บทที่ 55 ครอบครัวเดียวกัน

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม เล่ม 1

บทที่ 55 ครอบครัวเดียวกัน โดย Ink Stone_Romance

เหยียนเซี่ยมิทันได้ตอบสนองว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแม้แต่น้อย ก็ถูกเตาอังมือทองแดงที่กระทั่งค้อนยังทุบไม่แตกทุบจนลงไปกองอยู่กับพื้น!

ศีรษะของเหยียนเซี่ยบวมปูดเป็นลูกในทันใด!

ซั่งกวนเยี่ยนทุบไปครั้งหนึ่งแล้วก็ยังไม่พอ ยังยื่นขาออกไปเตะที่ตัวเขาแรงๆ อีกหลายครา เตะจนกระทั่งขานางเจ็บก็หยิบขนมและผลไม้ทั้งหมดที่หยิบได้มาปาใส่เหยียนเซี่ย

เหยียนเซี่ยเจ็บจนร้องคราง!

เขาไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงๆ เหตุใดพระชายาที่ให้ความสำคัญกับเขาจึงมาทารุณเขาเยี่ยงนี้? หรือว่านางเป็นเหมือนเยี่ยนจิ่วเฉา เป็นพวกวิปลาสเช่นกัน?!

ปั่ก!

มีของอีกอย่างทุบมาอีกแล้ว

ท้ายที่สุดขนมก็ถูกซั่งกวนเยี่ยนทำลายจนเกลี้ยง เมื่อเห็นว่าซั่งกวนเยี่ยนยังจะเดินไปหยิบที่โต๊ะด้านข้างอีก คุณชายเยี่ยนจึงเกิดความคิดขึ้นมาในฉับพลัน เขาส่งขนมในมือให้จิงจ้าวอิ่นด้วยตนเอง

จิงจ้าวอิ่นก็ส่งให้ซั่งกวนเยี่ยนต่อ

เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาเป็นสิบครั้ง ในมือของคุณชายไม่เหลืออะไรแล้ว เขาจึงหยิบบางอย่างออกมาจากใต้โต๊ะแล้วส่งให้จิงจ้าวอิ่น

จิงจ้าวอิ่นส่งให้ซั่งกวนเยี่ยนโดยไม่ได้คิดสักนิด

เมื่อส่งให้แล้วถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่านั่นคือค้อน!

“ฮู…”

อยากจะหยุดก็สายไปเสียแล้ว

ซั่งกวนเยี่ยนทุบเหยียนเซี่ยสลบภายในคราเดียว

“ฮึ!” ครานี้ซั่งกวนเยี่ยนจึงพอสงบสติอารมณ์ได้ นางเดินก้าวใหญ่ไปทางคุก

เด็กเล็กๆ ถูกจับมายังสถานที่เช่นนี้ จักต้องเสียขวัญเป็นแน่

ในห้วงสมองของซั่งกวนเยี่ยนปรากฏภาพเด็กน้อยทั้งสามตัวสั่นอย่างน่าสงสาร หัวใจนางก็บีบรัดจนเจ็บ

ทว่าเมื่อนางไปถึงห้องที่ขังเด็กน้อยไว้ สิ่งที่นางเห็นกลับเป็นเรื่องตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง…

ดรุณีน้อยที่นั่งอยู่บนพื้นสวมใส่อาภรณ์เก่าและซอมซ่อ คงจะเป็นสาวชาวบ้านที่ถูกจับมาพร้อมกับเด็กๆ ที่เหยียนเซี่ยกล่าวถึง

สาวชาวบ้านคนนั้นหลับตาอยู่ ผมสีดำขลับที่ปล่อยสยายปิดบังใบหน้าไว้ เผยให้เห็นเพียงครึ่งใบหน้าที่ขาวผ่องจนคล้ายจะโปร่งแสงเล็กน้อย

ในทุกวันซั่งกวนเยี่ยนตกตะลึงกับความงามของตนนับครั้งไม่ถ้วน จึงย่อมไม่สนภาพลักษณ์ภายนอกของสตรีนางหนึ่ง สิ่งที่นางสนใจคือเด็กน้อยแต่งตัวงดงามทั้งสามที่ขดตัวกันแน่นอยู่ในอ้อมอกของสาวชาวบ้านนางนี้ต่างหาก

เด็กๆ ซบอยู่ในอ้อมอกของนางอย่างว่าง่าย ดูท่าจะกำลังหลับอยู่ แก้มนั้นถูกกดจนยุ้ยขึ้นมา และมีน้ำลายไหลออกมาเล็กน้อย

สตรีนางนั้นก็หลับเช่นกัน

ทั้งสี่คนมิว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายหรือสถานะล้วนไม่เป็นทิศทางเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ทว่า ณ ตอนนี้ พวกเขาอิงแอบกันแนบชิด กระทั่งไร้ซึ่งความไม่เข้ากันเสียด้วยซ้ำ

ซั่งกวนเยี่ยนตะลึงแล้ว

เยี่ยนจิ่วเฉาเข้ามาในคุกพร้อมกับนาง เมื่อเห็นอวี๋หวั่นก็มีความประหลาดใจวาดผ่านเช่นกัน

……………….

สุดท้ายเป็นอวี๋หวั่นที่ตื่นขึ้นมาก่อน

เด็กน้อยทั้งสามกอดเธอไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ใครมาแตะก็ดิ้นพล่าน จึงได้แต่ต้องรบกวนเธอให้ไปส่งเด็กๆ กลับจวน

ขณะนี้เอง ลุงวั่นที่อาการดีขึ้นแล้วก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา

เขาเป็นคนแรกสุดที่พบว่าเด็กๆ หายตัวไป ทันใดที่ตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นคุณชายน้อย ประสบการณ์เช่นนี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!

เขาถามคนตามข้างทางจึงทราบว่าคุณชายน้อยถูกเหยียนเซี่ยจับตัวไปเพราะเข้าใจว่าเป็นโจร ด้วยเหยียนเซี่ยคนนั้นเป็นผู้ที่พระชายาแนะนำเองกับมือ เขาชั่งน้ำหนักดูแล้วจึงแจ้งให้เยี่ยนจิ่วเฉาทราบก่อน

เขาไม่เคยคาดคิดสักนิดว่าสาวชาวบ้านที่ถูกหาว่าเป็นหัวขโมยจะเป็นแม่นางอวี๋ มิแปลกที่คุณชายจะมีท่าทีเช่นนั้น

ระหว่างทางออกจากคุก เขาเล่าเรื่องที่แม่นางอวี๋เสี่ยงชีวิตช่วยเหล่าคุณชายน้อยให้พระชายาฟัง “…คงเป็นเพราะคุณชายน้อยจำแม่นางอวี๋ได้ จึงลงจากภัตตาคารมาหาแม่นางอวี๋ สุดท้ายจึงถูกเหยียนเซี่ยจับตัวไป”

ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวโทษว่าคุณชายน้อยเดือดร้อนเพราะแม่นางอวี๋ไม่ได้

หากจะโทษต้องโทษเหยียนเซี่ยผู้นั้นที่มีตาหามีแววไม่ โง่เป็นหมู!

เมื่อออกจากจวนจิงจ้าว รถม้าสองคันก็ขับเข้ามาในเวลาเดียวกัน

“ไปจวนสกุลเซียว” ซั่งกวนเยี่ยนเอ่ย

“จวนคุณชาย” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ย

ลุงวั่นกุมหน้าผากด้วยความจนใจ

อวี๋หวั่นถามเขาเสียงเบา “เหตุใดต้องไปจวนสกุลเซียวด้วยเล่า?”

จวนสกุลเซียวคือที่ไหนกัน?

เธอรู้จากปากของลุงวั่นว่าซั่งกวนเยี่ยนเป็นมารดาของเยี่ยนจิ่วเฉา นอกเหนือจากนั้นลุงวั่นเล่าให้ฟังไม่ทัน

ลุงวั่นเหลือบมองซั่งกวนเยี่ยนที่ใกล้จะเดินมาถึงปราดหนึ่ง ก่อนจะกระแอมไอกล่าว “คุณหนูเหยียนอยู่ที่จวนสกุลเซียว ที่พระชายามาในครั้งนี้ก็เพื่อจะพาเด็กๆ กลับไปให้คุณหนูเหยียน เด็กเล็กเช่นนี้ ไหนเลยจะห่างมารดาได้ ว่าไหม?”

ประโยคท้ายสุดยังคงพูดไม่ตรงกับใจเพราะอำนาจของซั่งกวนเยี่ยน

ซั่งกวนเยี่ยนเบนหน้าหนีพร้อมกับแค่นเสียง “ยังไม่รีบขึ้นรถม้าอีกรึ?”

ประโยคนี้เอ่ยกับอวี๋หวั่น

อวี๋หวั่นขานรับแล้วอุ้มเด็กน้อยทั้งสามขึ้นรถไป

แต่กลับมิใช่รถม้าของจวนสกุลเซียว เป็นรถม้าของเยี่ยนจิ่วเฉาแทน

ซั่งกวนเยี่ยนเบิ่งตากว้าง

มุมปากของเยี่ยนจิ่วเฉาปรากฏรอยยิ้มเบาบางขึ้นมา

ลุงวั่นนึกว่าตนตาลายแล้ว เขาไม่ได้มองผิดใช่ไหม? คุณชายยิ้มหรือ?

ตั้งแต่ท่านอ๋องสิ้นไป เขาไม่ได้เห็นคุณชายยิ้มมากี่ปีแล้ว?

ลุงวั่นยังอยากมองให้ละเอียดอีกหน่อย เยี่ยนจิ่วเฉากลับตามหลังอวี๋หวั่นขึ้นไปนั่งในรถม้าเสียแล้ว

จนกระทั่งรถม้าหายไปจากปากตรอก ซั่งกวนเยี่ยนจึงได้สติกลับมาอย่างสมบูรณ์ “ข้า…ข้าถูกสาวชาวบ้านดูแคลนรึ?!”

“มิใช่ดูแคลน แต่มิดูต่างหาก” สาวใช้คนใหม่เอ่ยทิ่มแทงเพิ่ม

ซั่งกวนเยี่ยนมิสบอารมณ์แล้ว

สาวใช้เอ่ยต่อ “แล้วจะทำอย่างไรกับคุณหนูเหยียนเล่า?”

เอ่ยถึงนางซั่งกวนเยี่ยนก็มีโทสะ “ข้ามาเช่นนี้แล้วข้ายังต้องสนนางอีกรึ? นางเป็นใครละ! สกุลเหยียนเลี้ยงดูหายนะเช่นเหยียนเซี่ยมาได้ ข้าว่านางก็คงไม่ต่างกันสักเท่าไรหรอก!”

นี่เป็นการระบายโทสะเสียแล้ว

ด่าจบก็ยังไม่ดีขึ้น ซั่งกวนเยี่ยนกัดฟันเอ่ยต่อ “ไล่นางไปให้พ้นซะ!”

ดังนั้น เหยียนหรูอวี้ที่รอพระชายาอยู่ที่จวนสกุลเซียวด้วยใจปีติยินดีจึงถูกคนรับขึ้นรถออกมาแล้วโยนทิ้งอยู่ตรงถนนใหญ่อย่างหยาบคายเช่นนี้

เหยียนหรูอวี้ล้มหน้าคว่ำทีเดียว!

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเพราะเหตุใด!

………………..

รถม้าขับเข้าไปยังจวนคุณชายแล้วหยุดอยู่ที่ประตูสอง

อวี๋หวั่นมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่เธอไม่รู้สึกอึดอัดอะไรนัก เทียบกับตอนที่ไปคฤหาสน์สกุลไป๋ ที่นี่กลับทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า แต่อาจเป็นเพราะตอนไปคฤหาสน์สกุลไป๋นั้นไปทำธุรกิจ จึงต้องบีบเค้นเส้นประสาทไว้กระมัง

แม้เด็กๆ จะตัวเล็ก แต่อุ้มสามคนพร้อมกันก็ถือว่ากินแรงมาก

อวี๋หวั่นกำลังไตร่ตรองว่าอุ้มอย่างไรถึงจะประหยัดแรงที่สุดอยู่ มือที่งดงามดั่งหยกก็ยื่นเข้ามาอุ้มเด็กๆ ข้างละคนโดยไม่สนว่าพวกเขาจะดิ้นรนอย่างไร

เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มเด็กสองคนลงรถม้าไป

อวี๋หวั่นอุ้มอีกคนตามไป

ท้องฟ้าปลอดโปร่งหลังจากที่หิมะตกมาหลายวัน แสงอาทิตย์ยามสายัณห์ก็สาดส่องลงมาที่ตัวทั้งสองคน เงาที่พาดผ่านพื้นนั้นราวกับแนบชิดกันอย่างไรอย่างนั้น

เหล่าบ่าวใช้มองคุณชายกับสตรีนางหนึ่งอุ้มเด็กน้อยเดินมาจากที่ไกลๆ ภาพนั้นกลมกลืนกันจนพรรณนาไม่ถูก ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ

คุณชายมิเคยพาสตรีใดกลับมาที่จวน

และมิเคยเดินกับสตรีใดใกล้ชิดขนาดนั้นเช่นกัน

อีกทั้งคุณชายน้อยทั้งสามที่วุ่นวายกันทั้งคืนจนหลังคาแทบจะถล่ม ในที่สุดครานี้ก็เงียบลงแล้ว

คุณชายน้อยที่สงบลงนั้นน่ารักมากเหลือเกินจริงๆ…

ทั้งสองคนเข้าไปในเรือน

มีแม่นมออกมาคารวะและรับเด็กทั้งสองมาจากอ้อมอกของเยี่ยนจิ่วเฉา จากนั้นจึงเข้าไปยังห้องของคุณชายน้อยพร้อมกับอวี๋หวั่น

เมื่อเห็นแผ่นหลังของอวี๋หวั่นที่อุ้มเด็กน้อยลับหายไปตรงสุดทางเดิน ดวงตาของเยี่ยนจิ่วเฉาก็ฉายประกายมีความหมายลึกซึ้งออกมา

พี่จิ่วต้องทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว

………………………………………