผนึกอักขระในห้วงจิตสำนึกของนางมาก่อนหน้านี้

หลิงตู้ฉิงส่ายหัวและตอบกลับ “เจ้าคิดว่าการฆ่าใครสักคนมันเป็นเรื่องเล็กงั้นเหรอ? มันมีกฎบางอย่างที่ไม่สามารถแหกได้ เมื่อถึงเวลาคนทุกคนจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ซึ่งในการที่ข้าทำให้เจ้าต้องเปลี่ยนชื่อ ข้าเองก็ยังไม่รู้เลยเช่นกันว่าเมื่อไหร่เจ้าจะมาคิดบัญชีคืนกับข้า!”

หวงเซียะไม่สามารถเข้าใจคำพูดของหลิงตู้ฉิงได้เลย

อย่างไรก็ตามเมื่อนางเห็นเงาจาง ๆ ของหลิงเทียนหยุนลอยพุ่งเข้ามาหลอมรวมเข้ากับ ร่างปลอมที่ยืนอยู่ข้างหลิงตู้ฉิง นางก็ปิดปากด้วยอาการตกตะลึงทันที

ปีศาจเงามีความสามารถแปลก ๆ แบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่? ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้นางรู้แล้วว่าคนพวกนั้นตายอย่างไร

“ถ้าเขากลายเป็นมือสังหาร เขาจะต้องเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เคยมีมา!” หวงเซียะถอนหายใจ

สำหรับหลิงตู้ฉิงหลังจากเห็นว่าผู้คนทั้งหลายได้ถอยออกไปหมดแล้ว เขาก็เดินไปที่ สระโลหิตเพื่อเตรียมที่จะเอาเลือดฟีนิกซ์ออกมาให้หวงเซียะ