TQF:บทที่ 678  ฮ่องเต้เรียกเข้าพบ (3)

 

“ท่าทางคุณหนูผู้เป็นญาติตระกูลฟางจะไม่ธรรมดานะ ฟางซูหยุนนี่ได้แต่งกับตระกูลดีๆนะ” ฮ่องเต้กระตุกมุมปากเป็นรอยยิ้ม

 

พอเห็นฮ่องเต้อารมณ์ดี ขันทีเฒ่าเองก็ยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว “ฝ่าบาท ตอนแรกท่านเคยอยากให้ฟางซูหยุนเป็นคู่ครองให้กับองค์ชาย 18 ด้วยนะพะย่ะค่ะ เพียงแต่ตอนนั้นนางหายตัวไปและไม่มีใครหาเจอ”

 

“ถูกต้อง”

 

ดูเหมือนฮ่องเต้ก็นึกเรื่องเล็กๆเรื่องนี้ออกแล้ว แววยิ้มในนัยน์ตายิ่งมากขึ้นไปอีก “พวกเขามีความรักต่อกันแต่ไร้วาสนา ช่วงนี้เฉินเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง”

 

ตอนนี้ฟางซูหยุนและหวงฝู่มั่วเฉินนับว่ามีความรักความผูกพันต่อกันมาก ส่วนฮ่องเต้เห็นว่าฟางซูหยุนเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลฟางสายบ้านใหญ่ก็คิดจะให้แต่งงานกับหวงฝู่มั่วเฉิน ลูกชายคนเล็กที่ตัวเองโปรดปรานเหมือนกัน แต่ช่วยไม่ได้ที่ฟางซูหยุนหายตัวไปขณะฝึกฝน ความรักครั้งนี้จึงจบลงก่อนที่จะมีผลงอกเงยออกมา

 

บัดนี้ หลับจากที่ผ่านไปหลายสิบปีฟางซูหยุนก็กลับมา ไม่ใช่แค่นางที่กลับมาเท่านั้น นางยังพาหลานสาวมาด้วย ฮ่องเต้อดนึกไปถึงลูกชายคนเล็กที่เหมือนตัวเองที่สุดไม่ได้

 

หวงฝู่มั่วเฉินเป็นลูกชายที่เกิดมาตอนเขาอายุ 40 กว่า ไม่เพียงแต่หลักแหลมเหนือผู้อื่น ในด้านรูปลักษณ์ภายนอกก็เหมือนฮ่องเต้มากเช่นกัน ในด้านความสามารถและวิทยายุทธก็ไม่เคยทำให้ฮ่องเต้ผิดหวัง นับว่าเป็น 1 ในองค์ชายที่ฮ่องเต้รักมากที่สุด

 

“ทูลฝ่าบาท ตั้งแต่ที่พระมเหสีสวรรคตไปองค์ชาย 18 ก็เก็บตัวฝึกฝนไม่ออกมาเลย เขาน่าจะยังไม่ทราบเรื่องที่คุณหนูฟางซูหยุนกลับมาแล้ว”

 

ขันทีเฒ่าที่เห็นฮ่องเต้ตั้งแต่เด็กยันโตแล้วยังอยู่รับใช้มาตลอดย่อมรู้ว่าฮ่องเต้คิดอะไรอยู่

 

ฮ่องเต้พยักหน้าและเอ่ยต่อ “ตอนนั้นเจ้าเฉินเอ๋อก็ไม่อยากแต่งงาน ช่วยไม่ได้ที่พระมเหสีของเขาอายุสั้น ไม่ทันได้มีเลือดเนื้อเชื้อไขให้เขา ตอนนี้เหลือแค่เขาอยู่โดดเดี่ยวเพียงลำพัง ข้าเป็นห่วงเหลือเกิน”

 

“ฝ่าบาท ได้ข่าวว่ายัยเฉิงเสี่ยวเสี่ยวหลานสาวฟางซูหยุนหน้าตาดีอยู่ ไม่อย่างนั้นฝ่าบาทเรียกพวกนาง 2 ย่าหลายเข้าพบดีมั้ย”

 

“อืม เจ้าพวกเด็กๆในตำหนักองค์ชายต่างๆก็ใกล้ชิดกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยวอยู่ เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน มะรืนเรียกพวกนางเข้าพบ”

 

“พะย่ะค่ะ”

 

“มะรืนเรียกเฉินเอ๋อมาพบข้าด้วย”

 

“พะย่ะค่ะ”

 

“ตู้มม….”

 

ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเหนือบ้านตระกูลฟางยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศสั่นไหว พลังวิญญาณถล่มทลายราวกับจะเขย่าโลกเรียกความสนใจจากทุกคนไว้ได้

 

ผู้คนที่มาชุมนุมล้วนอยู่กันที่รอบนอกบ้านตระกูลฟาง เพราะสัตว์อมตะที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้ล้อมเอาไว้หมดแล้วโดยยึดบ้านของท่านปู่ทวดเป็นจุดศูนย์กลาง แม้แต่ตาเฒ่าพวกนั้นยังถูกไล่ออกมา

 

เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด จะให้มีอะไรมากระทบไม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้น เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยังสั่งให้หยูเฮงน้อยสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดกันไม่ให้มีคนลอบเข้าไป

 

เมื่อเวลาผ่านไปก็มีคนมารวมตัวกันบนฟ้าเหนือบ้านตระกูลฟางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างมาดูการอุบัติขึ้นของผู้แข็งแกร่งแห่งตระกูลฟางผู้นี้

 

คนรอบกายเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็เยอะขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เหล่าพระโอรสและพระธิดามาปรากฏตัวอยู่ข้างๆนางกันหมด และพยักหน้าเป็นการทักทาย

 

คนบ้านรองและบ้านสี่ก็มาด้วยเช่นกัน ฟางเต๋อหรงที่เย็นชาไม่สนใจโลกมาตลอดเมื่อเห็นภาพนี้ก็น้ำตารื้นขึ้นมาพร้อมกับพึมพำในลำคอ ไม่มีใครรู้ว่าเขาพูดอะไร

 

มีแค่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่ได้ยินคำพูดของนายท่านสี่ นางรู้สึกประหลาดใจและไม่เข้าใจกับคำพูดที่ได้ยิน แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อีก ตั้งสติอยู่แค่กับความเคลื่อนไหวในบ้าน

 

เวลายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

 

มีพลังลมปราณมหาศาลระเบิดออกมาจากภายในบ้าน

 

“ตู้มม…”

 

มีพลังเซียนสีขาวรุนแรงกระจายออกมาจากสักห้องหนึ่งในตัวบ้าน ตอนแรกแค่เบาบางเท่านั้น แต่ต่อมาได้ทวีคูณความหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็เป็นเสาพลังลมปราณที่สูงเสียดฟ้าและไม่ยอมหายไป

 

พลังลมปราณในสวนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ความน่ากลัวยิ่งทวีคูณขึ้น

 

ช่าาา

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้ยินเสียงลางๆ ราวกับด่านปราการแตกออก

 

นาทีต่อมา

 

จู่ๆพลังเซียนที่ยิ่งใหญ่ในตอนแรกก็ดุร้ายขึ้นมา ราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุ

 

“ตู้มม….”

 

แสงเจิดจ้าสาดออกมาอย่างมากมายราวกับน้ำป่าไหลราก พุ่งขึ้นไปสู่ท้องนภา สาดส่องไปทั่วหล้า เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก

 

ทั้งบ้านตระกูลฟางสั่นสะเทือนราวแผ่นดินไหว ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนกันหมดเมื่อมองไปยังคนที่กำลังจะบรรลุเป็นบรรลุเทพเทวา บรรลุเทพเทวายังเก่งขนาดนี้ แล้วเทพเซียน จักรพรรดิ์เซียนล่ะ

 

ทุกคนจิตใจร้อนรุ่มกันหมด เพียงแต่ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธในผืนดินฉางไห่ที่สามารถบรรลุเป็นเทพเซียนและจักพรรดิเซียนได้มีน้อยมากจริงๆ

 

ฟางเต๋อหยวนในบ้านคำรามเสียงยาวที่สะเทือนไปทั่วผืนฟ้า

 

“อ๊ากกกก”

 

เสียงคำรามประดุจมังกรที่พุ่งออกมาจากน้ำมากมายจนกลายร่างเป็นมังกรได้จริงๆ

 

หลังจากเสียงคำรามยาวที่กระเทือนไปทั้งชิงยาง ฟางเต๋อหยวนก็หายตัวออกจากบ้านมาอยู่ต่อหน้าทุกคน

 

พลังลมปราณมหาศาลอันน่าสยองขวัญกระจายออกมาจากตัวฟางเต๋อหยวน ภายในระยะพันลี้ พลังวิญญาณใต้ฟ้าดินนี้สั่นสะท้านเป็นคลื่นโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง

 

ในช่วงเวลาสั้นๆนี้เขาก็บรรลุจากระดับเดิมไปสู่ระดับใหม่ได้

 

บรรลุเทพเทวา

 

ความหมายตามชื่อ การเป็นบรรลุเทพเทวาย่อมมีความน่าเกรงขามของเทพอยู่ ทุกคนต่างรู้สึกถึงความกดดันอันมหาศาลนี้ เหมือนดั่งขุนนางที่ต้องเผชิญกับกษัตริย์ที่หายใจไม่ทั่วท้อง

 

นอกจากเหล่าปีศาจเฒ่าที่มุงดูอยู่ไกลๆแล้ว พวกเขาต่างพยักหน้าเป็นอันรับรู้ว่าฟางเต๋อหยวนบรรลุแล้วจริงๆ

 

ภายใต้การจ้องมองจากทุกคน เสาพลังลมปราณฟาดลงมาที่ตัวฟางเต๋อหยวนราวกับสายฟ้า ท่วมท้นตัวเขาจนมิด

 

หลังจากนั้นพลังลมปราณในตัวเขาก็พุ่งขึ้นสูงด้วยความเร็วที่น่าตกใจราวกับเป็นทะเลช่วงน้ำขึ้น

 

ชั่วขณะนั้นเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่วิทยายุทธค่อนข้างต่ำต่างมีสีหน้าตื่นกลัว จู่ๆพวกเขาก็รู้สึกถึงความกดดันอันน่าสะพรึงจากตัวบรรลุเทพเทวาผู้นี้ เสมือนพวกนักสู้ที่เผชิญหน้ากับผู้ฝึกฝนวิทยายุทธ ตระหนกตื่นกลัว

————————