บทที่ 75 ลักขื่อเปลี่ยนเสา โดย Ink Stone_Romance
ไม่นาน ขนมเปี๊ยะรวมจานหนึ่ง และขนมชิงถวนอีกจานหนึ่งก็ถูกจัดขึ้นโต๊ะ
ที่เรียกว่า ‘รวม’ ก็เพราะในจานมิได้มีเพียงขนมชนิดเดียว มีทั้งขนมเปี๊ยะรูปดอกไม้ไส้ถั่วแดง ขนมเปี๊ยะรูปปลาทองไส้เม็ดบัว ขนมเปี๊ยะรูปหอยกาบไส้งา ทั้งยังมีขนมมันปูกรอบไส้ไข่แดง ขนมทุกชนิดล้วนได้รับการรังสรรค์มาในรูปร่างที่เหมาะสำหรับเด็ก เด็กเล็กในสีชุนเก๋อต่างจ้องมองตาเป็นมัน
ผู้คนต่างอดที่จะกล่าวเกินจริงมิได้ ยังมิต้องเอ่ยถึงเรื่องรสชาติ เพียงแค่เห็นว่าแม่นางตู้ใส่ใจกับเด็กที่มาร่วมงานเช่นนี้ จึงรู้สึกว่านางควรค่าแก่การได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก
เหยียนหรูอวี้รู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย รู้จักกับแม่นางตู้มานมนาน นางย่อมรู้ดีว่าแม่นางตู้เป็นคนที่น่าเบื่อ แม้ฝีมือของนางทั้งแม่นยำและประณีต ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสนใจเด็กเช่นนี้
แน่นอนว่าเรื่องนี้มิใช่เรื่องเลวร้าย ยิ่งแม่นางตู้ตั้งใจมากเท่าไร ฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น และเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยมีความสุข โอกาสที่นางจะช่วยเหยียนหรูอวี้กล่าวต่อหน้าพระมเหสีย่อมมีมากขึ้นด้วย
“ข้าอยากได้เปลือกหอย”
“ข้าอยากได้ปลา”
“ข้าอยากได้ปู”
“ข้าอยากได้ดอกไม้…”
แขกเหรื่อตัวน้อยๆ ต่างเลือกขนมรูปร่างที่ตนต้องการ ยังเหลือขนมอีกไม่น้อย ฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยและสตรีคนอื่นๆ จึงได้ลาภปากไปด้วย
แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดไปเองหรืออย่างไร เนื้อแป้งของขนมเหล่านี้ดูคล้ายกับว่าจะหลุดออกมาเล็กน้อย ทว่ามิได้กระทบกับรสชาติเลยสักนิด เนื้อแป้งบางกรอบเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นบางประหนึ่งปีกของจักจั่น เมื่อกัดเข้าไป เสียงแตกของเนื้อแป้งกรอบจะทำให้รู้สึกสบายหูราวกับได้นวดแก้วหูก็มิปาน
ไส้ขนมนั้นหวานกำลังดี หากหวานน้อยไป ขนมก็จะจืด หากหวานเกินไปก็จะเลี่ยน เนื้อไส้แน่นและนุ่ม ละลายในปาก แม้แต่ผู้ที่ลิ้นและฟันไม่ดีอย่างฮูหยินผู้เฒ่าเว่ย เมื่แได้ชิมเข้าไปก็ยังรู้สึกว่าขนมนี้รสเลิศอย่างไม่น่าเชื่อ
ขนมที่แขกเหรื่อชื่นชอบมากที่สุดก็คือขนมมันปูกรอบ ไส้ขนมประเภทนี้ไม่เหมือนกับไข่เค็มที่เคยกินมา ไส้ไข่เค็มนั้นดูเหมือนจะเล็กกว่า ทว่ามีสีแสดสวยกว่ามาก ทั้งยังเป็นมันเยิ้ม รสชาติกลมกล่อม เค็มกำลังพอดี เมื่อกินเข้าไปจะรู้สึกได้ถึงเนื้อสัมผัสหยาบของไข่แดงเค็ม แต่หากละเลียดเบาๆ ก็จะละลายได้ในปาก
ยิ่งกินกับถั่วแดงหวานและเนื้อแป้งหอมมัน มันช่าง…มันช่างมหัศจรรย์เป็นที่สุด!
เพียงแต่…เนื้อแป้งมี…เม็ดทราย…ติดอยู่เล็กน้อย ทว่าจุดด่างพร้อยเพียงเท่านี้มิสามารถบดบังรสอร่อยล้ำของขนมไปได้!
ฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยอายุมากแล้ว มิได้โปรดปรานการกินเหมือนคนอายุน้อย อาหารที่จัดวางขึ้นโต๊ะก่อนหน้านี้นางล้วนชิมไปอย่างละคำ ทว่าขนมมันปูกรอบนี้ นางกินไปถึงสองชิ้น!
หากมิได้เห็นว่าสีหน้าของเด็กๆ ดูประหนึ่งจะลุกขึ้นมาประท้วง เกรงว่านางก็คงจะกินเพิ่มอีกหนึ่งชิ้น
ท่ามกลางความร้อนระอุของการแย่งชิงขนมนั้น กลับไม่มีใครถามถึงขนมชิงถวนเลย
ที่จริง ชิงถวนของวันนี้ เป็นชิงถวนอร่อยที่สุดเท่าที่ฮูหยินผู้เฒ่าเว่ยเคยกินมาทั้งชีวิต
ชิงถวนเป็นอาหารพื้นเมืองของบ้านเกินฮูหยินผู้เฒ่าเว่ย ทำจากน้ำที่คั้นจากต้นอ้ายเฉ่าผสมกับแป้งข้าวเหนียวจนได้เป็นแป้งสีเขียวสด เหมันต์ฤดูมิอาจหาต้นอ้ายเฉ่าสดได้ แม่นางตู้จึงใช้ถั่วเขียวแทน สีสันละม้ายคล้ายกัน หากแต่หอมกว่ามาก รูปลักษณ์ประณีตงดงาม ใช้ถั่วแดงบดและไข่แดงเค็มทำเป็นไส้ รสหวานโดดเด่นของถั่วแดง ตัดรสสัมผัสของไข่แดงเค็มเป็นอย่างดี
เหยียนหรูอวี้กล่าวเสียงค่อยว่า “แม่หลิน ท่านเข้าไปในครัว บอกแม่นางตู้ว่าให้นำขนมเปี๊ยะเหล่านี้มาเพิ่มอีกสักหน่อย”
“ได้” แม่หลินตอบรับ
“ขนมเปี๊ยะ?” แม่นางตู้ซึ่งกำลังเช็ดมีดอยู่พลันชะงักไป “ข้ามิได้ทำ ข้าทำแต่ชิงถวน”
“ไอหยา! ขนมของพวกเราเล่า? ไฉนจึงหายไปได้?” ในห้องครัวอีกด้านหนึ่ง อวี๋ซงเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึง
เดิมทีทั้งสามคนมาเพื่อทำเต้าหู้เหม็น ทว่าอวี๋ซงทำของตกเสียหายที่หน้าปากประตูไปไม่น้อย หลังจากที่ถามบ่าวในเรือน จึงรู้ว่าคฤหาสน์สกุลเว่ยมีแปลงผัก พวกเขาไปขออนุญาตก่อนจึงจะไปเก็บผักได้ ใครจะรู้ว่าหลังจากที่กลับมา ขนมบนโต๊ะหายไปเสียแล้ว!
“ดูซิว่าของอื่นหายไปหรือไม่?” อวี๋เฟิงถาม
อวี๋ซงจึงลองตรวจสอบวัตถุดิบของพวกตน “ไม่มีอะไรหาย มีเพียงขนมกล่องหนึ่งที่หายไป! ใครเอาไปกัน?”
“เอาไปแล้วก็เอาไปเถอะ กล่องนั้นตกพื้นแล้ว ของที่ยังไม่เลอะข้าวางไว้ตรงนี้” อวี๋หวั่นกล่าว แล้วหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาจากตะกร้า
อวี๋ซงอุทานว่า “อ้อ”
“ได้ยินว่า…คุณชายห้าเชิญพ่อครัวมา หรือว่าจะเป็นพวกเขาที่ทำขนม?” แม่หลินกล่าวเสียงเบา
ความจริงนั้นเป็นดังที่แม่หลินคาดเดาทุกประการ บ่าวซึ่งทำหน้าที่ยกสำรับรออวี๋หวั่นอยู่นาน จึงเข้าไปในครัวหมายจะเร่งพวกเขา แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบซึ่งดูแลครัว แม่ครัวก็ไม่อยู่เช่นกัน นางเห็นขนมวางอยู่บนเตา จากนั้นก็ทึกทักว่าเป็นขนมที่อวี๋หวั่นทำเสร็จแล้ว จึงนำขนมจัดใส่จานและนำไปวางขึ้นโต๊ะ
เหยียนหรูอวี้กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน “อย่าเอ็ดไป”
แม่หลินไม่เข้าใจ
เหยียนหรูอวี้จึงกระซิบที่ข้างหูของนางสองสามประโยค
แม่หลินตะลึงงัน จะให้ติดสินบนบ่าวผู้นั้น เพื่อให้นางโกหกว่าเป็นขนมที่ยกมาจากห้องครัวของแม่นางตู้หรือ?
“แม่นางตู้มิใช่ทำไม่ได้” เหยียนหรูอวี้กล่าว
นี่คือเรื่องจริง แม่หลินแอบหยิบขนมสองสามชนิดไปให้แม่นางตู้ชิม แม่นางตู้กล่าวว่า แม้ขนมนี้จะอร่อย แต่นางก็ทำได้ ทั้งยังทำได้อร่อยกว่านี้เสียอีก
แต่ไหนแต่ไรมาแม่นางตู้มิเคยยกตนข่มท่าน หากนางกล่าวว่าตนสามารถทำได้ดีกว่า นั่นหมายความว่าต้องทำได้ดีกว่าเป็นแน่
เหยียนหรูอวี้มีสีหน้าราบเรียบ พลางสั่งว่า “ท่านไปดูว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง แล้วให้แม่นางตู้ทำต่อหน้าพวกเขา!”
……………………………………………….