บทที่ 56 ลงครัวด้วยตนเอง

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม เล่ม 1

บทที่ 56 ลงครัวด้วยตนเอง โดย Ink Stone_Romance

แม้คนจะกลับมาจากจวนจิงจ้าวแล้ว แต่ลุงวั่นกลับยังไม่ได้พักผ่อน สาเหตุที่แม่นางอวี๋ถูกเหยียนเซี่ยจับเข้าคุกไปนั้นเพราะมีคนแจ้งว่านางลักขโมยของ เมื่อเขาไปดู ‘ของที่ถูกขโมย’ ก็สับสนไปเล็กน้อย

เขานำ ‘ของที่ถูกขโมย’ กลับมายังจวนคุณชายและให้คนย้ายเข้าไปในห้องของเยี่ยนจิ่วเฉา

“คุณชาย” ลุงวั่นเอ่ยทักทาย

เยี่ยนจิ่วเฉากำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองออกไปนอกเรือนด้วยสายตามั่นคง มิทราบว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ได้ยินเสียงของลุงวั่นก็ยังไม่หันมา ทำเพียงตอบรับเรียบๆ เท่านั้น “มีอะไร?”

“ข้าวางไว้ตรงนั้น” ลุงวั่นชี้ไปยังโต๊ะแปดเซียนที่อยู่ไม่ไกล

หลังจากคนงานชั่วคราววางหีบใบใหญ่ไว้ตรงโต๊ะแปดเซียนก็ถอยออกไปอย่างรู้ความ

ลุงวั่นเปิดฝาหีบออกพลางมองแผ่นหลังของเยี่ยนจิ่วเฉา “คุณชาย ท่านมาดูหน่อย”

เยี่ยนจิ่วเฉาหันตัวมา สายตาก็ตกไปอยู่ที่ผ้าในหีบที่ชวนให้ตาพร่า

ผ้าเหล่านี้เป็นของขวัญส่วนหนึ่งที่ซั่งกวนเยี่ยนส่งมาให้เยี่ยนจิ่วเฉานำไปที่งานเลี้ยงของเหยียนหรูอวี้ หลังจากของขวัญถูกส่งมายังจวนคุณชายก็ให้ลุงวั่นเก็บรักษาไว้ เยี่ยนจิ่วเฉาไม่เคยเห็นเลย รู้อีกทีก็มอบให้กับเด็กที่บังเอิญเจอที่คฤหาสน์สกุลไป๋ไปเสียแล้ว

“เกรงว่าคุณชายจะไม่ทราบกระมัง” ลุงวั่นเล่าที่มาของผ้าให้เยี่ยนจิ่วเฉาฟัง “…ล้วนเป็นผ้าในพระราชวัง มิแปลกที่คนเขาจะแจ้งทางการ”

เพียงแต่แปลกนัก ของเหล่านี้มิใช่ว่าคุณชายมอบให้คนอื่นไปแล้วหรือ? เหตุใดจึงมาอยู่ในมือของแม่นางอวี๋ได้?

พริบตานั้นเยี่ยนจิ่วเฉาพลันเข้าใจ เขาพึมพำเสียงต่ำ “นางคือพี่สาวที่เด็กคนนั้นเอ่ยถึง…”

หลังจากอวี๋หวั่นตามแม่นมเข้าไปในห้อง ก็มีสาวใช้นำน้ำร้อนเข้ามา

อวี๋หวั่นถอดชุดของเด็กน้อยทั้งสามออกแล้วอาบน้ำให้พวกเขา ตามด้วยเปลี่ยนเป็นชุดผ้าแพรที่แห้งสบาย เด็กๆ ถูกจับถอดใส่ชุดไปมาแต่กลับไม่ตื่นนอนแม้แต่คนเดียว

เห็นคุณชายน้อยว่าง่ายอยู่ในอ้อมอกของสาวชาวบ้านเช่นนี้ แม่นมก็ปากอ้าตาค้างกันไป

แต่คิดในอีกแง่หนึ่ง คุณชายน้อยวุ่นวายมาทั้งคืน ครานี้ก็คงง่วงนอนแล้ว ต้อง…ต้องหลับลึกเกินไปเป็นแน่

แม่นมมองอวี๋หวั่นอย่างละเอียด แม่นางผู้นี้ดูจนไปหน่อย ทว่าท่าทางดูดีนัก สงบเสงี่ยมเรียบร้อย ทำให้ใจที่ตื่นเต้นค่อยๆ สงบลง แม่นมมิค่อยสนใจเรื่องรูปลักษณ์มาตลอด อย่างไรคนงามงามที่ใจใช่ภายนอก ทว่ายามนี้ แม่นมกลับอดเอ่ยประโยคหนึ่งไม่ได้ ดรุณีผู้นี้สวยโดดเด่นอยู่เช่นกัน มิใช่ความงามที่กระชากวิญญาณเฉกเช่นพระชายา แต่เป็นหน้าตานุ่มนวลและสงบที่ชวนให้รู้สึกสบายใจอย่างไร้ที่เปรียบ

แม่นมคิดในใจ ‘มิน่าถึงอยู่ในสายตาของคุณชาย’

หลังจากส่งเด็กน้อยทั้งสามเข้าเตียงนอนที่อบอุ่นแล้ว อวี๋หวั่นก็ร้อนจนเหงื่อออกท่วมร่าง บ้านคนรวยไม่เหมือนกันจริงๆ เผาไส้เดือนยังอุ่นกว่าใช้ฟืนจำนวนมากเสียอีก

อวี๋หวั่นกระตุกคอเสื้อเบาๆ แล้วก้มหน้าลงหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋า ทว่าทันใดนั้น ผ้าเช็ดหน้าสีขาวนวลก็ถูกยื่นให้ และที่ถือผ้าเช็ดหน้าอยู่นั้นก็คือมือที่เรียวยาวดั่งหยก

อวี๋หวั่นชะงักไป ถึงไม่ได้มองแต่ก็เดาสถานะของอีกฝ่ายออก

เธอรับผ้าเช็ดหน้ามา “ขอบคุณคุณชายเยี่ยน”

แม่นมพาสาวใช้ถอยออกไปตั้งแต่คุณชายเยี่ยนเข้ามาในห้องนานแล้ว ในห้องนอกจากเด็กน้อยทั้งสามที่หลับสนิทก็เหลือเพียงพวกเขาสองคน

“ขอบคุณข้าเรื่องอะไร?” เยี่ยนจิ่วเฉายืนอยู่ข้างเตียง มองกระหม่อมของนางพลางถามอย่างทีเล่นทีจริง

อวี๋หวั่นรับผ้าเช็ดหน้ามาก่อนกล่าว “ขอบคุณผ้าเช็ดหน้าของคุณชายเยี่ยน และขอบคุณที่คุณชายเยี่ยนช่วยข้าจากคราวเคราะห์ในวันนี้”

เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ยตอบ “เจ้าเองก็ช่วยลูกข้าไว้”

“นี่เป็นคนละเรื่องกัน” อวี๋หวั่นค้าน

มิรู้ว่าคิดอะไรอยู่ เยี่ยนจิ่วเฉาถึงพยักหน้าเบาๆ อย่างเห็นด้วย “ก็จริง คนละเรื่องกัน”

“หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

“ข้าเพิ่งจะช่วยชีวิตเจ้า เจ้าก็จะไปเช่นนี้รึ?”

ในที่สุดอวี๋หวั่นก็เงยหน้าขึ้นมามองเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยความงงงวย

เยี่ยนจิ่วเฉาถามเสียงเรียบ “ทำอาหารเป็นหรือไม่?”

อวี๋หวั่นอึ้งไปเล็กน้อย “เป็นก็เป็นอยู่ แต่ว่า…”

“พ่อครัวในจวนลาพักอยู่” คุณชายบางคนเอ่ยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าด้วยซ้ำ

พ่อครัวที่เพิ่งเดินมาถึงหน้าประตู “…”

อวี๋หวั่นไม่เคยพักในจวนคุณชาย ทว่าในเมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้ก็คงจะลาพักจริงๆ ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว ไม่ยอมใช้พ่อครัวใหญ่ดีๆ กลับอยากทานอาหารที่สาวชาวบ้านอย่างเธอทำให้หรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร?

“หากคุณชายเยี่ยนไม่รังเกียจ ข้าจะไปดูที่ห้องครัวสักหน่อย”

วันนี้เขาช่วยเธอไว้มาก ตอบแทนด้วยอาหารมื้อหนึ่งก็สมควรแล้ว

ทั้งสองคนเดินไปห้องครัว

พ่อครัวถูกให้ ‘ลาพัก’ แล้ว ในห้องครัวจึงว่างเปล่า

แต่วัตถุดิบทำอาหารมีมาก ทำอะไรนิดหน่อยก็รวมเป็นอาหารเย็นมื้อหนึ่งได้แล้ว

อวี๋หวั่นครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจถามเขา “คุณชายเยี่ยนอยากทานอะไรหรือ?”

เยี่ยนจิ่วเฉาตอบ “ซาลาเปา ลูกชิ้น ชงโหยวปิ่ง”

อวี๋หวั่นตกใจ บุตรชายสกุลใหญ่กลับชอบกินของพวกนี้หรือ? ยังนึกว่าเขาจะสั่งอาหารที่ยุ่งยากอะไรเสียอีก

อาหารเหล่านี้ล้วนเป็น ‘อาหารจานเด็ด’ ของอวี๋หวั่น อวี๋หวั่นรวบรวมวัตถุดิบในทันที เริ่มจากนวดแป้งสาลีก่อน แล้วหั่นเนื้อ ทั้งเนื้อหมูเนื้อแพะก็หั่นไว้เล็กน้อย หลังจากแป้งได้ที่ก็ยัดไส้เนื้อผสมคลุกเคล้ากับไข่ขาว

เธอห่อซาลาเปาไส้เนื้อแพะแล้วเอาลงนึ่ง

จากนั้นเทน้ำมันใส่กระทะจนท่วม แล้วทอดลูกชิ้นที่กลิ่นหอมและกรอบหนึ่งชามใหญ่

สุดท้าย เธอตักน้ำมันในกระทะขึ้นมา เหลือไว้เพียงเล็กน้อยสำหรับทอดชงโหยวปิ่ง

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะใช้วัตถุดิบที่ดีมากหรือไม่ ลูกชิ้นและชงโหยวปิ่งในครานี้ถึงได้ส่งกลิ่นหอมที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา

เรือนหลังนี้ล้วนถูกยั่วยวนเพราะกลิ่นหอมนี้

ท้องเยี่ยนจิ่วเฉาร้องโครกคราก

ลุงวั่นน้ำลายไหลไม่หยุด

พิจารณาจากที่พ่อครัวไม่อยู่ พวกเด็กๆ และลุงวั่นก็ไม่มีอาหารทานเช่นเดียวกัน อวี๋หวั่นจึงทำเผื่อทุกคนแล้ว

เธอทำอยู่หนึ่งชั่วยามเต็มๆ จนกระทั่งถึงยามพระอาทิตย์เบนไปทางทิศตะวันตก

ขณะนี้เอง อวี๋เฟิงก็มาหาที่หน้าประตูแล้ว

“พี่ใหญ่ข้ามาแล้ว ข้าขอตัวก่อน”

อวี๋หวั่นเอ่ยลาเยี่ยนจิ่วเฉา

ลุงวั่นไปส่งเธอที่หน้าประตูด้วยตนเอง เมื่อเห็นเธอขึ้นรถม้ากับอวี๋เฟิงไปแล้วจึงหันตัวก้าวใหญ่ๆ กลับไปที่เรือน

ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาตกใจคือ ในขณะที่เขาเร่งรีบกลับไปที่เรือน ลูกชิ้นและชงโหยวปิ่งที่ยั่วยวนเขามาทั้งบ่ายนั้นกลับลงท้องของเยี่ยนจิ่วเฉาไปแล้วโดยไม่เหลือสักชิ้น

นั่น…นั่นมันสำหรับห้าคนเชียวนะ…

คุณชาย ปกติข้าวครึ่งชามท่านยังกลืนไม่ลง เหตุใดจึงทานลูกชิ้นและชงโหยวปิ่งมากเช่นนั้นลงไปได้?!

ทะ…ทะ…ท่านโยนทิ้งไปใช่หรือไม่?!

เยี่ยนจิ่วเฉาลูบท้องแล้วเรอออกมา พึงพอใจอย่างหาใดเปรียบ

…………………

ส่วนเด็กน้อยทั้งสามนอนยาวไปจนถึงกลางดึก เมื่อตื่นมาพบว่าอวี๋หวั่นไม่อยู่แล้วก็กระโดดอย่างฉุนเฉียว โชคดีที่มีซาลาเปาที่อวี๋หวั่นทิ้งไว้

เพียงแต่วางไว้นานเกินไป ซาลาเปาเย็นชืดหมดแล้ว ทั้งยังแข็งด้วย ทั้งสามคนแทะอยู่นานก็แทะไม่เข้า

สุดท้ายคนสุดท้องจึงรวบรวมความกล้ากัดเข้าไปเต็มคำ…

แกร่ก!

เจ็บจนทำให้ฟันผุอายุหนึ่งเดือนของเขาหลุดออกมา…

ลูกจิ้งจอกหิมะที่ออกไปจากบ้านเพราะก่อสงครามเย็นกับเยี่ยนจิ่วเฉา หลังจากได้กลิ่นหอมของซาลาเปาไส้เนื้อก็กลับมาอย่างองอาจ!

มันเดินกร่างเข้าไปในห้อง แล้วแสดง ‘วิธีใช้งาน’ ซาลาเปาไส้เนื้อที่ถูกต้องให้เด็กน้อยหน้าใหม่ทั้งสามดู

เห็นเพียงมันโยนซูถัง[1]เล็กๆ ชิ้นหนึ่งลงไปบนพื้น ส่วนเท้าเล็กสองข้างก็ประคองซาลาเปาไส้เนื้อที่ใหญ่กว่าหัวมันยืนอยู่ด้านข้าง

ทันใดนั้น เงาดำเล็กหนึ่งก็บุกเข้ามา!

รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ลูกจิ้งจอกหิมะควงซาลาเปาไส้เนื้อในมือแล้วทุบลงไปอย่างอหังการ!

จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องแหลมเล็ก เจ้าหนูที่แอบขโมยของกินถูกทุบจนกลายเป็นแป้งเนื้อไปเสียแล้ว!

เด็กน้อยทั้งสาม :(⊙o⊙)!

……………………………………

[1] ซูถัง หมายถึงถั่วหรือธัญพืชที่นำลงเคี่ยวกับน้ำตาลจนสุก แล้วนำออกมาผึ่งลมให้น้ำตาลแข็งตัวกรอบ