อวี้เฟยเยียนลุกยืนขึ้น แล้วหยิบกาสุรามงคลพร้อมกับจอกสองใบมาจากถาดในมือของนางกำนัล นางรินสุราสองจอก
“เร็วเข้า รีบมาดื่มสุรามงคลของเรากับข้า!”
ดวงตาสุกใสคู่นั้นของอวี้เฟยเยียนกำลังจ้องมองไปที่ซย่าโหวฉิงเทียน
“ดื่มสุรามงคลนี้แล้ว พวกเราก็จะเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์!”
ได้ยินดังนั้น ซย่าโหวฉิงเทียนก็รีบเดินเข้ามาหานางในทันที แน่นอนว่าเขาอยากที่จะเป็นสามีภรรยากับอวี้เฟยเยียนตลอดไปยั่งยืนยาวนาน ดังนั้น สุราจอกนี้จะต้องดื่ม
“ท่านออกไปเถอะ!”
เมื่อดื่มสุรามงคลแล้ว เห็นซย่าโหวฉิงเทียนยืนเหม่อลอยอยู่เป็นนาน อวี้เฟยเยียนก็ผลักดันคะยั้นคะยอให้เขาออกไปด้านนอก
“ฮ่องเต้ยังทรงรอท่านอยู่ที่ด้านนอก!”
“เจ้ารอพี่นะ!”
ซย่าโหวฉิงเทียนไม่อยากละทิ้งความอบอุ่นนี้ไป ทั้งไม่อยากห่างจากอวี้เฟยเยียนด้วย
แต่ว่า ซย่าโหวจวินอวี่กำลังรอคอยเขาอยู่ที่ด้านนอก ยังมีแขกเหรื่อที่เดินทางมาร่วมงานอีกมากมาย อย่างน้อยเขาจึงสมควรที่จะออกไปทักทายพวกเขาสักหน่อย
จวบจนกระทั่งซย่าโหวฉิงเทียนกลับออกไป อวี้เฟยเยียนได้ยินเสียงทอดถอนใจด้วยความโล่งอกจากเหล่านางกำนัลภายในห้องอย่างชัดเจน นางถึงกับยิ้มออกมา
“ลำบากพวกเจ้าแล้ว! ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมีคนคอยปรนนิบัติแล้วละ พวกเจ้าออกไปเถอะ!”
“เพคะ!”
ซย่าโหวฉิงเทียนไม่ให้ใครมาก่อกวนห้องหอ แพร่สะพัดออกไปถึงด้านนอก
ขณะเดียวกัน ซย่าโหวจวินอวี่มีคำสั่ง วันนี้จะต้องมอบสุราหลินเจียงอ๋องให้เมาให้จงได้! ‘ใครมอมซย่าโหวฉิงเทียนจนเมาได้! ข้าจะตกรางวัลให้อย่างงาม!’
ในเมื่อลูกชายปกป้องเมียถึงเพียงนี้ ไม่สู้ให้ตัวเขาเป็นฝ่ายโผเข้าหานางเองเลยก็แล้วกัน!
เมื่อนึกถึงว่า ตั้งแต่ต้นจนจบลูกชายของตนทั้งโง่ทั้งซื่อบื้อ ฮ่องเต้จึงทรงต้องเลือกใช้วิธีการชั่วร้ายเจ้าเล่ห์บ้างแล้ว
ใครๆ ก็บอกว่าเมาแล้วรุ่มร่ามทุกราย!
หากคาดหวังจะให้คืนนี้เกิดอะไรขึ้นละก็ มอมซย่าโหวฉิงเทียนให้เมาเสียก็สิ้นเรื่อง!
เมื่อฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชา ก็ทำให้ทุกคนฮึกเหิมขึ้นมาในทันที
หายากนักที่ในเวลาปกติจะได้มีโอกาสได้ล้อเล่นกับหลินเจียงอ๋อง ในเมื่อวันนี้ฝ่าบาททรงถึงกับมีพระบัญชามาแล้ว มีฮ่องเต้เป็นที่พึ่ง ทุกคนจึงเรียงหน้ากระดานกันมาดื่มให้กับซย่าโหวฉิงเทียนอย่างคึกคะนอง
จนกระทั่งได้ประจักษ์ว่าซย่าโหวฉิงเทียนดื่มสุราราวกับน้ำเปล่าก็ไม่ปาน ทุกคนถึงได้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อกันไปหมด!
แต่ทว่า มีฮ่องเต้คอยผลักดันอยู่เบื้องหลัง พวกเขาจึงได้แต่บากหน้าดื่มให้กับซย่าโหวฉิงเทียนต่อไป
สุดท้าย แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างพากันหัวหมุนมึนงง เมาคอพับคออ่อนไปตามๆ กัน ส่วนซย่าโหวฉิงเทียนยังคงสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่แดง ใบหูไม่แดง ราวกับคนปกติก็ไม่ปาน
“อ่อนหัดจริงๆ เลย!”
ซย่าโหวฉิงเทียนส่ายหน้าเบาๆ
“เสด็จพี่ ในเมื่อเสร็จธุระของข้าแล้ว ข้าขอตัวก่อนละ!”
ซย่าโหวจวินอวี่มองดูเหล่าขุนนางที่เมาจนคอพับคออ่อน แล้วมองที่ดวงตาอันสดใสของซย่าโหวฉิงเทียน เขาก็ถึงกับหมดคำพูด
ปกติแล้วเป็นนักดื่มคอแข็งกันนักมิใช่หรือ
เหตุใดเมื่อถึงเวลาต้องออกศึกจริง แต่ละคนถึงได้อ่อนหัดเช่นนี้!
“เซี่ยงจิ้น จดรายชื่อคนที่เมาทั้งหมดเอาไว้! ข้าจะลงโทษด้วยการหักเบี้ยหวัดของพวกเขาเสีย!”
ซย่าโหวจวินอวี่กัดฟันกรอด
ลูกชายไม่เมา เข้าหอก็หมดกัน แล้วฮ่องเต้จะไม่ทรงร้อนพระทัยได้อย่างไร!
ครั้นเมื่อซย่าโหวฉิงเทียนกลับเข้าห้องหอ พอดีกับเป็นเวลาที่อวี้เฟยเยียนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เนื้อตัวสะอาดสะอ้านหอมฟุ้ง กินอิ่มท้องแล้วก็อาบน้ำให้สะอาด ภารกิจถัดไปแน่นอนว่าต้องเป็นการนอนหลับเอาแรงสักตื่น
แต่ทว่า นางยังมิทันได้เอนกายนอนลง ซย่าโหวฉิงเทียนก็กลับเข้ามาเสียก่อน
“กลับมาเร็วจัง…”
อวี้เฟยเยียนยังกล่าวยังมิทันจบ นางก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาเสียแล้ว
“แมวน้อย พี่คิดถึงเจ้า!”
เมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายของอวี้เฟยเยียน ซย่าโหวฉิงเทียนก็จิตใจสงบลงทันที
“ในที่สุดพี่ก็ได้แต่งงานกับเจ้า! เจ้าเป็นของพี่แล้ว!”
‘จอมเผด็จการเอ๊ย!’
อ้อมกอดของเขายังคงให้ความอบอุ่นแก่นางได้ดังเดิม เพียงแต่ กลิ่นสุราจากกายของเขามันรุนแรงยิ่งนัก!
อวี้เฟยเยียนยิ้มบางๆ แล้วยื่นมือออกไปผลักอกซย่าโหวฉิงเทียนออก
“ออกไปนะ! ตัวมีแต่กลิ่นสุรา เหม็นจริงๆ เลย! ข้าเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ กลับต้องมาถูกเจ้าทำให้ตัวเหม็นไปด้วย!”
“จริงหรือ”
ซย่าโหวฉิงเทียน ปล่อยมือ กางแขนทั้งสองข้างออกดมกลิ่นบนร่างของตัวเอง
เหม็นจริงๆ ด้วย!
ว่าแล้วซย่าโหวฉิงเทียนก็ยื่นหน้าเข้าไปหาอวี้เฟยเยียน เพื่อดมกลิ่น
“อื้ม มีกลิ่นสุราจริงๆ ด้วย”
“ไม่เป็นไร เจ้าไปอาบน้ำพร้อมกับพี่ก็แล้วกัน!”
กล่าวจบซย่าโหวฉิงเทียน ก็รั้งอวี้เฟยเยียนเข้ามาในอ้อมแขน อุ้มนางไปอาบน้ำด้วยกันเสียเลย
ชายรูปหล่อมาพลีกายให้ถึงที่ แน่นอนว่าอวี้เฟยเยียนต้องเต็มใจอยู่แล้ว!
นางตั้งหน้าตั้งตาอยากจะเห็นภาพอันสวยงามที่ชายรูปงามปลดสายคาดเอวออกจริง
จวบจนกระทั่งได้ลงนั่งแช่อยู่ในอ่างที่รองน้ำอุ่นเอาไว้จนเต็มล้น อวี้เฟยเยียนนอนราบร่างเกยกับขอบอ่าง ขณะเดียวกันดวงตาก็จ้องมองซย่าโหวฉิงเทียนตาไม่กะพริบ
เพียงแค่เห็นท่าทางของอวี้เฟยเยียน ซย่าโหวฉิงเทียนก็หัวเราะออกมา ทั้งยังยื่นมือออกไปบีบจมูกของนางเบาๆ
“แมวหื่น!”
“กิน นอน ร่วมรัก ต่างก็เป็นสันดานของมนุษย์! อีกอย่างพวกเราเป็นสามีภรรยา เจ้าเป็นผู้ชายของข้า ไม่ให้ข้าดู แล้วจะให้ใครดูกันเล่า!”
อวี้เฟยเยียนพูดมีเหตุผล ซย่าโหวฉิงเทียนจึงถือโอกาสมายืนตรงเบื้องหน้าของนาง แล้วเอื้อมมือไปจับที่ขอบเสื้อตนเองเอาไว้
อดที่จะพูดไม่ได้เลยว่า ซย่าโหวฉิงเทียนเป็นไม้แขวนเสื้อที่ยอดเยี่ยมจริงๆ
ไม่ว่าจะสวมใส่อะไรก็ดูดีไปเสียหมด!
ยิ่งกว่านั้น ชุดของเขาในวันนี้ มาจากช่างฝีมือที่ดีที่สุดแห่งวังหลง สวมใส่อยู่บนร่างของเขา ก็ยิ่งขับให้เขาดูหล่อเหลาสง่างาม แต่แผงเอาไว้ด้วยความป่าเถื่อนนิดๆ
“พี่จะถอดจริงๆ แล้วนะ!”
มุมปากของซย่าโหวฉิงเทียนหยักยิ้มขึ้น แววตาของเขาฉายแววยั่วยวนอย่างชัดเจน
“ถอดสิ! เร็วเข้า! อย่าได้ชักช้าอืดอาดยืดยาด!”
อวี้เฟยเยียนถลึงตาจ้องมองซย่าโหวฉิงเทียน รู้สึกไม่พึงพอใจกับความเชื่องช้าของเขาเป็นอย่างมาก
ขณะที่ในใจอวี้เฟยเยียนก็คิดไปว่า ซย่าโหวฉิงเทียนจะค่อยๆ ถอดทีละชิ้นด้วยท่วงท่าที่งดงามนั้นนั่นเอง
“แควก…”
เสียงนั้นดังขึ้น เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่นเป็นชิ้นๆ กระจัดกระจายไปชิ้นละทิศละทาง
“ว้าย…”
อวี้เฟยเยียนเหลือบมองไปก็เห็นสัตว์อันดุร้ายที่ส่วนล่างนั้นทันที นางจึงรีบปิดตาลงอย่างรวดเร็ว
‘วันนี้ถึงได้มาสายป่าเถื่อน’
ชุดสวยๆ ต้องมาพังไปเช่นนี้…
ไม่รอให้อวี้เฟยเยียนซ่อนตัวลงในน้ำ ซย่าโหวฉิงเทียนก็โดดเข้ามาอยู่ในถังน้ำเดียวกันกับนางเสียแล้ว เขาดึงรั้งนางเข้ามาในอ้อมอก
“แมวน้อย แมวน้อยของพี่!”
ซย่าโหวฉิงเทียนก้มหน้าลงไป งับที่ใบหูเล็กๆ ของนางแผ่วเบา
หลายวันมานี้ไม่อาจพบหน้าอวี้เฟยเยียนได้ เขาทนมันมาพอแล้ว! เขาจะไม่ยอมแยกจากนางอีกแล้ว!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำหรือเพราะหัวใจของนางกันแน่ ทำให้อวี้เฟยเยียนรู้สึกร้อนผ่าว ร่างกายของนางร้อนผ่าวราวกบเป็นไข้
“เอ่อ…ท่านค่อยๆ อาบนะ ข้าขอตัวออกไปก่อน!”
อวี้เฟยเยียนรีบเผ่นออกไปทันทีราวกับเจ้าปลาน้อยที่หายวับไปอย่างไรอย่างนั้น
ที่นางเข้ามาเดิมทีก็เพื่อดื่มด่ำในความงามของความเป็นชาย ผลลัพธ์ก็คือนางประเมินความหน้าด้านของตนเองสูงเกินไป
ความรู้สึกซาบซ่านที่ใบหู ทำให้นางต้องรีบเร่งออกไปจากที่นี่
หากว่าชายหนุ่มวัยฉกรรจ์กลายร่างเป็นสัตว์ป่าขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน!
เดิมทีซย่าโหวฉิงเทียนก็อยากที่จะรั้งอวี้เฟยเยียนเอาไว้ แต่หากแช่อยู่ในน้ำนานเกินไป ผิวพรรณก็จะเ**่ยวย่นสูญเสียความชุ่มชื้น และก่อนหน้านี้นางก็อาบน้ำมาก่อนแล้วด้วย เขาจึงยินยอมให้อวี้เฟยเยียนรีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกไปก่อน
ในขณะที่อวี้เฟยเยียนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น นางยืนอยู่หลังฉากกั้น แต่นางกลับไม่รู้เลยว่า ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้สุกสกาวสว่างไสวยิ่งนัก มันสาดแสงลงมาเผยให้เห็นทรวดทรงองค์เอวของนางที่เบื้องหลังฉากกั้นนั้นออกมาอย่างชัดเจน ทำเอาซย่าโหวฉิงเทียนที่มองดูอยู่ถึงกับเลือดลมแล่นพล่านสูบฉีดขึ้นไปถึงสมอง
สัตว์ป่าด้านมืดในจิตใจของเขาร้องคำรามขึ้นมาอีกครั้ง
กินนางเข้าไปเสีย กินนางเข้าไป…
เสียงนั้นยิ่งดังกึกก้องมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งคลุ้มคลั่งมากยิ่งขึ้น ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนต้องพาตัวเองจมดิ่งลงไปในน้ำ
สงบใจ…
ซย่าโหวฉิงเทียนภาวนาอยู่ในใจ แต่ทว่าในหัวของเขากลับเต็มไปด้วยภาพในฝันที่อวี้เฟยเยียนกำลังบิดเร่าครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา มันเลือดหนุ่มในกายของซย่าโหวฉิงเทียนถูกจุดติดขึ้นทันที
‘เขา ต้องการนาง!’
ตึ่ง!
ในขณะที่อวี้เฟยเยียนกำลังห่อตัวเองอยู่ในผ้าห่ม มือก็กำลังเส้นผมให้แห้งอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้นข้างๆ นาง
“ฉิงเทียน เป็นอะไรไป”
อวี้เฟยเยียนรีบผุดลุกขึ้นทันที
“ไม่เป็นอะไร ถังน้ำมันไม่ทนทานเอาเสียเลย”
มองดูถังน้ำแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วเหลือบมองกลับมาที่เส้นผมสีเงินของตนเอง แววตาของซย่าโหวฉิงเทียนก็เข้มขึ้น
จนกระทั่งเขากลับถึงห้อง จึงได้เรียกคนมาทำความสะอาดจัดเก็บ
“เป็นอย่างไรบ้าง”
ซย่าโหวจวินอวี่ยังคงรอคอยรายงานความเคลื่อนไหวของพวกเขาอย่างใกล้ชิด
ถึงแม้ซย่าโหวจวินอวี่อยากจะส่งฉู่อินไปสืบดูให้รู้ ว่าลูกชายและลูกสะใภ้กระทำในสิ่งที่สวยงามแล้วหรือยัง แต่เขาก็รู้ดีว่าฉู่อินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซย่าโหวฉิงเทียน
หากส่งฉู่อินไป ซย่าโหวฉิงเทียนก็จะต้องล่วงรู้ถึงการมาของเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้น ฮ่องเต้จึงทรงใช้วิธีการที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือรอ
“ฝ่าบาท ทางด้านนั้นมีข่าวมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
เวลาผ่านไปไม่นาน เซี่ยงจิ้นก็ถลาวิ่งเข้ามาพร้อมกับใบหน้าแดงเถือก แล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของซย่าโหวจวินอวี่อยู่สองสามประโยค
“เสื้อผ้าขาดวิ่น ถังน้ำก็แตกกระจาย”
ฮ่องเต้บรรยายซ้ำคำพูดของเซี่ยงจิ้น สุดท้าก็หัวเราะ ‘ฮ่าๆ ’ ขึ้นมาเสียงดังลั่น
‘เห็นทีว่าเรื่องจะสำเร็จ’
‘สมแล้วที่เป็นลูกชายของเขา!’
‘ดุดันถึงเพียงนี้!’
‘ร้อนใจถึงเพียงนี้!’
ไม่เสียแรงที่ก่อนหน้านี้เขาสู้อุตส่าห์เป็นกังวลกับความสุขในชีวิตคู่ของลูกชาย เห็นทีว่าตอนนี้คงไม่ต้องกังวลอีกแล้ว
ข้าว่าแล้ว!
ขอเพียงแต่เป็นผู้ชาย เมื่อถึงวันแต่งงานร่วมหอก็จะรู้เองว่าควรจะทำอย่างไร อีกทั้งก่อนหน้านี้เขาได้บำรุงสมอง ชี้แนะ ถ่ายทอดความรู้ทักษะ รวมทั้งอะไรต่อมิอะไรมากมายให้กับลูกชาย แล้วซย่าโหวฉิงเทียนจะล่าถอยได้อย่างไรเล่า!
“ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาท ยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
เซี่ยงจิ้นกุลีกุจอเข้ามาบีบนวดให้กับซย่าโหวจวินอวี่เพื่อประจบสอพลอ
“ฝ่าบาททรงคอยอุ้มพระนัดดาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”
“พูดได้ดี! ข้าจะตกรางวัลให้เจ้า!”
ซย่าโหวจวินอวี่อารมณ์ดีเบิกบานเป็นที่สุด แต่ทว่าเขาไหนเลยจะรู้ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น…