TQF:บทที่ 680  ฮ่องเต้เรียกเข้าพบ (5)

 

“ท่านพี่…”

 

ฟางซูเสวี่ยส่งเสียงนุ่มนวลออกมาขณะที่นั่งอยู่ข้างเตียง นางกำลังจะยื่นมือออกไปกอดแต่ถูกกันไว้ซะก่อน

 

เซียวซีหนิงจับมือนางไว้และพูดด้วยความรำคาญ “ข้าจะพักผ่อน ออกไป…”

 

“ท่านพี่…” เสียงออดอ้อนของฟางซูเสวี่ยดังขึ้นข้างหูเซียวซีหนิง เขาลุกขึ้นนั่งทันทีอย่างทนไม่ได้

 

เขากำลังจะอาละวาด แต่พอเห็นสภาพผีๆของนางแล้วก็เกิดอาการตกใจ เขาขมวดคิ้ว มีแววรังเกียจแว้บผ่านไปในแววตา “เจ้าจะทำอะไร ข้าจะพักผ่อน”

 

“ท่านพี่ หลายคืนที่ผ่านมานี้ท่านไปไหนมา”

 

ฟางซูเสวี่ยมองสามีตรงหน้าด้วยตาคู่สวยและคงท่าทีออดอ้อนไว้แม้ในใจจะโมโหไม่น้อย สามีของนางมาที่บ้านตระกูลฟางแต่กลับหายตัวไปหลายคืน โดยไม่มีใครรู้เลยว่าเขาไปไหน

 

ด้วยสัมผัสที่ 6 ของผู้หญิง ฟางซูเสวี่ยก็พอเดาสาเหตุได้อยู่ เซียวซีหนิงเองก็มีเมียน้อยและนางบำเรอ แต่ภายใต้การกดขี่ของนางจึงไม่มีใครมีโอกาสได้รับความเมตตา

 

แต่การที่ฟางซูเสวี่ยมาอ้อนเขาด้วยสภาพแบบนี้ทำให้เซียวซีหนิงรู้สึกอยากจะอ้วก เขารีบเบือนสายตาไปทางอื่นพลางโบกมือ “พอแล้วๆ ออกไปซะ จะให้ข้าพักผ่อนมั้ย”

 

“ท่าน…”

 

ฟางซูเสวี่ยแทบจะข่มความโกรธไว้ไม่ไหว นางพยายามสะกดไฟโกรธไว้และพูดเสียงอ่อนโยน “ท่านพี่ลืมไปแล้วเหรอว่าเรามาทำอะไรที่ตระกูลฟาง”

 

“เจ้าหมายความว่าจะให้ข้าไปจัดการกับฟางเต๋อหยวนที่เพิ่งบรรลุเป็นบรรลุเทพเทวาไปน่ะรึ”

 

เซียวซีหนิงสีหน้าเคร่งขรึมลง หรี่ตาลงและมองนางด้วยสายตาแข็งกร้าว

 

“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ฟางซูเสวี่ยวก้มหน้าลงเมื่อเจอกับสายตาบีบคั้นจากสามีตัวเอง “ท่านพี่ ถึงอย่างไรยัยเด็ก 2 คนนั้นที่ฟางซูหยุนพากลับมาก็ทำให้ท่านต้องอับอาย ท่านจะไม่สั่งสอนพวกนางหน่อยเหรอไง”

 

“สั่งสอน? ฟางซูเสวี่ย อย่าคิดว่าสามีเจ้าโง่นะ เก่งนักเจ้าก็ไปจัดการพวกนางเอง เจ้าอยากตายก็ไม่ต้องชวนข้าไปด้วย ข้าไม่มีความคิดที่จะตายเป็นเพื่อนเจ้า”

 

เซียวซีหนิงหัวเราะเย็นๆ เดิมทีเขาคิดจะแทรกแซงศึกภายในของตระกูลฟางเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ตอนนี้เขาไม่คิดจะลงมือแล้ว ไม่ต้องพูดถึงพวกคนที่เขาสู้ไม่ได้ ต่อให้เขาต้องลงมือ เขาก็จะกำราบคนทั้งตระกูลฟางให้อยู่หมัด

 

นี่ถึงจะเป็นวิถีของเขา แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับไม่รู้ที่ต่ำที่สูง นึกว่าสามีตัวเองเป็นคนโง่เง่า ถึงเวลาที่จะหาโอกาส…

 

“ไสหัวออกไปซะ ข้าจะพักผ่อน ถ้ายังไม่ไปละก็ข้าโยนเจ้าออกไปแน่”

 

เซียวซีหนิงหลับตานอนลงอีกครั้งโดยไม่มองนาง นึกไปถึงร่างนุ่มนิ่มเมื่อคืนแล้วก็เคลิบเคลิ้มอยู่ในใจ

 

ฟางซูเสวี่ยทั้งตกใจทั้งโกรธ นางนึกไม่ถึงเลยว่าคนหนุนหลังรายใหญ่ที่นางลากมาจะเลิกยุ่งซะแล้ว จะให้นางบอกคนอย่างไรดีล่ะนี่

 

“ท่านพี่ เห็นแก่ท่านพ่อท่านแม่ข้า ท่านช่วย….”

 

พูดถึงพ่อตาคนนั้นเขาเบิกตาโพลงทันทีด้วยแววตาคมกริบราวดาบ เขายื่นมือออกไปบีบคอฟางซูเสวี่ยและกล่าวด้วยความเคียดแค้น “ฟางซูเสวี่ย ข้าขอเตือนว่าอย่าพูดถึงเขาอีก ไม่อย่างนั้นข้าไม่ถือที่จะกำจัดครอบครัวเจ้าเป็นบ้านแรก ไม่เชื่อเจ้าก็ลองดู”

 

ฟางซูเสวี่ยที่ถูกบีบคอจนกระดิกตัวไม่ได้มีแววตาตื่นกลัว ในที่สุดนางก็รู้ซึ้งถึงพลังอันน่าสยองของสามีตัวเอง นางไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่ออยู่ในน้ำมือของอีกฝ่าย

 

นางอัดอั้นจนหน้าแดงก่ำ ลูกตาแทบจะถลนออกมา เซียวซีหนิงก็ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยนาง ยังคงจ้องนางอย่างเลือดเย็นและพูดย้ำทีละคำ “ความอับอายที่ข้าได้รับจากตระกูลฟางข้าเซียวซีหนิงจำได้ทุกอย่าง รวมถึงพ่อไร้หัวใจของเจ้าด้วย พ่อตารึ? ถุยย…”

 

เขาสะบัดมือเบาๆ ฟางซูเสวี่ยก็กระเด็นไปที่ประตูราวกับขยะที่ถูกทิ้ง “ไสหัวไป….”

 

“ฮ่องเต้มีพระราชโองการเรียกคุณหนูผู้เป็นญาติเข้าพบในวัง โดยให้คุณหนูตระกูลฟาง ฟางซูหยุนพาสาวใช้หยูเฮงน้อยไปเข้าเฝ้าด้วยกัน”

 

มีพระราชโองการให้พวกนาง 3 คนเข้าเฝ้าที่พระราชวัง

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวนั่งมองท่านย่าที่ไม่พูดไม่จาอยู่ในรถลากสัตว์วิญญาณ ไม่รู้ว่านางคิดอะไรอยู่

 

วันนี้ที่ได้รับราชโองการจากฮ่องเต้ ยังไงซะเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็รู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เพราะเรื่องอะไรกันนะ นางคิดไม่ออกจริงๆ

 

“เสี่ยวเสี่ยว หยูเฮงน้อย พอเข้าไปในวังแล้วระวังกันด้วย พยายามอย่าหาเรื่องคนอื่น อะไรที่ยอมได้ก็ยอมหน่อย”

 

จู่ๆฟางซูหยุนก็เงยหน้ามาสั่งกับ 2 สาว

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยต่างพยักหน้า กลับคำขอของนางแล้ว 2 สาวย่อมตกลง

 

“คุณหนู ฮูหยินฟาง ทำไมฮ่องเต้ถึงเรียกพวกเราเข้าพบล่ะ”