เมื่อรอจนกระทั่งรถของจี้เยียนหรันขับไปออกไปแล้ว เย่เทียนก็ตั้งสติพร้อมกับหันกลับมาแล้วมองไปที่ป่าที่อยู่ข้างบ้านร้างหลังนั้น!
ภายใต้แสงยามพลบค่ำ ป่าที่เขียวขจีก็เต็มไปด้วยมืด มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดที่หิวกระหายเลือดและพร้อมจะลากคนเข้าไปกินตลอดเวลา
เย่เทียนไม่ได้ทำตามที่คุยกับจี้เยียนหรัน ก็คือการกลับไปที่บ้านร้างแล้วตามหาคนบงการเรื่องทั้งหมดนี้ แต่เขากลับยืนรออยู่กับที่อย่างเงียบๆ
ทุกอย่างเป็นไปตามคาด เสียงแปลกประหลาดนั้นดังขึ้นอีกครั้ง และจู่ๆ ก็มีงูหลายตัวเลื้อยออกมาจากป่าพร้อมกับจับจ้องมาที่เย่เทียน
เย่เทียนไม่ได้สนใจงูพวกนั้น แต่สายตายังคงจับจ้องไปในป่า
ด้วยภาพที่คลุมเครือ เขาเห็นร่างที่งดงามนั่งอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งในป่านั้น!
เธอคือหญิงสาวที่มีใบหน้าอันงดงาม เธอสวมใส่กระโปรงสั้นสีเหลืองอ่อน แต่ท้าวสองข้างที่เรียวงามนั้นกลับไม่ใส่รองเท้าไว้ และในขณะนี้ เธอกำลังนั่งแกว่งเท้าอยู่บนต้นไม้ ซึ่งดูแล้วเป็นคนน่ารักสดใสมาก
แต่ทว่า ต้นไม้ที่เธอนั่งอยู่นั้น มันกลับเต็มไปด้วยงูพิษจำนวนมาก ซึ่งดูแล้วงูเหล่านั้นกำลังปกป้องเธอ ราวกับว่าเธอเป็นราชางูอย่างไรอย่างนั้น
จากนั้นหญิงสาวกระโดดลงมาจากต้นไม้ แม้จะเหยียบลงบนเศษกิ่งไม้ที่แห้งแล้ว แต่ดูเหมือนเธอไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
“คุณเป็นใคร? เราไม่เคยเจอกันมาก่อนใช่ไหม?”
เมื่อเห็นร่างอันพร่ามัวของหญิงสาวคนนั้น เย่เทียนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เขามั่นใจได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ เขาไม่เคยมีความทรงจำเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้มากก่อนเลยแม้แต่น้อย และเขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคนคนนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
แต่ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ควบคุมงูได้ แสดงว่าเธอต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!
“คุณใช่ไหมที่รังแกพี่เจียเจีย?”
แต่ว่า หญิงสาวไม่ตอบคำถามของเย่เทียน แต่กลับเดินถอยออกห่างไปจากเย่เทียนและหยุดอยู่ที่ระยะประมาณ 10 เมตรแล้วมองไปที่เย่เทียนด้วยสีหน้าเฉยเมย
“พี่เจียเจียงั้นเหรอ?”
เย่เทียนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมและไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังพูดถึงใครอยู่
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นอย่างนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามว่า “คุณชื่อเย่เทียนใช่ไหม?”
“ใช่ ผมเย่เทียน!”
เย่เทียนพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับครุ่นคิดในใจ สักพักเขาก็นึกได้คนหนึ่ง และรูม่านตาของเขาก็ขยาย จากนั้นพูดขึ้นมาอย่างเซอร์ไพรซ์ว่า “พี่เจียเจียที่คุณพูดถึง ใช่เซ่เจียหรือเปล่า?”
“หุบปาก! คุณไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกชื่อของพี่เจียเจีย!”
แต่ทันทีที่เย่เทียนพูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็ตวาดเสียงดังขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไอ้คนเย็นชา ในเมื่อแกยอมรับแล้วว่าได้รังแกพี่เจียเจีย แล้วแกอย่าหาว่าฉันไม่ให้เกียรติก็แล้วกัน!”
“หือ?!”
สีหน้าของเย่เทียนประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อฟังจากน้ำเสียงของผู้หญิงคนนั้นแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอน่าจะเป็นคนสนิทของเซ่เจีย!
แต่คำถามสำคัญคือ เซ่เจียก็แค่ดาราดังไม่ใช่หรือ? แล้วเธอจะมารู้จักคนแบบนี้ได้อย่างไง?
จะว่าไป อะไรคือคนเย็นชา? เขาไม่ได้เป็นคนไร้ความรับผิดชอบสักหน่อย และเซ่เจียเป็นคนหนีเขาไปเองต่างหาก!
“เดี๋ยวนะ คุณรอก่อน”
เมื่อนึกได้อย่างนี้ เย่เทียนก็โบกมือให้กับผู้หญิงคนนั้นและพูดอย่างขมขื่นว่า “คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ความสัมพันธ์ของผมกับเจียเจียนั้นซับซ้อนกว่า……”
“เข้าใจผิด? ไม่มีใครเข้าใจผิดทั้งนั้น!”
เย่เทียนยังไม่ทันได้พูดจบ หญิงสาวก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “ทุกวันนี้ฉันอยู่กับพี่เจียเจียแทบทุกวัน และฉันก็เป็นคนนั่งมองเธอเช็ดน้ำตาทุกวัน”
“แต่นายกลับทำตัวสบายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพิ่งเลิกกับพี่เจียเจียไม่นานก็มีคนใหม่แล้ว? แบบนี้ไม่เรียกว่าคนเย็นชาแล้วจะเรียกว่าอะไร?!”
“ผม……”
เย่เทียนถึงกับพูดไม่ออก แม้จะเปิดปากแล้วแต่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
ท้ายที่สุดแล้ว เขาคงจะบอกว่าเขาเกิดความสัมพันธ์กับเซ่เจียอย่างไม่ได้ตั้งใจไม่ได้หรอก? เพราะไม่ใช่แค่จี้เยียนหรันคนเดียว ยังมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอีกคนด้วยไม่ใช่หรือ?
เชื่อว่าไม่ว่าจะพูดแบบไหน มันจะยิ่งทำให้ผู้หญิงคนนี้โมโหหนักกว่าเดิม
เมื่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนสนิทของเซ่เจีย ความเป็นศัตรูในใจของเย่เทียนก็ลดลงไปมาก และเขาก็ยิ้มพูดอย่างขมขื่นว่า “โดยรวมแล้ว ความสัมพันธ์ของผมกับเจียเจียซับซ้อนมาก พูดไปก็ยาว ถ้าคุณรู้ว่าเธออยู่ไหน คุณช่วยพาผมไปหาเธอมี ผมจะได้ไปอธิบายกับเธอด้วยตัวผมเอง”
“ฝันไปเถอะ!”
แต่น่าเสียดายที่สาวน้อยปฏิเสธเย่เทียนไปทันทีโดยที่ไม่ลังเลแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “พาคนเย็นชาอย่างนายไปหาพี่เจียเจียก็เหมือนไปทำร้ายพี่เขาอีกครั้งไม่ใช่เหรอ?”
เย่เทียนส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นและอธิบายว่า “ไม่นะ ผม……”
“ถ้าอยากเจอพี่เจียเจีย ก็เอาชนะฉันก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
แต่หญิงสาวคนนี้ไม่เปิดโอกาสให้เย่เทียนได้พูดเลย ทันทีที่มืออันเรียวงามของเธอโบกมือไปข้างหน้า งูพิษที่อยู่ในป่าก็พุ่งตรงเข้าไปหาเย่เทียนทันที
เย่เทียนตกใจไปสักพัก เขาดูออกว่างูพิษพวกนี้ไม่ใช่งูทั่วไป แต่เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงมาก ถ้าโดนกัดเขาอาจถึงตายเลยก็เป็นได้ เขาจึงต้องระวังตัวมากกว่าปกติ
เมื่อนึกได้อย่างนี้ เย่เทียนลงมือโดยการปล่อยเข็มวิญญาณออกไปในอากาศ และในชั่วพริบตาเ ข็มนั้นก็ไปปักอยู่บนตัวของงูพิษเหล่านั้น
ติ๊ง ติ๊ง!!
แต่ว่าการเคลื่อนไหวของเย่เทียนในครั้งนี้ล้มเหลว ทั้งๆ ที่เป็นเข็มที่สามารถเจาะทะลุแผ่นเหล็กได้ แต่ครั้งนี้มันเพียงพอที่ทำให้งูพิษเหล่านี้สะดุดเท่านั้น!
งูพิษที่ดูเหมือนงูพิษทั่วไป แต่ตัวมันนั้นแข็งราวกับเหล็ก และเข็มแค่นี้ก็ไม่มีทางที่จะแทงทะลุผิวของมัน และไม่สามารถทำอะไรมันไม่ได้เลย!
เมื่อเห็นอย่างนี้ สีหน้าของเย่เทียนถึงกับเปลี่ยนไปทันที เขารีบขยับเท้าแล้วถอยหลังออกไปอย่างรวดเร็ว
ฟิ้ว ฟิ้ว!!
แต่ทว่า ผู้หญิงคนนั้นกลับส่งเสียงอะไรบางอย่าง ทำให้งูพิษเหล่านั้นเพิ่มความไ และพุ่งตามเข้าไปหาเย่เทียน
หญิงสาวที่ยืนอยู่ริมป่าได้แต่เฝ้ามองเย่เทียนถูกงูพิษไล่ตามด้วยความสนใจ และเธอดูเหมือนไม่รีบร้อนเลย ราวกับว่ากำลังเล่นเกมแมวจับหนู และเล่นกับเย่เทียนก่อนที่เธอจะเอาจริง
“เดี๋ยวนะ นี่มันจะไม่ยุติธรรมมากไปหรือเปล่า?”
“ถ้าแน่จริงก็มาสู้กันซึ่งๆ หน้าสิ ใช้วิธีแบบนี้มันใช่ลูกผู้ชายสักที่ไหนกันล่ะ?!”
การที่เย่เทียนวิ่งหนีไปรอบๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีวิธีจะจัดการกับงูเหล่านี้ แต่ปัญหาสำคัญคือ งูพวกนี้สามารถต้านทานการโจมตีด้วยเข็มของเขาได้ ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันต้องไม่ใช่สัตว์ธรรมดาแน่นอน
รวมไปถึงผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามีความเกี่ยวข้องกับเซ่เจีย ถ้าทำร้ายงูพิษพวกนี้ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะบอกที่อยู่ของเซ่เจียให้เขาหรือไม่?
“คุณมีตาไว้แค่เป็นของตกแต่งงั้นเหรอ?”
หญิงสาวหัวเราะเบาๆ แล้วพูดเยาะเย้ยว่า “ฉันไม่ใช่ลูกผู้ชายนะ ฉันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง!”
เย่เทียนหลบการโจมตีจากงูพิษไปด้วยและพูดไปด้วยอย่างเหลืออด “ไหนๆ คุณก็พูดอย่างนี้ ถ้าผมฆ่างูพวกนี้ทิ้ง คุณจะมาโทษผมไม่ได้นะ!”
“อย่างคุณน่ะเหรอจะฆ่างูที่ฉันเลี้ยงไว้ได้? ฝันอยู่หรือเปล่า!”
น่าเสียดายที่เย่เทียนอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับตอบกลับด้วยความดูถูก
กระทั่งหญิงสาวคนนั้นส่งเสียงแปลกประหลาดอีกครั้ง ทำให้งูพิษพวกนั้นบ้าคลั่งกว่าเดิมและพุ่งเข้าไปหาเย่เทียนอย่างรวดเร็ว…