TB: บทที่ 187 เทียนเจียการเงิน
“ไฟหรือ ไฟอะไรกัน” เขามองเฉินหลงอย่างแปลกใจ
ตอนนี้ เขาไม่เห็นไฟอะไรเลย
เฉินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไฟนี้อย่างไรละ”
เขากล่าวจบ เบื้องหน้าโดยไม่ต้องเอ่ยสิ่งใด จู่ๆก็มีเปลวไฟเล็กๆปรากฏขึ้น
เมื่อไฟพลันปรากฏเช่นนี้ทำให้ทั้งสี่สะดุ้งด้วยความตกใจ
ในขณะเดียวกัน พวกเขาทั้งสี่ยังรู้สึกได้ว่าเปลวไฟนี้มีพลังที่ชั่วร้าย หากไฟลามมายังพวกเขาแล้ว พวกเขาคงต้านทานไม่ได้
“คุณ คุณยังมีพลังอื่นอีกหรือนี่” “ไม่พูด” ตกใจ
“คิดว่ามีนะ”
เขากล่าวจบ และโดยไม่เอื้อนเอ่ยเปลวไฟขนาดเล็กก็ดับไป
ตอนนั้นเองที่ไม่อาจกล่าวได้ว่าสายตาที่พวกเขามองเฉินหลงนั่นเปลี่ยนไปจากเดิม
ก่อนหน้านั้น ไม่ต้องพูดอะไรพวกเขาก็คิดว่าเฉินหลงแข็งแกร่งกว่าพวกเขาเพียงเล็กน้อย หากเขาฝึกหนัก คงสามารถจัดการกับเฉินหลงได้ แต่ตอนนี้ พวกเขาเห็นได้ว่าเฉินหลงเพียงแค่สบัดมือ
เขาก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งสี่ได้ด้วยไฟในทันทีเลยก็ทำได้
เมื่อเฉินหลงเห็นสายตาของทั้งสี่คนแล้ว รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนมุมปากที่เห็นพระทั้งสี่ตื่นตกใจ
จางเฟิงหยานออกจาก “ตึกเว่ยหลง” และรีบกลับโรงแรมเขาทันที
ขณะเดียวกันนั้น หลานหลี่เย่กำลังเล่นเกมอยู่ และเมื่อเขารู้ว่ามีใครเข้าห้องมา เขาออกจากเกมในทันใด หลังเขาเห็นจางเฟิงหยานแล้วเขาก็ตกใจและกล่าวไปว่า “นายกลับมาเร็วจัง นายได้ของอะไรมาหรือไม่”
จางเฟิงหยานถอดหน้ากากเขาออกและถอนหายใจยาวนาน เขาส่ายหัว
“เกิดอะไรขึ้น” หลานหลี่เย่ถาม
เขาและจางเฟิงหยานเป็นเพื่อนกันมานานเหลือเกิน เขาแน่ใจมากๆจากสีหน้าของจางเฟิงหยานว่าเขาจะต้องผ่านความล้มเหลวที่เลวร้ายมา
“ฉันเจอเฉินหลง”
แล้วจางเฟิงหยานก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับหลี่เย่
“อะไรนะ เฉินหลงก็มีระฆังทองเช่นกันหรือ คนสี่คนนั้นจริงๆแล้วช่วยเฉินหลง และ “ผงกระดูก” ของฉันโดนเฉินหลงทำลายไปได้ในทันที เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร” หลังจากที่เขาฟังคำของจางเฟิงหยาน หลานหลี่เย่แทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก ในโลกใบนี้ ดูเหมือนว่าฉันจะดูถูกเฉินหลงไปจริงๆ เฉินหลงคนนี้แข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้อีก คนสี่คนที่ควรจะไปท้าทายเฉินหลง ตอนนี้กลับทำงานให้เฉินหลง บางทีนี่อาจเป็นข้อตกลงของพวกเขา” จางเฟิงหยานว่า
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น จิตใต้สำนึกของหลานหลี่เย่ได้ล่องลอยไปที่อื่นแล้ว “ผงกระดูก” ของเขาโดนเฉินหลงทำลายได้ทันที เป็นไปได้อย่างไรกัน
เขาเห็นหลานหลี่เย่มีสีหน้าอึ้งตะลึงไป จางเฟิงหยานจึงไม่ได้เรียกเขา เขาติดต่อกลุ่มของเขา
ก่อนหน้าจะเจอเฉินหลง จางเฟิงหยานได้รับคำสั่งจากกลุ่มของเขามาแล้ว ทว่าหากเขาไม่อาจบังคับให้ได้เทคโนโลยีนี่มา เขาก็จะเข้าไปพูดคุยและร่วมมือด้วย ในนามของเทียนเจีย บริษัทการเงิน เขาจะไปคุยเกี่ยวกับการร่วมมือกับเว่ยหลงเทคโนโลยี
แน่นอนว่าจางเฟิงหยานจะรับฟังคำสั่งจากกลุ่มของเขาและค่อยไปคุยเรื่องการร่วมมือ แต่อย่างไรเสียเรื่องนี้คงไม่ง่ายดายหากเฉินหลงจะเอาชีวิตเขา เมื่อตัดสินจากสถานการณ์แล้ว จางเฟิงหยานยังทำไม่ได้
“เฟิงหยาน นายสัมผัสได้ถึงอะไรไหมตอนที่เขาทำลายผงกระดูกของฉัน” หลานหลี่เย่กลับคืนสติ
เฉินหลงสามารถทำลาย “ผงกระดูก” ของเขาได้ด้วยพลังเขา อย่างไรก็ตามหากเขารู้ว่าทำลายได้อย่างไร เขาอาจจะเข้า “โลกใหม่” และพัฒนา “ผงกระดูก” ได้ ตอนนี้เขารู้สึกว่า “โลกใหม่” ช่างทรงพลัง
จางเฟิงหยานส่ายหัว “ฉันไม่รู้เลย ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ผงกระดูกแค่ใช้ไม่ได้ไปเลย”
ใช่ จางเฟิงหยานไม่รู้สึกถึงความต่างใดๆเลยทั้งสิ้น
“ไม่มีข้อแม้ที่ “ผงกระดูก” ของฉันจะพังด้วย หรือว่า…”
หลานหลี่เย่พลันนึกได้ถึงความน่าจะเป็น
“เอาล่ะ เห็นทีเฉินหลงจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว อย่างไรก็ตามฉันคงฆ่าเฉินหลงไม่ได้ ฉันจะให้คนอื่นจัดการกับเรื่องนี้ ตอนนี้ฉันควรฝึกฝีมือของฉันในโลกใหม่” เขาคิดว่าเฉินหลงอาจจะทรงพลัง หลานหลี่เย่ไม่คิดมากเรื่องนี้อีกต่อไป เขาจะพยายามพัฒนาพลังของตน
เขาอยากทำให้สำเร็จ หลานหลี่เย่ใส่เครื่องสวมศีรษะและเข้าเกมไป
จางเฟิงหยานส่ายหัวเมื่อเขาเห็นว่าหลานหลี่เย่เข้าเกมอีกครั้ง เขาคงจะต้องคุยเรื่องร่วมมือกับ “เว่ยหลงเทคโนโลยี” ในวันรุ่งขึ้น
จนถึงในขณะนี้จางเฟิงหยานยังไม่รู้ว่าเฉินหลงเป็นประธานของเว่ยหลงเทคโนโลยี
วันต่อมาจางเฟิงหยานไปยัง “เว่ยหลงเทคโนโลยี” อีกครั้ง ครั้งนี้ เขาไม่ได้สวมชุดพรางเหมือนเมื่อคืน แต่เขามาในนามของบริษัท “เทียนเจียการเงิน” แทน กลุ่มการเงินเทียนเจียเป็นกลุ่มการเงินชื่อดังระดับโลก ด้วยทรัพย์สินหลายประเภทรวมแล้วมากกว่าล้านล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยความที่เป็นคนบังคับหางเสือของบริษัท จางเฟิงหยานจึงมาด้วยตัวเองเป็นปกติ
หลังจากที่เฉินหลงและจางเฟิงหยานเจอหน้ากัน พวกเขาประหลาดใจเล็กน้อย
สิ่งที่จางเฟิงหยานคาดไม่ถึงคือเฉินหลงเป็นประธานตัวจริงของเว่ยหลงเทคโนโลยี และเฉินหลงไม่คาดคิดว่าเทียนเจียการเงินที่ดังระดับโลกจะเป็นช่องทางทำเงินขององค์กรหนทางปีศาจ
“คุณเฉิน ผมไม่คิดว่าประธานของบริษัทเว่ยหลง บริษัทที่ส่งคลื่นให้กับวงการวิทยาศาสตร์และวงการเทคโนโลยี จะเป็นยอดคนที่หนุ่มขนาดนี้” จางเฟิงหยานกล่าวกับเฉินหลงที่ยื่นมือขวาออกมา
“ผมก็ไม่นึกว่าตัวแทนของ กลุ่มการเงินเทียนเจียจะเด็กขนาดนี้” เฉินหลงยื่นมือไปจับมือของจางเฟิงหยาน
นี่เป็นการเจอกันครั้งแรกของคนสองรู้จักกันและกันอย่างดีอยู่แล้ว
“คุณเฉิน ผมมาที่นี่เพื่อทำข้อตกลงกับคุณ คุณรู้ใช่ไหมว่า เกม “โลกใหม่” ของบริษัทคุณเป็นการปฏิวัติในธุรกิจเกมและธุรกิจเทคโนโลยี บริษัทการเงินของเรารู้สึกว่าเกมโลกใหม่นี่จะต้องเป็นไปได้ดี และอยากจะร่วมมือกับบริษัทคุณ” หลังจับมือทักทายกันแล้ว จางเฟิงหยานเข้าสู่ประเด็นเลย
“มีการร่วมมือกันหลากหลายประเภทนะครับ และขึ้นอยู่กับความจริงใจของคุณ” เฉินหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“มีแค่สองทางสำหรับการร่วมมือกับบริษัทการเงินของเราครับ อย่างแรกคือพวกเราจะครอบครองลิขสิทธิ์ของ “โลกใหม่” ในต่างประเทศ บริษัทการเงินของเราทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่การขายในต่างประเทศ อีกประการคือบริษัทการเงินของเราจะซื้อ “เว่ยหลงเทคโนโลยี” ของคุณเสียแบบทีเดียวหมดไปเลย” จางเฟิงหยานจริงจังอยู่
เมื่อได้ยินที่จางเฟิงหยานว่า เฉินหลงยังคงตอบด้วยรอยยิ้ม “คงยากนะครับที่บริษัทการเงินคุณจะควบบริษัทผม บริษัทผมไม่ได้ขึ้นทะเบียน และหุ้นทั้งหมดผมเป็นคนถือ ไม่มีใครมาร่วมได้ครับ”
“เช่นนั้น ดูเหมือนว่าพวกเราคงคุยกันได้แค่เรื่องเป็นในหน้าที่ทำงานร่วมกัน” จางเฟิงหยานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ผมยังไม่รับปากว่าจะร่วมงานกับคุณ” รอยยิ้มบนหน้าเฉินหลงยังไม่เปลี่ยนแปลง
จางเฟิงหยานไม่ได้อยากจะพูดว่า “เรายังไม่ได้คุยกันเลย บางทีคุณอาจเปลี่ยนใจหลังได้ยินแผนของเรานะครับ” อีกอย่างกลุ่มบริษัทเทียนเจียยีงมีธุรกิจรอบโลก หากเป็นเช่นนี้ เราจะแก้ปัญหาเรื่องการขายได้อย่างดีเยี่ยม
จบคำจางเฟิงหยานมองเฉินหลง
“นาย เทียนเจียการเงินนี่ทรงพลังจริงๆ แต่หากนายร่วมมือกับปิศาจของ “เทียนเจียจ่ง” แล้ว ฉันจะโดนกลืนไปหมดแม้กระทั่งกระดูกก็ไม่เหลือไหม” เฉินหลงว่าพร้อมรอยยิ้ม