จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ “น่าหลานเยว่จะทำตามที่เขาพูดแน่”
การได้รู้จักกับน่าหลานเยว่ทำให้จวินอู๋เสียรู้นิสัยของเขา คนผู้นี้เป็นคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง เป็นคนที่จะไม่ยืนอยู่เฉยๆมองครูวิญญาณตกอยู่ในเงื้อมมือชั่วร้ายของอูจิ่ว เขาจะปรากฏตัวอย่างแน่นอน!
“เจ้าโง่นั่น รู้ทั้งรู้ว่าเป็นกับดักก็ยังจะไปเพื่อช่วยครูวิญญาณ” ตู๋เถิงเดาะลิ้นอย่างขัดใจ แม้ว่าเขาจะปากร้าย แต่ก็ยังรู้สึกจนปัญญา “ข้าคิดว่าเขาจะไปคนเดียว ไม่พาหมีวิญญาณไปด้วย เขาเป็นคนแรกที่ค้นพบความผิดปกติของหอคอยโยวหลิง เขาจะพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ให้แผนการของอูจิ่วสำเร็จอย่างแน่นอน”
แต่จวินอู๋เสียกลับส่ายหน้า
“เมื่อน่าหลานเยว่ปรากฏตัว แผนของอูจิ่วก็สำเร็จแล้ว ไม่ว่าน่าหลานเยว่จะพาหมีวิญญาณไปหรือไม่ก็ตาม”
“ทำไมล่ะ?” เฉียวฉู่อดถามไม่ได้
จวินอู๋เสียมองเฉียวฉู่ และพูดว่า “ถ้าอูจิ่วสามารถใช้ครูวิญญาณล่อน่าหลานเยว่ออกมาได้ เช่นนั้นเขาก็สามารถใช้น่าหลานเยว่ทำให้จงจงออกมาได้เหมือนกัน”
วิญญาณที่มีคุณธรรมจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงกับดักชั่วร้ายเช่นนี้ได้ แม้ว่าจะรู้อยู่เต็มอกว่าตนกำลังเดินเข้าสู่ขุมนรกที่ไร้ซึ่งความหวัง พวกเขาก็ยังก้าวเข้าไปในกับดักนั้นอยู่ดีเพื่อช่วยคนที่พวกเขาห่วงใย
น่าหลานเยว่เป็นเช่นนั้น จงจงก็เหมือนกัน
พวกเขาจะไม่ยอมให้คนที่พวกเขาห่วงใยต้องทนทุกข์เพราะพวกเขาเอง
อาจจะกล่าวได้ว่าโง่ แต่ผู้คนก็ต้องเคารพนับถือพวกเขา.novel-lucky.
คำพูดของจวินอู๋เสียเป็นสิ่งที่ตู๋เถิงกังวลอยู่เช่นกัน เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่เนื่องจากหอคอยโยวหลิงเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก เขาจึงต้องก้าวเข้ามา เขาเคยคิดจะปรึกษาเรื่องนี้กับมังกรเพลิง แต่ก่อนที่จะได้ทำก็ถูกลากเข้ามาในตัวของจวินอู๋เสียและกลายเป็นภูติประจำตัวของนาง
“งั้นเราจะปล่อยให้น่าหลานเยว่ไปไม่ได้! เห็นชัดๆว่านี่มันกลยุทธ์ลูกโซ่ไม่ใช่หรือ? อูจิ่วกำลังรอให้เขาเดินเข้าไปในกับดัก เขาจะได้จับจงจงได้!!” เฉียวฉู่โกรธมาก สิ่งที่อูจิ่วทำนั้นก็เท่ากับการต่อต้านอาจารย์และทำลายชื่อของบรรพบุรุษ ขัดกับความเป็นมนุษย์ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับได้!
“นิสัยอย่างน่าหลานเยว่ ไม่ว่าเราจะพูดยังไง ก็เปลี่ยนใจเขาไม่ได้หรอก ยิ่งกว่านั้น……เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน” ตู๋เถิงถอนหายใจ เขาได้รู้ความลับในหอคอยโยวหลิงจากปากของจวินอู๋เสีย ทำให้เขาตระหนักได้ว่าแรงจูงใจของอูจิ่วนั้นไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เขาคิด
ถ้าเป็นเพราะอำนาจ เขาได้กลายเป็นคนที่จ้าววิญญาณไว้ใจมากที่สุดแล้ว ถ้าเป็นเพราะพลัง เขาก็มีวิญญาณมนุษย์ทุกคนในโลกวิญญาณอยู่ในมือ แล้วทำไมเขาถึงโยนกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดที่ตนมีลงสู่ขุมนรกเพื่อให้หอคอยโยวหลิงดูดกลืน?
ตู๋เถิงไม่เข้าใจว่าอูจิ่วคิดอะไรอยู่ วิธีการของอูจิ่วทำให้ไม่มีใครเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาออก
“ข้ารู้” จวินอู๋เสียพูดขึ้น
ตู๋เถิงชะงัก
จวินอู๋เสียเดินออกจากอ้อมแขนของจวินอู๋เหยา นางมองตู๋เถิงและพูดว่า “ข้าต้องคุยกับน่าหลานเยว่”
ตู๋เถิงตอบว่า “เจ้าหัวดื้อนั่นไม่ฟังหรอก ต่อให้เขาเชื่อที่เจ้าพูด ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะละทิ้งโอกาสช่วยครูวิญญาณ”
“ข้าไม่ได้จะให้เขาทิ้งโอกาสนั้น ข้าจะบอกให้เขาไปต่างหาก” จวินอู๋เสียพูดขัด
“ให้เขาไปเนี่ยนะ?” ตู๋เถิงสับสน [ทำไมเขาไม่เข้าใจสิ่งที่จวินอู๋เสียพูดล่ะ?]
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“เจ้าไปบอกมังกรเพลิงให้ยุพวกวิญญาณสัตว์อสูรให้ไปคอยดูตามวันและเวลาที่อูจิ่วกำหนดไว้”
ตู๋เถิงยังไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสียกำลังจะทำอะไร แต่ในฐานะที่เป็นภูติประจำตัวของนาง เขาย่อมเชื่อในการตัดสินใจของเจ้านาย
“ถึงสถานะของมังกรเพลิงจะตกต่ำลงบ้าง แต่เรื่องเล็กๆแบบนี้ ก็น่าจะไม่ยากเกินไป”
“พอถึงเวลา เจ้าก็พาพวกวิญญาณพืชไปคอยดูได้นะ วันนั้นจะมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่หอคอยโยวหลิงแห่งแรกอย่างแน่นอน” จวินอู๋เสียยิ้มมุมปาก ถึงเวลาที่นางจะตอบโต้แล้ว