“ได้” ถึงแม้ตู๋เถิงไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียจะทำอะไร แต่เขาเห็นความมั่นใจจากแววตาของจวินอู๋เสีย เขาจึงเลือกที่จะเชื่อใจจวินอู๋เสียกับแผนของนาง
“ไปบอกบัวน้อยกับอิงซู่ว่าไม่ต้องเฝ้าดูหอคอยโยวหลิงต่อแล้ว แต่ให้เคลื่อนไหวไปพร้อมกับเจ้า” จวินอู๋เสียพูด
ตู๋เถิงพยักหน้า เขาหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะมองไปที่จวินอู๋เสียแล้วถามขึ้นว่า “ข้ามีคำถาม”
“คำถามอะไร?”
“อิงซู่กับบัวน้อย……”
“พวกเขาเป็นภูติประจำตัวของข้า”
ในที่สุดตู๋เถิงก็ได้รับคำยืนยันสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้
“ข้าจะอยู่ในโลกวิญญาณหนึ่งปี ตอนนี้ผ่านไปครึ่งปีแล้ว อีกไม่นานข้าก็จะกลับไป เจ้าอยากกลับไปกับข้าไหม?” จวินอู๋เสียมองตู๋เถิง นางยังไม่เข้าใจพลังของตู๋เถิงดีนัก แต่จากสถานะของเขาในหมู่วิญญาณพืช ก็เห็นได้ว่าเขาไม่อ่อนแออย่างแน่นอน
ตู๋เถิงคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นและพูดว่า “ข้ายินดีติดตามอยู่ข้างกายเจ้านายขอรับ”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
เมื่อได้รับหน้าที่มา ตู๋เถิงก็ไม่รอช้าและจากไปทันที เขาไปหามังกรเพลิงเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อตู๋เถิงไปแล้ว พวกเฉียวฉู่ก็มารวมตัวกันรอบๆจวินอู๋เสีย.novel-lucky.
“เสี่ยวเสีย เจ้าคิดแผนจัดการกับอูจิ่วและเจียงอวิ๋นหลงได้แล้วหรือ?” ตอนที่เฉียวฉู่เห็นรอยยิ้มของจวินอู๋เสียเมื่อครู่ เขาก็รู้ทันทีว่าเวลาของใครบางคนกำลังจะหมดลง จวินอู๋เสียไม่ค่อยยิ้ม แต่เมื่อนางยิ้ม ก็มักจะหมายความว่าใครบางคนกำลังจะถึงคราวเคราะห์
“ก็คิดไว้แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ ข้าต้องไปหาจงจงก่อนถึงจะแน่ใจได้” จวินอู๋เสียพยักหน้า
“งั้นเราจะไปกันเมื่อไร?” เฉียวฉู่คันไม้คันมือเต็มที อยากพุ่งออกไปซะเดี๋ยวนี้ จะได้ระบายความคับข้องใจทั้งหมดที่ได้รับมาก่อนหน้านี้
“จัดการที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน” จวินอู๋เสียชี้ไปที่วงอักขระเสริมวิญญาณบนพื้น
พวกเฉียวฉู่เข้าใจความหมายของจวินอู๋เสียทันที พวกเขาเดินไปที่วงอักขระเสริมวิญญาณที่สลักไว้บนพื้นแล้วใช้เท้าเกลี่ยให้เรียบ
จวินอู๋เหยาวางมือทั้งสองข้างบนไหล่ของจวินอู๋เสีย สิ่งที่เขาชอบเห็นมากที่สุดคือตอนที่จวินอู๋เสียมีใจฮึกเหิม ความมั่นใจเช่นนั้นทำให้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากจูบดวงตาเป็นประกายคู่นั้น
อันที่จริงแล้ว
จวินอู๋เหยาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ
เขาจุมพิตเบาๆที่ขนตางอนยาวของจวินอู๋เสียและบีบแก้มเล็กๆของนาง รู้สึกว่าเขาจะไม่มีวันเบื่อไปตลอดชีวิต
จวินอู๋เสียกระพริบตามองจวินอู๋เหยา
“ท่านก็……รอข้าอยู่ที่บ้านนะ”
“ได้ ข้าจะรอเจ้ากลับมา” จวินอู๋เหยาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ นี่เป็นคำพูดที่อบอุ่นใจที่สุด และเขาชอบความรู้สึกนี้
จวินอู๋เหยาเข้าใจว่าจวินอู๋เสียกังวลเรื่องอะไร และเขาเชื่อว่าจวินอู๋เสียจะจัดการทุกอย่างได้
เด็กน้อยของเขาค่อยๆเติบโตขึ้น และกลายเป็นปีศาจน้อยที่สามารถจัดการด้วยตัวคนเดียวได้
พวกเฉียวฉู่เลือกมองข้ามคู่รักหวานแหววที่ชอบทรมานคนโสดไปโดยอัตโนมัติ และรีบจัดการเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย
เมื่อพวกเขาออกจากป่าโยวเมิ่ง จวินอู๋เหยาก็กลับ “บ้าน” ไปอย่างไม่เต็มใจ จวินอู๋เสียทิ้งเจ้าแมวดำที่ไม่ได้สติไว้กับเขาเพื่อให้เขาช่วยดูแลมัน ส่วนพวกจวินอู๋เสียก็เดินทางไปหาน่าหลานเยว่ที่บริเวณใกล้กับหอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่
เมื่อกลับมาที่หอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่หลังจากผ่านไปครึ่งปี ดูจากภายนอก การก่อสร้างหอคอยโยวหลิงเหมือนจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้านนอกรอบๆหอคอยมีวิญญาณอาวุธจำนวนมากที่รับหน้าที่เฝ้าดูแลสถานที่ต่อจากวิญญาณมนุษย์ยืนอยู่หน้าหอคอยโยวหลิง