อันซิงรู้ว่าเทียนซิงกรุ๊ปในตอนนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเซียวจิ่งสือโจมตีเทียนซิงกรุ๊ป อันซิงรู้ว่าเหตุแรกเริ่มเดิมทีคือเธอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้เธอทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นไว้ให้เซียวจิ่งสือจับได้ ก็คงไม่ทำให้บ้านตระกูลอันต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ในระยะนี้อันชิงพยายามแก้ตัวด้วยการมุ่งมั่นเจรจาความร่วมมือกับบริษัทต่างๆ เพื่อทำความร่วมมือกับพวกเขา
อันซิงกำลังนั่งอยู่ที่บ้านก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรหาเธอ
“มีประธานบริษัทหนึ่งอยากจะเจรจากับคุณค่ะ ตอนค่ำวันนี้ในงานพบปะสังสรรค์กันเล็กๆ เขาเชิญคุณไปร่วมด้วยจะได้คุยเรื่องความร่วมมือกันค่ะ” ปลายสายอีกด้านหนึ่งเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง
อันซิงรู้สึกดีใจขึ้นมา นี่เป็นโอกาสที่เธอรอคอยอยู่ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เธอได้ยื่นข้อเสนอความร่วมมือให้กับบริษัทที่มีความสามารถมากแห่งหนึ่ง หวังว่าบริษัทแห่งนี้จะร่วมมือกับเทียนซิงกรุ๊ป จะได้ช่วยบริษัทให้พ้นจากวิกฤต ตอนนี้โอกาสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว อันซิงย่อมจะต้องคว้าไว้ให้มั่น
ถึงเวลาไปร่วมงานเลี้ยงแล้ว อันซิงแต่งตัวสะสวยแล้วออกจากบ้านไปอย่างมั่นใจ
พอมาถึงงานเลี้ยงเธอก็เห็นประธานกรรมการบริษัทแห่งนั้นในทันที อันซิงเผยอยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปหา แต่ประธานกรรมการแค่มองดูเธอแวบหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรกับเธอเลย อันซิงรู้สึกขายหน้ามากแต่เธอก็ได้แต่รออยู่ที่นั่น เรื่องความร่วมมือยังไม่ได้คุยเลยนี่
รอจนผู้คนรอบข้างท่านประธานแยกย้ายสลายตัวกันไปแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจึงเดินมาหาอันซิง
ท่านประธานกรรมการมองอันซิงด้วยสายตาลามเลีย พูดว่า “เธอก็คือคุณหนูอันซิงจากเทียนซิงกรุ๊ปสินะ ทำไมบริษัทจึงส่งเธอมาล่ะ อ้อ จุดจบแบบตอนนี้ของเทียนซิงกรุ๊ป อีกหน่อยก็ไม่ใช่คุณหนูที่ไหนอีกแล้ว”
อันซิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเทียนซิงกรุ๊ปในตอนนี้ตกต่ำอย่างมาก ลุกขึ้นมาต่อกรกับบริษัทใหญ่พวกนี้ไม่ได้ ถ้าเป็นอันซิงเมื่อก่อนนี้ คงต้องลุกขึ้นด่ากราดใส่ท่านประธานนี่ไปแล้ว แต่ตอนนี้บริษัทกำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เธอจึงได้แต่สะกดกลั้นใจไว้ เพื่อให้ได้ความร่วมมือจากอีกฝ่าย
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน ที่คุณพูดมาก็จริงอยู่ เทียนซิงกรุ๊ปตอนนี้ต้องเจอกับภาวะฉุกเฉินจริงๆ เพราะอย่างนี้ไงคะฉันจึงมายืนขอร้องคุณอยู่ที่นี่ แต่ทุกบริษัทต่างก็ต้องเจอกับภาวะตกต่ำและประสบความสำเร็จกันทั้งนั้น ครั้งนี้คุณช่วยพวกเรา คราวหน้าคุณย่อมจะได้รับความช่วยเหลือเราเช่นกัน ฉันจำเป็นต้องได้รับโอกาสความร่วมมือในครั้งนี้กับบริษัทของคุณจริงๆ นะคะ” อันซิงรวบรวมความกล้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ออกมา
ท่านประธานดูเหมือนจะไม่พอใจกับคำพูดของอันซิงนัก เขาปรายตามองอันซิง สีหน้าเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจอันซิงอย่างมาก
“งั้นก็หมายความว่าต่อไปบริษัทของเราก็จะต้องเจอกับวิกฤตเหมือนบริษัทของพวกคุณงั้นสิ? คุณนี่รู้จักล้อเล่นนะ คำพูดนี่ฟังขัดหูผม แล้วจะให้ร่วมมือกับเทียนซิงกรุ๊ป สถานการณ์แบบพวกคุณตอนนี้ เราไม่มีเหตุผลอะไรจะร่วมมือด้วยหรอก ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับบริษัทเราเลยสักนิด” ท่านประธานพูดเสียงเย็นชา
อันซิงรู้สึกกลัวขึ้นมาอยู่บ้าง เธอรู้ว่านี่เป็นโอกาสในการนัดเจรจาที่ได้มาไม่ง่ายเลย ถ้าต้องสูญเปล่าไปแบบนี้ก็น่าเสียดายเกินไป
อันซิงรู้ว่าในเมื่อท่านประธานยอมนัดเธอออกมาย่อมจะต้องลองหยั่งเชิงเธอดูแน่ ยังมีโอกาสที่จะได้ความร่วมมืออยู่นี่น่า
อันซิงยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเชื่อว่าถ้าคุณร่วมมือกับเรา ต่อไปจะต้องเป็นประโยชน์ต่อคุณแน่ ครั้งนี้เทียน
ซิงกรุ๊ปเจอกับภาวะวิกฤต แต่ฉันเชื่อว่าพวกเราจะฟื้นตัวกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้แน่ ซึ่งนั่นคือเราต้องได้รับความช่วยเหลือจากคุณค่ะ”
ท่านประธานมองดูอันซิง แล้วขยับเข้ามาตรงหน้าอันซิง ทั้งสองนั่งลงบนโซฟาที่มุมห้อง
อันซิงรู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยหนึ่ง เธอคิดว่าคราวนี้ท่านประธานนี่น่าจะนั่งลงเจรจาความร่วมมือกับเธอดีๆ ซะที!
อันซิงพูดเสียงนุ่มนวลว่า “ท่านประธานคะ ความสามารถของคุณพวกเราต่างก็เคยเห็นกันมาก่อน ถ้าคุณสามารถช่วยเทียนซิงกรุ๊ปได้จริงๆ ต่อไปพวกเราคนของบ้านตระกูลอันจะขอบคุณคุณอย่างมากเลยค่ะ”
ท่านประธานมองอันซิงด้วยสายตาประหลาด พูดว่า “คุณคนเดียวก็ขอบคุณได้”
อันซิงว้าวุ่นใจอยู่บ้าง เธอเองก็เคยเห็นเรื่องพวกนี้มาก่อน เข้าใจความหมายของท่านประธานได้ในทันทีอันซิงก้มหน้าลงกับพื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
ท่านประธานวางมือบนขาของอันซิง ขยับเข้าชิดตัวเธอ อันซิงมองดูผู้ชายตรงหน้าที่น่ากลัวเหลือทนคนนี้ เธอลุกพรวดขึ้นยืน
“ขอโทษ ขอโทษค่ะ” อันซิงพูดอย่างลนลาน
ท่านประธานหน้าหุบฉับ แววตาวาวกลายเป็นประกายโกรธจัดมองดูอันซิง
อันซิงไม่อยากปล่อยโอกาสที่ได้มาไม่ง่ายครั้งนี้ แต่เธอก็ไม่อยากใช้ร่างกายแลกเปลี่ยนกับความร่วมมือนี้
ทันใดนั้น อันซิงก็หันไปเห็นหลินหว่านที่มางานเลี้ยงเล็กๆ นี้เช่นกัน เธอพบว่าตัวเองเกิดความคิดเลวร้ายอย่างหนึ่งขึ้น เธออยากจะให้หลินหว่านมาแทนที่เธอ
“อันซิง ตอนนี้เธอมีโอกาสแต่ไม่รับไว้ แค่เธอรับปากฉัน เรื่องความร่วมมือก็คุยกันได้ง่ายมาก ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนฉลาด รู้ว่าควรจะเลือกอย่างไรใช่ไหม” ท่านประธานสบตาอันซิงพูดเสียงเครียด
อันซิงมองไปทางหลินหว่านที่กำลังพูดคุยกับคนอื่นที่อยู่ห่างออกไป คิดในใจว่า “หลินหว่านเธอมาที่นี่ มาเจอฉันเองนะ อย่ามาโทษว่าฉันล่ะ ฉันจำเป็นต้องดึงให้เธอมาทำเรื่องนี้ซะแล้ว”
อันซิงยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านประธานคะ ฉันไม่ใช่คนสวย รูปร่างก็ไม่เซ็กซี่นัก คุณคงไม่ชอบนักหรอก ดูนั่นสิ” อันซิงชี้มือไปที่หลินหว่านแล้วพูดต่อไปว่า “เธอก็เป็นคนสนิทชิดเชื้ออย่างมากกับเทียนซิงกรุ๊ปเรา คุณดูสิเธอไม่เพียงแต่หน้าตาสวย หุ่นก็ดีมากด้วย ฉันเชื่อว่าคุณต้องชอบผู้หญิงแบบเธอนี่ล่ะ”
ท่านประธานมองไปทางหลินหว่าน ผู้หญิงตรงหน้านี้ดูนุ่มนวลมาก ท่ามกลางพวกผู้หญิงชั้นสูงเหล่านี้เธอดูมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างหนึ่ง ท่านประธานมองดูหลินหว่านแล้วผงกศีรษะ
“งั้นเธอไปจัดการให้ผม เอาผู้หญิงคนนี้แล้วกัน ถ้าเรื่องนี้ทำได้สำเร็จ แน่นอนว่าเรื่องความร่วมมือก็จะราบรื่นมาก เธอน่าจะเข้าใจดีอยู่แล้ว” ท่านประธานยิ้มหยัน
อันซิงผงกศีรษะ พอท่านประธานจากไปแล้ว อันซิงก็ถอนใจเฮือกอย่างโล่งใจในที่สุด โชคดีที่หลินหว่านโผล่มาตอนนี้ ทำให้เธอรอดตัวไปได้หวุดหวิด ตอนนี้อันซิงมานั่งคิดว่าจะให้หลินหว่านตกลงรับปากได้ยังไง
อันซิงกลับไปแล้วตัดสินใจบอกเรื่องนี้ให้อันโฮ่วสยงทราบ เธอรู้ว่าอันโฮ่วสยงนั้นเพื่อผลประโยชน์ตรงหน้าแล้วสามารถสละสิ่งต่างๆ ได้มากมาย แน่นอนว่าคราวนี้บริษัทเจอกับวิกฤตใหญ่ขนาดนี้ อันโฮ่ว
สยงต้องไปหาหลินหว่านแน่
อันซิงคิดว่าถ้าหากหลินหว่านรับปากเงื่อนไขของท่านประธานนั่น เธอก็จะใช้เรื่องนี้เป็นชนักปักหลังหลินหว่าน ไม่เพียงแต่จะทำให้เทียนซิงกรุ๊ปได้โอกาสครั้งนี้ ยังจะใช้บีบให้เธอไปจากเซียวจิ่งสือได้ด้วย ช่างเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับเธอแท้ๆ เลย