TB:บทที่ 197 การหลบหนี
หลังจากระเบิดหัวของลิงคลั่งไปแล้ว เฉินหลงออกจากเกมไป เขาใช้เวลาเกือบสิบวันในเกมนั่น เฉินหลงต้องการจะออกไปข้างนอกและหายใจหายคอบ้าง ครั้งนี้ หากกู่เหวินยังกล้าจะกลับมาและยังหาเรื่องเขาอีก เขาคงจะส่งสาส์นไปหาเธอ และนั่นคือคำว่าตาย
เฉินหลงถอนตัวออกจากเกม เจิ้งอี้ประหลาดใจที่เห็นเฉินหลง “เจ้านาย นี่คุณผ่านพ้นระดับมาแล้วหรือ”
“ใช่ ฉันผ่านพ้นไปอีกระดับแล้ว” ใบหน้าเฉินหลงเผยยิ้มความมั่นใจ เขาพยักหน้า
“ยินดีด้วยครับ เจ้านาย” เจิ้งอี้ว่าอย่างรวดเร็ว
เฉินหลงตบไหล่เจิ้งอี้และกล่าวไปว่า “เจิ้งอี้ สิบวันที่ผ่านมาคงเป็นเรื่องลำบากสำหรับนายนะ ตอนนี้นายกลับไปที่บริษัทแล้วช่วยช่วยดูเรื่องการซ่อมวิลล่าที”
ระฆังทองระดับสิบสองทำให้ความมั่นใจของเฉินหลงช่างมากมายอย่างไม่มีเทียบเคียง เขาเชื่อว่าแม้เขาจะต้องเผชิญหน้ากับคนระดับพลังลมปราณก็ตาม คนคนนั้นคงถอยไป
เนื่องจากเป็นคำสั่งของเฉินหลง เจิ้งอี้จึงทำตามโดยสัญชาตญาณ
หลังจากที่เจิ้งไป เฉินหลงมองภาพข้างนอกกระจกไป
“เป็นเรื่องดีนะที่ได้พัฒนาพลังในเกม แต่โลกข้างนอกยังคงมีสีสันและความมีสีสันนี่เองที่ทำให้คนชอบ ฉันเบื่อมาสิบวันแล้ว นี่เป็นจะไปเวลาเดินเล่น”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เฉินหลงอาบน้ำและออกไป
ในช่วงที่เจิ้งอี้เพิ่งออกไป กู่เหวินได้รับข้อมูลมาจากแผนกต้อนรับที่กู่เหวินควบคุมไว้
เธอได้ยินว่าเฉินหลงออกไปแล้ว กู่เหวินรู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว เธอจึงจับตามองเฉินหลง หลังจากเฉินหลงออกไปจากโรงแรมด้วยรถของเขา เธอจึงตามเขาไปเงียบๆ
เขาไม่รู้ว่าเนื่องจาก “โลกใหม่” หรือไม่ ที่ทำให้ดูเหมือนว่ารถบนถนนจะน้อยลง ดูแล้วไม่แออัดเลยแม้แต่น้อย และดูท่าว่า“โลกใหม่”จะได้ช่วยเมืองหลวงแก้ปัญหารถติดทางอ้อมไปด้วย
เขาขับรถไป เฉินหลงขับรถเล่นไปโดยรอบเมืองหลวง หลังจากที่เขาพักอยู่ในโรงแรมมากว่าสิบวัน เฉินหลงไม่อาจออกไปจากโรงแรมได้ เฉินหลงไม่ได้เป็นคนที่ประสาทแข็ง เขาตื่นตูมเกินไป แต่แน่นอนว่าเขาจะต้องทำใจให้สบาย
ในขณะที่เขาออกไปจากโรงแรมนั้นเอง เฉินหลงพบว่ากู่เหวินได้ตามเขามา ให้หล่อนกินฝุ่นไล่หลังเขาไปก่อนแล้วกัน
หลังเขาขับรถไปรอบเมืองหลวงแล้ว เขาขับรถขึ้นทางด่วนไป กู่เหวินด่าว่าเขาเงียบๆแต่ยังคงตามเขาต่อไป
สามชั่วโมงผ่านไป เฉินหลงขับไปที่ชายหาดในเขตฝั่งทะเล
ในเวลานี้ พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน และแสงสายัณห์สาดส่องบนผืนน้ำสะท้อนแสงสีทองที่ช่างงดงามเหลือเกิน
เนื่องด้วยพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ชายหาดที่เฉินหลงอยู่ฉาบด้วยความมืดมิด และไม่มีนักท่องเที่ยวอยู่รอบๆเลย
“ออกมาสิ ผมรู้ว่าคุณอยู่นี่ดังนั้นไม่ต้องซ่อนอีกต่อไปแล้ว” ในตอนนั้นเฉินหลงกล่าวไปทันที
เหตุผลที่เฉินหลงออกมาที่ทะเลนี่และหาสถานที่ดีๆคือเพื่อจัดการเรื่องกู่เหวิน
กู่เหวินค่อยๆปรากฏตัวออกมาและลงสู่พื้น เธอสงสัยนิดหน่อย “ถ้านายรู้แล้วว่าฉันตามมา ทำไมนายถึงพาฉันมาที่นี่ นายคิดว่าว่าความมั่นใจที่มีจะทำให้เหนือกว่าฉันหรือ หรือนายคิดว่าฉันจะไม่ฆ่านายกันละ”
“มีคนบางคนนะครับที่ยากจะฆ่าตัวตาย ผมรู้สึกอึดอัดมากเลย ผมเลยอยากจะฆ่าคนที่ฆ่าผมก่อน ที่นี่เป็นที่ที่ดีนะครับ มีคนน้อยดี คุณคงมีน้ำไว้ฝังเวลาคุณตาย” เฉินหลงมองตาของกู่เหวิน
“เช่นนั้นนายมั่นใจมากสิว่าจะชนะฉันได้ ไหนดูสิว่าจะชนะฉันได้อย่างไร เปลี่ยนเป็นหมีตัวยักษ์”
เมื่อกู่เหวินว่าจบ เงาของหมียักษ์โผล่ออกมาเบื้องหลังเธออีกครั้ง และหมียักษ์นั่นใช้อุ้งเท้าของมันโจมตีใส่เฉินหลง
พลังของ “ลิงอสูรคลั่ง” นั้นแข็งแกร่งกว่าเงาหมีนี้มาก ทว่ามันไม่อาจทำร้ายเฉินหลงได้แม้แต่เส้นผม ตามปกติแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องหลบ เขาไม่จำเป็นต้องใช้ฉีจากระฆังทองด้วยซ้ำ
ตอนที่อุ้งเท้าหมีฉาบภาพลงมาบนเฉินหลง มันกลับเลือนหายไปดั่งควันไฟ
และเมื่อเงาของหมีได้หายวับไปแล้ว กู่เหวินไม่อาจยับยั้งที่จะพ่นเลือดที่เต็มปากออกมาได้ ตาของเธอเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่อยากเชื่อ
“แก พลังของแกผ่านพ้นไประดับลมปราณที่แท้จริงแล้วหรือ”
สิบวันก่อน พลังของเขายังเป็นแค่ระดับกำเนิด แต่สิบวันต่อมา พลังของเขาผ่านพ้นไปสู่ระดับลมปราณที่แท้จริง พลังนี่ช่างทรงพลังมากกว่าตัวเธอมาก เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไรกัน
เฉินหลงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ใช่แล้ว ผมผ่านพ้นไปสู่ระดับลมปราณแล้ว ผมอยากจะขอบคุณที่ทำให้ผมผ่านพ้นไปได้อย่างรวดเร็ว หากไม่มีคุณมาคอยกดดันผมแล้ว ผมคงไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องฉุกเฉินและผมคงไม่ต้องเสี่ยงชีวิตผมไปพัฒนาพลังผมด้วย ตอนนี้เป็นเวลาของผมที่จะได้ลิ้มรสสิ่งที่ลงทุนไปแล้ว”
“ทำไม แกถึงผ่านพ้นพลังไปสู่ระดับพลังลมปราณได้ แล้วพลังยังแข็งแกร่งกว่าฉันอีก” กู่เหวินถามไป
“ทำไมถึงคิดว่าผมจะบอกคุณละครับ” จบคำเขาก็โจมตีกู่เหวิน
“เปลี่ยนเป็นวิญญาณเต่า”
เงาเต่ายืนเบื้องหน้ากู่เหวิน
อย่างไรก็ตาม เงาเต่าไม่อาจต้านทานได้แม้แต่ครึ่งวินาที จากนั้นหมัดของเฉินหลงต่อยโดนส่วนท้องของกู่เหวิน
“ปัง”
กู่เหวินกระเด็นออกไปด้วยแรงของหมัดเฉินหลง เมื่อเธอเปิดปากในอากาศ กู่เหวินพ่นเลือดจำนวนมากออกมา นั่นคงได้ทำลายอวัยวะภายในของเธอไปแล้ว
เฉินหลงมีเมตตาในแง่ของการสู้ต่อไปหน่อย ไม่เช่นนั้นกู่เหวินคงไม่เพียงพ่นเลือดออกมาเล็กน้อยเท่านั้น แต่เธอยังโดนเฉินหลงอัดเละด้วย
“เป็นไปได้อย่างไรกัน ทำไมกัน” นี่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เมื่อกู่เหวินคิดถึงเรื่องนี้ในตอนนั้น
คนที่โดนเธอทำร้ายไปเมื่อสิบวันก่อนและไม่อาจจะสู้กลับได้ จะเป็นไปได้อย่างไรกันที่เขาจะทำร้ายเธอได้เพียงหมัดเดียวในสิบวันต่อมา แม้ว่าพลังของเขาจะมีระดับเท่าตัวเธอเอง ทว่าความต่างไม่ได้มากนัก
“มีห้าพลังแห่งความสำเร็จที่ต่อต้านคุณอยู่ ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่ไม่มีประสิทธิภาพ อา ผมดูถูกคุณไป ตอนนี้ใช้พลังไปสิบเปอร์เซ็นแล้ว” เฉินหลงขยันไปหากู่เหวินอย่างเชื่องช้า
เมื่อเธอได้ยินคำดังนั้น เฉินหลงใช้เพียงพลังแห่งความสำเร็จห้าอย่าง ใบหน้ากู่เหวินแปรเปลี่ยนเป็นแหยเก แม้เธอจะไม่อยากเชื่อว่าเฉินหลงกล่าวความจริง แต่เธอต้องเชื่อไปเมื่อได้เห็นพลังที่เฉินหลงแสดงออกมา ในตอนนั้น เธอยอมแพ้เรื่องที่จะแก้แค้นและต้องการจะหาโอกาสเพื่อหนีไป
เธอมองเฉินหลงที่กำลังมาทางเธอ กู่เหวินกล่าวว่า “ตราบใดที่นายปล่อยฉันไป ฉันตั้งใจจะยอมแพ้เรื่องการแก้แค้นแล้วจะไม่โผล่หน้ามาหานายอีกเลยในอนาคต”
การแก้แค้นหรือสิ่งอื่นไม่อาจเทียบเคียงได้กับชีวิตตน เรื่องอื่นไม่ได้สำคัญอะไรเลย
“คงช้าไปหากจะร้องขอความเมตตา ตราบใดที่ผมจะกำจัดคุณอยู่ คุณจะต้องไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าผมอีก คุณอยากได้สัญญาไหม” เฉินหลงมองไปที่กู่เหวินด้วยความรังเกียจ
“คิดว่ายังอยู่ในเกมหรือ ตูดัน ” เนื่องจากเฉินหลงไม่ยอมปล่อยเธอไป เธอจึงทำได้เพียงหลบหนี
หลังจากคำว่าตูดันออกมา กู่เหวินก็หายตัวไป
“หลบหนีงั้นหรือนี่ ช่างน่าสนใจว่าจะหนีไปไหนได้” เขาเห็นการหายตัวไปของกู่เหวินเช่นนี้ เฉินหลงคิดได้ถึงความน่าจะเป็นทันที
ตอนที่เขาไปรับแผนที่แถบตัวเลขหนึ่งหมื่นแถว เฉินหลงยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคการหลบหลีก ดังนั้นเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าจะพบจากที่กู่เหวินได้ภายหลังจากนี้
และแม้เขาจะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ทว่าเขาจับการเครื่องไหวของการหลบหนีได้ผ่านการชักนำของพลังงาน และแม้ว่าร่างของกู่เหสินจะหายไปแล้ว ทว่าเฉินหลงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเธอหนีไปตามชายหาดเรียบทะเลไป
“เจอตัวแล้ว”
หลังจากที่จับทิศหารหลบหนีของกูเหวินได้ เฉินหลงกำลังเตรียมพร้อมที่จะส่งพลังของเขาเพื่อไปเขย่าให้กู่เหวินออกมาจากทราย ในทันใดนั้น เขารู้สึกได้ถึงอากาศอันแหลมคม ที่คล้ายกับเป็นดาบพร้อมด้วยกลิ่นแห่งความตาย