พาคุณไปหาหนุ่มน้อยรูปหล่อ

ไม่รู้เป็นเพราะอยู่ใกล้ใบหูมากหรือไม่ เสียงนั้นต่ำทุ้มระคนแหบเครือ ดึงดูดหัวใจเหลือเกิน

โหลวลั่วไม่รู้ว่าคนรุ่นหนุ่มสาวเป็นแบบนี้กันหมดหรือเปล่า

ทุกคำที่พูดออกมาเหมือนหลอมละลายเข้าถึงหัวใจได้ จนทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลย

อุณหภูมิในรถลดลงได้อย่างยากลำบาก

รอจนเมื่อเขาอุ้มเธอขึ้นมาวางบนเตียงแล้วก้มลงระดมจูบ ทุกอย่างก็เหมือนฝันที่ไม่อยากจะตื่นขึ้น

ทว่าครั้งนี้โหลวลั่วเข้าใจแล้ว เขาไม่ชอบให้เธอพูดถึงของขวัญที่มีราคากับเขา

เธออ่านใจเขาไม่ค่อยออก วันต่อมาเธอจึงไปถามเพื่อน และได้คำตอบมาเพียงว่า

“มีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง ถ้าไม่วางแผนร้ายไว้ ประเภทรถคันเดียวมันกระจอกไป วิเคราะห์ตามหลักเศรษฐศาสตร์ คงเห็นว่าต้องอยู่กับเธอนานๆ ถึงจะได้มากกว่านั้น ถ้าเป็นอย่างนี้ ผู้ชายคนนี้ก็นับว่าฉลาดและอดทนเก่ง หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะชอบเธอมาก คนเขาพูดเรื่องความรักกับเธอ แต่เธอดันไปคุยเรื่องเงินกับเขา นี่มันช่าง…เดี๋ยวก่อน เธอคุยเรื่องเงินกับเขาแล้วเขาไม่พอใจงั้นเหรอ?”

โหลวลั่วส่งเสียงตอบยืนยันในลำคอ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

ตัดสินใจส่งข้อความไปหาเสียเลย “ฉันให้รถคุณ คุณไม่พอใจเหรอ?”

อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ถ้ายังไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร ก็ไม่ดีใจหรอก ท่านประธานโหลวจะทำเหมือนผมเป็นสัตว์เลี้ยงไม่ได้นะครับ ผมเป็นแฟนคุณนะ”

โหลวลั่วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดแป้นพิมพ์ “ยังมีอย่างอื่นอีกไหม?”

“อย่างอื่นงั้นเหรอ” ป๋ออิ่นนอนอยู่บนเตียง ยื่นมือออกไปสัมผัสแสงแดดที่ลอดเข้ามา คิ้วขมวดมุ่น เมื่อไม่มีเธออยู่ด้วย แสงตะวันก็ยิ่งชวนให้เขาไม่ชอบเข้าไปใหญ่

โหลวลั่วเซ็นเอกสารเสร็จก็ว่างมาตอบ “อย่างอื่นคุณที่ไม่ชอบ”

“หลายอย่างเลย” ป๋ออิ่นส่งข้อความเสียงตอบกลับ จงใจทำให้เสียงสั่นเครือเหมือนถูกเจ้าของทอดทิ้ง “คุณไปกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น ปล่อยให้ผมรออยู่ที่บ้านคนเดียว ผมเลยไม่อยากนอนแล้ว”

โหลวลั่วชะงักนิ่ง “งานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจแบบนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก”

ตอบแบบนี้อย่างที่คิด

ป๋ออิ่นพูดต่อด้วยเสียงเอื่อยเฉื่อย “ทีดูคนอื่นเล่นเกม ดูได้เป็นชั่วโมง”

เรื่องนี้เป็นความผิดของโหลวลั่วจริง ตั้งแต่รู้จักเด็กหนุ่มผมเงินคนนั้น เธอก็เอาแต่ค้นหาคลิปการแข่งของเขามาดู

เมื่อก่อนเธอไม่รู้สึกว่าเกมน่าสนใจอะไร ทว่าหลังจากที่รู้จักแบล็กพีช Z เธอเป็นต้องอยากหัวเราะทุกครั้งที่เห็นอีกฝ่ายเล่นหนึ่งต่อสาม

ถึงแม้จะเล่นเกมได้เท่แบบนี้ ทว่ากลับน่าเอ็นดูเหมือนเสือน้อย

ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า

“แถมยังซื้อสติกเกอร์ส่งในห้องที่เขาไลฟ์สดด้วย” ป๋ออิ่นพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็ยิ่งเฉยชา “ดูเหมือนเขาจะไม่เคยไลฟ์สดนี่นา”

โหลวลั่วหัวเราะเบาๆ “ขี้หึงจริงๆ นะเนี่ย”

“หึงเหรอ กับเขาเนี่ยนะ? ไม่มีวันหรอก” ป๋ออิ่นพูดเช่นนั้น พลางเบือนหน้ามองดูหมอนข้างที่อยู่ในห้องรับแขกด้วยแววตาเฉยชา “ต่อไปถ้าคุณอยากกอดหมอนข้าง ผมจะไปถ่ายรูปตัวเองมาทำเป็นหมอนให้คุณกอด”

โหลวลั่วได้ยินอีกฝ่ายพูด ก็ไม่ได้เอ่ยอะไร

“ช่างเถอะ คุณไปถ่ายมาสักภาพแล้วเอามาทำเป็นหมอนให้ผมกอดแล้วกัน” ป๋ออิ่นรับรู้ถึงแสงที่แรงกล้าขึ้นทุกขณะ ในที่สุดก็ขมวดคิ้วมุ่น เปลี่ยนตำแหน่ง น้ำเสียงของเขาแหบต่ำดึงดูดใจ “ถ้าไม่มีคุณอยู่ด้วย ก็ไม่น่านอนแล้ว”

นิ้วขาวนวลของเธอชะงัก เอ่ยปลอบแผ่วเบาว่า “วันนี้ฉันจะกลับเร็วหน่อย”

“ว่าง่ายอะไรอย่างนี้” ป๋ออิ่นหัวเราะ ทำให้บรรยากาศรอบด้านมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเจอหนุ่มน้อยรูปหล่อของคุณที่มิลาน”

…………………………………….

 “พรุ่งนี้?” โหลวลั่วมองตารางงานในช่วงสองวันที่จะมาถึง หยิบปากกามาทำสัญลักษณ์ลงบนการประชุมหนึ่งในนั้นแล้วเอ่ยขึ้น “อีกสี่ห้าวันถึงจะเป็นวันแข่งชิงแชมป์โลกไม่ใช่เหรอคะ”

ป๋ออิ่นลุกขึ้นดึงม่านปิด “มีงานมีทติ้งน่ะครับ”

โหลวลั่วเลิกคิ้ว ไม่ได้ถามว่าอีกฝ่ายรู้ได้อย่างไร ท่าทางเธอจะทำหน้าที่ตามข่าวไอดอลได้ไม่ดีพอ

แต่เมื่อทางทีมชาติเองไม่ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน ก็หมายความว่าไม่อยากให้รู้แผนการเดินทางของพวกเขา

เลขาของเธอก็เคยบอกว่า พวกนักกีฬาอีสปอร์ตต้องรับแรงดกดดันหนักมากในช่วงก่อนการแข่งขัน

ครั้งนี้คงเพราะเป็นการแข่งขันระดับโลก เมื่อถึงที่หมายจึงเริ่มมีข่าวปล่อยออกมา

งานมีทติ้งเป็นการภายในเหรอ?

โหลวลั่วหาอ่านข้อมูลมามากมายแต่ก็ไม่เห็นข้อมูล บางทีคนบางคนอาจซื้อข่าวมาจากพวกเอาตั๋วมาขายต่อ

การเดินทางไปมิลานล่วงหน้าวันหนึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องไม่ดี

เธออยากเห็นเด็กคนนั้นจริงๆ ว่าตัวจริงจะเป็นอย่างไร

นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับโหลวลั่วมาก่อน

วันที่ 28 เดือนตุลาคม นี่เป็นวันหนึ่งที่เหล่าแฟนคลับอีสปอร์ตรอคอยมากที่สุด

ข่าวทางการแจ้งว่า ทีมนักกีฬาทุกคนเดินทางมาถึงมิลานแล้ว ทั้งยังส่งภาพในสนามบินให้ดู

ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ทำไมถึงไม่ประกาศข่าวล่วงหน้า แบบนี้พวกเขาจะได้ตามมาดูตัวจริงได้

“อิจฉาพวกนักเรียนที่ไปเรียนต่อที่นั่นอะ”

“ฉันเห็นแค่แผ่นหลังของพี่แบล็ก ไม่เห็นหน้าเลย”

“พวกเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับเวลาที่ต่างกัน ถึงได้ไม่เตรียมคนไปต้อนรับ”

“การแข่งขันอีสปอร์ตไม่ต้องการคนไปรับที่สนามบินนะ ทุกคนมีสติกันด้วย”

แต่ด้วยเหตุจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน คนอื่นยังพอว่า

แต่จ้าวซานพั่งได้แต่นอนแผ่ที่โรงแรมอย่างอ่อนแรง ทั้งยังบอกทุกคนว่าค่อยเรียกเขาตอนไปกิน ถ้าไม่ใช่เรื่องกิน แต่เป็นการไปเดินเล่นชมเมืองอะไรทำนองนี้ เขาไม่สนใจสักนิดเดียว

“มีกิจกรรม เป็นงานมีทติ้ง” ป๋อจิ่วตบบ่าอีกฝ่าย “ไม่ออกไปแสดงความหล่อหน่อยเหรอไง”

จ้าวซานพั่งโบกมือ “งานนี้เฮียไม่ไหวจริงๆ ให้โอกาสฉินเจ้าแผนการก็แล้วกัน”

ฉินมั่วยืนอยู่ที่เดิม เสี้ยวหน้าดูสูงส่งมาก ทำเหมือนไม่ได้ยินเขา แค่สั่งเล็กน้อยก่อนเดินออกไป “ตอนนี้สภาพกระเพาะของเทพอ้วนกินได้แค่โจ๊ก พวกกินของดีๆ อะไร พวกเราก็ไม่ต้องชวนเขานะ แค่ดูๆ เขาหน่อย อย่าให้เขากินของพร่ำเพรื่อล่ะ”

“นั่นแน่นอนอยู่แล้วครับ” คุณหมอที่ดูแลทีมขยับแว่นบนดั้งจมูก

จ้าวซานพั่ง…เฮ้ย เขากำลังจะเปิดกล่องบะหมี่สำเร็จรูปมากินแก้อยากเสียหน่อย แต่เจ้าฉินจอมแผนการดันมาเบรกแผนเขาเสียได้!

ตอนห้าโมงเย็น

ยามเย็นของมิลานช่างสวยงาม ใต้สิ่งปลูกสร้างแบบยุโรป พอจะเห็นนกพิราบข้าวได้ตามบ่อน้ำพุของโรงแรม กำลังแสดงความละเอียดอ่อนมีชีวิตชีวาอย่างแช่มช้า

ด้วยเหตุที่การแข่งระดับโลกใกล้จะมาถึง ย่อมมีการทำโฆษณาตามลานจัตุรัสต่างๆ

แฟนคลับทยอยเข้ามาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกไว้ล่วงหน้า

ยิ่งไปว่านั้น หลังจากที่ทุกทีมให้สัมภาษณ์เสร็จก็มีการพบปะกันเป็นการภายใน

ทางฝ่ายประเทศจีนก็เช่นกัน

เพียงแต่พวกเขาไม่ได้แจ้งข่าว อีกทั้งยังอยู่ต่างประเทศ คนที่มาที่นี่จึงมีไม่เยอะ

ส่วนใหญ่จะวิ่งไปที่โซนสนามแข่งของทีม CST ทางซ้ายมือ

ถึงอย่างไรในสายตาของพวกเขา ทีมจีนก็ไม่น่ากลัว

แถมทางเอเชียก็ได้ทีมจีนทีมนี้ที่ลงแข่ง นั่นเท่ากับว่าเป็นโอกาสให้ทีม CST ของพวกเขาคว้าแชมป์ชัดๆ

หากดูผลงานของทีมจีนในอดีต ก็ไม่ใช่คู่แข่งของพวกเขาเลย

ทีมนี้จะมีใครกัน ไม่คุ้มให้พวกเขาเสียเวลาไปดูหรอก

…………………………….