บทที่ 510 หมดกัน หมดกัน ไม่เหลืออะไรแล้ว

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ได้ยินเสียงอาคิระ ยู่ยี่ก็ยักไหล่พูดว่า “เขาไม่มารบกวนคุณมานานมากแล้ว ฉันรู้สึกแปลกใจจริงๆ”

“พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของเอวา เขาให้ผมไปดื่มเป็นเพื่อนสองสามแก้ว” ฉันทัชพูดตามความจริง “ถ้าหากคุณไม่โอเค ผมจะปฏิเสธเขา”

“ไม่เป็นไร แค่ดื่มเหล้าสองแก้วเอง อีกอย่างก็เป็นวันเกิดของเอวา ฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่คิดเล็กคิดน้อยเสียหน่อย” ยู่ยี่พูดด้วยรอยยิ้ม

ฉันทัชโอบเธอเข้าสู่อ้อมแขนแล้วหยิบตั๋วหนังออกมา เธออยากไปดูหนังมาโดยตลอด เขาจึงให้โก๋ไปซื้อให้เขาสองใบ

ตาเธอเป็นประกาย พอดูชื่อหนังสายตาก็ยิ่งเป็นประกายกว่าเดิม หนังสยองขวัญ เธอไม่ได้ดูหนังสยองขวัญมานานแล้ว!

เรนนี่กำลังนอนอยู่บนเตียงห้องพักผู้ป่วย เธอใช้โทรศัพท์ของลูกพี่ลูกน้องโทรหารัดเกล้า คุยเรื่องเงิน

รัดเกล้ารับสาย แต่กลับบอกว่าเรื่องเงินมันเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เด็กก็แท้งไปแล้ว แม้ว่าเธอจะบอกว่าเป็นของเขา แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเธอ จริงไหม?

ได้ยินเช่นนี้เรนนี่ก็โกรธมากจนแทบจะเป็นลม เขาพูดว่าอะไรนะ?

“อย่างที่โบราณเคยว่าไว้ ทุกอย่างล้วนต้องคว้าตามเวลาที่เหมาะสม หากในตอนแรกที่ผมรับปาก คุณให้หมายเลขบัตรธนาคารกับผม ตอนนี้เงินคงอยู่ในบัตรของคุณแล้ว แต่คนที่ทำให้มันล่าช้าคือคุณ พอมาวันนี้เกิดอุบัติเหตุขึ้น คุณก็ยอมรับว่าคุณโชคร้ายเอง” รัดเกล้ากล่าว

สีหน้าเรนนี่เปลี่ยนด้วยความโกรธ “รัดเกล้า!”

“จะโกรธไปทำไม? สิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงทั้งนั้น ไม่งั้นนั้นให้หนึ่งล้านเป็นไง?”

“คุณคิดว่ากำลังให้เงินขอทานเหรอ?” เรนนี่ย่อมไม่ยอม หกล้านกับหนึ่งล้าน มันแตกต่างกันมากเกินไปจริงๆ!

“แค่หนึ่งล้านเท่านั้น ถ้าเอาก็เอา ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร อย่าลืมนะ ว่าครั้งนี้อำนาจการตัดสินใจอยู่ในมือผม” รัดเกล้าวางสายทันที

เรนนี่โยนแก้วน้ำลงกับพื้น แก้วแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่เธอก็ยังระบายออกมาไม่สุด

“ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ! ที่วันนั้นทำทรีทเมนท์ไม่ได้? ทำไมต้องไปทำในวันนั้น! ตอนนี้เป็นไงล่ะ เป็ดในมือบินไปแล้ว หมดกัน! แกมันโง่ที่ลำดับความสำคัญไม่ออก!”

เมื่อเผชิญหน้ากับลูกพี่ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ เรนนี่ด่าระบายความโกรธไม่หยุด อยากจะตบเธอสักสองครั้งจริงๆ

ลูกพี่ลูกน้องก็ดูอึดอัดใจ เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าวันรุ่งขึ้นขาของยายไม่สบายต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จะมาโทษเธอไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าแบบนั้นของพี่ก็ไม่กล้าเปิดปาก

ช่วงใกล้ค่ำหัสดินก็เข้ามา เรนนี่เก็บสีหน้า ทำหน้าเจ็บปวดอย่างระมัดระวัง

เขาเมินเฉย วางคอมพิวเตอร์ไว้ในมือลงบนโต๊ะ แล้วยื่นข้อตกลงกับเธอ

เรนนี่หยิบมันขึ้นมาแล้วก็ต้องตกตะลึง เป็นข้อตกลงการหย่า และยังมีข้อความเขียนว่าเธอสละทรัพย์สินทั้งหมดของเธอ!

“คุณต้องการหย่ากับฉัน? แถมยังให้ฉันสละทรัพย์สินทั้งหมดของฉัน?” เธอหยิบข้อตกลง สีหน้าก็เปลี่ยนไป

หัสดินมองดูเธออย่างเย็นชา “มีปัญหาเหรอ?”

“แน่นอนว่ามีปัญหา ฉันจะไม่หย่า ทรัพย์สินก็ไม่สละ คุณล้มเลิกความคิดได้เลย ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณได้สิ่งที่คุณต้องการ!” เรนนี่อารมณ์เสียขึ้นมา ลงมือฉีกสัญญาหย่าเป็นชิ้นๆ เศษกระดาษสีขาวลอยกระจัดกระจายทั่วห้อง

“คุณคิดว่าที่นี่ยังมีที่ว่างให้คุณได้พูดอีกเหรอ?” สีหน้าหัวดินเปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับลมในฤดูหนาวที่เย็นถึงกระดูกอย่างกะทันหัน

คำพูดของเขาดูจะค่อนข้างแน่ใจมาก เรนนี่ฟังความหมายแฝงในคำพูดของเขาออก “ประโยคนี้หมายความว่ายังไง?”

“เหอะๆ คุณน่าจะรู้ดีกว่าผมไม่ใช่เหรอ?” มือใหญ่หัสดินยกขึ้นแล้วโยนเอกสารอีกแผ่นใส่หน้าเธอ

มุมกระดาษกระทบใบหน้าเธอ เจ็บปวด เรนนี่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นหยิบเอกสารขึ้นมา

มันคือข้อมูลรายงานการตรวจสอบที่เธอไปตรวจที่เมืองB ที่เธอใช้เสร็จก็ลบทิ้ง เขาได้มันมาได้ยังไง?

“โทรศัพท์สามารถลบได้จริง แต่ก็สามารถกู้คืนได้ ไม่ต้องแปลกใจขนาดนั้น” หัสดินกล่าวอย่างเย็นชา คืนวันนั้นหลังจากที่ให้เธอดื่มนมแล้วนอนหลับไป เขาให้ผู้เชี่ยวชาญลงมือกับโทรศัพท์เธอ เดิมทีไม่ได้คาดหวังอะไร ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเจอสิ่งที่น่าสนใจเข้าจริงๆ!

วันนั้นเขาเดินเข้าไปในห้องแล้วได้กลิ่นไหม้ๆในห้องโดยบังเอิญ ก็แปลกใจ ว่าเธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากเขากันแน่!

การได้ภาพแคปหน้าจอผลการตรวจเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย

มีเพียงภาพที่แคปไว้ในโทรศัพท์ แต่กลับไม่มีข้อมูลในเมืองB ซึ่งหมายความว่าอำนาจของหัสดินไม่สามารถใช้ได้ในเมืองB โรงพยาบาลก็ไม่เปิดเผยข้อมูลโดยละเอียด คิดได้เช่นนี้ เรนนี่พูดว่า “นี่มันสามารถพิสูจน์อะไรได้? มันพิสูจน์อะไรไม่ได้ทั้งนั้น! ต้องมีคนใส่ร้ายฉัน ถึงได้จงใจปลอมแปลงของแบบนี้ในโทรศัพท์ฉัน และบางทีการที่คุณอยากหย่าแต่ไม่ต้องการแบ่งทรัพย์สินกับฉัน เลยคิดแผนการแบบนี้มารับมือกับฉัน มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!”

เธอเดาถูก โรงพยาบาลในเมืองBที่เธอไปนั้นมีชื่อเสียงในด้านการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่และคนร่ำรวยจำนวนมากจึงไปที่นั่นก็เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของตัวเอง

เธอไปที่นั่นโดยการนั่งรถบัส ซึ่งไม่ได้ใช้บัตรประชาชนในการซื้อตั๋ว จึงไม่สามารถสืบพบได้

หัสดินไปโรงพยาบาลในเมืองBมาจริงๆ เจ้าหน้าที่ที่นั่นไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรออกมาแม้แต่นิดเดียว

เมื่อได้ผลลัพธ์เช่นนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจที่จะถามอีกต่อไป สรุปคือเขาจะต้องได้รับคำตอบอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่รีบร้อน

เขายิ้มอย่างเย็นชา ราวกับมีหนามแหลมคมทิ่มแทงมาที่เรนนี่ หัสดินเดินเข้าหาเธอทีละก้าวๆต้อนเธอแล้วใช้สองมือบีบคอเธอแน่น “เมื่อก่อนไม่เคยมองออกว่าคุณเล่นละครเก่งขนาดนี้ ถ้าเด็กไม่ใช่ของรัดเกล้า ผมบอกให้คุณไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจในอีกสองวัน จะกลัวอะไร?”

ใบหน้าที่ถูกบีบแดงขึ้น เรนนี่หายใจไม่ออก พูดได้ไม่คล่อง “ฉันกลัว…ตรงไหน?”

“ไม่กลัว ไม่กลัวแล้วทำไมบังเอิญล้มแล้วแท้งพอดีได้ล่ะ? คุณว่า คุณต้องการหลีกหนีอะไร?” แรงของหัสดินเพิ่มมากขึ้น

“ฉันไม่ได้…ไม่ได้…นี่มันเป็นเพียงการเดามั่วๆของคุณเท่านั้น!” เธอไอ

“เดามั่วๆ เหอะๆ…” หัสดินยืนอยู่ข้างหน้าต่างโดยไม่สนใจหน้าที่ซีดและอ่อนแอของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยสีแดงเลือด “คุณไม่เคยได้ยินหรือว่ายังสามารถใช้รกตรวจได้? แม้ว่าจะแท้งก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อคำตอบของผม!”

เรนนี่ตกใจ ดวงตาเบิกกว้าง

“หลักฐานอยู่ข้างๆ แต่คุณดูตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?” หัสดินดูเหมือนจะบีบคอเธอจนตาย “แต่คุณกลับดึงซาฮาร่ามาเกี่ยวด้วย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเล่นวิดีโอซ้ำสิบครั้ง สายตาในตอนแรกและตอนสุดท้ายที่เตะ! จงใจฆ่าเด็กแต่ก็ดึงซาฮาร่าไปรับเคราะห์ด้วย หาเหตุผลการแท้งที่สมบูรณ์แบบและสมเหตุสมผลได้ดีขนาดนี้ เธอนี่เก่งจริงๆ!”

เธอรู้สึกเย็บวาบจากด้านหลัง จากนั้นขนก็ลุกในทันที เรนนี่ตัวสั่น สั่นจนรู้สึกว่ากำลังขาดอากาศหายใจตาย

หัสดินคิดจะฆ่าเธอจริงๆ!

“แบบนี้ดูเหมือนว่าเมื่อก่อนคงเคยหลอกฉันมาไม่น้อย! และคิดไม่ถึงว่าผมยังเชื่อ เพื่อผู้หญิงแบบนี้แล้วถึงกับทำลายความสุขในชีวิต ผมมันตาบอดจริงๆ!” หัสดินสูญเสียการควบคุมไปแล้วจริงๆ สองขาคุกเข่าอยู่บนเตียง มือหนึ่งตบหน้าเธอ อีกมือหนึ่งบีบคอเธอ

เรนนี่พูดอย่างยากลำบาก ลมหายใจติดขัด เธอส่งเสียงออกมาทีละคำ “มันสายเกินไปที่จะเสียใจ! เธอจะไม่แม้แต่จะมองคุณ เพราะเธอคิดว่าคุณมันน่ารังเกียจ!”

หัสดินไม่เคยตีผู้หญิง นี่เป็นกฎของเขา แต่เมื่อพบกับเรนนี่ก็ได้ทำลายกฎนั้นเป็นข้อยกเว้น ประโยคนี้แทงรอยแผลเป็นที่ลึกที่สุดในหัวใจเขา เขากัดฟัน ตาแดงอย่างสุดๆ แล้วตบเธออย่างแรง ตาทั้งสองข้างมัว มองไม่เห็นอะไรเลยสักนิด

ลมหายใจของเรนนี่โรยริน ความเจ็บปวดในร่างกายของเธอทำให้เธอชาจนไม่สามารถแม้แต่จะอ้าปากได้

เลือดไหลลงที่มุมปากของเธอ ดวงตาของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ดูใกล้จะไม่ไหวแล้ว

พอชฎารัตน์เปิดประตูเข้ามา ฉากที่เห็นตรงหน้าน่าตกใจมาก ซาฮาร่าก็ดูเหมือนจะบ้าเช่นกัน เธอพุ่งเข้าไปร่วมตบกับหัสดิน

“นังบ้า! อีเลว! ที่นอนกับรัดเกล้า! แล้วยังจงใจทำฉันแท้งลูกอีก! ฉันจะตบแกให้ตาย!”

ทั้งสามตะลุมบอนกันราวกับเป็นบ้าไปแล้ว ฉากตรงหน้าไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้คนที่เห็นต้องหวาดกลัว

ชฎารัตน์รู้สึกกลัวจริงๆ หัสดินดูเหมือนจะเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย ใบหน้าของเรนนี่มีเลือดออกมาไม่น้อย…

จะให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ชฎารัตน์ก้าวไปข้างหน้าต้องการแยกทั้งสามคนออกจากกัน แต่แรงของเธอไม่เพียงพอ

เพื่อเรนนี่แค่คนเดียว มันไม่คุ้มที่จะปล่อยให้ลูกชายและลูกสาวเธอถูกฟ้องร้อง!

ไม่มีทางอื่น ชฎารัตน์ถอยออกมาจำต้องไปเรียกคน เมื่อเรียกคนมาช่วยจำนวนไม่น้อย ในที่สุดก็สามารถแยกทั้งสามออกจากกันได้

หลังจากนั้นก็รีบเรียกคุณหมอมาช่วยเรนนี่ ตอนนี้เรนนี่จะเป็นอะไรไปไม่ได้ มิฉะนั้นหากฟ้องร้องขึ้นมา หัสดินกับซาฮาร่าจะเสียเปรียบ!

คุณหมอตรวจอย่างละเอียดมาก ตั้งแต่ภายในถึงภายนอก ทีละขั้นตอนๆ ผลการตรวจสุดท้ายก็คือเรนนี่ไม่เป็นอะไรมาก

ชฎารัตน์ถึงจะโล่งใจ

หัสดินยังคงพิงกำแพง มือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่หลังมือ หลังมือยังมีรอยเลือด หน้าอกเขากระเพื่อมอย่างรุนแรง

ซาฮาร่าเป็นลมอีกครั้ง พยาบาลจึงนำตัวเธอออกจากห้องพักผู้ป่วย

“ลูกไม่ได้พักผ่อนนานแล้ว กลับไปนอนสักตื่นเถอะ” ชฎารัตน์พูดกับหัสดิน

อารมณ์ของเขาแปรปรวนมากเกินไป หากให้เขาอยู่ที่นี่ต่อ เกรงว่าหากเขาอารมณ์ร้อนขึ้นมาจะจัดการฉากนี้ไม่ได้

หัสดินหายใจอย่างแรงไม่พูดอะไร หมุนตัวหยิบเสื้อสูทมาพาดไหล่ลวกๆ ออกไปอย่างสับสน

ขณะที่เรนนี่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว ท้องฟ้ายังคงเป็นสีเทาไม่สว่าง

ดวงตาเธอล่องลอยขณะนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย จนเรียกได้ว่าว่างเปล่า ล่องลอยไปรอบๆ

เรื่องพัฒนามาถึงขั้นนี้แล้ว เรนนี่รู้ดีว่าความฝันทั้งหมดของเธอพังทลายลงแล้ว

เธอไม่สามารถรักษาตำแหน่งคุณนายตระกูลภูษาธรได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับทรัพย์สินจากการหย่า และไม่ได้เงินของรัดเกล้า ใครจะอนาถเหมือนเธอ?

จากจุดเริ่มต้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำอดทนอดกลั้นเพื่อให้ได้ตำแหน่งคุณนายตระกูลภูษาธรนั้น ตอนนี้กลับเหลือเพียงความว่างเปล่า

หมดกัน หมดกัน ไม่เหลืออะไร ไม่เหลืออะไรแล้ว!