ตอนที่ 534 ศัตรูถึงฆาต / ตอนที่ 535 ไกลอย่างนี้เชียว

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 534 ศัตรูถึงฆาต 

 

 

“นี่…” นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่ถูกอวิ๋นเว่ยพูดขัดขึ้น 

 

 

“เสวี่ยเอ๋อบ้านเราไม่ได้บอกว่าจะเอาผิด ถือว่าเพลามือแล้ว ขอให้ลุงฝานกลับไปคิดดู จะผิดใจกับสกุลอวิ๋นเท่านั้น หรือเตรียมจะเป็นอริกับสำนักแพทย์โบราณและหลิงเป่าถังด้วย คิดดูเองก็แล้วกัน!” 

 

 

นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานถึงกับตาเหลือกพลางกลืนน้ำลาย ใช่สิ อีลั่วเสวี่ยคนนี้เกี่ยวข้องกับอิทธิพลหลายพวก ตอนนี้ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญของสำนักแพทย์โบราณด้วย เป็นตำแหน่งที่สูงมาก 

 

 

เขาคิดไม่ถึงว่าทำไมหลานสาวตัวเองจึงไม่รู้จักคิด เอาหัวตัวเองขึ้นพาดเขียงโง่ๆ อย่างนี้ 

 

 

“จะอย่างไรเราสองตระกูลก็มีความผูกพันทางสายเลือดที่ตัดไม่ขาด แค่คำพูดประโยคเดียวก็จะไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เห็นเราสกุลฝานเป็นหมาเป็นแมวหรือไง?” ในเมื่อผิดใจกันแล้ว นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานอยากชิงหน้าตาคืนมาบ้าง 

 

 

พูดตามตรงสกุลอวิ๋นช่วยพวกเขาไว้มาก แต่ตลอดมาพวกเขามักรู้สึกโงหัวไม่ขึ้น 

 

 

อวิ๋นเว่ยยิ้มหยัน “ลุงฝาน นี่ลุงพูดเองนะ ผมไม่ได้พูด สรุปแล้วจากนี้ไปสกุลอวิ๋นเรากับสกุลฝาน ต่างเดินกันคนละทาง ขืนมาทำร้ายคนสกุลอวิ๋นไม่ว่าใคร จะได้เห็นดีกัน!” 

 

 

คำพูดประโยคสุดท้ายน้ำเสียงแข็งกร้าวมาก ฟังดูน่าเกรงขามแบบชายชาติทหาร นายท่านผู้เฒ่าสกุลฝานถึงกับสะดุ้งเฮือก 

 

 

“วันนี้เป็นงานวันเกิดพ่อผม ผมหวังว่าทุกคนจะกลมเกลียวกัน ถ้าลุงเห็นว่าการตัดสินใจอย่างนี้ยังนับว่าน่าพอใจ ก็เชิญอยู่กินมื้อค่ำก่อนแล้วค่อยกลับ” 

 

 

แม้อวิ๋นเว่ยจะเป็นคนตรง แต่เขาเดินมาถึงตำแหน่งแม่ทัพ ในใจย่อมต้องไม่พอใจอยู่บ้าง 

 

 

กินข้าว ยังจะกินลงหรือ ตอนนี้แม้แต่จะดื่มน้ำเขาก็ยังรู้สึกติดคอ 

 

 

“ไม่แล้ว ถ้าพวกเรายังอยู่ เกรงว่าจะขัดตาบางคน  ไป!” เขาขยิบตากับลูกชายและหลานชาย แล้วคนสกุลฝานก็เดินออกไปจากงาน 

 

 

ยังดีที่วันนี้แม่ของฝานเจียวเจียวติดธุระไม่ได้มา ไม่เช่นนั้นคงอาละวาดใหญ่ 

 

 

แต่หลังจากนี้นางก็ยังมาอาละวาดครั้งหนึ่ง สุดท้ายถูกตอกกลับจนหน้าหงาย ทำให้สกุลฝานขายหน้า 

 

 

อวิ๋นเซินมองตามหลังคนสกุลฝาน แววตาไม่มีอาการไม่พอใจ กลับรู้สึกผ่อนคลายลง หลายปีมานี้เพราะความเกี่ยวข้องกับสกุลฝาน ทำให้เขาอัดอัดใจมาก แต่เพื่อภรรยาตน จึงยอมทนลำบาก 

 

 

ฝานเหม่ยหลิงยืนอยู่ข้างสามีตลอดเวลา นางรู้สึกผิดในใจ ที่ผ่านมาสามีและลูกชายต้องลำบากเพราะนาง  

 

 

“ที่รัก…” 

 

 

อวิ๋นเซินมองนางด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “นานแล้วที่คุณไม่ได้เรียกผมอย่างนี้ หรือว่าคุณอยากขอร้องแทนพี่ชาย?” ในใจเขานึกคำพูดที่จะโต้ตอบไว้แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าคำตอบของฝานเหม่ยหลิงจะทำให้เขาตกตะลึง 

 

 

“ไม่หรอก ฉันเห็นทะลุปรุโปร่งแล้ว ฉันแต่งเข้าสกุลอวิ๋น เท่ากับเป็นคนของสกุลอวิ๋น ยิ่งกว่านั้น หลายปีที่ผ่านมาสกุลอวิ๋นช่วยเหลือสกุลฝานเต็มกำลังแล้ว เท่ากับตอบแทนที่สกุลฝานเลี้ยงดูฉันมา นับจากนี้ไปฉันมีเพียงสกุลอวิ๋นของเราก็พอแล้ว” 

 

 

คนเราบางครั้งต้องผ่านเหตุการณ์บางอย่างจึงจะมองเห็นชัดเจน มองได้ทะลุปรุโปร่ง เหมือนฝายเหม่ยหลิงเวลานี้ 

 

 

พอนางพูดจบ อวิ๋นเซินยื่นมือออกไปกุมมือนางด้วยความตื้นตันใจ “เมียจ๋า คุณนี่แหละที่เข้าใจผมดีที่สุด ห่วงใยผมที่สุด” 

 

 

คนรอบข้างไม่น้อยเห็นสองคนนี้ ก็รู้สึกปลื้มใจไปด้วย “นายท่านผู้เฒ่ากับนายหญิงรักกันจนน่าอิจฉาจริงๆ” 

 

 

คนอย่างพวกเขาส่วนใหญ่คงไม่ได้เลือกภรรยาด้วยตัวเอง สามารถพบคนที่คุณรักเขาและเขาก็รักคุณ เป็นเรื่องที่โชคดีอย่างยิ่ง 

 

 

“ไม่หรอก ไม่หรอก เรื่องในวันนี้ต้องขออภัยทุกท่านด้วย มามา เราสนุกกันต่อ มื้อค่ำใกล้จะเสร็จแล้ว” อวิ๋นเซินยิ้มร่า ท่าทางราวกับหนุ่มขึ้นหลายปี 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 535 ไกลอย่างนี้เชียว 

 

 

“ดี ดี เราสนุกกันต่อ” เรื่องวุ่นวายเมื่อครู่ สำหรับคนที่ผ่านเรื่องราวแปลพิลึกกว่านี้มาแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ทุกคนทำใจได้อย่างรวดเร็ว 

 

 

อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่เช่นนี้มีไม่บ่อย คนที่มีตำแหน่งฐานะสูงในเขตทหารที่สิบสองส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ถือโอกาสนี้ทำความรู้จักกับคนที่ตนเองอยากรู้จักคงเสียดายแย่ 

 

 

ขณะที่การแสดงออกของเฉวียนหมิงและอีลั่วเสวี่ยในวันนี้ทำให้ทุกคนอิจฉา ฝ่ายชายรูปหล่อ ฝ่ายหญิงสวย ทั้งยังเป็นคู่ที่รักกันแนบแน่น ทำให้ชายโสดและหญิงโสดในงานต่างคาดหวังอย่างเงียบๆ ในใจว่าคนอย่างนั้นจะปรากฏตัวขึ้น ขณะที่ย้อนทบทวนตนเองว่าจะไม่เอาอย่างฝานเจียวเจียวที่อิจฉาตาร้อนจนทำเรื่องโง่เขลาเด็ดขาด 

 

 

“อาเสวี่ย เราไปนั่งพักกันเถอะ” เฉวียนหมิงมองร่างที่ผ่ายผอมของอีลั่วเสวี่ยแล้วรู้สึกห่วงใย ยังต้องใส่รองเท้าส้นสูง คงเจ็บเท้าแน่ๆ 

 

 

แต่เขาลืมไปว่าอีลั่วเสวี่ยไม่ใช่คนธรรมดา ย่อมไม่เจ็บเท้าถึงขั้นที่จะต้องพัก โลกนั้นของพวกเขายังไม่มีการคิดค้นรองเท้าแบบนี้ 

 

 

ไม่งั้นล่ะก็ ผู้หญิงโลกนั้นคงสวมรองเท้าแบบนี้โดยไม่คำนึงว่าฤดูไหนหรือพื้นจะเรียบหรือไม่ เพราะพวกเธอสามารถใช้พลังทิพย์รักษาสมดุลของร่างกายได้ 

 

 

ถ้ามีพลังฝีมือสูงพอ มีพลังทิพย์สมบูรณ์ การทำเช่นนี้ไม่มีอะไรไม่เหมาะ ย้งใช้เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกพลังทิพย์ได้ เหมือนอยากเติมน้ำลงในถัง ก็ต้องมีเข้ามีออก น้ำย่อมเป็นเช่นนี้ มีเข้ามีออกจึงจะมีพลังชีวิต 

 

 

งานทางนี้ยังคงครึกครื้น แต่น่าเสียดายงานที่ใหญ่โตเช่นนี้ สกุลฝานที่อยากอาศัยงานนี้ทำความรู้จักกับกลุ่มอิทธิพลอื่น แต่ถูกแกะดำอย่างฝานเจียวเจียวทำเสียเรื่อง 

 

 

ข้างนอกลมหนาวพัดแรง ฝานเจียวเจียวปวดหัว ยังรู้สึกกลัวด้วย เธอจับมือพี่ชายตัวเอง “พี่ ฉันก่อเรื่องเสียหายร้ายแรงใช่ไหม?” 

 

 

ฝานเซิ่งหนานมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ “เธอคิดว่าไงล่ะ ไม่ใช่เรื่องสียหายใหญ่ แต่ทำให้สกลุลฝานตกที่นั่งลำบาก เฮ้อ…” อย่างไรก็เป็นน้องสาวตน แม้เขาอยากจะตำหนิ แต่คิดว่าเธอเองก็ขายหน้าแล้ว วันหลังอยากแต่งงานกับคนที่ดีคงยากแล้ว อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ 

 

 

พูดให้ถึงที่สุดแล้ว หลายปีมานี้น้องสาวเขาคนนี้เสียสละเพื่อสกุลฝานไม่น้อย เมื่อเสียสละมาก เวลานี้ก็อันตรายใหญ่ที่เธอพามาก็ใหญ่ตามไปด้วย 

 

 

“ทำอย่างไรดี? พี่ต้องช่วยฉันนะ!” ฝานเจียวเจียวนึกกลัวแล้ว 

 

 

“วางใจเถอะ เธอเป็นคนของสกุลฝาน ที่สกุลอวิ๋นกับสกุลฝานผิดใจกันถึงขั้นนี้ ที่จริงเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว เวลานี้ก็แค่เกิดเร็วขึ้นเท่านั้น” เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว ถ้ายังตำหนิ คนที่เจ็บปวดยังคงเป็นคนในครอบครัวตน 

 

 

ฝานเซิ่งหนานพูดเช่นนี้ทำให้ฝานเจียวเจียวคลายความกังวลลงบ้าง แต่ในใจยังแค้นไม่หาย 

 

 

“คุณหนูฝาน คุณหนูฝาน รอผมด้วย” ผู้ชายที่มีอะไรกับฝานเจียวเจียวไล่ตามมา เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเธออย่างไร เธอเป็นผู้หญิงของตนเองแล้ว ตนชอบเธอ ไม่อยากให้เธอจากไป 

 

 

แต่เขาตามไม่ทันแล้ว พี่ชายเธอพาเธอไปไกลแล้ว 

 

 

นอกคฤหาสน์สกลอวิ๋นที่เย็นยะเยียบต่างกันคนละขั้วกับในคฤหาสน์ที่กำลังครึกครื้นสนุกสนาน 

 

 

ในสถานที่ที่ห่างจากโลกนี้ไปไกลแสนไกล สถานที่ที่มีอารยธรรมระดับสูง ขณะนี้กำลังดำเนินชีวิตไปตามวิถีของพวกเขา 

 

 

“นายน้อย หลังจากวิเคราะห์ตัวเลขหลายวัน เรากำหนดตำแหน่งได้แล้ว เชิญดูครับ…” เจ้าหน้าที่กดปุ่มตรงหน้า ภาพบนจอเลื่อนไปตามที่มือบังคับ แล้วข้อมูลถูกส่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายคนหนึ่ง 

 

 

“โลก?” เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อบนนั้น นี่คือดาวเคราะห์ที่ได้ยินมาว่ามีสภาพแวดล้อมเหมือนพวกเขา แต่ยังอยู่ในยุคที่ล้าหลัง