TQF:บทที่ 691 การเสนอข้อตกลง (3)
เขาก็คือขันทีชราที่อยู่กับฮ่องเต้บ่อยๆนั่นเอง เนื่องจากเขาอายุมากแล้วจึงติดตามฮ่องเต้เฉพาะตอนกลางวันเท่านั้น กลางคืนถึงจะกลับไปยังโถงเล็กๆที่เขาอาศัยอยู่
เขาเพิ่งกลับมาได้ไม่นานหยูเฮงน้อยก็ปรากฏตัว ขันทีชราค่อยๆลืมตาราวกับไม่แปลกใจกับการมาของหยูเฮงน้อย เขามองนางยิ้มๆ “แม่นางหยูเฮงมาได้ยังไง”
“อิอิ ข้ามาหาเจ้าไม่ได้เหรอ” หยูเฮงน้อยนั่งพิงเขาลงอย่างไม่ใส่ใจและยื่นผลไม้ให้ “มา เรามากินผลไม้กันเถอะ”
“เหอะๆ ขอบคุณผลไม้จากหยูเฮงน้อยด้วย อร่อยมาก” ขันทีชราตาเป็นประกายรับผลไม้มาอย่างเบิกบานแล้วค่อยๆกิน
ทั้ง 2 คนเริ่มกินผลไม้กันอีกครั้ง หยูเฮงน้อยกินไปพลางตรวจดูพลังชีวิตในร่างเขาไปพลาง ดูไปดูมาเริ่มขมวดคิ้ว “ตาเฒ่า เจ้าเพิ่งจะอายุไม่กี่ร้อยปีเอง ทำไมพลังชีวิตย่ำแย่จัง”
“เหอะๆ คนแก่ก็งี้ ใช้ไม่ได้แล้ว พลังชีวิตเหือดหายไปก็เป็นเรื่องปกติ” ขันทีชราตอบยิ้มๆอย่างไม่ใส่ใจ
“ไม่จริง”
หยูเฮงน้อยส่ายหัว “เจ้าถูกผู้อื่นทำร้ายมา ด้วยวิทยายุทธระดับเทพเซียนของเจ้าอย่างน้อยต้องอยู่ได้อีกหลายหมื่นปี หรืออาจจะหลายแสนปี พูดได้ว่าเจ้ายังอยู่ได้อีกนาน แต่ดูจากพลังชีวิตของเจ้าแล้วเจ้าน่าจะอยู่ได้อีกไม่กี่ร้อยปี ต่อให้เจ้าเป็นเทพเซียนก็ไม่มีประโยชน์
“แม่นางหยูเฮงตาดีจริงๆ ที่เจ้าพูดมาถือว่าถูก”
ขันทีชรายังคงกินผลไม้ช้าๆ ราวกับไม่ใส่ใจกับอายุขัยของตัวเองเลย
“ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ”
“ไม่มีวิธีอื่นแล้ว”
“แล้วเจ้าแก้แค้นไปรึยัง”
…..
ทั้งคู่คุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งขันทีชรากินหมดไปลูกนึง หยูเฮงน้อยกินหมดไป 3 ลูกประเด็นนี้ถึงจบลง
ขันทีชราเช็ดปากและหันไปมองหยูเฮงน้อยด้วยรอยยิ้มพลางถามอย่างใจดี “แม่นางหยูเฮงมาหาข้าคงมีเรื่องอะไรล่ะสิ”
“เจ้าเดาถูกแล้วตาเฒ่า พวกเราอยากรู้ว่าปีศาจเฒ่าเทพเซียนมีทั้งหมดกี่คน เจ้ารู้รึเปล่า”
หยูเฮงน้อยถามออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม
“หืม เรื่องนี้….” ขันทีชราแปลกใจนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้า “ทั้งผืนดินฉางไห่ไม่เกิน 50 คน ส่วนในชิงยางมีประมาณ 20 คน ไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัด แม่นางหยูเฮงจะไปหาพวกเขาเหรอ”
“ข้าไม่อยากไปหาพวกเขาหรอก พวกเขาไม่มาหาข้าก็ดีแล้ว”
หยูเฮงน้อยส่ายหัว ไม่ปกปิดความกังวลในแววตา มีถึง 20 คนนี่เกินความคาดหมายของนางจริงๆ
ขันทีชราเห็นสีหน้าของนาง และเงียบไม่พูดอะไร
ไม่นานนักหยูเฮงน้อยก็กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง “ขอบคุณนะตาเฒ่า”
พูดจบก็ยัดผลไม้อีก 2 ลูกให้เขา “ตาเฒ่า ข้ากลับก่อนนะ ไว้เดี๋ยวมาเล่นด้วยใหม่” นางทิ้งผลไม้ไว้และไปเลยโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายอยากได้รึเปล่า
ขันทีชราชะงักไปนิดหน่อย ถือผลไม้ที่ส่งกลิ่นหอม 2 ลูกไว้ด้วยรอยยิ้ม
รอยยิ้มของเขายังไม่ทันจะหายไปก็มีบางอย่างปรากฏในอากาศ คนที่เพิ่งออกไปกลับมาอีกครั้ง รอยยิ้มบนใบหน้าเขาเปลี่ยนไปเป็นความแปลกใจ “แม่นางหยูเฮง เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
จู่ๆหยูเฮงน้อยก็จับข้อมือเขาไว้ ขันทีชราที่จะกันนางออกไปกลับพบว่าตัวเองขยับไม่ได้เลย
เขาตะลึงอย่างถึงที่สุด มองเด็กสาวตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
เขาผู้เป็นเทพเซียนกลับทำอะไรเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆไม่ได้ แถมยังถูกนางควบคุมได้อีก
ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปคงจะไม่มีใครเชื่อ คิดว่าเป็นเรื่องตลกซะมากกว่า
ขันทีชรายังตะลึงอยู่ หยูเฮงน้อยปล่อยมือเขาและพูดขึ้น “ตาเฒ่า ข้ารู้สึกว่าสามารถช่วยเจ้าได้ แต่ยังไม่รับประกันหรอกนะ”
พูดไปพลางหยิบขวดหยกและผลไม้ประหลาดออกไปด้วยและยื่นให้เขา “ตาเฒ่า คืนนี้เจ้ากินผลไม้นี่ก่อน กินเสร็จแล้วค่อยกินยาในขวดนี้ตาม ส่วนจะช่วยเจ้าได้มั้ยข้าก็ไม่แน่ใจ เจ้าลองดู เอาล่ะ ข้าไปละนะ”
ร่างเล็กๆหายไปอีกครั้ง ขันทีชราอึ้งไปจริงๆแล้วมองผลไม้ที่เป็นประกายสีทอง จะว่าลูกท้อก็ไม่ใช่ ลูกพรุนก็ไม่เชิง ไม่รู้ว่าเป็นผลไม้พันธุ์ไหน แต่เขารู้สึกได้ถึงพลังเทวาจากผลไม้นี้ได้ นี่ไม่ใช่ผลไม้ธรรมดาๆแน่
เขาข่มความตื่นเต้นไว้และเปิดขวดหยกดู ของเหลวเขียวใสจนเห็นก้นขวดส่งกลิ่นหอมแตะจมูก ชั่วขณะนั้นเขารู้สึกถึงพลังชีวิตอันเปี่ยมล้น แค่ได้กลิ่นก็เกิดผลขนาดนี้ เขาเกิดความคาดหวังขึ้น
หยูเฮงน้อยคิดไม่ถึงเลยว่าการกระทำโดยที่ไม่คิดอะไรจะนำพาการตอบแทนแบบไหนมาให้นาง
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลฟางหยูเฮงน้อยก็บอกตัวเลขที่ตัวเองได้ยินมาให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวฟัง นางนิ่งเงียบอยู่นานหลังได้ฟัง
“ต้นไม้อยากจะอยู่นิ่งแต่ลมหาได้หยุดพัดไม่”
ในที่สุดเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็เปิดปากพูด สายตาของนางมองไปยังต้นหลิวนอกหน้าต่างที่โบกสะบัดตามลม
แม้หยูเฮงน้อยจะไม่เข้าใจนางแต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ “คุณหนู ถ้าท่านเขยอยู่ที่นี่ก็คงดี”
“หืม…”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวชะงักไปนิดหน่อย สายตามองไปยังที่ว่างเปล่า มีประกายเจิดจ้าอยู่ในนัยต์ตาสีนิล “ถ้าเขาสบายดีข้าก็สบายใจ”
“คุณหนู….”
“กลัวอะไร เรายังไม่ถึงขั้นนั้นสักหน่อย”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเผยรอยยิ้มสว่างไสวประดุจดารา ความอ่อนโยนในแววตาแฝงไว้ด้วยความมั่นใจ ทำให้หยูเฮงน้อยเบาใจในทันที
2 สาวหารือวางแผนสำหรับวันข้างหน้า ในแต่ละที่ของชิงยางก็มีคนไม่น้อยที่พูดถึงกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนและบ้านตระกูลฟาง
แต่แล้ว ณ อีกเขตในชิงยาง ภายในประตูที่กว้างใหญ่ที่สุดเป็นสถานที่ต้องห้ามของเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทั่วๆไป และก็เป็นที่ๆทหารรับจ้างใฝ่ฝันที่สุด
ฐานหลักของกลุ่มทหารรับจ้างอันดับ 1 เอ้าชัง
ด้านในสวนบ้านใหญ่อันสงบทุกอย่างเงียบงัน ไม่มีทหารยามเลยสักคน ไม่เหมือนฐานหลักของกลุ่มทหารรับจ้างที่มีอิทธิพลสุดยอดเลยสักนิด
แต่คนบางคนรู้ว่าสวนบ้านใหญ่ที่ดูเหมือนเงียบสงบนี้แท้จริงแล้วอันตรายมาก ต่อให้เป็นปรากฏเทพเทวาก็ไม่กล้าบุกเข้ามาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า
ถ้าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยมาอยู่ที่นี่ละก็จะต้องค้นพบแน่ว่าที่นี่มีวิชาสะกดปกคลุมอยู่ และเป็นวิชาสะกดขั้นสูงที่หากมีคนบุกเข้ามาไม่จบดีแน่
ภายในห้องรับแขกหลักในสวนบ้านใหญ่นี้ มีผู้เฒ่าที่ดูแล้วอายุ 80-90 นั่งอยู่หลายคน
แต่จริงๆแล้วอายุของพวกเขาไม่ใช่แค่ร้อยปีแน่ แต่มีอายุได้หลายร้อยปีแล้ว วิทยายุทธล้วนอยู่ระดับเทพเซียนหรือจุดสูงสุดของปรากฏเทพเทวา
————————–