ตอนที่ 538 เธอรังแกคน / ตอนที่ 539 ตัวป่วน

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 538 เธอรังแกคน

 

 

เฉวียนหมิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยิ้มพลางมองดูพ่อตาตนเอง เขาไม่ชอบขี้หน้าตน แต่อย่างไรมีปู่ท่านนี้ก็พอแล้ว คอยเอาใจนายท่านผู้เฒ่า ย่อมอยู่ได้สุขสบาย

 

 

อวิ๋นเว่ยนึกโมโหเมื่อเห็นเฉวียนหมิงยิ้มอย่างกระหยิ่มใจ ทำไมใครๆ ก็ชอบเขา หึ ชิงลูกสาวเขาไป ไม่ใช่ง่ายๆ กว่าเขาจะรับเธอมาเป็นลูกสาวได้ ไม่ยอมยกโทษให้เด็ดขาด

 

 

นี่ก็คงเป็นพ่อที่มีความคิดแบบผู้หญิงที่ปากบอกว่ารักลูกสาว ดังนั้นเห็นผู้ชายคนอื่นก็รู้สึกว่าดีต่อลูกสาวตนไม่เท่าตนเอง แน่นอนว่าเฉวียนหมิงก็คงเป็นเช่นนี้

 

 

“เฉวียนหมิง หลานชอบเสวี่ยเอ๋อบ้านเรามากละสิ” นายท่านผู้เฒ่าวางเบี้ยลงแล้วเหลือบตาขึ้น มองดูเฉวียนหมิงด้วยสายตาคมกริบ

 

 

เฉวียนหมิงเชิดมุมปากขึ้น ใช้สองนิ้วที่เรียวยาวคีบเบี้ยสีดำวางลงไป มีเสียงเบี้ยกระแทกกระดานดังเพี๊ยะ

 

 

“คุณปู่ครับ ไม่ใช่แค่ชอบมาก แต่ชอบเป็นพิเศษ!” แวตาเฉวียนหมิงจริงจังมาก นับจากที่เขารู้ว่าอีลั่วเสวี่ยมาจากอีกโลกหนึ่งมาถึงที่นี่แล้วพบรักกับเขา เขารู้สึกตลอดเวลาว่าช่างโชคดีจริงๆ

 

 

ต้องมีบุญวาสนาต่อกันมากแค่ไหน จึงจะทำให้คนที่อยู่กันคนละมิติมาพบกันได้ เรื่องแบบนี้ไม่น่ายินดีหรือ

 

 

อวิ๋นเซินพยักหน้าด้วยความพอใจ ส่วนอวิ๋นเว่ยฟังแล้วทำให้สีหน้าที่ไม่พอใจผ่อนคลายลงไม่น้อย ถือว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มีสายตา หึ

 

 

อวิ๋นเว่ยซึ่งรักลูกสาวดุจชีวิตยังคงไม่ค่อยอยากยอมรับที่มีคนมาคอยปกป้องลูกสาวอันเป็นที่รักของตน

 

 

“จริงสิ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเธอสองคนปีนี้ก็อยู่เป็นเพื่อนตาแก่อย่างฉันฉลองวันตรุษเถอะ ที่บ้านไม่ครึกครื้นอย่างนี้หลายปีแล้ว” นายท่านผู้เฒ่าพูดพลางมองดูตาเดินของหมากไม่วางตา ไม่ปล่อยโอกาสให้เฉวียนหมิงปฏิเสธ

 

 

เฉวียนหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ปู่ครับ เกรงว่าจะไม่ดีนัก ปู่ผมอยู่คนเดียวที่บ้าน ผมไม่สามารถ…”

 

 

“เรื่องนี้ง่าย เจ้าหนู โทรหาลุงอวิ๋นหน่อย บอกว่าพ่อยึดหลานชายเขาไว้แล้ว หลังปีใหม่ค่อยคืนให้ ถ้าเขาคิดถึงหลานก็ให้มาฉลองกับสกุลอวิ๋นที่นี่ คนมากหน่อยครึกครื้นดี”

 

 

อวิ๋นเว่ยพยักหน้า แล้วลุกออกไปโทรหานายท่านผู้เฒ่าเฉวียน ใช่แล้ว ลูกสาวที่เขาเพิ่งรับไว้ จะให้ไปฉลองวันตรุษบ้านคนอื่นได้อย่างไร

 

 

เฉวียนหมิงเห็นเช่นนี้ก็ไม่พูดอะไรอีก ที่นี่คนมาก ครึกครื้นกว่า จริงอย่างที่พูดเลย ที่ผ่านมามีเพียงเขากับปู่สองคนนั่งอยู่ที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารรสเลิศ แต่กลับไม่รู้สึกอยากกิน แม้จะเพิ่มเหล่าเกาอีกคน แต่สามคนก็ไม่อาจครึกครื้นขึ้นได้

 

 

อีลั่วเสวี่ยเห็นทุกคนเข้ากันได้ดี ก็ยิ้มด้วยความเบิกบานใจ ส่วนเจ้าลูกบอลเงินเวลานี้เลิกทำลายบรรยากาศอย่างไม่รู้จักกาละเทศะแล้ว

 

 

มันอยู่ที่นี่นานเข้า ดูเหมือนจะเข้าใจความสุขในชีวิตของผู้คนที่นี่ แม้อายุขัยจะไม่ยาว แต่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่เหมือนมนุษย์บนดาวของพวกเขาที่เหมือนเครื่องจักรกล

 

 

อาจเพราะการเผชิญกับชีวิตที่ยาวนาน ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย

 

 

“เสร็จเรียบร้อย ลุงเฉวียนบอกว่ากำลังท่องเที่ยวอยู่ อีกสักพักก็จะเดินทางมาที่นี่ ส่วนของขวัญวันเกิดของพ่อ เขาบอกว่าเฉวียนหมิงมาก็ถือว่าเป็นของขวัญแล้ว งั้นไม่ต้องเปลืองเงินก็แล้วกัน…” อวิ๋นเว่ยพูดแล้วมุมปากกระตุกเล็กน้อย

 

 

นายท่านผู้เฒ่าเลิกคิ้วขึ้น “หึ! หมอนี่ยังเหมือนเดิม ชอบเอาเปรียบฉัน รอก่อนเถอะ ฉันต้องเล่นงานเขาแน่!”

 

 

เขาเพิ่งพูดจบไม่นานก็มีเสียงเอะอะดังแว่วมา ดูเหมือนมีคนตะโกนพูดอยู่หน้าประตูคฤหาสน์

 

 

“เกิดเรื่องอะไร? ผมจะไปดูเอง” ขณะที่อวิ๋นเว่ยลุกขึ้น คนรับใช้รีบเข้ามารายงาน

 

 

“ท่านแม่ทัพครับ คุณนายฝานโวยวายเสียงดังอยู่ข้างนอก บอกว่าจะมาพบคุณหนูใหญ่ จะไล่ยังไงก็ไม่ยอมไปครับ ท่านว่า…” คนรับใช้ก้มหน้า ท่าทางลำบากใจ คนเหล่านี้ล้วนมีฐานะ พวกเขาไม่กล้าผิดใจด้วย

 

 

 

 

ตอนที่ 539 ตัวป่วน

 

 

“คุณนายฝาน?” อีลั่วเสวี่ยเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย แล้วนึกออกทันทีว่าคุณนายฝานคนนี้คือใคร

 

 

นายหญิงผู้เฒ่าขมวดคิ้วทันที “ไล่ไป บอกว่าเราทุกคนไม่อยู่!” ไม่ต้องบอกนางก็รู้ว่าฝ่ายนั้นมาทำไม เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับฝานเจียวเจียวแน่นอน

 

 

เรื่องก็ผ่านไปหลายวันแล้ว คงจะทนไม่ไหวแล้วสิ เพราะอวิ๋นเว่ยและอวิ๋นเซินประกาศต่อหน้าทุกคนแล้วว่าจากนี้ไปจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาสกุลฝานอีก พวกนั้นคงหวั่นใจแล้ว

 

 

นอกจากเหตุผลนี้แล้ว เกรงว่ายังมีคนที่พอรู้ฐานะของอีลั่วเสวี่ย กลุ่มคนที่ไม่อยากผิดใจด้วย ได้ตัดความสัมพันธ์กับสกุลฝาน ผลเสียที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาหวาดกลัวแล้ว

 

 

ในอดีตพวกเขาไต่เต้าขึ้นมาด้วยการอาศัยสกุลอวิ๋น บัดนี้เพราะสกุลอวิ๋นตีจาก ทำให้หมดหลังพิง คนฉลาดย่อมรู้ว่าไม่ควรเป็นอริกับสกุลอวิ๋น ทั้งยังต้องคอยเอาใจด้วย

 

 

สกุลฝานเป็นพวกที่เห็นชื่อเสียงและผลประโยชน์เป็นเรื่องสำคัญ จะอยู่นิ่งได้หรือ

 

 

“นายหญิง เราลองดูแล้ว คุณนายฝานบอกว่าจะรออยู่นอกประตูจนกว่าคุณหนูใหญ่จะกลับมาครับ!” คนรับใช้มองดูอีลั่วเสวี่ยด้วยความลังเล

 

 

คุณหนูบ้านพวกเขาเวลานี้มีหน้ามีตาใหญ่โต พวกเขารู้ว่าผู้หญิงที่เสแสร้งอย่างฝานเจียวเจียว เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นลูกสาวของสกุลอวิ๋น

 

 

อวิ๋นเซินเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าเรียบเฉย “อยากรองั้นก็ปล่อยให้หล่อนรอไป พวกเธอไม่ต้องไปยุ่งด้วย” ตอนนั้นเขากับอวิ๋นเว่ยพูดชัดแล้ว เวลานี้จะมาผ่อนคลายความขัดแย้ง ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก

 

 

ฝ่ายนั้นทำร้ายคุณ ยังจะให้คุณใจกว้างยอมให้อภัย เลิกเป็นปฏิปักษ์กัน ย่อมเป็นไปไม่ได้ เรื่องแบบนั้นมีแต่ในนิยายเท่านั้น พวกเขาสกุลอวิ๋นไม่ได้ใจกว้างแบบนั้น อย่างน้อยสำหรับเรื่องนี้ ย่อมไม่ให้อภัยเด็ดขาด

 

 

“ปู่คะ หนูไปดูหน่อยดีกว่า หล่อนอาละวาดอยู่หน้าประตู ย่อมส่งผลเสียต่อบ้านเรา” อย่างไรก็เป็นญาติกัน ฝ่ายนั้นยอมเสียหน้ามาพบ จะอย่างไรก็ควรพบหน้าบ้างแล้วค่อยว่า

 

 

ทุกคนในเขตทหารที่สิบสองต่างมองเห็นพฤติกรรมต่างๆ ของคนสกุลฝาน ต่อให้วันนี้พวกเขาปฏิเสธเธอ แต่พวกเขาก็ทำดีที่สุดแล้ว คนอื่นย่อมไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่ถ้าพวกเขาหลบหน้าไม่ยอมพบ กลับจะถูกกล่าวหาว่าใจแคบ

 

 

อวิ๋นเว่ยขมวดคิ้วทันที สีหน้าไม่เห็นด้วย “เสวี่ยเอ๋อ อย่าไปดีกว่า พ่อจะไปไล่หล่อนเอง!” ญาติหรือไม่ก็ช่าง เมื่อคนพวกนี้ทำเรื่องแบบนั้น เขาก็ไม่ถือพวกเขาเป็นญาติแล้ว

 

 

ที่สำคัญยังมีอีกข้อหนึ่ง คุณนายฝานคนนี้เป็นคนร้ายกาจมาก ข้างบนคอยเอาใจลุงของเขาให้พอใจ ข้างล่างคอยเอาใจพ่อของฝานเจียวเจียวให้เชื่อฟัง เป็นหญิงที่ร้ายกาจ

 

 

“พ่อครับ ผมจะออกไปกับอาเสวี่ย ก็เหมือนที่เธอบอก เราอาจจะไม่ต้องยุ่งกับหล่อน แต่เสียงหนวกหูมาก รบกวนชาวบ้าน แม้แต่ผมกับปู่ยังไม่มีสมาธิจะเดินหมาก” เฉวียนหมิงพูดแล้ววางเบี้ยลง

 

 

นายท่านผู้เฒ่าไม่รีบร้อนวางเบี้ยลง กลับยกชาขึ้นจิบคำหนึ่ง “เจ้าหนุ่มเฉวียนพูดถูก ให้พวกเขาสองคนไปดูหน่อยเถอะ ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าสกุลฝานจะมาไม้ไหนอีก?”

 

 

“ปู่วางใจเถอะค่ะ ถ้ามาร้าย หนูจะเล่นงานเอง!” อีลั่วเสวี่ยพูดล้อเล่น ลุกขึ้นสบตากับเฉวียนหมิง แล้วเดินไปข้างนอก

 

 

นายหญิงผู้เฒ่ามองตามหลังคนทั้งสองไป แล้วยิ้มอย่างมีเมตตา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร นางรู้สึกว่าสองคนนี้ใกล้ชิดมาก แม้จะไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่เหนือว่าหลานแท้ๆ ด้วยซ้ำ

 

 

“ลูกหลานสกุลอวิ๋นต้องผ่านการฝึกฝนบ้าง จะปล่อยให้ใครข่มเหงไม่ได้!” นายท่านผู้เฒ่าพูดขึ้น

 

 

ที่จริงที่เขาเห็นด้วยให้อีลั่วเสวี่ยไปพบคุณนายฝานนั้น สาเหตุหนึ่งเพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่าไม่ว่าอีลั่วเสวี่ยจะทำอะไร ข้างหลังจะมีสกุลอวิ๋นคอยสนับสนุน