TQF:บทที่ 685 ผู้เป็นรักแรก (5)
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวสะเทือนเพราะพลังลมปราณของเขา นางเงยหน้าขึ้นมาชำเลืองมองและยิ้มอ่อนๆ
หยูเฮงน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาตกใจหมด เส้นเลือดบนหน้าผากเขาปูด ใบหน้าแดงก่ำ เห็นได้ว่าเขากำลังโกรธจัด ถ้าไม่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้คงจะอาละวาดไปแล้ว
“จะทำอะไรน่ะ ใจเย็นๆ” เสียงใสๆของหยูเฮงน้อยแฝงโน้ตสงบจิตที่ยากจะจับได้มาด้วย ทำให้หวงฝู่มั่วเฉินใจเย็นลงได้ทันที
ขันทีชราชรารู้สึกได้ เขามองหยูเฮงน้อยอย่างประหลาดใจ
“ขอโทษด้วย ข้าสติหลุดไป” หวงฝู่มั่วเฉินข่มความพยาบาทในใจเอาไว้ ถ้าไอตาเฒ่าตระกูลเฉิงอะไรนั่นมาอยู่ตรงหน้าละก็ ได้โดนเขาฆ่าแน่
“ไม่ต้องโมโหหรอก นายท่านและคุณหนูของข้าแก้แค้นให้ฮูหยินฟางแล้ว” หยูเฮงน้อยพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นเขาสงบลงได้ “ฮูหยินฟางของพวกเราถูกทรมานนานกว่า 20 ปี ตอนที่พวกเราช่วยนางออกมานางแทบไม่เหลือพลังชีวิตเลย พวกเราทำทุกวิถีทางถึงทำให้ฮูหยินฟางค่อยๆฟื้นตัวกลับมาในเวลาครึ่งปี”
“ดังนั้นเจ้าต้องรู้ไว้ว่าฮูหยินฟางมีชีวิตที่ลำบากมาก หากเจ้าชอบนางจริงๆต้องดีกับนาง อย่าทำร้ายนางอีกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่ยอมแน่”
“เรื่องนั้นข้ารู้ตัวเองดี”
หวงฝู่มั่วเฉินไม่ได้ให้คำสัญญาหยูเฮงน้อย เขาจะให้คำสัญญากับคนที่ตัวเองรักเท่านั้น เขามองหยูเฮงน้อยและถามต่อ “ตาเฒ่าตระกูลเฉิงคนนั้นล่ะ”
“เขาเหรอ ตายแล้วมั้ง” หยูเฮงน้อยรู้เรื่องเกี่ยวกับตาเฒ่าตระกูลเฉิงน้อยจริงๆ “หลังจากที่ความจริงกระจ่างแล้ว เขาก็รู้ตัวว่าเข้าใจฮูหยินฟางผิดมาตลอด อยากจะขอให้ฮูหยินฟางและนายท่านให้อภัย แต่ฮูหยินฟางและนายท่านไม่ได้สนใจเขา ส่วนตระกูลเฉิงก็ล้มหายตายจากกันไปเป็นเบือ แทบจะบ้านแตกสาแหรกขาดกันอยู่แล้ว”
“แค่ตายมันยังไม่สาสมหรอก คนอย่างเขาต้องเผาและโปรยทิ้ง ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีก” หวงฝู่มั่วเฉินเพิ่งเคยแค้นคนๆนึงได้ขนาดนี้เป็นครั้งแรก คนที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอดต้องอยู่อย่างทนทุกข์ทรมานมาตั้ง 20 ปี แค่คิดเขาก็เจ็บปวดใจแล้ว
“คนตายไปแล้ว พูดไปก็เปล่าประโยชน์ ผู้ร้ายตัวจริงคือนังชั่วฟางซูเสวี่ยต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะนางฮูหยินฟางก็คงไม่ต้องทรมานขนาดนี้ นางนั่นแหละที่สมควรตาย”
“ถูกต้อง นางตายแน่” สายตาของหวงฝู่มั่วเฉินเย็นยะเยือก จิตสังหารอันแรงกล้าแผ่ซ่านออกจากตัวเขา คนในห้องหนังสือหลวงรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็งที่มีไอเย็นหนาวถึงทรวง
ทุกการกระทำ ทุกความคิดความต้องการของเขาเฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่ไม่ไกลสัมผัสได้หมด นางเชื่อว่าวันเวลาหลังจากนี้ของท่านย่าที่มีองค์ชาย 18 อยู่ด้วยจะต้องมีความสุขมากอย่างแน่นอน ส่วนนางก็สบายใจได้แล้ว
“เจ้าอย่าใจร้อนสิ…”
หยูเฮงน้อยโบกมืออีกครั้ง “ข้ากำลังล่อให้นางมาติดกับอยู่ ข้าก็อยากจะรู้ว่าฟางซูเสวี่ยจะไปขอให้บรรลุเทพเทวา 2 คนของสำนักมารมาช่วยได้อย่างไรโดยที่สามีของนางไม่ให้การสนับสนุน คิดจะมากำจัดพวกเรา ข้านี่สิอยากจะถอนรากถอนโคนพวกนางซะ”
พูดมาถึงตรงนี้หยูเฮงน้องเหลือบมองขันทีชราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ตาเฒ่า เจ้าว่าจริงมั้ย”
“ใช่แล้ว แม่นางหยูเฮงพูดถูก สำนักมารไม่ใช่คนดีอะไรหรอก ถอนๆไปเถอะ” ขันทีชราสนับสนุน
ตาเฒ่าฮ่องเต้ก็หรี่ตาลง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ หวงฝู่มั่วเฉินพูดด้วยความจริงจัง “พวกเจ้าวางใจเถอะ ไม่ว่าบรรลุเทพเทวาของพวกเขาจะมาหรือไม่ ข้าก็จะช่วยพวกเจ้ากำจัดพวกเขาไปซะ”
“กำจัดสิ ต้องกำจัดอยู่แล้ว เห็นว่าท่านปู่ของฮูหยินฟางก็ตายด้วยน้ำมือของบรรลุเทพเทวาสำนักมาร แค้นนี้ต้องชำระให้ได้” หยูเฮงน้อยสาบาน
ปัญหานี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่สนใจจะหารือกันต่อที่นี่ นางวางหนังสือลงมองหวงฝู่มั่วเฉินตรงหน้าอย่างจริงจัง พลางเอ่ยเสียงเบา “องค์ชาย 18 ท่านจะอยู่กับท่านย่าข้าแบบไหน จะให้ตำแหน่งนางมั้ย หรือว่าจะรักชอบพอกันไปเรื่อยๆ ข้าขอตั้งเงื่อนไขกับท่านสักอย่าง ข้าไม่ยอมให้ท่านย่าข้าถูกทำร้ายอีก รวมถึงคำนินทาด้วย ไม่อย่างนั้น ฆ่าไม่เลี้ยง”
ในตอนที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเอ่ยคำว่า ฆ่าไม่เลี้ยง ออกมาอย่างเยือกเย็น 3 คำนี้ก็เปรียบเสมือนค้อนยักษ์ที่ทุบลงในใจของทุกคน
อย่าว่าพ่อลูกฮ่องเต้ที่ใจไม่ดีกับพลังลมปราณที่แผ่ซ่านออกจากตัวเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเลย แม้แต่ขันทีชราก็ตกใจเช่นกัน
พวกเขาเพิ่งจะค้นพบว่าคุณหนูเฉิงที่พวกเขาไม่ได้สนใจอะไรก็ไม่ใช่ตัวประกอบธรรมดาๆคนหนึ่ง เมื่อกี้นางไม่ได้พูดอะไร เงียบอย่างกับล่องหน ไม่คิดว่าจะแข็งกร้าวได้ถึงเพียงนี้
ตาเฒ่าฮ่องเต้เพิ่งจะมีสีหน้าหนักใจเป็นครั้งแรก
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านย่าเจ้าเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว ข้ารับรอง” หวงฝู่มั่วเฉินสะกดความตกใจระคนสงสัยไว้และตอบด้วยสีหน้าจริงจัง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้านิดหน่อยโดยไม่พูดอะไร
ตาเฒ่าฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มองเฉิงเสี่ยวเสี่ยวด้วยความรู้ว่านางกังวลอะไร “ยัยหนูตระกูลเฉิง ข้าไม่ให้ย่าเจ้าอยู่กับเฉินเอ๋อโดยไม่มีสถานะตำแหน่งหรอก ข้าจะมอบพระราชโองการลับให้ปู่ทวดเจ้า และข้าจะสลักชื่อย่าเจ้าลงไปในแผนผังตระกูลหวงฝู่ด้วย แต่พวกเขาไม่ควรจัดงานแต่ง ควรจะหาเมืองที่ลับตาคนหน่อยแล้วค่อยจัด ถ้าทำแบบนี้คนในชิงยางก็จะไม่รู้เรื่องและจะไม่มีใครนินทา เจ้าว่ายังไง”
“ไม่เลว” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้า
หยูเฮงน้อยเองก็ยิ้มอย่างเบิกบาน “วิธีเจ้าไม่เลวนี่ตาเฒ่าฮ่องเต้”
2 สาวรู้ดีว่าถ้าฟางซูหยุนและหวงฝู่มั่วเฉินอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยในชิงยางจะต้องเป็นขี้ปากชาวบ้านแน่ นางไม่อยากให้ท่านย่าต้องเจอกับมรสุมแบบนี้อีก และก็กลัวว่านางจะรับไม่ไหว
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเบือนสายตาไปที่หวงฝู่มั่วเฉินและยิ้มอ่อนโยน “ถ้าท่านอยากอยู่ด้วยกันกับท่านย่าข้ายังมีอีก 1 ข้อแม้ นั่นก็คือนับถือท่านปู่ทวดข้าเป็นพ่อบุญธรรม ถ้าอย่างนั้นข้าจะได้เรียกท่านว่าท่านปู่บุญธรรม”
“ไม่ ไม่มีปัญหา” หวงฝู่มั่วเฉินรับคำด้วยความตื้นตันและยิ้มออกในที่สุด “ข้าจะไปหาซูหยุน”
พูดจบก็กลายเป็นเงาม่วงหายตัวไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
“อิอิ คุณหนู ท่านหาพ่อบุญธรรมไปให้นายท่าน ไม่รู้นายท่านจะรู้สึกยังไง หลังจากนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ” หยูเฮงน้อยยิ้มแฉ่ง ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรในใจอีก
ตาเฒ่าฮ่องเต้กลับไม่รู้จะหัวเราะร้องไห้ดี เขาเอ่ยพลางมองไปยังเด็กสาวทั้ง 2 ตรงหน้า “พวกเจ้านี่สิ ลวงลูกชายข้าไปซะแล้ว”
“เฮ่ะๆ ตาเฒ่าฮ่องเต้ ถึงยังไงลูกชายเจ้าก็มีตั้งมากมาย ยกองค์ชาย 18 ให้ฮูหยินฟางของเราเถอะ อีกอย่าง ลูกชายเจ้ามีความสุขคนเป็นพ่ออย่างเจ้าถึงจะมีความสุข เจ้าว่าจริงมั้ย”
————————–