TQF:บทที่ 705 นายน้อยวิหารสวรรค์(2)
“ถูกต้อง คนที่อยากจะรังแกยัยหนูเสี่ยวเสี่ยวคงจะมีไม่มาก มีแค่พวกปีศาจเฒ่านี่แหละที่ออกโรง แต่ถึงเวลานั้นพวกเราจะไปหานาง”
“อาจารย์ อาจารย์หญิงวางใจได้ อีกไม่นานหลังจากที่พวกเราจัดการทางนี้เรียบร้อยแล้วจะรีบไปหาเสี่ยวเสี่ยวทันที” ใบหน้าของโม่ซวนซุนอ่อนโยนขึ้น เผยรอยยิ้มอ่อนๆ
“ซุนเอ๋อ ถึงยังไงอาจารย์ปู่ก็เป็นอาจารย์ของเจ้า ต่อไปห้ามเสียมารยาทกับเขาเด็ดขาด บุญคุณของเขามีมากกว่าความผิด ที่สำคัญเขาไม่ได้คิดร้าย ที่ทำไปทุกอย่างก็หวังดีกับเจ้า เจ้าห้ามโกรธเคืองเขา เป็นลูกผู้ชายอยู่ในผืนแผ่นดินนี้ต้องแยกแยะบุญคุณและความแค้นให้ออก ไม่ว่าอย่างไรเจ้ากับเขาก็มีวาสนาอาจารย์ศิษย์ต่อกัน เข้าใจมั้ย”
โม่อู๋เซอมองลูกศิษย์และลูกชายตรงหน้า เขาเข้าใจนิสัยลูกชายตัวเองดี อย่าเห็นว่าเขาอายุ 20 กว่าแล้ว แต่ยังเอาแต่ใจและนิสัยเด็กอยู่มาก โดยเฉพาะคนที่ตัวเองรัก เขาจะปกป้องจนถึงที่สุดไม่ว่าถูกหรือผิด
“อาจารย์ ศิษย์เข้าใจ”โม่ซวนซุนพยักหน้านิดหน่อย
“ดีแล้ว ในเมื่อเจ้ามีแผน จะไปจากที่นี่เพื่อไปหาเสี่ยวเสี่ยวเมื่อไหร่ก็บอกพวกเรา เจ้าจะกลับไปอยู่ที่ตัวเองหรือจะอยู่กับพวกเรา”
“อยู่กับพวกเราสิ” หรงจิ้งซือดึงศิษย์รักไว้และมองโม่อู๋เซออย่างไม่พอใจ ก่อนจะพูดนุ่มนวล “ซุนเอ๋อไม่ได้กินฝีมืออาจารย์หญิงมานานแล้ว เดี๋ยวอาจารย์หญิงทำอะไรอร่อยๆให้กิน”
“ได้เลยอาจารย์หญิง ซุนเอ๋อคิดถึงฝีมืออาจารย์หญิงจะแย่แล้ว”โม่ซวนซุนยิ้มนิดๆ เดินไปกับอาจารย์หญิงโดยไม่สนใจอาจารย์ตัวเอง “อาจารย์หญิง ซุนเอ๋อช่วยนะ”
“ได้ ซุนเอ๋อเป็นเด็กดีที่สุด”
“อาจารย์หญิงจะทำอะไรเหรอ”
“เจ้าชอบกินอะไรอาจารย์หญิงก็จะทำอันนั้นแหละ”
“อาจารย์หญิงดีที่สุดเลย”
บทสนทนาอันอบอุ่นของ 2 แม่ลูกดังมา โม่อู๋เซออดยิ้มออกมาไม่ได้ เหมือนกับวันเก่าๆ ทุกครั้งที่ลูกศิษย์ออกจากการเก็บตัวก็จะเกิดภาพตรงหน้าขึ้น
ชิงยาง บ้านตระกูลฟาง
“คุณหนู พวกเขามาอีกแล้ว”
เสียงของหยูเฮงน้อยดังมา เฉิงเสี่ยวเสี่ยวอดขมวดคิ้วไม่ได้ ในช่วงเวลา 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา พระโอรสทั้ง 2 มาเฝ้าอยู่ที่บ้านตระกูลฟางทุกวันเหมือนกินยาผิดมา คอยติดตามนางไม่ห่าง ไม่ว่าจะโดนหยูเฮงน้อยแกล้งยังไงก็ยังมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกนาง
“ไม่ต้องสนพวกเขา”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวชินแล้ว จึงเล่นพิณโบราณต่อไป พิณโบราณนี้ตาเฒ่าฮ่องเต้ให้มา นางเอามาแก้เบื่อได้พอดี
หยูเฮงน้อยเห็นว่านางจะเล่นพิณอีกครั้งก็ยิ้มแย้มอย่างดีใจ “คุณหนู จะเล่นพิณที่นี่รึเปล่า”
“เสี่ยวเสี่ยวจะเล่นพิณ ท่าทางพวกเราจะมาถูกจังหวะแล้ว” เสียงกลั้วหัวเราะของหวงฝู่เส้าจวินดังมา
และมีอีกเสียงดังตามมา “คุณหนูเสี่ยวเสี่ยวมากด้วยความสามารถ สุดยอดจริงๆ”
เมื่อเสียงมาคนก็ปรากฏ คน 2 คนที่ท่าทางไม่เหมือนกันเลยปรากฏตัวขึ้นที่อีกด้านของทางเดินและเดินมาทางพวกนาง
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวขี้เกียจจะเงยหน้า เอาผ้าเช็ดพิณโบราณที่ชื่อว่าพิณเฟิ่งหวงราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“เฮ่ะๆ พวกเจ้ามาอีกแล้ว ส่งของขวัญการพบหน้ามาก่อน” หยูเฮงน้อยปล้นพระโอรสทั้ง 2 อย่างไม่เกรงใจด้วยท่าทางโจรป่า
พระโอรสทั้ง 2 หยิบของ 1 สิ่งออกจากแหวนมิติให้กับเจ้าตัวเล็กที่ปล้นจนเป็นนิสัย
หยูเฮงน้อยเก็บของไว้อย่างไม่เกรงใจ เอียงหัวเล็กๆและย่นจมูกอย่างน่ารัก “ทำไมพวกเจ้า 2 คนถึงว่างขนาดนี้ล่ะ งานประลองการสกัดยาจะเริ่มแล้วนี่ ทำไมพวกเจ้าไม่ไปเตรียมตัว”
“ก็แค่งานประลองการสกัดยา ข้าสกัดไม่เป็นสักหน่อย จะเตรียมตัวทำไม” หวงฝู่เส้าจวินตอบยิ้มๆ
หวงฝู่หยีมู่นั่งลงในศาลาอย่างไม่ใส่ใจ สายตากลับทอดไปที่คนที่กำลังยุ่งอยู่ “เสี่ยวเสี่ยว ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าเล่นดนตรีเป็นด้วย รู้อย่างนี้พิณหมิงเหอที่ข้าเก็บเอาไว้ก็จะได้เอาให้เจ้าด้วย”
“เฮ่ะๆ พระโอรสทั้ง 2 อยากจะฟังเพลงต้องจ่ายเงินนะ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้ฟัง เพลงของคุณหนูข้าเพราะมากๆ เป็นเพลงที่พวกเจ้าไม่เคยฟังอย่างแน่นอน”
ไม่ว่าเมื่อไหร่หยูเฮงน้อยก็ไม่ลืมที่จะไถพระโอรสทั้ง 2 แต่ไม่ว่าหยูเฮงน้อยจะไถยังไง ทั้ง 2 ก็ยังพกเอาสมบัติไม่น้อยมาให้ ราวกับถูกไถจนชินแล้ว
“น้องสาวจะเล่นพิณเหรอ”
มีอีกหลายคนปรากฏขึ้นอยู่ไม่ไกล หยูเฮงน้อยเห็นการมาของพวกเขาก็เผยรอยยิ้มอันสดใสอีกครั้ง นัยน์ตาเป็นประกายของนางจ้องมองพระโอรสแห่งตำหนักองค์ชาย 13 หวงฝู่จงเทียนและหวงฝู่มั่วเฉิน คนที่ตามมาด้วยย่อมเป็นฟางซูหยุนและพี่น้องตระกูลฟาง
“ท่าทางวันนี้ผู้ชมไม่น้อยนะ”
รอยยิ้มของหยูเฮงน้อยสดใสขึ้นเรื่อยๆ สายตาสอดส่องไปที่พวกเขาตระกูลหวงฝู่ไม่หยุด พยักหน้าและเอ่ยขึ้น “อยากจะฟังเพลงไม่มีปัญหา แต่ไม่ว่าใครก็ต้องจ่ายเงินนะ คุณหนูของข้าไม่เล่นเพลงให้ฟังง่ายๆหรอก นอกจากท่านเขยของข้าที่มีสิทธิพิเศษแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องจ่าย”
เมื่อคำพูดนี้ออกไปทุกคนต่างมีสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ท่านเขยของนางยังไม่รู้เลยว่าอยู่ที่ไหนก็ถูกยกออกมาเป็นโล่ซะแล้ว
“อะแฮ่ม หยูเฮงน้อย ข้าก็ต้องจ่ายด้วยเหรอ” ฟางซูหยุนเหล่มองเจ้าตัวเล็ก ตอนนี้นางเห็นใครก็ไถหมด ไม่ปล่อยผ่านเลยจริงๆ
หยูเฮงน้อยพยักหน้ายิ้มๆบอกกับหวงฝู่มั่วเฉิน “เรื่องนั้นก็ต้องดูองค์ชาย 18 ของเราแล้วล่ะ ถ้าเขาคิดว่าฮูหยินฟางต้องจ่ายก็ต้องจ่าย ถ้าเขาคิดว่าฮูหยินฟางไม่ต้องจ่ายก็ไม่ต้องจ่าย”
“ทำไมเป็นข้าที่ตัดสินใจล่ะ” หวงฝู่มั่วเฉินถามหยูเฮงน้อยยิ้มๆ
“อิอิ ถ้าเป็นฮูหยินฟางของเราย่อมไม่ต้องจ่าย แต่ถ้าฮูหยินฟางถูกเกี้ยวไปละก็ เจ้าคิดว่าไง”
หยูเฮงน้อยกล้ามาก แม้แต่ผู้ใหญ่ก็กล้าแซว
หวงฝู่มั่วเฉินนัยน์ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที พยักหน้าโดยไม่ลังเล “จ่ายสิ ต้องจ่าย ต้องจ่ายอยู่แล้ว”
“พวกเจ้า…”
ฟางซูหยุนถลึงตาใส่หยูเฮงน้อย ใบหน้าเป็นริ้วแดงและพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ “เจ้าตัวเล็ก เจ้ากล้ามากเลยนะ ดูซิว่าข้าจะจัดการเจ้ายังไง”
“ฮูหยินฟาง ท่านจะข้ามแม่น้ำแล้วรื้อสะพานไม่ได้นะ ห้ามลงไม้ลงมือ” เมื่อเห็นคนที่พุ่งเข้ามาหยูเฮงน้อยก็รีบแว้บไปหลบหลังหวงฝู่มั่วเฉิน “องค์ชาย 18 จัดการผู้หญิงของเจ้าด้วย เกินไปจริงๆ รังแกแม้กระทั่งเด็ก”
“พรืดด….”
“แค่กๆๆ….”
พวกเด็กๆเผลอหลุดไป จึงรีบหุบรอยยิ้มลงและทำเหมือนว่าไม่ได้ยินอะไร คนที่กล้าหยอกล้อต่อหน้าคนทั้ง 2 มีแต่หยูเฮงน้อยเท่านั้น มีแค่เจ้าตัวเล็กที่ไม่สนฟ้าดินถึงกล้าได้ขนาดนี้
คำพูดของนางอานุภาพไม่น้อย แม้แต่หวงฝู่มั่วเฉินยังขำออกมา “ตอนนี้เหมือนว่าเจ้าจะรังแกพวกเราอยู่นะ เจ้านี่โจรตะโกนให้จับโจรจริงๆ”
“อะไรกัน ข้าเปล่าสักหน่อย พวกเจ้าสิรังแกคนอื่น รีบจ่ายมาเร็ว ใครก็ห้ามพลาด” หยูเฮงน้อยไม่สนฟางซูหยุนที่รอจะจัดการนางอยู่ ยังคงไม่ลืมที่จะเก็บเงิน
หวงฝู่จงเทียนโยนหยกเลือดให้นางชิ้นนึงอย่างนึกขัน “หยูเฮงน้อย ข้าว่าเจ้านี่จงใจรังแกแต่พวกเราตระกูลหวงฝู่นี่นา เก่งจริงไปปล้นคนข้างนอกสิ ช่วงนี้คนมาชิงยางไม่น้อยเลยนะ ไม่อย่างนั้นเจ้าตั้งเวทีมวยเป็นไง”
“ชิ เด็กจะไปรู้อะไร”
นางมองบนใส่หวงฝู่จงเทียน เห็นเขาเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ทำให้คนอื่นๆอดหัวเราะไม่ได้
“มานี่…”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเงยหน้าขึ้นและกวักมือเรียกหยูเฮงน้อยเข้าไปหา นางเป็นคนเดียวในที่นี้ที่ไม่หัวเราะ แม้แต่ฟางซูหยุนเองก็ทั้งขำทั้งโกรธ
“ทำไมเหรอ” หยูเฮงน้อยไม่ได้เข้าไปแต่กลับอยากจะวิ่งออกไปข้างนอก นางรู้สึกได้ว่าแย่แล้ว
“กลับมา”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้ทันความคิดนางและพูดขึ้นอีกครั้งพลางกวักมือเรียกนาง ภายใต้การจ้องมองจากทุกคน หยูเฮงน้อยที่ตอนแรกจะวิ่งออกไปข้างนอกต้องย้อนกลับมาอย่างควบคุมไม่ได้
“คุณหนู ปล่อย ปล่อยมือ….”
หยูเฮงน้อยตะโกนลั่นพร้อมโบกมือไม้ไปมา ร่างกายถูกดึงกลับไปหาเฉิงเสี่ยวเสี่ยวอย่างควบคุมไม่ได้ ทุกคนที่ได้เห็นตะลึงเป็นอย่างมาก
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองคนข้างๆและยื่นมือไปเคาะหัวของนาง ตำหนิขึ้น “ไร้มารยาทขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ ขอโทษท่านย่าเลย ห้ามล้อผู้ใหญ่เล่น”
“คุณหนู คนไม่ดี…”
หยูเฮงน้อยลูบหัวปอยๆและเบ้ปาก พุ่งเข้าไปสู่อ้อมกอดของฟางซูหยุนและฟ้อง “ฮูหยินฟาง คุณหนูรังแกข้า”
“สมน้ำหน้า” ฟางซูหยุนลูบจมูกนางอดยิ้มไม่ได้ “คราวหน้าห้ามบังอาจแบบนี้แล้วนะ คนอื่นเขาหัวเราะเยาะหมดแล้ว”
“พวกเขากล้าเหรอ…”
หยูเฮงน้อยเงยหน้าขวับ แผ่ลมปราณออกจากร่างและข่มขู่คนที่อยู่ที่นี่ “ถ้าพวกเขากล้าข้าก็จะปล่อยสัตว์อสูรออกมาเล่นกับพวกเขา”
“เฮอะ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกระแอมเสียงเบา หยูเฮงน้อยเบ้ปากและก้มหน้าลง
ฟางซูหยุนลูบหัวนางด้วยความขบขัน “เอาล่ะ เจ้านี่น้า ไม่เคยอยู่นิ่งๆสักวันเลยจริงๆ ชอบก่อเรื่องวุ่นวายนัก”
“ฮูหยินฟาง ข้าเปล่าสักหน่อย”
เมื่อเห็นตัวเล็กที่ให้ตายก็ไม่ยอมรับ ทุกคนต่างหัวเราะออกมา แต่ก็ไม่มีใครถือสาที่หยูเฮงน้อยชอบสร้างเรื่อง กลับกัน ต้องมีนางคอยก่อความวุ่นวายบรรยากาศถึงจะดี
“เสี่ยวเสี่ยว เจ้าเล่นดนตรีเป็นเหรอ ถ้าอย่างนั้นเล่นให้พวกเราฟังสักเพลงสิ” ฟางซูหยุนเหลือบมองหลานสาว รู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย