ตอนที่ 532 จบความสัมพันธ์เพียงเท่านี้
“ฉันยังพูดไม่จบ คุณจะรีบร้อนไปทำไม” อีลั่วเสวี่ยพูดอย่างไม่ร้อนรน เธอพูดเพื่อทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็น ตลอดเวลานี้ ทุกคนทำตัวเป็นคนดูที่ดี ไม่แสดงความเห็นใดๆ
ต้องรู้ว่าคนที่สามารถมาร่วมงานวันเกิดนายท่านผู้เฒ่าล้วนไม่ใช่คนธรรมดา อยู่ในเขตทหารที่สิบสองต้องเจอหน้ากันเป็นประจำ ถ้าไม่ระวังคำพูดทำให้คนอื่นไม่พอใจย่อมไม่ดีแน่นอน
“คุณบอกว่าสาเหตุมาจากเพื่อนคุณ แต่ความจริงดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น เรื่องนี้ถ้าคุณฝานไม่ออกแรงเลย พูดไปแล้วคงไม่มีใครเชื่อจริงไหม?”
ทุกคนเริ่มสนใจแล้ว ดูท่าฝานเจียวเจียวรู้ฐานะของอีลั่วเสวี่ยอยู่ก่อนแล้ว ดูเหมือนยังทำอะไรบางอย่างด้วย แต่อยู่ที่นี่กลับทำตัวเหมือนพบเธอเป็นครั้งแรก ชักสนุกแล้วสิ
อวิ๋นเว่ยกับอวิ๋นเซินพาคนกลุ่มหนึ่งมาถึงที่นี่แล้ว ได้ยินที่อีลั่วเสวี่ยตำหนิฝานเจียวเจียว ก็รู้สึกโกรธทันที
“พี่ฝาน ก่อนหน้านี้เรื่องที่พวกคุณสกุลฝานเล่นงานเสวี่ยเอ๋อ ผมยังไม่ได้เอาเรื่อง ยังจะมาหาเรื่องอีก ผมคงต้องมองพวกคุณใหม่แล้ว!”
ฝานเจียวเจียวสั่นหัวไม่หยุด “ไม่ใช่ ไม่ใช่ค่ะ อาอวิ๋น เชื่อหนูเถอะ หนูไม่ได้ทำ” เธอตีหน้าใสบริสุทธิ์ ชวนให้น่าสงสาร แต่น่าเสียดายที่อวิ๋นเว่ยไม่ใส่ใจ
“เธอคิดว่าตัวเองทำอย่างรอบคอบไม่มีช่องโหว่ ฉันคงหาหลักฐานไม่ได่ใช่ไหม?” อวิ๋นเว่ยยิ้มหยัน มองฝานเจียวเจียวด้วยสายตาเย็นชา
“หนู…” ฝานเจียวเจียวนิ่งอึ้ง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
สีหน้าอวิ๋นเซินย่ำแย่มาก “อยากรู้ว่าใครทำ ตรวจสอบหน่อยก็รู้แล้ว” ในห้องจัดงานมีกล้องวงจรปิด วันนี้จัดงานเลี้ยงย่อมต้องเปิดไว้ ในเมื่อเชิญแขกมาที่บ้าน ใครจะรู้ว่าจะมีคนทำเรื่องร้ายหรือไม่
พอเขาพูดเช่นนี้ ฝานเจียวเจียวหน้าซีดเผือดทันที คนสกุลฝานมองออกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเธอ
นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานก้าวออกมา “เออ น้องอวิ๋น เรื่องนี้ขอให้ผ่านไปเถอะ เจียวเจียวเป็นผู้เสียหาย อย่าทำเธอถูกทำร้ายครั้งที่สองเลย”
อวิ๋นเว่ยยิ้มเยาะ “น้าฝานกลัวว่าถ้าตรวจสอบแล้วสกุลฝานจะเสียหน้าใช่ไหม?”
“จะเป็นไปได้ยังไง?” นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานแย้งทันที จากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น
“งั้นก็ดีแล้ว คุณห่วงหลานสาวตัวเอง ผมก็ห่วงลูกสาวผม เราสกุลอวิ๋นทำอะไรตรงไปตรงมา เรื่องนี้จะปล่อยให้ผ่านไปอย่างนี้ไม่ได้ เสวี่ยเอ๋อ ลูกว่าใช่ไหม”
ที่จริงที่อวิ๋นเว่ยถามเช่นนี้เป็นเพราะความเห็นแก่ตัว ถ้าอีลั่วเสวี่ยมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ งั้นก็ยุติเรื่องนี้ไว้ก่อน แน่นอนว่าฝานเจียวเจียวต้องทำอะไรแน่นอน เธอจึงตอบโต้ เห็นได้ชัดว่าเกี่ยวข้องกับเฉวียนหมิง
อีลั่วเสวี่ยพยักหน้า เธอเห็นด้วยกับอวิ๋นเว่ย “หนูไม่มีปัญหา น้องเจียวเจียวเข้าใจผิดว่าหนูทำอะไรไป ที่จริงต่อให้หนูโกรธแค้น ก็ไม่ทำเรื่องเช่นนี้เด็ดขาด” เธอไม่เป็นฝ่ายลงมือก่อน แต่ตอนนี้เป็นการใช้วิธีมาไม้ไหนไปไม้นั้น
เล่นละครย่อมไม่ถึงตาย ใครจะรู้ว่าที่เธอพูดจริงหรือเท็จ คิดจะทำร้ายเธอ ก็อย่าโทษว่าเธอโหดก็แล้วกัน
“ไม่ ฉันอยากไปจากที่นี่ พี่ พาฉันไปเถอะ” ฝานเจียวเจียวท่าทางน้อยใจและตื่นกลัว ถ้าถูกตรวจสอบออกมา ต่อให้เธอกระโดดลงแม่น้ำเหลืองก็ล้างมลทินไม่ได้
อวิ๋นเว่ยโบกมือ “เราไปตรวจสอบกัน เจียวเจียวไปพักก่อน เราจะหาคนที่ทำร้ายเธอออกมาให้ได้!”
ไม่นานนักก็พบคนแล้ว บริกรคนนั้นเห็นสภาพการณ์เช่นนี้ก็ตกใจจนเข่าอ่อน สารภาพออกมาอย่างหมดเปลือก บอกเรื่องที่ฝานเจียวเจียวสั่งเขา ใครคือเป้าหมาย จะเล่นงานอย่างไร
เรื่องราวชัดเจนแล้ว สกุลฝานขายหน้ามาก อวิ๋นเว่ยโกรธแค้นมาก “ร้ายนักนะเจียวเจียว เราสกุลอวิ๋นดูแลเธอเหมือนคนในครอบครัว แต่เธอกลับทำกับลูกสาวฉันอย่างนี้ ดีมาก นับจากนี้ไป ฉันคิดว่าคงไม่ต้องนับญาติกันแล้ว นับจากวันนี้สกุลอวิ๋นกับสกุลฝานไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว!”
ตอนที่ 533 เรื่องวุ่นวายจบลง
ถึงเวลานี้ฝานเจียวเจียวจึงรู้ตัวว่าตนเองยกก้อนหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง ใบหน้าเธอขาวซีด เธอทำเรื่องร้ายแรงแล้ว การที่สกุลฝานบาดหมางกับสกุลอวิ๋นเป็นเรื่องใหญ่มาก
“อาอวิ๋น ไม่ใช่อย่างนั้น คนรับใช้คนนั้นพูดเหลวไหล!” ฝานเจียวเจียวยืนกรานไม่ยอมรับ จะอย่างไรเธอก็มีสกุลฝานหนุนหลังอยู่ ที่ยกความสัมพันธ์ระหง่างสกุลอวิ๋นกับสกุลฝานขึ้นมาเป็นการพูดขู่เธอ ใช่แน่ๆ!
แววตาอวิ๋นเว่ยแข็งกร้าว “ต้อให้คนรับใช้คนนี้พูดจาเหลวไหล แต่กล้องวงจรปิดไม่โกหกใคร หรือเธอจะให้อาเอาเทปกล้องวงจรปิดมาเปิดดูต่อหน้าทุกคนหรือ?”
คำพูดเขาทำให้ฝานเจียวเจียวนิ่งอึ้งทันที ได้แต่มองฝานเหม่ยหลิงด้วยสายตาวิงวอน หวังว่านางในฐานะคนสกุลฝานจะช่วยพูดให้พวกเขาบ้าง
“น้องอวิ๋น เรื่องนี้น่าจะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ทำให้เรื่องเล็กสลายไป เจียวเจียวก็เป็นผู้เสียหาย คงพอแล้วใช่ไหม?” หลานสาวตัวเองถูกคนอื่นพบเห็นในขณะที่กำลังทำเรื่องแบบนั้น
นับจากนี้ไปพวกเขาสกุลฝานต้องได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ถ้าขาดความสัมพันธ์กับสกุลอวิ๋น เกรงว่าจะยิ่งเดินลำบากขึ้น
แต่น่าเสียดาย เดิมทีอวิ๋นเซินก็ไม่พอใจอยู่แล้วที่สกุลฝานอาศัยว่าเป็นสกุลทางครอบครัวของภรรยาตน เอาเปรียบสกุลอวิ๋นมากเกินไป เวลานี้มีโอกาสจะเตะให้พ้นไป เขาจะปล่อยโอกาสไปได้อย่างไรรรอย
ไม่ใช่เพราะเขาเลือดเย็นไร้ความเมตตา แต่อีกฝ่ายเล่นงานมาถึงหัวพวกเขาสกุลอวิ๋นแล้ว ถ้าขืนปล่อยเรื่องนี้ไป สกุลฝานจะสำนึกตัวหรือ ไม่ ไม่มีวันหรอก
คนประเภทนี้ถ้าทำผิดก็ต้องการให้คนอื่นยกโทษให้ เป็นคนเห็นแก่ตัวที่คิดถึงแต่ตัวเองเท่านั้น
“เรื่องนี้โทษฉันหรือ? ถ้าไมใช่เธอดื่มจนเมา จะทำเรื่องอย่างนี้หรือ ยังดีที่เฉวียนหมิงไม่ได้ดื่มยานั่น ถ้าเกิดดื่มเข้าไป พวกคุณเตรียมจะทำอย่างไร?”
ขณะนี้อวิ๋นเว่ยยิ่งเห็นฝานเจียวเจียวก็ยิ่งไม่พอใจ ส่วนเวลานี้อีลั่วเสวี่ยเป็นคนในสกุลอวิ๋นของพวกเขาแล้ว สกุลฝานเล่นงานพวกเราแล้วยังจะขอให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือ? เกินไปแล้ว!
นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ใช้สายตาอ้อนวอนมองดูน้องสาวตนเอง แต่น่าเสียดายที่แม่เฒ่าหลุบตาลงแล้ว ไปมองดูสายตาของพี่ชาย จากเมื่อก่อนจนถึงเดี๋ยวนี้เรื่องที่สกุลฝานทำไปนั้นร้ายแรงขึ้นทุกที นางไม่ใช่คนโง่
ฝานเจียวเจียวเห็นแล้วว่าไม่มีใครช่วยตนเอง ก็เลยอาละวาดเต็มที่ “ทุกคน ทุกคนกลัวผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม? ทำไมไม่ลองคิดดูว่าทำไม่ฉันจึงเป็นอย่างนั้นได้ ฉันต้องถูกวางยาแน่” ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น เธอจะแยกเฉวียนหมิงไม่ออกเชียวหรือ
ฝานเซิ่งหนานใช้มือคลึงหว่างคิ้วด้วยความปวดหัว แล้วเดินมาข้างตัวน้องสาว “เจียวเจียว เลิกวุ่นวายได้แล้ว กลับบ้านเถอะ!” เขากับอวิ๋นเว่ยไปดูเทปกล้องวงจรปิด สกุลอวิ๋นไม่สามารถทำปลอมได้เร็วอย่างนี้
เป็นความจริงที่น้องสาวตนดื่มเหล้าตามลำพัง จากนั้นจึงเดินตามออกไป อาจจะเพราะตาลาย มองผิดคนเห็นเป็นเฉวียนหมิง
เขารู้ว่าน้องสาวตนมีนิสัยอย่างไร ชอบควงผู้ชายรูปหล่อไม่ซ้ำหน้า สมัยนี้เปิดกว้างแล้ว เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวมากเกินไป แต่วันนี้ทำให้สกุลฝานขายหน้ามาก
ฝานเจียวเจียวเห็นสายตาดูหมิ่นของคนรอบตัว ก็ถลึงตาใส่อีลั่วเสวี่ยด้วยความแค้น ได้แต่ผละไปอย่างไม่ยอมแพ้
ขณะนี้เธอเข้าใจแล้ว ไม่ว่าตนเองจะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ เพราะหลักฐานชัดเจน
“น้องอวิ๋น รอให้กลับไป ฉันจะเข้มงวดเจียวเจียวให้มากขึ้น คุณว่า…”
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว ยังดีที่เธอไม่ได้คิดเล่นงานเสวี่ยเอ๋อบ้านเรา ถ้าวันนี้เรื่องเกิดขึ้นเป็นเธอ ผลที่เกิดขึ้น พวกคุณเคยคิดบ้างไหม?” แววตาอวิ๋นเว่ยฉายแววอำมหิตออกมา
อวิ๋นเซินปิดปากไม่พูด เรื่องแบบนี้เขาไม่สะดวกที่จะเอ่ยปาก อวิ๋นเว่ยในฐานะที่เป็นพ่อ ย่อมเหมาะที่จะพูดที่สุด